happy on April 05, 2015, 06:57:35 PM
เยาวชนร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย

ประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้อย่างไร?..
ประเทศไทยจะมีทิศทางเป็นแบบไหน?
...ถ้าวันนี้ในสภายังไม่มีความคิดเห็นของเด็กมาร่วมด้วย...
...เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เด็กเขาคิดอย่างไร?  กับการปฏิรูปประเทศไทย?...
วันนี้มีจุดเปลี่ยน....



                ครงการ "เยาวชนร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย" ภายใต้การร่วมมือกันระหว่าง คณะอนุกรรมาธิการรณรงค์ทางสังคม และกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน สภาปฏิรูปแห่งชาติ ร่วมกับ สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย, ศิลปินแห่งชาติ, กองทุนศรีบูรพา, มูลนิธิสมาพันธ์ศิลปินเพื่อสังคม, แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. และ สํานักงานประสานการพัฒนาสังคมสุขภาวะ (สปพส.) ด้วยการดึงเยาวชนมาสร้างไอเดียทำ เพลง หนังสั้น ภาพวาด/การ์ตูน และความเรียง หัวข้อ “วิสัยทัศน์ประเทศไทยใน 20 ปีข้างหน้า” ชิงโล่รางวัลนายกรัฐมนตรี และเงินรางวัลมูลค่ากว่าล้านบาท

                โดย น.พ.พลเดช ปิ่นประทีป สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการรณรงค์ทางสังคม และกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน บอกว่า สภาปฏิรูปแห่งชาติเล็งเห็นว่าการปฎิรูปหรือกิจกรรมต่างๆ ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยนั้นเป็นกิจกรรมสำหรับผู้ใหญ่และเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้นที่มีส่วนร่วม แต่แท้ที่จริงแล้วคนที่มีความสำคัญในการทำงานหรือกิจกรรมนั้นก็คือ “เด็กและเยาวชน” ซึ่งต่อไปพวกเขาเหล่านี้จะต้องเป็นผู้รับผลของการปฎิรูปทั้งหมด เพราะฉะนั้นโครงการ "เยาวชนร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย" ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงถือเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในระยะยาว เพราะเราอยากเห็นว่าในอีก 20 ปี ข้างหน้านั้นสังคมต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ กิจกรรมโครงการนี้จึงมุ่งไปที่เด็กโดยให้เด็กและเยาวชนขับเคลื่อนทั้งโครงการด้วยการเข้ามาร่วมกันสร้างผลงาน ผลิตผลงาน แล้วส่งผลงานมาประกวดใน 4 ประเภทการประกวด อาทิ เพลง หนังสั้น ภาพวาด/การ์ตูน และความเรียง ในกรอบหัวข้อ “วิสัยทัศน์ประเทศไทยใน 20 ปีข้างหน้า” โดยในประเภทเพลง จะเน้นเป็นเพลงที่มีหมายความแบบให้กำลังใจ ให้ความฝัน ให้แรงบันดาลใจ ปลุกใจ ฮึกเหิม เป็นเพลงที่เมื่อได้ฟังแล้ว มีทั้งแนวคิด เนื้อหาสาระที่สร้างสรรค์ ทำนองเพลงเน้นสนุกสนานไพเราะเพราะพริ้ง ตามแนวดนตรี ถ้าประเภทหนังสั้น เมื่อเผยแพร่หรือดูแล้วแล้วเกิดแรงบันดาลใจ สร้างกำลังใจให้เกิดขึ้นได้ ในประเภทการเขียนความเรียง นั้นเน้นความรู้ ความเข้าใจ และการใช้ภาษาที่งดงาม ทำให้คนอ่านได้เกิดจินตนาการ ได้เกิดแรงบันดาลใจไปด้วย ส่วนประเภทภาพวาด/การ์ตูน ก็อยากเห็นภาพวาดการ์ตูนที่ผู้อ่านอ่านแล้วเกิดจินตนาการ เกิดความใฝ่ฝันไปด้วย

