happy on March 25, 2015, 07:34:15 PM

ชื่อไทย      :   เร็ว..แรงทะลุนรก 7

วันที่เข้าฉาย   :   1 เมษายน 2558

จัดจำหน่าย   :   บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด


ตั้งแต่ปี 2001-2015 รวมระยะเวลา 15 ปี กับแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด Fast & Furious เร็ว..แรงทะลุนรก
วันนี้พวกเขากลับมาแล้วกับ “Fast & Furious 7 เร็ว..แรงทะลุนรก 7”

แฟนขาซิ่งทั้งหลายจงจำไว้ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน I don’t have friends.  I got family.  “ฉันไม่มีเพื่อน ฉันมีครอบครัว”
นำทีมโดย วิน ดีเซล , พอล วอล์กเกอร์, ดเวย์น จอห์นสัน, มิเชลล์ ร็อดดริเกซ, จอร์ดานา บริวสเตอร์,
คู่หูคู่ขำ ไทรีส กิ๊บสัน และ คริส บริดเจส (ลูดาคริส) สบทบด้วยสายโหด เจสัน สเตแธม ร่วมด้วย โทนี่ จา  รับประกันความมันส์
1 เมษายนนี้ ในระบบปกติ ,3 มิติ, ไอแม็กซ์ 3 มิติ และ 4DX



                 ฉันไม่มีเพื่อน ฉันมีครอบครัว

           คำเจ็ดคำนั้นกลายเป็นตัวแทนหัวใจสำคัญของแฟรนไชส์ Fast & Furious ได้เป็นอย่างดี ทั้งสำหรับเหล่าตัวละครผู้รักกันแน่นแฟ้นบนหน้าจอและทีมนักแสดง ทีมผู้สร้างและทีมงาน ที่เริ่มผูกพันกันราวกับพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เจ็ดเรื่องมาด้วยกัน ในตอนเริ่มต้น เมื่อ 15 ปีก่อน ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ถึงชะตากรรมของเรื่องราวเกี่ยวกับทีมนักซิ่งท้านรกในแอลเอตะวันออก ว่ามันจะก้าวไปเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีอายุยืนยาวที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดกาลได้

           บัดนี้ Fast & Furious ได้มาถึงจุดสูงสุดของความสำเร็จในตำนานที่ต่อเนื่องนี้แล้ว เพราะมันเป็น Fast & Furious ที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับทุกคนในครอบครัว Fast & Furious ทั้งผู้ที่อยู่หน้าจอ เบื้องหลังกล้องและผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของบรรดาแฟนๆ ของแฟรนไชส์นี้ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลก เรื่องราวนี้พิเศษสุดจริงๆ

           ในปี 2000 ภาพยนตร์ทุนสร้างต่ำเรื่องหนึ่งที่นำแสดงโดยนักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่เริ่มต้นการถ่ายทำ ภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์เรื่องนี้ ที่ส่วนหนึ่งได้แรงบันดาลใจจากบทความในนิตยสารไวบ์เกี่ยวกับคลับขาซิ่ง ได้เล่าถึงการผจญภัยของกลุ่มคนที่ฝังตัวอยู่ในแวดวงการแข่งรถใต้ดินในแอลเอตะวันออก ผู้เข้าไปพัวพันกับการปล้นระดับล่าง เพื่อหาเงินมาปรนเปรอความรักที่มีต่อการซิ่งมันส์ระห่ำสุดขั้วของพวกเขา ตำนานสุดระทึกของเหล่าคนหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตและซิ่งตามกฎของคนนอกกฎหมายนี้กลายเป็น The Fast and the Furious ภาพยนตร์ม้ามืดประจำซัมเมอร์ปี 2001 ที่กวาดรายได้ 207 ล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก
           ด้วยภาพยนตร์หกภาคที่ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นความชื่นชอบในกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ที่มีแต่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และรายได้ที่น่าทึ่งถึง 2.4 พันล้านเหรียญ แฟรนไชส์ที่ทุบสถิติของยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สเรื่องนี้ได้กลายเป็นแฟรนไชส์ที่ทำกำไรและมีอายุยืนยาวที่สุดของสตูดิโอ ที่น่าประทับใจก็คือทางโซเชียล มีเดีย แฟนๆ ที่ติดตามแฟรนไชส์เรื่องนี้และทีมนักแสดงของเรื่องได้เติบโตกลายเป็นกลุ่มแฟนที่มีจำนวนมากที่สุดของแฟรนไชส์เรื่องไหนๆ ก็ตาม

           ด้วยความที่ครอบครัวเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องอย่างหนักแน่น แฟรนไชส์ Fast & Furious ได้พัฒนากลายเป็นมาตรฐานสำหรับคอภาพยนตร์ ที่ติดตามตัวละครที่น่าประทับใจเหล่านี้ ผู้ซึ่งการเดินทางของพวกเขาได้ปลดปล่อยและเผยอารมณ์ที่ลึกซึ้งอย่างน่าประหลาดใจ มันได้ก้าวไปสู่การเป็นปรากฏการณ์ที่นำพากลุ่มนักซิ่งนอกกฎหมายเหล่านี้ไปปฏิบัติภารกิจที่ไม่น่าเป็นไปได้ ในสถานที่ไกลโพ้น ตั้งแต่ญี่ปุ่น เม็กซิโกและสาธารณรัฐโดมินิกัน ไปจนถึงบราซิล หมู่เกาะคานารีและหมู่เกาะอังกฤษ
           บัดนี้ ใน Fast & Furious 7 ทีมงานได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาซิ่งร่วมกันอีกครั้งในการผจญภัยที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงและสะเทือนอารมณ์มากที่สุดของพวกเขาจนถึงปัจจุบัน

           วิน ดีเซล, พอล วอล์คเกอร์, ดเวย์น จอห์นสัน, มิเชลล์ โรดริเกซ, ไทริส กิ๊บสัน, คริส “ลูดาคริส” บริดเจสและจอร์แดนา บรูว์สเตอร์ ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในฐานะสมาชิกครอบครัวเจ็ดชีวิต ที่รวมตัวกันเพื่อเป้าหมายหนึ่งเดียว พวกเขาได้ร่วมทีมกับขวัญใจของแฟรนไชส์อย่างเอลซา พาทากี้และลูคัส แบล็ค รวมถึงนักแสดงหน้าใหม่ของแฟรนไชส์นี้ ซึ่งรวมถึง เจสัน สเตแธม, เคิร์ท รัสเซล, นาตาลี เอ็มมานูเอล, ดิมอน ฮันซู, รอนดา เราซีย์และโทนี จา

