happy on April 05, 2015, 05:45:30 PM

จัดจำหน่ายโดย             HANDMADE DISTRIBUTION
ชื่อภาพยนตร์                บิ๊กเกม  เกมล่าประธานาธิบดี  BIG GAME         
แนวภาพยนตร์               แอ็คชั่น – ผจญภัย
จากประเทศ                  ประเทศอังกฤษ , ฟินแลนด์ , เยอรมนี
กำหนดฉาย                  16 เมษายน 2558  ในโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับ                        Jalmari Helander   (จาลมารี เฮเลนเดอร์)
ลิงก์ตัวอย่าง                  https://www.youtube.com/watch?v=SuKscTvPXrk


นักแสดงนำภาพยนตร์ BIG GAME      
Samuel Jackson (แซมมวล แอล. แจ็คสัน)  รับบท The President  (ประธานาธิบดี)
ผลงานที่ผ่านมา  The Avengers , Robocop , Captain America , Kingman : The Secret Service.

Onni Tommila (ออนนิ ทอมมิลา)  รับบท  Oskari (โอสคาริ)
ผลงานที่ผ่านมา Rare Exports , Eetu ja Konna , Skavabolen pojat

Ray Stevenson (เรย์ สตีเวนสัน)    รับบท  Morris (มอร์รีส)
ผลงานที่ผ่านมา Divergent , Thor : The Dark World , Dexter , The Three Musketeers , The Book of Eli

Victor Garber (วิคเตอร์ การ์เบอร์)  รับบท Vice President  (รองประธานาธิบดี)
ผลงานที่ผ่านมา Argo , Glee , Blue Bloods , Web Therapy


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=SuKscTvPXrk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=SuKscTvPXrk</a>

เรื่องย่อ BIG GAME

                 โอสคาริ เด็กหนุ่มขี้อายวัย13ปี กำลังพิสูจน์ตัวเองว่าเขาจะสามารถเป็นชายชาตรีอย่างองอาจตามแบบประเพณีของบรรพบุรุษที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น  เขาต้องเอาตัวรอดจากการใช้ชีวิตหนึ่งวันหนึ่งคืนในป่าลึกเพียงลำพัง โดยมีอาวุธติดตัวเป็นคันธนูและลูกศรใช้ในการล่าสัตว์ป่า เพื่อพิสูจน์ความเป็นชายชาตรี

                 ณ กลางป่าลึกที่โดดเดี่ยว และน่ากลัว  โอสคาริได้ยินเสียงดังกึกก้องสนั่นไปทั่วป่า หลังจากนั้นเขาได้พบกับแคปซูลนิรภัยที่ดีดตัวออกมาจากเครื่องบิน แอร์ ฟอส วัน และชายที่ติดอยู่ในนั้นคือประธานาธิบดีคนสำคัญของสหรัฐอเมริกานั่นเอง

                 ชะตากรรมของชายผู้ที่มีอำนาจที่สุดของโลกตกอยู่ในกำมือของเด็กอายุ 13 ขวบ เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายปรากฏตัวขึ้น และพยายามไล่ล่าตัวประธานาธิบดี เกมนี้มีชีวิตของประธานาธิบดีเป็นเดิมพัน โอสคาริและประธานาธิบดีจะสามารถเอาชีวิตรอดจากเกมไล่ล่าครั้งนี้ได้หรือไม่ ติดตามได้ใน “BIG GAME เกมล่าประธานาธิบดี” 16 เมษายนนี้ออกไล่ล่าทุกโรงภาพยนตร์


