sianbun on October 29, 2009, 04:00:20 PM
32 ธันวา...ได้เวลา (มา) บอกรัก















   ตามองตาอาจได้ผลน้อยกว่าใจมองใจ สูตรนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์หากคุณจะนำไปบอกรักกับคนที่กำลังปิ๊งอยู   เชิญตามสบาย...เชิญตามสบาย !!!  เรื่องมันคงแฮปปี้ดี๊ด๊า เมื่อคุณกล้าที่จะเอ่ยปาก “ไอเลิฟยู นะจ๊ะตัวเอง รักจัง จุ๊บ..จุ๊บ” กับคนที่กำลังคบหา หรือแค่แอบปิ๊ง (เมื่อวาน)   เลิกซะเถอะนิสัยปากแข็งน่ะ (ไม่เห็นจะเข้าท่าเลย) คบกันตั้งนานโข จะยังมัวเขินอายหรือไม่ก็วางฟอร์มทำไม (กล้าๆ หน่อย)

     ก๊อก...ก๊อก ไหนๆ ประตูใจก็ถูกแง้มออกมาแล้ว จะรอนี่นั่นนู่นให้อีกฝ่ายเกิดอาการเซ็งอยู่ไย(แต่ดีนะ...ที่ไม่เลิกไปให้รู้แล้วรู้รอดตั้งแต่เนิ่นๆ)  บอกไปเลย  “ไอเลิฟยู เบบี้”

          วันนี้ หรือวันไหน ฝนตก แดดเปรี้ยง โลกจะร้อนมากขึ้น หิมะไม่ยอมตกที่เมืองไทย เขาเป็นสิวเต็มหน้าผาก (จนอยากจะเลิกอยู่รอมร่อ... เบื่ออ่ะ)ผิวเธอไม่ขาวอมชมพู ก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ สำคัญคือว่าคุณพร้อมจะเจอกับ “สิ่งดีๆ” ที่กำลัง คืบคลานเข้ามาหรือเปล่า

   หากยังหาฤกษ์ไม่ได้ แถ่น...แถน “32 ธันวา” เป็นไงล่ะ (หา !!! มีวันนี้ด้วยเหรอ ??? ) เพราะนี่เป็นวันดีที่หมอดู (มือใหม่หัดเดา แต่แม่นโคตรมาก)   “ยอร์ช-     ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์”ฟันธง & คอนเฟิร์มว่าควรจะรีบบอกรักกันด่วนจี๋ มิฉะนั้น.... ทุกอย่างอาจ...   สายเกินไป....

             คำเตือน...จงระวังๆ เพราะเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อที่ชอบทำตัวเป็น  ตาอยู่น่ะมีเยอะ แม้แต่คุณเอง หรือแฟนคุณ... ก็โปรดระวังให้ดี เดี๋ยวเกิดอารมณ์แปรปรวน เช่น..อาจเริ่มไม่มั่นใจในรสนิยมทางเพศของตัวเองขึ้นมาดื้อๆ ซะงั้น(เหวอ !! น่ากลัวจัง) กระทั่งอาการความจำเสื่อมเข้าแทรก (นี่น่ากลัวกว่า) ก็ล้วนแต่นำไปสู่การไม่สมหวังในความรักได้ไม่ยาก   


                                                                               เช่นชีวิตสุดประหลาดของ “โน้ต”(แดน-วรเวช ดานุวงศ์) หนุ่มที่สูญเสียความทรงจำบางส่วนไปและต้องเข้ารับการบำบัดพร้อมกับ “โจ” (โหน่ง ชะชะช่า- ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข) เพื่อนสุดประหลาดที่บังเอิญโคจรมาเจอกันเพราะอาการจิตตก (กังวลเรื่องขี้ไม่ออก) รุมเล่นงาน