                “ซึ่งเป้าหมายที่โครงการนี้ต้องการให้เกิดขึ้นคือ การเห็นเด็กและเยาวชนตื่นตัว สนใจ กระตุ้นให้เด็กเข้ามาร่วมรับรู้ เข้ามาร่วมสนใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่กำลังทำปฎิรูปบ้านเมืองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะวันนี้กิจกรรมในสภาไม่มีเด็กเลย โครงการนี้จึงเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสร้างการมีส่วนร่วมในการปฏิรูปและวางแผนประเทศไทยในอนาคตของประชาชน โดยเฉพาะในหมู่เด็กและเยาวชน ทั้งยังเป็นการเปิดช่องทางเพื่อให้ความสำคัญ รับฟังความคิดความเห็นของเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยที่สุดแล้วความคิดความเห็นของเขาเหล่านี้จะเป็นเหมือนเครื่องมือที่กลับมาเตือนสติพวกผู้ใหญ่ว่าทำอะไรกันอยู่ รู้หรือไม่ว่าเด็กเขาคิดอย่างไร?  นี่จึงเป็นการสร้างเครื่องมือการรณรงค์ทางสังคม ที่เกิดจากการคิดสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชน ทั้งยังเป็นการพัฒนาทักษะของเด็กและเยาวเชนให้รู้จักการทำงานเป็นหมู่คณะอีกด้วย จึงอยากเชิญชวนเยาวชนที่ถนัดด้านต่างๆ เหล่านี้มาสมัครกันเยอะๆ เพราะอนาคตของประเทศนั้นเราต้องร่วมสร้างไปด้วยกัน” น.พ.พลเดช ปิ่นประทีป ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าว


                เกี่ยวกับโครงการ นายดนัย หวังบุญชัย อนุกรรมาธิการรณรงค์ทางสังคมและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน สภาปฏิรูปแห่งชาติ บอกว่า โครงการ "เยาวชนร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย" จากการประกวดครั้งนี้ มีกรอบเนื้อหาสาระเน้นถึงเรื่อง “วิสัยทัศน์ประเทศไทยใน 20 ปีข้างหน้า” เป็นหลัก ซึ่งสามารถดูแนวได้จากข้อเขียน “จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน” ของ อ.ป๋วย อึ้งภากรณ์ และเรื่องคุณธรรมจริยธรรม และธรรมมาภิบาลที่ดี ซึ่งจะเน้นความถนัด 4 ด้าน คือ เพลง หนังสั้น ภาพวาด/การ์ตูน และความเรียง โดยในแต่ละด้านนั้นจะแบ่งการประกวดเป็นดังนี้ ด้านเพลง มี 2 ประเภท คือ 1.เพลงไทยสากล 2.เพลงลูกทุ่ง เพื่อชีวิต พื้นบ้าน ทั้ง 2 ประเภทจะรับสมัคร 2 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และรุ่นอายุ 19-25 ปี โดยในความถนัดด้านนี้จะมีที่ปรึกษาคณะกรรมการ คือ อาจารย์ไพจิตร ศุภวารี, อาจารย์ชินกร ไกรลาศ เป็นต้น  ด้านหนังสั้น ใช้ชื่อหัวข้อว่า อนาคตประเทศไทย 20 ปี ข้างหน้า รับสมัครเยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปี มีที่ปรึกษาคณะกรรมการ คือ คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว และผู้กำกับจากสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย เป็นต้น, ด้านภาพวาด/การ์ตูน รับสมัครใน 2 หัวข้อคือ การ์ตูนนิยายภาพ (comics) ไม่น้อยกว่า 8 หน้า แต่ไม่เกิน 16 หน้า และ หนังสือภาพ หนังสือเล่มเล็กและหรืองานออกแบบสร้างสรรค์การ์ตูนรูปแบบอื่น ๆไม่น้อยกว่า 8 หน้า แต่ไม่เกิน 16 หน้า ทั้ง 2 หัวข้อ จะรับสมัคร 2 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และรุ่นอายุ 19-25 ปี มีที่ปรึกษาคณะกรรมการ คือ คุณเอกรัฐ มิลินทะภาส นักวาดการ์ตูน รางวัล BRONZE AWARD การ์ตูนนานาชาติครั้งที่ 4 จากประเทศญี่ปุ่น (international manga award) เป็นต้น ส่วน ความเรียง เปิดรับสมัคร 2 หัวข้อ คือ 1. จังหวัดของฉันในอีก 20 ปีข้างหน้า ความยาวไม่เกิน 7 หน้า หัวข้อนี้รับสมัครเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ส่วนในหัวข้อประเทศของฉันในอีก 20 ปีข้างหน้า ความยาวไม่เกิน 10 หน้า รับสมัครเยาวชนอายุ 19-25 ปี ทั้ง 2 รุ่นจะมีที่ปรึกษาคณะกรรมการ คือ อาจารย์ชมัยภร บางคมบาง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2557 เป็นต้น