สารผู้กำกับ…จาลมารี เฮเลนเดอร์

                 “…BIG GAME (บิ๊ก เกม) เป็นเรื่องราวของ โอสตาริ เด็กหนุ่มอายุ 13 ปี ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองตามแบบฉบับของบรรพบุรุษ  โดยที่เขาต้องเข้าไปในป่าหนึ่งวันหนึ่งคืนเพื่อล่าสัตว์กลับมาให้ได้ โดยมีอาวุธเพียงแขนและธนู  มันเป็นภารกิจที่ใหญ่หลวง แต่แล้วอยู่ๆ เครื่องบินแอร์ ฟอส วัน ก็ตกลงกลางป่าที่โอสตาริอาศัยอยู่ เขาถูกผลักเข้าไปสู่ท่ามกลางการไล่ล่าโดยที่เขาไม่สามารถรู้ชะตาของตัวเองว่าจะรอดไหม แถมยังต้องช่วยเหลือชายผู้หนึ่งที่เป็นคนสำคัญของประเทศอย่างประธานาธิบดีของสหรัฐ ให้รอดพ้นจากการตามล่าของผู้ก่อการร้าย

                 ความแตกต่างของโอสตาริและประธานาธิบดี คือ พวกเขาต่างอึดอัด และทำตัวไม่ถูกที่ต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด ส่วนเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่ความแตกต่างของทั้งสองโลก ทั้งด้านยุคสมัย วัฒนธรรม สังคม การมองโลก ของแต่ละคน โครงสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้หยิบยกเอาวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวฟินแลนด์มาประยุกต์กับภาพยนตร์อเมริกัน ผมชอบความคิดของความมุ่งมั่นของเด็กที่จะต่อสู้กับศัตรู ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในป่าที่มีแต่ต้นไม้และป่าลึก ทำให้การถ่ายทำสามารถเล่าเรื่องราวได้ดี เรื่องของภาพมีความสำคัญมาก เพราะตัวละครหลักเป็นชาวฟินแลนด์องค์ประกอบทุกอย่างต้องให้ได้อารมณ์ของคนท้องถิ่นทั้งภาพหรือแม้แต่สำเนียงภาษา ผมพยามทำให้เข้าถึงคุณดูทุกกลุ่ม เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่คุ้มค่ากับการชมอย่างแน่นอนครับ…”

สถานที่ถ่ายทำ BIG GAME

                 ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่ประเทศฟินแลนด์ แต่มีบางฉากเราถ่ายทำที่เยอรมัน และที่ บาวาเรียสตูดิโอ ในฉากของป่าลึกมันเป็นฉากที่น่าตื่นเต้นมาก จาลมัลรี เฮแลนเดอร์ บอกว่า  “…ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในป่าลึกซึ่งสถานที่เป็นปัจจัยในการเล่าเรื่องลักษณะของป่าลึก ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีผลกับการเล่าเรื่องให้ออกมาสมจริงเป็นอย่างมาก ในฐานะของผู้กำกับและเขียนบท มันสำคัญมากที่จะต้องใส่ตัวเอกเป็นคนฟินแลนด์เพื่อให้เกิดความสมจริงในสำเนียงพูด…”

                 โปรดิวเซอร์ชาวเยอรมัน อย่าง เจนส์ มูลเรอร์ กล่าวถึง การทำงานกับเฮแลนเดอร์ ในเรื่อง ของสถานที่ว่า  “…เราเริ่มสำรวจพื้นที่ด้วยกันรอบๆ เยอรมัน ดูพื้นที่ต่างๆที่ทางการอนุญาต เพื่อที่จะให้ออก มาดูสมจริงว่าเราถ่ายที่ฟินแลนด์ทั้งเรื่อง แต่ว่ามันไม่มีภูเขาสูงๆ แต่เมื่อจาลมารีขึ้นไปอยู่บนนั้น เขาก็ว่ามันน่าจะใช้ได้อยู่ เขาคำนวนเรื่องระยะทางแล้วบอกว่ามีภูเขาสูงอีกลูกอยู่ตรงนั้น ไปดูกันเร็วๆ แล้วเราก็ไปสรุปกันได้ที่ภูเขาที่สูงที่สุดของเยอรมันซึ่งมันสูงไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วเราก็เริ่มขนอุปกรณ์สำหรับถ่ายทำทั้งหมดเตรียมทีมงานเตรียมทุกอย่างขึ้นไป มีการติดต่อ ประสานงานกับซัพพลายเออร์ต่างๆ เพื่อให้งานราบรื่น ซึ่งมันท้าทายมากๆ มันดูมหัศจรรย์มาก กับป่าลึกที่ไม่ได้ใกลจากเมืองแต่สูงลิ่ว นั่นหมายถึง สภาพอากาศ การขนส่งทุกอย่างลำบากมากในการขนทุกอย่างขึ้นไป มันท้าทายมาก ซึ่งในช่วงที่ถ่ายทำ มันจะต้องเป็นช่วงที่ฟ้าใส อากาศดี ป่าสวย แต่พอเอาเข้าจริงๆ แบบว่ากลับตาลปัต กระทรวงท่องเที่ยวที่ดูแลบอกว่า ป่าจะสวย อากาศจะดีช่วงกันยายน แต่เชื่อผม มันไม่ใช่เลย…”