         ทั้งคู่ได้รับคำแนะนำจากหมอ (ที่ประหลาดเหมือนกันเด๊ะ)   โดย“โน้ต”ต้องบำบัดด้วยวิธี ไปยังสถานที่เก่าๆ ถ้าไม่หายขาดก็ควรใช้หัวกระแทกกับเสาแรงๆ (?!?) ส่วน“โจ”ง่ายๆ คือหางานอดิเรกเบาๆ ทำในวันอากาศสบายๆ จะได้ช่วยถ่ายคล่องยิ่งขึ้น ถ้าไม่เห็นผลละก็ เห็นทีต้องลงมือดีท็อกซ์หรือไม่ก็อาจต้องผ่าท้อง เพื่อเอาขี้ออก (โอ้!!! คิดได้ไงเนี้ย)

     ระหว่างที่คู่เกลออยู่ในขั้นตอนการบำบัด เรื่องราวความรักของ “โน้ต” กับ 1 ใน 3 หญิงสาวที่เขาเคยเข้าไปพัวพันก็แวบขึ้นมาในสมอง แต่แค่เขาไม่ค่อยมั่นใจว่า “คนที่เขารักคือใคร” กันแน่

                                                   “อั้ม” (ปาย-ศิตางศุ์ ปุณภพ ) “นุ่น” (ยิปโซ- รมิตา มหาพฤกษพงศ์) “เมย์”(สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข)   หรืออาจเป็น “บอย” (แจ๊ส ชวนชื่น-ผดุง ทรงแสง) ช่างทำผมซี้ปึ๊กของเขาเอง (!?!)

     ในขณะที่ “โน้ต” กำลังเข้าสู่วังวนของการรำลึกความทรงจำ ฟาก “โจ” กลับสนุกกับการไล่จดคำคมจากคนที่เขาไปทำความรู้จัก ซึ่งล้วนแต่ฟังแล้วจี๊ดใดนใจทั้งสิ้น “ที่ๆ ดีก็มีคนเลวอยู่ได้ ในที่เลวๆ ก็อาจมีคนดีปนอยู่ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นจงอย่าตามหาคนที่ดีพอ แต่ควรตามหาคนที่พอดี” (จี๊ดไหมละ!!!)

                                การฟื้นความทรงจำของ“โน้ต”ยังดำเนินต่อไป โดยมี“โจ”คอยทำหน้าที่เพื่อนคู่คิดติดสอยห้อยตามตลอดเวลาเอ...รึว่าคนนั้นของ “โน้ต” ที่แท้ก็คือ “โจ” (???)

      ใครกัน ??? คือคนที่ “โน้ต” ตามหาอยู่ และใครกันที่จะทำให้ความทรงจำของเขาคืนสู่ปกติดั่งเดิม ใครกันๆๆๆ...? คนที่ “โน๊ต” รัก หรือคนที่รัก “โน้ต” !?!
 
 


     
 


รักอารมณ์ดีไม่มีลิมิต

   เดี๋ยวนี้ผู้กำกับดังๆ หลายคนของขึ้น (อย่าคิดลึกละ) กันบ๊อย..บ่อย และก็ต้องมองหาอะไรสนุกๆ ทำแก้คันทุกครั้ง (สิน้า) ที่ต่างประเทศ “เดวิด โครเนนเบิร์ก” (Videodrome / A History of Violence) กับ “กุยเลอร์โม เดลโตโร่” (Hellboy / Pan’s Labyrinth) ก็หันมาลองจับปากกาเขียนนวนิยายเป็นเรื่องเป็นราว (และท่าจะไปได้สวยเสียด้วย)

    ที่บ้านเราอาจยังไม่ถึงขนาดต้องเพิ่มจ๊อบให้ตัวเองเหนื่อยหนักหรอก แค่เปลี่ยนบทบาทไปอยู่หน้ากล้องบ้าง เป็นดาราจำเป็น (แต่เด่นโคตรๆ) ก็มีงานเข้าไม่ขาด วิ่งรอกกันให้วุ่น หรือถ้าจะให้โดนใจจริงๆ ต้องผุดโปรเจคต์ใหม่ๆ ไอเดียแปลกๆ ออกมายั่วน้ำลายแฟนๆ นั่นละถึงจะเรียกว่าหายคันโดยแท้ 