           เรื่องราวใน Fast & Furious 7 เกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งปีหลังจากที่ลูกทีมของดอม (ดีเซล) และไบรอัน (วอล์คเกอร์) ได้รับการอภัยโทษให้กลับอเมริกาได้ เราได้พบว่าพวกเขาได้ปรับตัวมาใช้ชีวิตถูกกฎหมาย แต่คำว่าบ้านของพวกเขากลับเป็นอะไรที่เกินจริง ดอมพยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเล็ตตี้ (โรดริเกซ) ในขณะที่ไบรอันเองก็พยายามจะปรับตัวให้เข้ากับชีวิตย่านชานเมืองกับไมอา (บรูว์สเตอร์) และลูกชายของพวกเขา ส่วนเทจ (บริดเจส) และโรมัน (กิ๊บสัน) ก็เฉลิมฉลองอิสรภาพของพวกเขาด้วยการใช้ชีวิตตามความฝันของหนุ่มเพลย์บอย

           อย่างไรก็ดี สิ่งที่พวกเขายังไม่รู้ก็คืออันตรายกำลังคืบคลานเข้าหาพวกเขาในร่างของมือสังหารภารกิจลับเลือดเย็นชาวอังกฤษ ที่มีบัญชีแค้นต้องสะสาง หลังจากที่เริ่มต้นศักราชแห่งความหวาดสะพรึงด้วยการสังหารโหดฮัน (ซุง คัง) ในโตเกียวและความพยายามลอบสังหารฮ็อบส์ (จอห์นสัน) ในแอลเอ เด็คการ์ด ชอว์ (สเตแธม) ก็เริ่มลงมือตามล่าผู้ที่กำจัดโอเวน (ลุค อีวานส์) น้องชายของเขา ระหว่างภารกิจสุดท้ายของพวกเขา

           ในตอนที่ชอว์ระเบิดบ้านทอร์เร็ตโต้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแหล่งพักพิงเพื่อให้ลูกทีมของเราได้ไขว่คว้าอิสรภาพกลับคืนมา ดอมก็ต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง (รัสเซล) ความหวังหนึ่งเดียวของเหล่าตัวเอกของเราคือการนั่งหลังพวงมาลัยอีกครั้ง เพื่อหาโปรโตไทป์เครื่องมือติดตามอัจฉริยะของรัฐบาลสหรัฐฯให้พบ ผลตอบแทนคือพวกเขาจะสามารถใช้เครื่องมือติดตามที่ว่านี้ในการสืบร่องรอยของชอว์ ผู้เร้นกายราวกับวิญญาณ ก่อนที่เขาจะลงมือสังหารอีกครั้ง ในตอนนี้ที่พวกเขาสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่าแต่ก่อน ใน The Fast & Furious 7 ดอม, ไบรอัน, ฮ็อบส์, เล็ตตี้, โรมัน, เทจและไมอา จะต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดในสถานที่ไกลโพ้นอย่างอาบู ดาบีและอาเซอร์ไบจัน...และสถานที่ที่พวกเขาคุ้นเคย อย่างท้องถนนที่เป็นเหมือนบ้านของพวกเขา

           Fast & Furious 7 ได้ต้อนรับผู้กำกับคนใหม่ เจมส์ วัน (The Conjuring, Insidious) ผู้ได้ร่วมงานกับทีมงานเบื้องหลังที่นำทีมโดยผู้อำนวยการสร้างนีล เอช. มอริทซ์ (แฟรนไชส์ Fast & Furious, แฟรนไชส์ 21 Jump Street), วิน ดีเซล (แฟรนไชส์ Fast & Furious, Riddick) และไมเคิล ฟอทเทรล (Fast Five, Live Free or Die Hard) ผู้ควบคุมงานสร้าง คริส มอร์แกน (แฟรนไชส์ Fast & Furious, Wanted) เป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ จากตัวละครที่สร้างสรรค์โดยแกรี สก็อต ธอมป์สัน (The Fast and the Furious) อแมนดา ลูอิส (Fast & Furious 6, Fast Five) และซาแมนธา วินเซนต์ (Fast & Furious 6, Fast Five) ร่วมรับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้าง

           ทีมงานขาประจำของแฟรนไชส์นี้ยังรวมถึงผู้กำกับภาพ สตีเฟน เอฟ. วินดอน (Fast & Furious 6, Fast Five), มือลำดับภาพ คริสเตียน แว็กเนอร์ (Fast & Furious 6, Fast Five), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ซันจา มิลโควิค เฮย์ส (แฟรนไชส์ Fast & Furious, The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor), ผู้ประสานงานฝ่ายรถ เดนนิส แม็คคาร์ธีย์ (Fast Five, Fast & Furious 6), ผู้กำกับยูนิทที่สอง สไปโร ราซาทอส (Fast & Furious 6, Captain America: The Winter Soldier) และผู้ประพันธ์เพลง ไบรอัน ไทเลอร์ (Fast Five, Fast & Furious) นอกจากนั้น พวกเขายังได้ร่วมงานกับทีมงานหน้าใหม่ ซึ่งรวมถึงผู้ออกแบบงานสร้าง บิล เบรสกี้อีกด้วย  (Iron Man 3, The Hangover: Part II)



เกี่ยวกับงานสร้าง

การซิ่งครั้งสุดท้าย: การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้น

               ในตอนที่ Fast & Furious 6 ปิดฉากลงและผู้กำกับจัสติน ลิน ได้โบกมือลาหลังจากที่ร่วมงานกับแฟรนไชส์นี้มาสี่ภาค ผู้อำนวยการสร้างมอริทซ์และดีเซลและมือเขียนบทมอร์แกนก็เริ่มมองหาคนที่จะมารับหน้าที่นี้ต่อได้ พวกเขาต้องการผู้กำกับที่สามารถเข้ามาดูแลทุกการเคลื่อนไหวของแฟรนไชส์ชื่อดัง ทุนหนา มีแฟนติดตามจำนวนมาก พร้อมกับผลักดันท่วงทำนองเรื่องราว ตัวละครและแอ็กชัน ที่มัดใจแฟนๆ มากว่าสิบปีได้