                 เฮแลนเดอร์กล่าวว่า  “…ผมชอบภูเขาและทิวทัศน์แบบนี้มากๆ ในฟินแลนด์ แทบจะไม่มี ภูเขาสูงแต่เรามีป่าที่สวยส่วนที่เยอรมันมันสวยทั้งป่าสวยทั้งภูเขาซึ่งมันเป็นสถานที่ถ่ายทำที่เหมาะมากมันได้ภาพของภาพยนตร์เก่าๆ ที่ทำเป็นมหากาพย์…”






การคัดเลือกนักแสดง

                   ทั้งจาล์มารี เฮแลนเดอร์ และ เพทรี โจคิรันต้า ต่างเฟ้นหานักแสดงพวกเขาต่างรู้สึกเหมือนกันว่า นักแสดงในเรื่องนี้มีผลอย่างมากในการเล่าเรื่องของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โจคิรันตา อธิบายว่า  “…เพราะว่าเรามีประธานาธิบดีสหรัฐกับเด็กชาวฟินแลนด์อายุ13 เราตัดสินใจว่าเราต้องการ ดารายอดนิยมมารับบทคู่กับนักแสดงเด็กชาวฟินแลนด์จริงๆมันถึงจะเอาบทนี้อยู่ พวกเขาต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และค้นพบความเหมือนในความต่างของแต่ละคน นักแสดงในดวงใจของจาล์มารี คือ แซมมวล แอล แจ็คสัน เขาเป็นคนแรกเลยที่จาล์มารีนึกถึง และเราก็ค่อยๆเริ่มวางตัวละครตัวอื่นๆต่อไป”

                 นักแสดงรางวัลออสการ์ แซมมวล แอล แจ็คสัน อธิบายถึงบทการแสดงที่ต้องสวมบทบาท เป็นประธานาธิบดีว่ามันสนุกมากมันท้าทายที่ได้รับบทเป็นประธานาธิบดีและแสดงร่วมกับฮีโร่เด็กในภาพยนตร์เรื่องนี้  “…ความน่าผิดหวังที่เกิดขึ้นในบทของผมนี้คือโดนคนใกล้ตัวหักหลัง ซึ่งโอสคาริก็ผิดหวังเหมือนกันที่รู้ว่าพ่อของเขาไม่เชื่อใจในการออกล่าสัตว์ของเขาสิ่งที่พวกเขาควรจะทำคืออะไรในคืนที่ทั้งคู่ ต่างเรียนรู้ความผิดหวังของกันและกัน พวกเขาก็พบทางที่จะไปต่อ ผมเชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสื่อให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่าง เด็กวัยรุ่นธรรมดาและชายที่มีอำนาจที่สุดในโลกได้…”