    อย่างผู้กำกับอารมณ์ดีคนนี้ “ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์” ที่กำลังจะมีหนัง “คอเมดี้ เลิฟ เลิฟ” (อะไรเหรอ?) เรื่องล่าสุด      “ 32 ธันวา” ลงจอให้ฉ่ำชื่นหัวใจไปทั้งประเทศ ยิ่งเฉพาะใครหลายคนที่กำลังตั้งคำถาม “รักดีๆ น่ะยังมีอีกไหม” รับรองหูตาต้องกระจ่างชัวร์   

 

       

                “คำว่า เลิฟ เลิฟ ผมมองว่ามันน่ารักดีนะ แล้ว  มันก็มาผสมพันธุ์กับคำว่า คอเมดี้ ซึ่งแกนหลักของมันคือตลก ถ้าเป็นโรแมนติก คอเมดี้ รสชาติมันก็ยังเผ็ดไม่พอ แต่พอเอาคอเมดี้มารวมกับเลิฟ เลิฟ มันเลยดูลงตัว ไม่หวานเหมือนโรแมนติกซะทีเดียว ถ้าเปรียบเป็นอาหารสักจานรสชาติของมันน่าจะออกมาประมาณสปาเกตตี้ปลาเค็ม เป็นฝรั่งปนไทย ไม่เลี่ยนแบบอิตาเลียน แต่ก็ไม่ไทยจ๋าเกินไป” ยอร์ช-ฤกษ์ชัย บอก

            หนังตระกูลส่ายหน้าที่เคยฮิตระเบิดระเบ้อ ตั้งแต่ “พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า” “แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า” จนถึง “โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า” ลืมไปได้เลย (หรือใครจะยกขึ้นหิ้งบูชาในฐานะหนังโปรดก็ไม่ว่า) เพราะผลงานสดซิง “32 ธันวา” ค่อนข้างจะฉีกไปจากเรื่องก่อนๆ จนคุณจำไม่ได้เชียวละ

 

   มุกฮากระจายตีหัวเข้าบ้านไม่มี...ยืนยันว่าไม่มี จะเห็นก็แต่อารมณ์ขันขื่น เพียบไปด้วยลีลาเด็ดพราย พราววาวเพราะคำคม ไม่ถึงขนาดต้องฮาก๊ากน้ำตาเล็ด แค่หัวเราะหึๆ ในลำคอ ดูไปอมยิ้มไปในความน่ารักน่าหยิก ออกจากโรงแค่รู้สึกว่า “เออ! ใช่ว่ะ” เท่านี้ก็พอแล้ว

       


    “32 ธันวา” ได้พระเอกสุดฮอต “แดน-วรเวช ดานุวงศ์” มาปะทะฝีมือกับตลกเงินล้าน “โหน่ง ชะชะช่า-  ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข” (ทั้งคู่เคยออกปากอยากร่วมงานกันนานแล้ว แต่เพราะงานเข้าจนคิวรัดตัวก็เลยยังไม่มีจ๊ะเอ๋จังๆ ซักที) แถมด้วยสาวน้อยตาแป๋วมากความสามารถ   “ สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข” ที่ขอมาเอนจอยในบทบาทชิลๆ   