           เจมส์ วัน ผู้กำกับชาวออสเตรเลีย ผู้ปลุกชีพให้กับภาพยนตร์แนวลุ้นระทึกอีกครั้งด้วยแฟรนไชส์บล็อกบัสเตอร์ยอดนิยมอย่าง Saw, The Conjuring และ Insidious ได้เซ็นสัญญาที่จะรับหน้าที่ผู้กำกับของตำนานบทต่อไป วัน ผู้เป็นที่รู้จักจากผลงานที่ทำรายได้สูง แปลกใหม่และถูกขับดันด้วยตัวละคร อีกทั้งยังนำเสนอความตึงเครียดสูงควบคู่กับภาพวิชวลโดดเด่น รู้ดีว่าเขาพร้อมที่จะกุมบังเหียนภาคล่าสุดของแฟรนไชส์ดัง ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและแอ็กชันมันส์ระห่ำแล้ว

           วันกระตือรือร้นกับการฝากลายเซ็นของเขาไว้ในภาพยนตร์แนวนี้ด้วยภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Fast & Furious 7 “ผมเป็นแฟนของแฟรนไชส์ Fast & Furious ครับ และมันก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผมที่จะแหวกจากแนวที่ผมสร้างชื่อขึ้นมา และมาทำงานในแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ที่ผู้ชมชื่นชอบขนาดนี้” วันกล่าว “เป้าหมายอย่างหนึ่งของผมสำหรับ Fast & Furious 7 คือการผลักดันตัวเองไปถึงขีดจำกัดและนำเสนอในสิ่งที่ต่างออกไป ไอเดียของการได้มีส่วนร่วมในแฟรนไชส์ที่ยิ่งใหญ่และโด่งดังแบบนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจครับ”

           เมื่อพิจารณาจากตอนท้าย Fast Five ที่น่าตกตะลึง ที่เผยว่าเล็ตตี้ ออร์ทิซยังมีชีวิตอยู่ แฟนๆ ก็แทบอดทนรอไม่ได้ที่จะดูฉากปิดท้ายของ Fast & Furious 6 ที่จะผลักดันตำนานนี้ไปยังทิศทางใหม่ที่น่าประหลาดใจอีกครั้ง ทีมผู้สร้างไม่ได้ทำให้พวกเขาผิดหวัง ฉากปิดท้ายของภาคล่าสุดไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ครั้งใหม่เท่านั้น แต่มันยังตอบคำถามที่มีคนถามกันมากที่สุดของแฟรนไชส์ เกี่ยวกับช่วงเวลาของ Tokyo Drift และฮัน ตัวละครสุดเจ๋งของซุงคัง ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในภาคดังกล่าว ว่ามันเกี่ยวข้องอย่างไรกับช่วงเวลาของแฟรนไชส์และลำดับการเล่าเรื่อง

           ตามที่ผู้อำนวยการสร้างได้ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้น เรื่องราวของแฟรนไชส์นี้เชื่อมโยงกับ Tokyo Drift จริงๆ และมันก็ถูกขยายโดยความเป็นพี่น้องระหว่างดอมและฮัน ท้ายที่สุดแล้ว ภาคที่สามก็ถูกวางลงในตำนานของ Fast & Furious ที่ยิ่งใหญ่กว่า ทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่

           การเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของคนขับรถปริศนา ที่รับบทโดยเจสัน สเตแธม ตัวละครเลือดเย็นที่ขับรถเมอร์ซีดิสของเขาพุ่งเข้าชนรถของฮัน เป็นสุดยอดของการใช้ประโยชน์ตัวละครในภาคเก่าและองค์ประกอบตามท้องเรื่อง เพื่อจุดประกายให้เกิดเรื่องราวใหม่ๆ ของแฟรนไชส์นี้ มันเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งที่หล่อเลี้ยงตำนาน Fast มาเป็นเวลากว่าสิบปี รวมทั้งสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม ด้วยประเด็นเรื่องราวและแอ็กชัน ที่ดึงดูดให้พวกเขาติดตามมันอยู่เรื่อยๆ

           ดีเซลแสดงความเคารพต่อคอภาพยนตร์ ผู้ไว้วางใจในทีมงานหลักผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ทั้งเจ็ดภาค เขากล่าวว่า “การที่ผู้ชมยอมให้เรากระโดดไปมาในลำดับเรื่องของ Fast และเต็มใจที่จะร่วมผจญภัยไปกับเรา อยู่กับเรา เป็นเรื่องยอดเยี่ยมครับ หนึ่งในสิ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับการที่เราคอยดูแลตำนาน Fast & Furious มาตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมาคือไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ทุกอย่างลงตัวใน Fast & Furious 7 คำถามได้รับคำตอบ มีการนำเสนอความคิดใหม่ๆ ถ้ามันมีอยู่ในแฟรนไชส์นี้ล่ะก็ มันก็จะเป็นเมล็ดพันธุ์ของสิ่งใหม่ๆ ที่จะถูกนำเสนออีกครั้งครับ”

           สำหรับ มอร์แกน ผู้ควบคุมงานสร้าง/มือเขียนบทของแฟรนไชส์นี้ ผู้ทำงานกับแฟรนไชส์นี้เป็นครั้งที่ห้าแล้ว มันหมายถึงการอัพเดทระบบโพสต์อิทที่ใช้รหัสสีของเขาอย่างต่อเนื่อง มันเป็นระบบที่คอยติดตามทุกอย่าง ตั้งแต่ตัวละครในอดีต รถและประเด็นที่เฉพาะเจาะจงของเรื่องราว ภายในความเคลื่อนไหวที่ใหญ่กว่านั้น บางประเด็นร้อยโยงกับภาคที่ผ่านๆ มา รวมถึงเครื่องรางที่สำคัญอย่างจี้รูปกางเขนเงินของดอม “ทุกคนและทุกอย่างมีคุณค่าในโลกของเราครับ” มอร์แกนบอก “มันให้เกียรติแฟรนไชส์เรื่องนี้และแฟนๆ ที่กลับมาสนุกกับบทต่อไปด้วยครับ”
           ตัวอย่างสำคัญคือการหวนกลับมาหาดอมของเล็ตตี้ ที่กลายเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง เมื่อเธอพยายามปะติดปะต่ออดีตของเธอและทำความเข้าใจกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง...เพื่อที่เธอจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตในอนาคตร่วมกับคู่ชีวิตของเธอ