                “สำหรับผู้ชนะเลิศจากการประกวดครั้งนี้จะได้รับโล่รางวัลจารึกนามนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และโล่ฯของ ประธานสปช. ประธานสนช.และประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่าหนึ่งล้านบาท โดยเยาวชนที่สนใจสามารถส่งผลงานประกวด มาได้ที่ โครงการ "เยาวชนร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย" ตู้ปณ. 55 ปณฝ รัฐสภา กรุงเทพฯ 10305 หรือสามารถรับข่าวสารโครงการ รายละเอียดการประกวดและรับใบสมัคร ได้ที่ Website : www.thaiyouthforchange.com , Fan page : เยาวชนร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย, ID line : thaiyouthforchange หรือโทรศัพท์ 098-830-6375, 02-621-6099 ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 8 พฤษภาคม 2558 โดยผลงานที่ได้จากโครงการนี้เป็นเสมือนการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนกล้าที่จะก้าวมาเป็นพลังสร้างชาติในอนาคต นอกจากนี้สื่อที่ได้จะถูกนำไปพัฒนาให้ได้คุณภาพที่เหมาะสม จัดทำเป็นเครื่องมือหรือสื่อเพื่อการรณรงค์ เป็นการขยายผลให้กับผลงานของเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมการประกวด ซึ่งพูดได้เลยว่าเครื่องมือหรือสื่อเพื่อการรณรงค์ที่ได้เป็นเครื่องมือหรือสื่อเพื่อการรณรงค์ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชนอย่างแท้จริง ที่สำคัญจะมีการต่อยอดเผยแพร่ผลงานที่ได้ทั้งหมดนี้ผ่านสื่อในช่องทางต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป” นายดนัย หวังบุญชัย บอก


น้ำฝน จิตร์หาญ

                ซึ่งน้องน้ำฝน นางสาวน้ำฝน จิตร์หาญ อายุ 22 ปี นักศึกษาสาขาการโรงแรม จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ บอกว่า ถ้าให้มองไปถึง 20 ปีข้างหน้าในหลายมุมมันอาจจะกว้างเกินไป เพราะฉะนั้นเรื่องที่น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีการพูดถึงก็คือเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม เอกลักษณ์ของชาติก่อน เพราะปัจจุบันนี้คนไทย เริ่มทำลายความเป็นชาติลง สังเกตุง่ายๆ จากทุกวันนี้ วัยรุ่นหรือเยาวชนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญและตามกระแสแฟชั่นมากเกินไป เยาวชนกำลังจมปรักอยู่กับการรับวัฒนธรรมของชาติอื่นเข้ามามากเกินไปทำให้ หลงลืม และไม่รู้จักคำว่าเอกลักษณ์ของไทยคืออะไร ไม่รู้จักว่าอะไรคือทรัพย์แท้ของประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ควรที่จะมีการเปลี่ยนแปลง อยากให้คนไทยสร้างเอกลักษณ์ที่เป็นไทยขึ้นมาใช้ ไม่ใช่สร้างขึ้นมาเพื่อให้คนเห็น โดยเฉพาะการไหว้ การยิ้มทักทายกัน ซึ่งตรงนี้ในปัจจุบันมันค่อยๆ หายไปแล้ว ถ้าสามารถทำให้คงอยู่และใช้กันอย่างแพร่หลายจนติดเป็นวัฒนธรรมอย่างเมื่อก่อนจะเป็นเรื่องที่ดีมาก