         ไม่หมดแค่นั้น ยังมีดาราหน้าใสกิ๊กร่วมประชันบท “ปาย -      ศิตางศุ์ ปุณภพ” “ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษพงศ์” “รัฐ-ศิรัฐ วิทยถาวรวงศ์” ที่ขาดไม่ได้คือเหล่าตลกหน้าตาย เจ้าของฉายา “จอมขโมยซีนตัวเอ้”    แต่ละคนธรรมดาซะที่ไหน “แจ๊ส ชวนชื่น-ผดุง ทรงแสง” “เจ๊แดง-ฉันทนา       กิติยพันธุ์” “โก๊ะตี๋ อารามบอย” จาตุรงค์ มกจ๊ก” “ค่อม ชวนชื่น” ที่แม้จะมากับบทรับเชิญเล็กๆ แต่รับประกันได้ถึงความหรรษาแบบเลิฟ เลิฟ

       การันตีโดยโปรดิวเซอร์หญิงคนเก่ง “เอมี่-จันทิมา เลียวศิริกุล” “พี่มอง คอเมดี้ เลิฟ เลิฟ เป็นเรื่องความรู้สึกของคน 2 คน ถ้ามองในเหลี่ยมของความรักมันคือการเริ่มต้นจีบกัน มันเหมือนเป็นช่วงโปรโมชัน ทำอะไรก็ดูดีไปไหมด หัวเราะได้ตลอดเวลา แต่พอพ้นตรงนี้ไปถึงจะเป็นการเรียนรู้กันจริงๆ คอเมดี้ เลิฟ เลิฟ ก็เลยเป็นความสวยงาม เป็นความรักที่สวยงาม เป็นการตามหาความรักที่สวยงาม หรือจะเรียกว่าเป็นช่วงสวยงามของความรักก็ได้ โดยที่มันจะอยู่ช่วงต้นของการคบหากัน” เอมี่-จันทิมา ให้ความเห็น

 ทางเดินแห่งรักแบบคอเมดี้ เลิฟ เลิฟ     

 คุณว่าไหม... ความรัก มักมีที่ทางของมัน

 ความรักนั้นอยู่ใกล้ๆ  ตัวเรา ไม่ได้โบยบินไปไกลไหนเลย และ ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงที่จะไขว่คว้าไว้ อยู่ที่ว่าคุณได้ออกไล่ล่าหรือยัง ฮึดสู้ดูสักตั้งหรือเปล่า

 มันอาจไม่สวยงามไปเสียทั้งหมด  แต่มันก็คงไม่โหดร้ายไปซะทีเดียว  เมื่อการพบเจอเริ่มต้นขึ้น ต้องมีการเรียนรู้ให้เป็นบททดสอบ นั่นเพราะรักดีๆ (ขอย้ำว่าต้องเป็นรักดีๆ เท่านั้น)

 ย่อมเป็นเสมือนแบบฝึกหัดชีวิต (คู่)

 คนที่กำลังตกอยู่อาการ “อินเลิฟ” (ใครมีเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ยินดีด้วยละกัน)    หันมองรอบกาย อู้!!! มีแต่สีชมพูเบ่งบาน (อิจฉานะเนี้ย) ชีวิตกระชุ่มกระชวยแค่ไหน         คุณคงจะสามารถตอบคำถามนี้ได้ดี       ความรักถือเป็นกำไรชีวิต พลังใจไม่เคยมอดไหม้ก็เพราะความรัก ย่างก้าวเดินกล้าแกร่งเกิดขึ้นได้ก็เพราะความรัก และความเดียวดายจะสิ้นสุดลงเมื่อความรักปรากฏขึ้นพร้อมกับคนที่ใช่  ภาวนาในใจ...ขอให้เจอไวๆ สักทีเถอะ... เจ้าพระคุ้ณ