           เรื่องราวที่น่าติดตามและตัวละครที่เป็นที่รักไม่ใช่เสน่ห์เพียงอย่างเดียวที่ดึงดูดใจผู้ชม Fast & Furious การมีส่วนร่วมของทีมนักแสดงและทีมงานทางแพลทฟอร์มโซเชียล มีเดีย ก็ทำให้แฟนพันธุ์แท้ของแฟรนไชส์นี้มีโอกาสได้เข้าถึงเนื้อหาพิเศษ ที่บ่มเพาะให้เกิดการพูดคุยและความสัมพันธ์สนิทสนมกันนานหลายปี ด้วยธรรมชาติความเป็นอินเตอร์แอ็กทีฟของโซเชียล มีเดีย มันก็เลยขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความสำเร็จของแต่ละภาค มันมีความรู้สึกของความเป็นเจ้าข้าวเข้าของสำหรับแฟนๆ ของ Fast เท่านั้น ผู้ที่บ่อยครั้งจะถูกมองว่าเป็นตัววัดระดับโทนและเรื่องราว รวมถึงมาตรฐานรสนิยมสำหรับโลเกชันและรถในเรื่องด้วย

           ดีเซล ผู้ติดตามกระแสออนไลน์ของแฟรนไชส์นี้อย่างใกล้ชิด ได้ใช้ประโยชน์จากฟีดแบ็คนั้น ด้วยการรับฟังเสียงคัดค้านการตายของเล็ตตี้ใน Fast & Furious และเปิดโพลสำรวจความคิดเห็นของแฟนๆ ว่าพวกเขาอยากเห็นใครมาร่วมงาน (อีกครั้ง) ในแฟรนไชส์นี้ และตอบแทนพวกเขาด้วยการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้แบบเรียลไทม์

           นักแสดง/ผู้อำนวยการผู้นี้กลายเป็นคู่หูที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับวัน ผู้ชื่นชมมิตรภาพและความเป็นมิตรที่ดีเซลหยิบยื่นให้ ผู้กำกับเล่าว่า “วินเป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้สำหรับผมในหนังเรื่องนี้ การได้แรงสนับสนุนจากเขาช่วยสร้างความแตกต่างสำคัญให้กับการมาเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ของผม ตั้งแต่เริ่มแรก เราคุยกันถึงเรื่องตัวละครและแฟรนไชส์โดยรวม ว่ามันเป็นยังไงและจะไปในทิศทางไหนต่อไปในอนาคต มิตรภาพระหว่างเราช่วยให้การสร้าง Fast & Furious เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าจะทำอะไรกับดอม แต่เขาก็เปิดกว้างต่อการกำกับและการนำทางของผม ซึ่งผมเองก็ซาบซึ้งเขามากในเรื่องนั้น”

happy on March 25, 2015, 07:41:46 PM

การยกย่องพี่น้องของเรา:
การเฉลิมฉลองให้กับพอล วอล์คเกอร์

              ระหว่างที่การถ่ายทำ Fast & Furious 7 กำลังดำเนินไปในเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 ได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นครอบครัวของเราสูญเสียพ่อ ลูกชายและพี่น้อง ผู้เป็นที่รัก และโลกใบนี้ก็ได้สูญเสียเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ผู้มีพรสวรรค์ และผู้ใจบุญ พอล วอล์คเกอร์ ไป ผู้โชคดีที่เคยร่วมงานกับวอล์คเกอร์ในแฟรนไชส์ Fast & Furious ทั้งห้าภาค ต่างก็มีความรู้สึกเหมือนกับทุกคนที่เคยได้สัมผัสกับชีวิตของเขาทั้งในและนอกจอ ความสูญเสียครั้งนี้ช่างใหญ่หลวงนัก

           ผู้อำนวยการสร้างมอริทซ์ ผู้ที่อยู่เคียงข้างวอล์คเกอร์ ตั้งแต่ที่เขาแจ้งเกิด ร่วมกับดีเซล, บรูว์สเตอร์และโรดริเกซ เล่าถึงช่วงเวลานั้นว่า “หลังจากการจากไปอันน่าเศร้าของ พอล เพื่อนและเพื่อนร่วมงานที่แสนดีของเรา เราก็คุยกันว่าเราจะหยุดถ่ายทำหนังเรื่องนี้ แต่หลังจากผ่านไปซักพัก เราก็คิดได้ว่าพอลคงอยากให้เราทำงานต่อจนเสร็จ ผมกับวินคุยกัน และเราก็เห็นพ้องต้องกันว่า เราต้องทำทุกอย่างเพื่อสร้างหนังเรื่องนี้ให้เสร็จเพื่อเขา เราต้องเดินหน้าต่อไปเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น เราเคารพในตัวพอล ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ในฐานะพ่อ และเพื่อน และเราก็จะไม่นำเสนออะไรที่จะสั่นคลอนสิ่งเหล่านั้นบนหน้าจอ

           “แล้วเราก็คิดได้ว่าเราจะถ่ายทำ Fast & Furious 7 จนจบได้ยังไง” ผู้อำนวยการสร้างกล่าวต่อ “เราถ่ายทำหนังส่วนใหญ่กับพอล แต่เราก็สงสัยว่าเราจะทำยังไงให้มันเวิร์ค ผมต้องบอกว่าเขาคอยดูแลเราอยู่ ด้วยฟุตเตจที่เรายังไม่ได้ใช้จากภาคก่อนๆ และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เราก็เลยสามารถสร้างหนังเรื่องนี้จนจบ ภายใต้แรงบันดาลใจจากพอล และสร้างบทส่งท้ายในโลกภาพยนตร์ที่เพอร์เฟ็กต์ให้กับเขาและตัวละครที่เป็นที่รู้จักดีที่สุดของเขา หนังเรื่องนี้เป็นบทพิสูจน์ตำนานของเขาครับ”