                 ซึ่งเฮแลนเดอร์เห็นด้วยกับเรื่องนี้  “…ความแตกต่างระหว่างโอสคาริและประธานาธิบดีนั้นมีความคาบเกี่ยวกัน ทั้งคู่ต่างรู้สึก อึดอัดและทำตัวไม่ถูก และต้องต่อสู้อุปสรรคใหม่ๆ ที่เป็นเรื่องเก่าของคนที่อยู่มาก่อน เมื่อ โอสคาริพบกับประธานาธิบดีเขารู้สึกว่าเขาเจอเข้ากับเรื่องยุ่งยาก แต่เมื่อเขาเห็นว่าประธา นาธิบดีเองก็มีความกลัวไม่ต่างจากที่เขากลัว โอสคาริก็เริ่มเรียนที่รู้ที่จะยอมรับและเผชิญ หน้ากับปัญหา มีแค่คำถามที่ว่าเราเตรียมอะไรไปรับมือกับปัญหานั้นๆ… “

                 นักแสดงเด็กชาวฟินแลนด์ ออนนิ ทอมมิลล่า รับบทเป็น โอสคาริ ในเรื่องนี้ เขาพบว่าการทำงานร่วมกับ แซมมวล แจ็คสันนั้นเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตเขาเลย “…ตอนแรกที่ผมพบเขา ผมรู้สึกเขินมาก แต่พอผมรู้จักเขาแล้ว ผมว่าเขาเป็นคนที่ดีมาก มัน เยี่ยมมากที่ได้ทำงานร่วมกับเขา เขาเป็นนักแสดงที่เก่งมาก…”

                 ภาพยนตร์เรื่อง BIG GAME  (บิ๊ก เกม) ได้เสาะหานักแสดงที่เหมาะสมท่านอื่นอีกอย่าง ชาวไอริสเหนือ  เรย์ สตีเวนสัน , นักแสดงชาวเยอรมัน อย่าง เมห์เม็ท เคอร์ทูลัส นักแสดงชาวอเมริกัน วิคเตอร์ การ์เบอร์ , เท็ด เลอวีน , เฟลิซิตี้ ฮัฟแมนน

                 นักแสดงชาวอังกฤษเจ้าของ รางวัลออสการ์ อย่าง จิม บรอทแนนท์ ผู้ที่รับบทคุมหน้าจอสถานการณ์ที่แพนตากอน ในบท เฮอร์เบิร์ด ซึ่งบรอดแนนท์ บอกว่า บทนี้เหมือนอยู่กลางพายุเลย “…ผมเห็นความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ซีไอเอรุ่นใหญ่ใกล้เกษียณ อย่าง เฮอร์เบิร์ด เขาเป็นนักสังเกตการณ์ที่มีประสบการณ์มาก เขามีกลยุทธ์แพรวพราวเลยทีเดียว…”

                 เฮแลนเดอร์บอกว่า ตอนแรกเขายังไม่ถูกใจนักแสดงที่เลือกมาสักเท่าไหร่ แต่โปรดิวเซอร์  เจนส์ มูลเรอร์ กลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะจากบทที่ดีและมุมมองของผู้กำกับ ทำให้เขาเชื่อ มั่นว่าภาพยนตร์จะออกมาดีอย่างแน่นอน  “…มันเป็นเรื่องที่ไม่พบบ่อย เรื่องของเด็กอายุ 13 กับประธานาธิบดีสหรัฐ แค่บทภาพยนตร์ ก็น่าสนใจแล้วแล้วยิ่งได้มาทำงานกับคนอย่าง แซม ที่มากประสบการณ์อีก มันไม่ใช่แค่ หนังแอ็คชั่นธรรมดามันเป็นเรื่องราวของประธานาธิบดีและโอสคาริผมภูมิใจมากที่สามารถ นำเขาทั้งคู่มาเล่นด้วยกัน มันดูเยี่ยมมาก…”