สีสันในรัก     
      “ผมว่าความรักเป็นได้หลายสีนะ ฟ้า เทา ดำ แต่ตอนนี้ความรักของผมเป็นสีชมพู (ว้าว!!! น่าอิจฉาจัง) แต่มากกว่าสีคือมันต้องเป็นความรักแบบเข้าใจกัน ถ้าเขาเข้าใจว่าเราเป็นคนแบบนี้ก็จะอยู่กันยืด ไม่มีเรื่องทะเลาะ เพราะเราเข้าใจกันดีพอและเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย ผมชอบความรักแบบที่ทำให้ผมยิ้มได้ทุกวัน มีแซวกัน อารมณ์ประมาณอยู่กับเพื่อนยังไงยังงั้นมันถึงจะอยู่กันยืด”   (แดน-วรเวช ดานุวงศ์)

          เพราะเราเข้าใจกัน
      “ป่านว่าคนรักกันมันต้องเข้าใจกัน ถ้ามัวแต่หึงหวง หรือไม่ไว้วางใจต่อกัน ก็ยากนะที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก ยิ่งคนที่อยู่วงการบันเทิงด้วยแล้วยิ่งต้องเข้าใจกันให้มากๆ อย่างตัวป่านคำถามที่ถามกันมันควรจะแสดงความรู้สึกดีๆ และต้องมองไปไกลถึงอนาคต ไม่ใช่เป็นการถามถึงเพื่อฟื้นอดีตที่ผ่านมา เวลาเจอปัญหาป่านจะตั้งคำถามเลยว่าแล้วเราจะทำอะไรดีเพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้นละ”            (สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข) 

       รักไร้เพศ 
    “รักไม่จำกัดเพศหรอกครับ ก็เห็นๆ กันอยู่ตอนนี้มีเยอะมาก..ก ที่ไม่ได้มีแค่ความรักแบบชายหญิง ผมเชื่ออยู่อย่างนะ เวลาคนมีความรักมักจะเกิดสิ่งดีๆ ตามมาในชีวิต ความรักจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอยากทำอะไรดีต่อไป มันเหมือนเป็นพลังใจให้คนรู้สึกกระชุ่มกระชวย แม้ว่าคู่รักนั้นอาจจะไม่ใช่ชายหญิงปกติก็ตาม”     (แจ๊ส ชวนชื่น-ผดุง ทรงแสง)

         อายุขัย (ไม่) มีในรัก
      “ถ้าคนๆ นั้นรู้จักเก็บความรักอย่างดี ผมว่ามันก็จะสามารถยืดอายุความรักไปอีกนาน  แต่ต้องดูแล ไม่ใช่พอได้มาก็วางทิ้งไว้โดยที่ไม่ใส่ใจรักษา แค่ทะนุถนอมแค่นั้น เช่น อาจจะเก็บตู้เย็น ใส่ถุงแพ็คอย่างดี มันก็จะเก็บไว้กินได้นานๆ บางทีอาจจะนานจนลืมหลังก็ได้นะ”   (โหน่ง ชะชะช่า-ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข)

 
32 วัน...ฉันรักเธอ   
      “ปกติผมจะคนไม่ค่อยจำวันจำคืนหรอกครับ แต่ชอบจำเรื่องไม่ดีได้ ยิ่งเรื่องเศร้า โอ้โฮ้!... จำได้แม่นเพราะมันเศร้า ผมจะเป็นคนยังเงี้ยและไม่เสียดายถ้าไม่ได้จด เพราะรู้สึกว่าถ้ามันไม่ดีพอเราคงไม่จำ ผมไม่เคยเอาชีวิตไปผูกติดกับวันคืนเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คนจะโทรมาเตือนโทรมาบอกมากกว่า มันอาจจะเป็นช่องว่างนะ แต่มันก็ทำให้ผมสนุกกับการคิดนี่คิดนั่นได้ ถ้ามันมี 32 วันจริงๆ สำหรับผมคือการเพิ่มความสนุกให้ชีวิตอีกหนึ่งวัน และในแง่ชีวิตคู่ก็คงไม่ทำให้รักกันมากขึ้น เหมือนกับหนังเรื่องนี้คงไม่ได้ทำให้คนดูรักกันมากขึ้น แต่มันจะทำให้คนดูพอดูจบแล้วอย่ารักกันเหมือนในหนังนะ” (ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์)                            “ขอโทษ”คำนี้มีมนต์ขลัง