           ดีเซลพูดแทนเพื่อนนักแสดงและทีมงานของเขาถึงสาเหตุที่ Fast & Furious 7 จะต้องเป็นการเฉลิมฉลองชีวิตของวอล์คเกอร์ว่า “พอลเป็นเหมือนพี่น้องของผม ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว Fast ทั้งลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความหมายและตัวละครของเราก็ยินดีทำทุกอย่างเพื่อกันและกัน แรงสนับสนุนและความรู้สึกแบบครอบครัวในหนังเรื่องนี้ส่งผลต่อความรู้สึกนอกจอของเราด้วย กับหนังเรื่องนี้ คนทั้งโลกจะได้รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราครับ”

           ด้วยความช่วยเหลือที่เอื้อเฟื้อจากคาเล็บ วอล์คเกอร์และโคดี้ วอล์คเกอร์ น้องชายของพอล วอล์คเกอร์ ที่มาแสดงแทนเขา การปรากฏตัวบนหน้าจอครั้งสุดท้ายของเขาจึงกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ จอร์แดนา บรูว์สเตอร์ ผู้รับบท ไมอา ทอร์เร็ตโต้ เคียงข้างวอล์คเกอร์ มาตลอด 14 ปีที่ผ่านมา ยินดีต้อนรับเพื่อนเก่าของเธอสู่กองถ่ายและเล่าถึงเหตุผลที่กองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นสถานที่ของครอบครัว “มันพิเศษสุดจริงๆ ค่ะ...และก็เซอร์เรียลด้วย มีอยู่ตอนหนึ่ง ฉันขับรถกอล์ฟอยู่กับลูกชายฉัน แล้วฉันก็นึกถึงเมื่อหลายปีก่อน ระหว่างถ่ายทำหนังภาคแรก ที่พอลแบกลูกสาวเขาไว้บนบ่าเดินเข้ากองถ่ายมา มันเป็นเหมือนวงกลมเดินมาครบรอบค่ะ เราต่างก็มีสายสัมพันธ์ที่พิเศษสุดระหว่างกันจริงๆ”

           คริส มอร์แกน ผู้รับหน้าที่ผู้เขียนเรื่องราวของแฟรนไชส์นี้ตั้งแต่ Tokyo Drift สรุปถึงความภาคภูมิใจของทีมงานและความมุ่งมั่นของพวกเขาในการสร้างหนทางที่น่าพึงพอใจให้แฟนๆ ได้จดจำและชื่นชมวอล์คเกอร์ว่า “การสูญเสียสมาชิกครอบครัวเราระหว่างการถ่ายทำเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่การได้ทุกคนมาร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อสร้างหนังเรื่องนี้ให้สำเร็จเป็นเรื่องที่งดงาม เป็นสิ่งที่เราทุกคนภูมิใจ ผมรู้ว่าพอลคงจะต้องชอบแน่ๆ”



เมื่อถึงคราวสะสางบัญชีแค้น:
พวกพระเอกหวนคืน

               ใน Fast & Furious 7 เหล่าตัวเอกของเราต้องเจอกับสถานการณ์ใหม่ ที่เต็มไปด้วยศัตรูมากหน้าหลายตา พร้อมกับการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและเงามืดดำจากอดีตของพวกเขา สำหรับตำนานหน้าใหม่ในการผจญภัยของดอมและไบรอัน การกลับมาบ้านที่ลอสแองเจลิสในฐานะคนที่มีอิสระเป็นความฝันของพวกเขาเสมอมา อย่างไรก็ดี การปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย

           วันเล่าถึงความซับซ้อนในการกลับบ้านของพวกเขาว่า “หลังจากต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้ได้กลับบ้าน ในที่สุด พวกเขาก็ได้กลับบ้านจริงๆ แต่แล้วพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าบางทีนี่อาจไม่ใช่ชีวิตสำหรับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว การผจญภัยที่พวกเขาเคยผ่านมากลายเป็นตัวตนของพวกเขาในปัจจุบันมากกว่า มันมีความขัดแย้งภายในใจที่ว่าตอนนี้คุณกลายเป็นเหมือนคนแปลกหน้าในบ้านของคุณไปแล้วน่ะครับ”

           ในแฟรนไชส์มันส์ระห่ำเรื่องนี้ Fast Five เป็นภาคแรกที่แนะนำตัวละครใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งสองฟากฝั่งของกฎหมาย ผู้ทำให้ดอมและทีมงานต้องซิ่งกันหัวปั่น เริ่มจากเจ้าหน้าที่พิเศษฮ็อบส์ ที่รับบทโดยจอห์นสัน และโอเวน ชอว์ ตัวร้ายผู้น่าสะพรึงกลัว ที่รับบทโดยอีวานส์ ทีมงานต้องถูกทดสอบทุกหัวโค้ง อย่างไรก็ดี หลังจากที่ไล่ล่าดอมและลูกทีมมาหลายปี ฮ็อบส์ เจ้าหน้าที่ผู้เคารพกฎ กลับพบว่าตัวเองเข้าข้างดอมเมื่อทุกชีวิตถูกคุกคาม พวกเขาได้รับความไว้วางใจและความนับถือจากฮ็อบส์ ซึ่งนำมาซึ่งความคุ้มคองและมิตรภาพที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

           จอห์นสันพูดถึงความเปลี่ยนแปลงของฮ็อบส์ในแฟรนไชส์นี้ว่า “ตั้งแต่เริ่มต้น เป้าหมายของเราคือการสร้างตัวละครที่เป็นตัวแสบตั้งแต่เริ่มแรก และมีความคิดอ่านแบบคาวบอย แต่เขาก็ต้องมีความสามารถในการคุยโวและทำได้ตามที่พูด ซึ่งก็กลายเป็นแนวทางในการพูดของฮ็อบส์ ที่มีการปล่อยมุขกับผู้ชมไปพร้อมๆ กัน มันเป็นสมดุลที่เบาบางตลอดสี่ปีในการแสดงบทนี้ ผมชื่นชอบไอเดียของการสร้างตัวละครที่มีแนวโน้มและพลังความเป็นซูเปอร์ฮีโร ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นซูเปอร์ฮีโรน่ะครับ”