บทสัมภาษณ์ จาล์มารี เฮแลนเดอร์  ผู้กำกับ , นักเขียน

ถาม: คุณได้ความแรงบันดาลใจในการสร้างเรื่อง Big Game มาจากไหน?
ตอบ: มันนานมาแล้วตอนนั้น ผมกับเพทรี เพิ่งเสร็จจากการกำกับ เราก็คิดถึงภาพยนตร์ ที่จะทำกันเอาไว้ล่วงหน้า มันยากที่จะอธิบายว่าตอนนั้นคิดพล้อตเรื่องนี้มาได้ยังไง เพราะ เรามีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับตัวเนื้อเรื่อง มันยากที่จะบอกว่าจุดเริ่มต้นมันอยู่ตรง ไหน แต่ท้ายที่สุดเราก็ได้ความคิด เรื่อง เครื่องบิน แอร์ ฟอส วัน ตก แล้วก็ค่อยๆปรับแต่ง เรื่องราวจนมาเป็นภาพยนตร์ Big Game (บิ๊ก เกม)

ถาม: เรื่องราวเป็นอย่างไร สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
ตอบ: มันเป็นเรื่องของชายผู้ที่มีอำนาจมากคนนึงของโลก ไปพบกับคนที่มีอำนาจน้อยที่สุดในโลก แล้วทั้งคู่ก็ออกไปผจญภัยร่วมกันเพื่อหาตัวตนของแต่ละคน มันเป็นความคิด พื้นๆ อำนาจน้อยก็เปรียบเหมือนเด็กที่กำลังออกไปล่าสัตว์ การล่าสัตว์เป็นการบ่งบอกถึง ความแข็งแกร่งที่เขาอยากจะเป็น เมื่อพ่อเขาอายุ 13 พ่อของเขาล้มหมีในป่าได้ เด็กชายจึง อยากจะเจริญรอยตามและพาประธานาธิบดีเข้าป่าไปด้วย จริงๆ นะ ผมไม่ควรเล่าเลย เดี๋ยวก็รู้ตอนจบหมด

ถาม: หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Rare Exports, คุณคิดอย่างไรกับการมาร่วมงานกับ ดาราใหญ่ อีก อย่าง แซมมวล แอล แจ็คสัน
ตอบ:  ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ผมเดาว่าเขาก็ชอบเรื่องนี้ ไม่งั้นเขาไม่ตกลงมาเล่นหรอก และเขาก็ทำงานกับออนนิได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร นั่นเป็นหัวใจของภาพยนตร์เลยล่ะ

ถาม: คุณอธิบายถึงตัวแสดง ประธานาธิบดี ใน ภาพยนตร์เรื่อง Big Game ได้ไหม?
ตอบ: คนอเมริกันชอบเขามาก นั่นเป็นจุดแรกที่เราเลือกเขา ความนิยมของเขาสูงขึ้น และ คนไม่ติด ภาพถ้าเขาจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ทุกคนเลือกเขา มันเป็นเรื่องเดียวกันกับ โอสคาริ ทุกคนในหมู่ บ้านรวมทั้งพ่อของเขา สงสัยในความสามารถของเด็กหนุ่มว่าจะ ทำอะไรได้ พวกเขามีความเหมือน กันที่จุดเริ่มต้น

ถาม: คุณคิดอย่างไรกับการนำนักแสดงมาจากที่ต่างๆ
ตอบ: มันไม่ได้ราบรื่นหรอก เมื่อเราเริ่มพัฒนาภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมไม่คิดว่าผลมันจะออก มาดีอย่างนี้ เรามีดาราใหญ่เรามีนักแสดงที่เก่ง มันอัศจรรย์มากแล้ว โดยเฉาพ จิม บรอด แนนท์ เขาเหมาะที่จะเป็น ฮาร์เบิร์ท จริงๆ ตอนแรกผมไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็น จิม บรอด แนนท์ ผมว่าเขาเป็น ฮาร์เบิร์ท จริงๆ มารับบทตัวเอง มันประหลาดมาก 

ถาม : คุณคิดว่าคนดูจะคาดหวังอะไรจาก สถานที่ถ่ายทำอย่าง บาวาเรีย
ตอบ: เขาจะได้มุมมองแบบมหากาพย์ ความรู้สึกแบบวิวของตะวันตก นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเรามาถ่ายที่บาวาเรีย ผมชอบภูเขาและชอบภาพมุมกว้างของวิวทิวทัศน์แต่ว่าในฟิน แลนด์เราไม่มีภูเขาสูง แต่เรามีป่าที่สวยงาม แต่ที่เยอรมันเรามีทั้งป่าและภูเขา มันเลยเป็น สถานที่ที่เหมาะสำหรับถ่ายทำ เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ตามที่จินตนาการเอาไว้