น้องดอย นายธนันต์ อำไพ

                ด้านน้องดอย นายธนันต์ อำไพ อายุ 19 ปี นักศึกษาสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่เปิดโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนได้มีโอกาส มีสิทธิ์ มีเสียง ที่จะเสนอความคิดเห็นเพื่อเป็นประโยชน์ต่ออนาคตตัวเองและคนอื่นๆ แม้จะเป็นเพียงการบอกความคิดเห็นตัวเองผ่านสื่อในช่องทางที่กำหนด อย่างเพลง หนังสั้น ภาพวาด/การ์ตูน และความเรียง แต่อย่างน้อยทุกๆ ช่องทางนั้นก็สามารถเข้าถึงและเปิดโอกาสต่อให้คนอื่นๆ ได้รู้และเข้าใจในเรื่องสิทธิที่ตัวเองควรจะได้อย่างเข้าใจง่ายมากขึ้น


น้องนิว นายศราวุฒิ มูลสาร

                ส่วนน้องนิว นายศราวุฒิ มูลสาร อายุ 19 ปี นักศึกษาจากสาขาออกแบบนิเทศศิลป์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง บอกว่า สำหรับอนาคตประเทศไทยใน 20 ปีข้างหน้า นั้นอยากให้เน้นเรื่องการศึกษา การศึกษาที่รับใช้ประชาชน การศึกษาที่ไม่ได้เอาแต่สอนอย่างเดียว หรือให้ท่องอย่างเดียว แต่การศึกษาที่สามารถนำมาปฏิบัติและใช้ได้จริงด้วย หรือแม้แต่เรื่องของการที่ให้ประชาชนมีสิทธิในการรับรู้ถึงนโยบายของรัฐบาล คือประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการรับรู้ และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และสามารถเข้าถึงนโยบายที่รัฐจะทำเพื่อการ แก้ไขการผูกขาดอำนาจของนักการเมือง ส่วนร่วมในการบริหาร มีส่วนในการร่วมการรับฟัง เพื่อการกำหนดนโยบายสาธารณะร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้นการเข้ามามีส่วนร่วมในการทำตรงนี้ตั้งแต่ต้นจึงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการปฎิรูปประเทศ

                นี่เป็นเพียงความคิดเห็นเพียงส่วนหนึ่งของเยาวชนที่เข้าร่วมในเวทีเปิดตัวโครงการเท่านั้น ซึ่งพูดในภาพรวมแล้วถ้าเด็กและเยาวชนทั่วทั้งประเทศที่ดำลังจะสมัครเข้ามาทำสื่อในโครงการทั่วทั้งประเทศได้มีโอกาสพูด บอก และนำเสนอความคิดว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้าเยาวชนอย่างเด็กสมัยนี้อยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไร เชื่อได้เลยว่าความคิดเห็นที่ออกมาทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยต่อประเทศ

                วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้โดยผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจะตกถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุดขึ้น จุดเปลี่ยน.... มาถึงแล้ว เยาวชนคนไหนสนใจเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปประเทศไทย อย่ารอช้ารีบสมัครเข้ามานะ อนาคตประเทศไทย อยู่ในมือเรา...


ชมัยภร แสงกระจ่าง


ปรัชญา ปิ่นแก้ว


เอกรัฐ มะลินทะภาส


กรรมการ