           ในการพูดถึงหนึ่งในฉากต่อสู้สำคัญของเรื่อง จอห์นสันได้สรุปความรู้สึกของทีมนักแสดงทุกคนเกี่ยวกับผู้กำกับของเรื่อง ว่าวันเข้าใจพวกเขาและแฟรนไชส์ Fast จริงๆ นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า “หลังจากที่ผมได้นั่งคุยกับเจมส์ตั้งแต่เริ่มแรก ได้สร้างฉากต่อสู้เปิดตัวกับเจสันและออกแบบแนวทางการถ่ายทำ ผมแฮปปี้กับมันและกับเขามาก สิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเจ๋งจริงๆ มันไม่เหมือนใครครับ”

           การสวมบทตัวละครตัวเดียวมาเป็นระยะเวลานานกว่าสิบปีเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับนักแสดงส่วนใหญ่ แต่มันเป็นสิ่งที่ทีมนักแสดงหลากวัฒนธรรมทีมนี้ให้ความสำคัญทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับไดอะล็อค ประเด็นเรื่องราว เสื้อผ้าหรือการเลือกรถ มันเป็นความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นกับช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับความรู้สึกของนักซิ่งข้างถนนที่พวกเขาได้แนะนำให้ผู้ชมรู้จักเมื่อหลายปีก่อน ไม่มีใครที่ภาคภูมิใจไปยิ่งกว่ามิเชลล์ โรดริเกซอีกแล้ว

           ท่ามกลางเรื่องราวการล้างแค้น ความสะเทือนอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้นและแอ็กชันที่ร้อนแรงใน Fast & Furious 7 ยังมีเรื่องราวความรักระหว่างดอมและเล็ตตี้ด้วย ดีเซลและโรดริเกซเป็นคนแรกๆ ที่ตระหนักถึงเรื่องนี้และพยายามอย่างมากเพื่อสร้างเรื่องราวความรักนั้นบนพื้นฐานของความเป็นจริง แม้กระทั่งระหว่างสถานการณ์เสี่ยงอันตราย ความจำเสื่อมและความสัมพันธ์ใหม่ๆ ความรักของพวกเขาก็มีรากฐานจากความหลังร่วมกันและความศรัทธาที่พวกเขามีต่อกันและกัน

           “ความสัมพันธ์ของดอมและเล็ตตี้เป็นสิ่งที่คุณไม่ค่อยได้เห็นในปัจจุบันนี้ค่ะ” นักแสดงหญิงกล่าว “มันเป็นความภักดีที่หาได้ยาก ที่คุณจะได้เห็นในชีวิตคู่แบบดั้งเดิมเท่านั้น มันเป็นความภักดีระดับนั้น ที่มีความผิดเพี้ยนแบบบอนนีและไคลด์น่ะค่ะ คุณจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครเหล่านี้ ได้เห็นความรักและภักดีนั้น ฉันกับวินเห็นช่วงเวลาเหล่านั้นเสมอและคิดว่า ‘มันงดงามมาก’ มันเป็นสิ่งที่เราทุกคนหวังว่าจะมีค่ะ”

           แม้ว่าไมอาจะเป็นความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกฉันพี่น้องระหว่างดอมและไบรอัน สิ่งเดียวที่พี่ชายเธอให้ความสำคัญคือการคุ้มครองเธอ ในช่วงเริ่มแรก มันเป็นเรื่องการจีบของไบรอัน แต่ตอนนี้ เรื่องราวจริงจังกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลการปฏิบัติการปล่นในริโอ หรือการสละตัวเองเพื่อปกป้องแจ็ค ลูกชายของพวกเขา ไมอาเป็นหัวใจของครอบครัวทอร์เร็ตโต้มาโดยตลอด...และเธอก็เป็นคนที่ไขว่คว้าที่จะสร้างชีวิตที่สงบสุขให้กับพวกเขาด้วย

           ในฐานะที่บรูว์สเตอร์เองก็เพิ่งเป็นแม่คน เธอก็เลยเข้าใจดีถึงแรงจูงใจของไมอาในการคุ้มครองคนที่เธอรัก “สิ่งหนึ่งที่ฉันพยายามพัฒนาขึ้นกับไมอาคือการรักษาสมดุลระหว่างความเป็นแม่และครอบครัวของเธอ” บรูว์สเตอร์เล่า “ไมอามีสัญชาตญาณที่เฉียบคมว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มๆ ในชีวิตของเธอ แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดออกมาก็ตาม ฉันชื่นชอบการนำเสนอความขัดแย้งนั้น และฉันก็เคารพเธอที่เป็นคนที่พึ่งพาได้แบบนั้นท่ามกลางเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นค่ะ”

           แน่นอนว่า ครอบครัวนั้นครอบคลุมมานอกเหนือจากทีมทอร์เร็ตโต้/โอ’คอนเนอร์/ออร์ทิซด้วย ไทริส กิ๊บสัน กลับมารับบท โรมัน เพียร์ซ เพื่อนวัยเด็กของไบรอันจากสถานกักกันเยาวชน เป็นครั้งที่สี่ เขาเป็นคนที่ท้าทายอำนาจเจ้าหน้าที่รัฐและช่วยสร้างอารมณ์ขันให้กับเรื่องราวอีกครั้งหนึ่ง โรมันปรากฏตัวครั้งแรกใน 2 Fast 2 Furious ในตอนที่ไบรอันหลบหนี และได้พบกับเพื่อนเก่าของเขาในไมอามี

           ใน Fast & Furious 7 โรมันยังคงรักษาความกล้าหาญของตัวเองเมื่อเขาเดินหน้ารุกสำหรับบทบาทที่มีความเป็นผู้นำมากขึ้น อย่างไรก็ดี เขาก็ต้องเจอกับงานช้างเขาเมื่อแผนการในการช่วยเหลือนักแฮ็กเกอร์ระดับเทพที่ชื่อแรมซีย์ถูกหยิบมาใช้จริงๆ กิ๊บสัน ผู้ยินดีกับเหตุการณ์พลิกผันที่มือเขียนบทมอร์แกนเขียนให้กับตัวละครของเขา ยอมรับว่าโรมันเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม เขาเล่าว่า “โรมันจะต้องเป็นเสียงของความจริง ในขณะที่คนอื่นๆ พร้อมที่จะทำทุกอย่างที่ดอมบอก โรมันกลับไม่ใช่ เขามีปัญหากับคำสั่งเสมอๆ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกใน 2 Fast แต่โรมันก็จะไม่ทำให้ทีมผิดหวัง เขาเอาด้วยแม้ว่ามันจะค้านกับสัญชาตญาณของเขาก็ตาม ผมชอบที่เขาใช้ชีวิตอยู่บนขอบเหวของหายนะครับ”