         “ทุกครั้งที่มีปัญหากับใครผมจะเป็นคนกลับมาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะคนที่แก่กว่า หรือคนรุ่นเดียวกัน หรือคนที่อ่อนกว่า ผมว่ามันไม่ใช่การมานั่งมองว่าใครถูก หรือใครผิด แต่วิธีการแก้ปัญหาคืออะไรต่างหาก ถ้ารู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร เราจะเห็นทางออกของปัญหา และผมว่าคำๆ เดียวที่ทำให้ปัญหามันจบลงด้วยดีคือขอโทษ ในแง่ความรักผมว่าคำนี้มันจะทำให้เราได้ใจของกันและกัน จะอยู่กันได้ยืดยาวยิ่งขึ้น เพราะนี่คือการยอมรับกันและกัน ยอมรับว่าฉันเป็นคนแบบนี้ คุณเป็นคนแบบนั้น เมื่อมีปัญหาก็แค่ขอโทษ มันชัดเจนน่ะ”
« Last Edit: October 30, 2009, 03:37:51 PM by happy »

sianbun on October 29, 2009, 04:00:53 PM
พรชัย ว่องศรีอุดมพร                 จันทิมา เลียวศิริกุล                         มณฑล อารยางกูร     

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่าย  /   กรรมการผู้จัดการและ โปรดิวเซอร์ /   ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรกลยุทธิ์













                         
“การไม่รู้ว่าเรารักใคร” กับ “การไม่รู้ว่าใครรักเรา”

 มันคงไม่สำคัญเท่า “การที่เรา 2 คน ยังรักกัน”

 ขอทุกคนจงโชคดี และ แฮปปี้ในความรัก...

แบบฉบับ คอมเมอดี้ เลิฟ เลิฟ (นะจ๊ะ)


           


ผู้อำนวยการสร้าง

วิชา  พูลวรลักษณ์


       ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร      ฉัฐภูมิ ขันติวิริยะ / จันทิมา เลียวศิริกุล


         โปรดิวเซอร์

จันทิมา เลียวศิริกุล / มณฑล อารยางกูร


กำกับการแสดง  โดย ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์

บทภาพยนตร์  โดย ยอร์ช -ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์

 นำแสดงโดย

วรเวช ดานุวงศ์ (แดน) รับบท โน๊ต

ชูศักดิ์  เอี่ยมสุข (โหน่ง ชะชะช่า) รับบท โจ

อภิญญา  สกุลเจริญสุข (สายป่าน) รับบท เมย์

ศิตางศุ์  ปุณภพ (ปาย)   รับบท    อั้ม

รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ (ยิบโซ) รับบท นุ่น

ผดุง  ทรงแสง (แจ๊ส ชวนชื่น) รับบท บอย

ศิรัฐ วิทยถาวรวงศ์ รับบท หนุ่ม 


    เจ๊ Wedding  : จตุรงค์ พลบูรณ์   / เลขาเจ้าของร้าน Wedding : นภดล ทรงแสง

     ลิ้นจี่(เพื่อนเมย์)  : เจริญพร อ่อนละม้าย    / คนไข้หมายเลข 6 : อาคม ปรีดากุล
                                          ต๊อด  :  พงศ์เทพ อนุรัตน์ / แม่โจ : ฉันทนา กิติยพันธ์
                            ผจก. โรงแรม : เอนก  อินทจันทร์    / เลขาผู้จัดการโรงแรม : วาสนา กังเจริญ

                               เทพธิดาพญามาร   : แสงดาว ทรงแสง / ไทเพื่อนโจ :  ชูเกียรติ เอี่ยมสุข
« Last Edit: October 30, 2009, 03:53:16 PM by happy »

sianbun on October 29, 2009, 04:01:46 PM
Production Note “32 ธันวา” 








 




ความรักเวลาพูดซีเรียสไม่น่าฟัง แต่พอพูดขำๆ กลับสะดุดใจ

ตามหารักอารมณ์ดี แบบฉบับ “คอมเมอดี้  เลิฟ  เลิฟ”กำลังจะบังเกิด !!

