ซีกัลมั่นใจเศรษฐกิจ เตรียมพร้อมรับการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ
หวังขยายฐานกลุ่มลูกค้าครัวเรือนและกลุ่มธุรกิจอาหาร
คาดปีนี้เติบโตกว่า 10%
ซีกัลหนึ่งในผู้นำธุรกิจเครื่องครัวสเตนเลสสตีลและนอนสติกทั้งในไทยและต่างประเทศ ชี้โอกาสเติบโตทางธุรกิจยังมีอีกมาก ด้วยปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ส่งสัญญาณดีขึ้น ผนวกกับการเตรียมพร้อมขยายตัวทางธุรกิจเพื่อรองรับการเปิดเออีซีในช่วงปลายปีนี้นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องครัวสเตนเลสสตีลและนอนสติกคุณภาพแบรนด์ซีกัล เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ไทยสเตนเลสสตีล มีสัดส่วนรายได้ในประเทศที่ 70% และต่างประเทศที่ 30% โดยรายได้ส่วนใหญ่ของตลาดต่างประเทศนั้น เป็นรายได้ที่มาจากกลุ่มประเทศอาเซียน ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่า อัตราเติบโตทั้งในและต่างประเทศจะอยู่ที่ 10% เพราะกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ขยับเพิ่มขึ้นหลังจากทรงตัวตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ การขยายตัวของกลุ่มธุรกิจอาหาร กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้ยอดขายเติบโตขึ้นเช่นกัน โดยกลุ่มตลาดในประเทศนั้น ไทยสเตนเลสสตีล ได้เน้นกิจกรรมการตลาดและขยายช่องทางการขายให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น และในส่วนตลาดต่างประเทศก็ยังคงเน้นทำตลาดทั้งในโซนยุโรป อเมริกา และเอเชีย แต่กลุ่มตลาดที่เติบโตสูงสุดคือกลุ่มตลาดในอาเซียน
“เรามั่นใจกระแสตอบรับในกลุ่มตลาดอาเซียน ซึ่งถือเป็นตลาดที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องครัวหลายรายต่างจับตา ทั้งนี้ ไทยสเตนเลสสตีล จะใช้ความเข้าใจในด้านพฤติกรรมผู้บริโภคของกลุ่มตลาดอาเซียน เข้ามาใช้พัฒนาสินค้าเพื่อเติมเต็มความต้องการอย่างตรงจุด ดังเช่นที่เราได้นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่มือผู้บริโภคในเอเชียมากว่า 20 ปี โดยเราเริ่มส่งออกไปยังพม่าเป็นประเทศแรก และทำการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ AEC ปัจจุบันเราส่งออกไปขายโดยตรงแล้วทุกประเทศ ยกเว้นประเทศบรูไน เฉลี่ยการเติบโตของยอดขายในส่วนตลาดต่างประเทศจะอยู่ที่ 10% ต่อปี”นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์กล่าวทั้งนี้ ไทยสเตนเลสสตีล มีแผนที่จะขยายโรงงานในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ด้วยงบประมาณ 300 ล้านบาท โดยจะขยายในเขตพื้นที่ตั้งของโรงงานเดิมใน จ.ปราจีนบุรี เพราะยังมีพื้นที่รองรับอีกมาก “ไทยสเตนเลสสตีล ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สเตนเลสสตีลรายใหญ่ ที่มีความสามารถในการผลิตและกำลังผลิตมากที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน ดังนั้นเราจึงมีความพร้อมอย่างมากที่จะรองรับการเติบโตของทั้งกลุ่มตลาด B2B และ B2C ทั้งในไทยและในต่างประเทศ โดยอาศัยกลยุทธ์ต่างๆ อาทิ การผนึกพลังร่วมกับตัวแทนขายที่มีอยู่แล้วสร้างสีสันและกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแสวงหาตัวแทนขายรายใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มโอกาสทางธุรกิจร่วมกันเพื่อเข้าถึงกลุ่มตลาดอื่นๆ นอกจากนี้ เราจะเน้นการสร้างคนเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนการจัดฝึกอบรมทีมงานทั้งในและต่างประเทศให้ได้รู้จักผลิตภัณฑ์ ตลอดจนสามารถเข้าถึงความต้องการ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าที่สามารถเติมเต็มความต้องการได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ด้านการพัฒนาการผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เราได้มีการปรับปรุงไลน์การผลิตที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา และได้นำหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในไลน์การผลิตมากขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตด้วย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด กล่าวเสริม
ณ ปัจจุบัน ไทยสเตนเลสสตีล ได้พัฒนาสินค้าเพื่อเติมเต็มทั้งในกลุ่มตลาดครัวเรือนและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยล่าสุดได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กระทะเคลือบผิวกันติด (Non-Stick) รุ่นใหม่ล่าสุด “Gladiator Commercial” ที่ถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์ที่สวยงาม และรองรับการใช้งานหนักในทุกรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเชฟมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นสินค้าล่าสุดที่พร้อมจะเจาะตลาดในกลุ่มธุรกิจอาหาร “การขยายตัวของโรงแรมและร้านอาหารในตลาด ณ ปัจจุบัน ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่หนุนให้สินค้าเครื่องครัวเติบโตอย่างมากในปีนี้ ทุกธุรกิจต่างเตรียมพร้อมเพื่อรับโอกาสการเติบโตในยุคเออีซี” นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ กล่าวสรุป