           คริส “ลูดาคริส” บริดเจส กลับมารับบท เทจ ปาร์คเกอร์ ช่างเทคนิคเครื่องยนต์ ผู้ปรากฏตัวครั้งแรกด้วยการเคียงข้างวอล์คเกอร์และกิ๊บสันใน 2 Fast 2 Furious บริดเจสยินดีที่ได้เห็นตัวละครของเขามีส่วนในบทบาทแอ็กชันมากขึ้นในครั้งนี้ ความเป็นปรปักษ์ที่น่าขันระหว่างเทจและโรมันยังคงอยู่และตอนนี้ มันก็ลุกลามมถึงแรมซีย์ ผู้ตกอยู่ตกหลางระหว่างการปะทะคารมของทั้งคู่ แม้ว่าเธอและเทจจะสานสายสัมพันธ์กันได้อย่างง่ายดายด้วยความชื่นชอบเทคโนโลยีเหมือนกัน ในขณะที่เพลย์บอยโรมันก็พยายามจะหว่านเสน่ห์โดยไม่ประสบผล แรมซีย์ก็รับมือกับความสนใจที่ได้รับอย่างสบายๆ

           “เหมือนกับเทจกับโรมันกลับไปเรียนมัธยมแน่ะครับ” บริดเจสกล่าวกลั้วหัวเราะ “พวกเขาทำให้มันสนุกและตลกขบขันตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเกี่ยวกับสาวสวยด้วยแล้ว ตอนนี้ คุณจะได้เห็นพวกเขาทำตัวเพี้ยนๆ เป็นเด็กๆ และประชันขันแข่งกันและกันครับ”
           หนึ่งในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกว่าของดอมก็คือความสัมพันธ์กับเอเลนา นีเวส คนรักเก่า ที่รับบทโดย เอลซา พาทากี้อีกครั้งหนึ่ง นักแสดงหญิงชาวสเปนปรากฏตัวครั้งแรกใน Fast Five ในบทตำรวจหญิงคนเก่งของริโอ ผู้รู้สึกเชื่อมโยงกับนักโทษหนีคดีผู้นี้จากความสูญเสียเหมือนๆ กัน และเธอก็ทิ้งบ้านและอาชีพตำรวจของเธอเพื่อหนีไปกับเขา พวกเขาสร้างชีวิตที่มีความสุขร่วมกันในหมู่เกาะคานารี แต่พอดอมตัดสินใจที่จะหาความจริงเกี่ยวกับเล็ตตี้ เอเลนาก็รู้ว่าเธอได้เสียเขาไปให้กับรักแรกของเขาไปเสียแล้ว แม้ว่าเธอจะไปได้สวยกับการร่วมงานกับฮ็อบส์ที่ดีเอสเอสและได้สร้างชีวิตของตัวเองขึ้นใหม่ ความรักที่เธอมีต่อดอมก็ยังคงอยู่

           ในตอนที่เธออ่านบท สัญชาตญาณแรกของพาทากี้คือเธออยากให้เอเลนาสู้เพื่อชีวิตของเธอกับดอม แต่ไม่นานนัก เธอก็เข้าใจว่าการตัดสินใจของตัวละครของเธอแสดงถึงความรักลึกซึ้งที่เธอมีต่อเขา “การเสียสละของเอเลนาเป็นวิธีการแสดงความรักที่น่าทึ่ง แต่ก็ไม่ได้ความว่าเธอไม่ได้ทรมานใจนะคะ” นักแสดงหญิงกล่าว “คนจำนวนไม่มากนักหรอกค่ะที่สามารถทำแบบนั้นได้ และมันก็งดงามมาก เอเลนาไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวเลย และฉันก็เชื่อว่าผู้ชมจะรู้สึกได้ว่าเธอกำลังทำในสิ่งที่ทำได้เพื่อเขา ในขณะเดียวกัน เธอก็เข้มแข็งพอที่จะนำชีวิตตัวเองกลับมา โดยเฉพาะงานของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต่อสู้เพื่อมัน เธอเป็นคนหัวรั้นค่ะ”

           ลูคัส แบล็คจาก The Fast and the Furious: Tokyo Drift กลับมารับบทฌอน บอสเวล ชายรักสันโดษผู้ค้นพบสิ่งที่เขารักและครอบครัวในโลกการแข่งดริฟท์ใต้ดินของโตเกียว อีกครั้งหนึ่ง นอกจากเขาจะตื่นเต้นกับการได้กลับมาสู่แฟรนไชส์นี้แล้ว เขายังกระตือรือร้นที่จะได้เห็นว่ามอร์แกนและทีมผู้สร้างจะบันดาลการหวนคืนสู่วงการของฌอนในรูปแบบไหน

           อย่างไรก็ดี แบล็คก็ทึ่งกับความยอดเยี่ยมที่พวกเขาสามารถสร้างการกลับมารวมตัวกันของตัวละครและประเด็นเรื่องราวด้วยผลกระทบทางอารมณ์ที่ทรงพลังได้ขนาดนี้ เขาเล่าว่า “ผมคิดว่ามันเป็นไอเดียอัจฉริยะครับ มันแสดงให้เห็นว่าสายสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินต่อเนื่องและลึกซึ้งแค่ไหน แนวทางการใช้ชีวิตของดอมถูกปลูกฝังอยู่ในครอบครัวนี้ที่พวกเขาสร้างขึ้น ดอมเป็นเหมือนพี่ใหญ่ของฮัน และแม้ว่าเราจะไม่รู้เรื่องนั้นใน Tokyo Drift แต่ฮันก็คอยดูแลฌอนและสอนค่านิยมแบบเดียวกันนั้นให้กับเขา นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ชมรักครับ และนั่นก็คือสิ่งที่ผมรักด้วยเหมือนกัน ครอบครัวนี้จะซิ่งหรือไม่ก็ตายไปด้วยกันครับ”

happy on March 25, 2015, 07:48:03 PM



ยินดีต้อนรับสู่โลกของเรา:
ทีมนักแสดงหน้าใหม่ของแฟรนไชส์

             หลังจากได้ทีมนักแสดงหน้าเดิมกลับมาพร้อมหน้ากันแล้ว ทีมผู้สร้างก็ต้องการหานักแสดงสำหรับบทใหม่ๆ ที่จะมาแสดงประกบนักแสดงหลักของเรื่อง ในการกระตุ้นความอยากติดตามภาคใหม่ของผู้ชม ทีมผู้สร้างและวันรู้ดีว่าพวกเขาต้องการจะแนะนำศัตรูของทีมในรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นเต้น