 
            เพราะโลกนี้ยังมีรัก (อยู่นะ)
 “การตกหลุมรักใครบางคน ไม่ใช่เรื่อง งี่เง่าไปเสียทั้งหมด แต่แรงปรารถนารักใคร่ก็ไม่อาจดึงเราไปจากสิ่งที่เรามุ่งมั่นได้”                 (อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)



                   มีเหตุผลร้อยแปดที่ช่วยให้โลกน่าอยู่ จะเชื่อหรือไม่ก็ตามว่าความรักน่ะคือหนึ่งในนั้น

 แม้มันอาจไม่ได้สวยหรูอู้ฟู่เท่าไหร่นัก

 แต่สำหรับใครหลายๆคน กลับยินดีที่จะสัมผัสกับมัน แม้อาจต้องแลกมาซึ่งความรวดร้าวอย่างแสนสาหัส นั่นก็เพราะว่าความรักยังมีแง่งามชวนหลงใหล หาใช่เรื่องไร้สาระบ้าบอ

 เมื่อความรักครั้งเก่าจากไป  ก็ควรให้ความรักครั้งใหม่มาเยือน

 การเริ่มต้นมักพบเจอเรื่องเซอร์ไพรซ์เสมอ หรือหากมันจะเลวร้ายจริงๆ

 อย่างน้อยมันก็คงทำให้คุณรู้จักรสชาติของความรักมากขึ้น (ใช่เปล่า?)

 

      อย่าตามหาคนที่ ดีพอ..

     แต่ควรตามหาคนที่ พอดี.. 


                     

           “..คนพอดีกับคนดีพอ       ผมชอบคนพอดี เพราะผมคิดว่าคนดีพอเราไม่มีทางพอดีกับเขาหรอก ถ้าเราหาคนดีมากๆ เราก็ต้องทำตัวดีให้มากๆ ไปด้วย เราก็จะเหนื่อย การเป็นตัวเราเองนั่นละดีที่สุด สบายที่สุดอย่างคนขี้เกียจแบบผมเนี้ยก็ขี้เกียจทำน่ะ เคยไหมวันหนึ่งขี้เกียจทำดี เออ..ไม่ถึงกับเลวมาก แต่ก็มีความเลวปนอยู่แหละ คนที่ดีมากๆ คงไม่พอดีกับเรา เราเลยต้องหาคนที่ขี้เกียจเหมือนเรา ขี้เกียจที่จะทำดีกับเราบ้าง ผมว่าแบบนั้นน่าจะดีกว่า..”      (ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์)

 
 
การจะรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องยาก..
แต่ การจะเลิกใครสักคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย..
 
     “คนสมัยนี้ชอบบอกรักกันนะครับ ทำไมมันง่ายจัง เหมือนบอกใครก็ได้ แต่ไม่รู้หรอกว่าเขาจะรักเราคืนหรือเปล่า หรือ รักจริงไหม ทำให้การบอกเลิกมันยากสำหรับผม ยิ่งคนที่เรารักไปแล้ว คิดดูสิว่ามันจะยากขนาดไหน เพราะนั่นคือความลำบากใจทั้งสองฝ่าย ถ้ากรณีขั้นแตกหักอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็คงต้องเลิกละครับ แต่ต้องหาวิธีบอกแบบประณีประนอม”

                    (โหน่ง ชะชะช่า-ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข)

     อย่าไปสนใจเลยถ้า ...พรหมลิขิตเกิดจาก…ผีผลัก ?!!!??
 