ถาม: คุณคิดอย่างไรกับภาพที่ออกมา?
ตอบ: ผมคิดว่าหลักๆ คือเด็กอายุ 13 เป็นตัวนำเรื่อง มันควรจะเป็นภาพยนตร์สำหรับเด็ก แต่ก็ไม่ใช่ คนร้ายทุกคนสมจริง มีจริง มันน่าจะได้อารมณ์แบบ ภาพยนตร์ Die Hard มันเป็นการผสมผสานเรื่อง ที่ดี มันไม่ใช่ภาพยนตร์อย่าง Home Alone ที่จะมีเด็ก แล้วก็ มีเรื่องสนุกๆ กับคนร้ายที่ดูไม่เต็มเต็ง คนร้ายของเราเป็นคนร้ายจริงๆ สมจริง เลวจริงๆ ซึ่งมันน่าสนใจที่ภาพยนตร์ที่นำเด็กมาเป็นตัวนำ จะไม่ค่อยนำเสนอภาพนี้

ถาม: แล้วการเมืองล่ะ มีประเด็นอะไรไหม?
ตอบ: ผมว่ามันมีการเมืองไม่มาก ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยคำถามที่ว่าความปรารถนา ของชายที่อยากจะแข็งแร่งดูเหมือนว่า เขาทั้งคู่จะมีปัญหาเรื่องอำนาจ ผมว่านี่มันเป็นเรื่อง ที่ใหญ่กว่าการเมือง มันไม่ใช่เรื่อง การเมืองล้วนแต่มันเป็นเรื่องของมุมมองของคนมากกว่า
 
ถาม : คุณจะแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าอย่างไร ?
ตอบ: มันเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ดี มันไม่แค่สนุกมันอบอุ่นหัวใจด้วย มันสำคัญมาก สำหรับภาพยนตร์ มันเป็นตำนาน มันดูย้อนยุค ให้อารมณ์ในยุค 80 เป็นภาพยนตร์ แอ็คชั่นแบบ Fast and Furious. ที่มีเรื่องราวที่น่าอบอุ่นใจ







แซมมวล แอล แจ็คสัน  รับบท ประธานาธิบดี

ถาม: ช่วยเล่าเกี่ยวกับเรื่อง BIG GAME...
ตอบ : เครื่องบินของประธานาธิบดีถูกยิงตกในที่หนึ่งในฟินแลนด์ เขารอดปลอดภัยจาก แคปซูล เขาพบกับเด็กอายุ  13 ที่ค่อนข้างจะแปลก เขาอาศัยอยู่ในป่าทั้งคืนและล่าสัตว์ เพื่อพิสูจน์ความเป็นชายชาตรีตามแบบของตระกูล เขาพยามจะพิสูจน์ตัวเองและผมก็พยามจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์

ถาม: คุณชอบอะไรในภาพยนตร์เรื่องนี้?
ตอบ : ผมชอบเรื่องราวของการผจญภัย ผมชอบภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีหัวใจ ผมชอบการ เติบโตแบบที่เด็กในเรื่อง มันท้าทายที่จะค้นหาตัวตน ที่จะแข็งแกร่งขึ้น กับบุคลิกภาพที่ อ่อนแอแต่อยากจะแข็งแกร่ง คนที่เป็นผู้นำ และคนที่จะเป็นฮีโร่เหมือนอย่างที่พ่อเขาเป็น มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก

ถาม: คุณชอบบทบาทนี้ไหม?
ตอบ: ตอนที่ผมรับเล่น มันไม่สำคัญว่าผมจะได้บทเป็นประธานาธิบดีหรือว่าช่างไม้ ผมมองถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขา เขากำลังถูกตามล่า มันไม่เหมือนกัน เขากำลังจะ พยามรักษาชีวิตของตัวเอง มีคนสะกดรอยตามเขาและเป็นนักล่า ในสถานการณ์นี้ หน้าที่ของเขามันสำคัญมาก บทบาทของผมมันคือการเอาตัวรอด  เขาก็ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ผมไม่ได้ขอคำแนะนำจาก โอบาม่า หรือ มอร์แกน ฟรีแมน หรือ เจมี่ ฟอกซ์

ถาม: ความสัมพันธ์ของ โอสคาริ และ ประธานาธิบดี?
ตอบ:ทั้งคู่ต้องสู้กับความคิดของตัวเอง ประธานาธิบดีอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง และคิด ว่าประชาชนไม่นับถือเขา ไม่เชื่อมั่นในตัวเขา โอาคาริรู้ว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่ง เขาเป็นแค่เด็ก ที่อยากให้ทุกคนยอมรับ ทั้งคู่ตางตามหาคำตอบให้ตัวเองเพื่อที่จะได้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้

ถาม: คุณประทับใจอะไรในตัว ออนนิ?
ตอบ : เขาเก่งมาก เขามีความเป็นธรรมชาติและมีพลังงานรวมถึงจิตวิญญานที่ล้นเหลือ เขาสามารถจริงจังได้ในเวลาที่ต้องจริงจัง เขาเป็นมืออาชีพมาก

ถาม: ฉากไหนยากที่สุดในการถ่ายทำ?
ตอบ : ผมว่าฉากที่ยากที่สุดน่าจะเป็นฉากบนเครื่องบินเพราะว่ามีน้ำขังและหนาวมาก ไม่มี ใครอยากเปียกเวลาทำงาน แล้วคิดดูน้ำเย็นมาก มันยากจริงๆ ถ้าคุณชอบภาพยนตร์ผจญภัยที่เต็มไปด้วยความประทับใจ เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ คุณควรจะต้องไปดู


ออนนิ ทอมมิลล่า รับบท โอสคาริ

ถาม. ช่วยสรุปเรื่อง BIG GAME ให้เราได้ไหม?

ตอบ: มันมีหมู่บ้านที่มีประเพณีว่าเด็กอายุ  13 จะต้องเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ เป็นการล่าเพื่อ พิสูจน์ว่าเขาพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ ระหว่างเข้าป่าเขาก็พบกับประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเขาก็ ช่วยชีวิตประธานาธิบดีเอาไว้

ถาม: โอสคาริ และ ประธานาธิบดีพบกันได้อย่างไร
ตอบ: เมื่อโอสคาริเข้าป่า เขาได้ปล่อยประธานาธิบดีออกจากแคปซูลคุ้มกัน จริงๆ เขาไม่รู้ หรอกว่ามันคืออะไร เขาคิดว่ามันเป็นยานอวกาศ โอสคาริช่วยประธานาธิบดีออกมา นั่นคือ จุดที่ทำให้เขาทั้งคู่พบกัน

ถาม:  แซมมวล แอล แจ็คสัน รับบทเป็นประธานาธิบดี ร่วมงานกับเขาเป็น อย่างไรบ้าง?
ตอบ: ตอนแรกที่พบเขา ผมไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ ผมตื่นเต้นมาก แต่พอได้รู้จักเขา เขาเป็น คนที่ดีมากๆ มันน่าตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับเขา เขาเป็นนักแสดงที่เยี่ยมมาก และจริงๆ ผมเป็นแฟนเขาตั้งแต่เขาเล่น Django Unchained ผมชอบเขาตอนเล่น Star Wars ด้วย
 