“ผมเชื่อเรื่องพรหมลิขิตนะ โดยเฉพาะเรื่องความรัก ผมจะไม่แสวงหาและไม่เคยคาดหวังอยู่แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เออ..ถ้าชอบใครสักคน ก็ไม่เคยเข้าไปขอเบอร์ คิดเสียว่าถ้าพรหมลิขิตให้เราทั้งคู่มาเจอกัน สักวันมันคงสบโอกาสให้เราได้รู้จักกันได้คุยกัน ถ้าไม่มีโอกาสนั่นแสดงว่าไม่ใช่คนของเราหรอก ก็ต้องรอต่อไป รอให้พรหมลิขิตบันดาลมาถึงเรา”           (แดน-วรเวช ดานุวงศ์)
 
  เมื่อแก่ตัวลง เหตุผล(ความรัก)    ก็จะน้อยลงไปด้วย
    “สำหรับป่านถ้าจะรักใครบางทีมันก็ไม่มีเหตุผลนะ เพราะป่านเชื่อว่าเราสามารถใช้ความรู้สึกตัดสินใจได้ว่าพร้อมจะรักคนนี้ไหม เหตุผลป่านจะนำมาใช้ประกอบเรื่องความรักน้อยมาก ไม่เคยมาตั้งว่ากติกา 1 2 3 ไม่มีเลย แค่เรารู้สึกสบายใจกับคนนี้ อยู่แล้วรู้สึกดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะป่านเชื่อเรื่องพรหมลิขิตด้วยมั๊งคะ เลยคิดว่าความรักไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลก็ได้ ขอแค่ให้รู้สึกดีด้วยพอแล้ว”                          (สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข)

    ความรักทำให้คนถูกง้อกลายเป็น คนต้องงอนง้อ (เซ็งมาก)!!
      “ส่วนใหญ่    พี่จะเป็นคนถูกง้อมากกว่า แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ถูกง้อ หรือตามง้อบ่อยนะ     พี่จะรู้ตัวเองว่าถ้ามีปัญหาอะไรกับใครก็จะไม่สนว่าเมื่อกี้เขาทำอะไรกับเรา หรือเราทำอะไรกับเขา เพราะถือว่าได้ตัดสินใจไปแล้ว ซึ่งการไม่สนใจนี่ละทำให้เราไม่เป็นทุกข์ ทั้งๆ ที่เขาอาจกำลังง้อเราอยู่ก็ได้ แต่มีนะที่พี่รู้สึกว่าปัญหาเกิดจากเรา ก็ต้องลดอีโก้ลงไปเป็นคนง้อบ้าง และง้อได้ทีเดียว จะโอเคไหม ไม่สน เพราะถือว่าง้อแล้ว จริงใจสุดแล้ว พี่ว่าการที่จะง้อใครสักคนมันคือการรวมศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มีอยู่ หรือเป็นการดับอีโก้ทั้งหมด เพื่อการง้อโดยเฉพาะ ดังนั้นสำหรับพี่การง้อคือครั้งเดียวจริงๆ จะหายโกรธไหม ก็จะไม่มีการง้อครั้งต่อไป”

             (เอมี่-จันทิมา เลียวศิริกุล)
 

                      ในโลกเรามีผู้หญิงมากมาย    ไม่ยากอะไรเลยที่ผมจะมองหาใบหน้าอันสวยสดงดงามของผู้หญิงที่มีอยู่มากหลาย แต่จะมีใบหน้าของผู้หญิงคนใดเสมอเหมือนใบหน้าของคุณได้ ผมรักความเหี่ยวย่นที่ปรากฏอยู่บนหน้าคุณ เพราะทุกริ้วรอยเหล่านั้น คือความทรงจำหวานชื่นทั้งหมดแห่งชีวิตผม”

            (คาร์ล มาร์กซ์)
   
« Last Edit: October 30, 2009, 04:06:27 PM by happy »