ถาม: ในเรื่องมีฉากแอ็คชั่นค่อยข้างเยอะ เป็นอย่างไรบ้าง?
ตอบ: ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่เข้าฉาก ซึ่งส่วนมากผมพยายามเล่นเองทั้งหมดเพื่อความสมจริง เช่นฉากที่ต้องโหนอยู่บนเคเบิ้ลตอนยกตู้แช่ขึ้นบนความสูงราวสิบเมตร บนอากาศ มันสนุกมาก ผมอยู่ในตู้แช่ตอนอยู่ในน้ำด้วย มันดูน่ากลัวแต่ว่าปลอดภัย มันเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและท้าทายมาก

ถาม: ชอบฉากไหนมากที่สุด?
ตอบ: ผมชอบฉากที่โอสคาริและประธานาธิบดีนั่งรถ เอทีวี มันสนุกเพราะว่า โอสคาริ พยามจะโชว์ว่าเขาแข็งแกร่ง

ถาม: ทำไมคนถึงต้องไปดู Big Game?
ตอบ : เพราะว่ามันสุดยอด มันเป็นหนังที่ดีตลอดกาล


จิม บรอทแนนท์  รับบท ฮาร์เบิร์ท

ถาม: คุณมาเล่นเรื่องนี้ได้อย่างไร?
ตอบ: เรื่องนีค่อนข้างต่างจากภาพยนตร์ที่ผมเคยเล่นมาก่อน บทแตกต่างผมน่าสนใจ เหมือนมีประสบการณ์ใหม่ให้ได้ลอง

ถาม: ฮาร์เบิร์ทเป็นคนสองหน้าใช่ไหม คุณว่าคนอย่างเขาเป็นคนอย่างไร ?
ตอบ: เขาค่อนข้างเป็นมืออาชีพ ใกล้เกษียณ เป็นเจ้าหน้าที่ ซีไอเอที่ช่างสังเกตและมีประสบการณ์สูง รอบรู้และปรับกลยุทธ์ได้เข้ากับสถานการณ์เก่ง

ถาม: เขาเฝ้ามองสถานการณ์ทั้งหมดจากหน้าจอของแพนตากอน มันเป็นอย่างไร บ้าง?
ตอบ: ผมก็เพิ่งเคยรับบทแบบนี้ เหมือนเป็นฉากที่ถูกจัดมา มันกดดันเมื่อทุกอย่างแสดง บนจอใหญ่ ตอนที่มาที่เพนตากอน ประธานาธิบดีหายตัวไป ซึ่งมันท้าทายมาก กดดันมาก ฮาร์เบิร์ทเหมือนอยู่ตรงกลางของพายุ เขานิ่งสงบไม่ได้ตระหนกตกใจไปกับรอบๆข้าง
 
ถาม: คุณเตรียมตัวกับบทนี้อย่างไรบ้าง?
ตอบ: ผมเล่นเป็นคนอเมริกัน ที่แตกต่างความแตกต่างที่ว่ามันท้าทายมาก ผมต้องสังเกต สิ่งต่างๆ เรียนรู้จากบทที่ได้แต่ละบรรทัด มันเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งบทภาพยนตร์เขียนดีมาก ทำให้ผมเข้าใจตัวละครได้ดี

ถาม: คุณได้ร่วมงานกับนักแสดงหลายเชื้อชาติมาก คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
ตอบ: มันน่าประทับใจมาก กับภาพยนตร์ที่มีคนหลายเชื้อชาติแบบนี้ทุกคนมาจากประเทศ ต่างๆ ต่างเชื้อชาติต่างภาษา แต่มารวมอยู่ด้วยกันและใช้ภาษาเดียวในการสื่อสาร มันดีมากน่าประทับใจทุกคนรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน รับบทอะไร ต้องทำอะไร มันค่อนข้างชัดเจน มันเยี่ยมมาก

ถาม ทำไมคนถึงต้องไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้
ตอบ: เพราะมันเป็นภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้น ที่สร้างมาเพื่อผู้ชมทุกกลุ่ม มันเป็นภาพยนตร์ แอ็คชั่นของเด็ก ที่มีความซับซ้อนในเนื้อเรื่องและน่าสนใจ
« Last Edit: April 05, 2015, 06:17:33 PM by happy »