           ตามธรรมเนียมผู้ร้ายของ Fast โอเวน ชอว์เป็นคู่ปรับที่น่าประทับใจที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยต้องเผชิญ อย่างไรก็ดี ด้วยการกำจัดฮัน เด็คการ์ด ชอว์ ตัวละครของสเตแธม กลับร้ายกาจกว่าน้องชายของเขา ด้วยเป้าหมายที่มีความเป็นส่วนตัวยิ่งกว่า นั่นคือการเด็ดชีพดอมและลูกทีม ทีละคนๆ “ชอว์เป็นตัวอันตรายครับ” มอริทซ์กล่าว “ตอนนี้ ตัวเอกของเราเป็นนักรบแล้ว บางคนก็มีฝีมือเยี่ยมที่สุดในโลก และเราก็ต้องการนักรบที่สามารถต่อกรกับพวกเขาได้ เราต่างก็รู้สึกได้ด้วยสัญชาตญาณว่าเจสัน สเตแธมจะเป็นคนที่เราต้องการ ซึ่งมันก็ได้รับการยืนยันด้วยเสียงตอบรับที่ท่วมท้นที่มีต่อการปรากฏตัวของเขาในภาคที่แล้วครับ”

           สเตแธม เจ้าของผลงานภาพยนตร์แอ็กชันยอดนิยมหลายต่อหลายเรื่อง กระตือรือร้นที่จะบอกว่าตัวละครของเขาไม่ใช่ผู้ร้ายที่แบนราบ เช่นเดียวกับดอม ชอว์เองก็มีคติในการใช้ชีวิตเช่นกัน นั่นคือการล้างแค้นให้กับน้องชายของเขา และในการไล่ล่าพวกเขา เขาเป็นคนที่มีเข็มทิศศีลธรรมที่ไม่สั่นคลอน แม้ว่าจะบิดเบี้ยวก็ตาม “ชอว์ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนเลย” สเตแธมบอก “เขามีความคิดแบบขาวดำมากๆ เลือดก็คือเลือดและไม่มีอะไรจะมาขวางกั้นเขาได้ ดังนั้น เขาก็เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องล้างแค้นให้กับน้องชายเขา ทุกอย่างถูกเปิดเผยออกหมดแล้ว และเขาก็จะทำกับพวกเขาเหมือนที่พวกเขาทำกับเวน แต่แม้ว่าดอมกับชอว์จะแตกต่างกันแค่ไหน พวกเขาก็ยังเหมือนกันมากอีกด้วย พวกเขาต่างก็มีคติในการใช้ชีวิต ต่างก็เชื่อในครอบครัว มันเป็นการเปรียบเทียบที่ยอดเยี่ยมระหว่างตัวละครทั้งสองครับ”

           หลังจากที่เขาระบุภัยคุกคามใหม่ต่อครอบครัวของเขาได้แล้ว ดอมก็เริ่มเป็นฝ่ายรุกด้วยการไล่ล่าชอว์ วัน ที่ลุ้นกับการเผชิญหน้ากันของสองยักษ์ใหญ่คู่นี้ ได้พัฒนาสไตล์ที่จะนำเสนอภาพวิชวลที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับฉากแอ็กชันและสตันท์ที่ทำให้แฟรนไชส์นี้โด่งดัง...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำงานกับธีมการล้างแค้นที่ถูกเพิ่มเข้ามา “Fast & Furious 7 ได้แตะธีมคลาสสิกของความแค้น การเอาคืนและการดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น” ผู้กำกับกล่าว “ผมเป็นแฟนของธีมหนังแบบนี้ และการสามารถใส่เอาความมืดหม่นนิดๆ เข้าไปในแฟรนไชส์นี้ได้ก็เป็นเรื่องเจ๋งดี มันทำให้หนังเรื่องนี้มีอารมณ์ดิบเถื่อนที่ชัดเจนครับ”

           หนึ่งในนักแสดงหน้าใหม่ของแฟรนไชส์ ที่แฟนๆ รอคอยมากที่สุดคือนักแสดงผู้คร่ำหวอดในวงการ เคิร์ท รัสเซล ผู้ก้าวมารับบทเจ้าหน้าที่รัฐลึกลับ ผู้เสนอทางแก้ไขปัญหาสุดอันตราย ให้กับดอม, ไบรอันและทีมของเขา ตัวละครตัวนี้ไม่ได้ถูกพูดถึงมากไปกว่าการเป็น “มิสเตอร์โนบอดี้”

           นักถอดรหัสปริศนา ผู้ยึดถือหลักการทำงานต่างตอบแทนในฐานะเจ้าหน้าที่หน่วยข้อมูลลับของสหรัฐ ต้องการดอมและลูกทีมมากพอๆ กับที่พวกเขาต้องการข้อมูลของเขาในการตามล่าชอว์ มันกลายเป็นการแข่งขันที่ว่าใครจะคว้าเครื่องมือติดตามโปรโตไทป์ที่ล้ำค่ามาได้ก่อน รัฐบาลสหรัฐฯต้องการเครื่องมือชนิดนี้อย่างไม่ทางการ ซึ่งก็หมายความว่าปฏิบัติการทุกอย่างจะต้องเป็นความลับ โชคดีที่นั่นเป็นความชำนาญพิเศษของดอมซะด้วย

           เมื่อมีข่าวแพร่ออกไปว่ารัสเซลสนใจบทนี้ ความตื่นเต้นก็เกิดขึ้นในกลุ่มนักแสดงและทีมงาน นักแสดงผู้เป็นที่รักผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย และสามารถแสดงได้ทั้งบทแอ็กชัน คอเมดีและดรามา ซึ่งทำให้เขาเหมาะสมอย่างยิ่งต่อบทเจ้าหน้าที่รัฐฯผู้ติดต่อดอมและเสนอคำตอบให้กับปัญหาชอว์ของเขา มอริทซ์พูดถึงการคัดเลือกนักแสดงสำหรับบทนี้ว่า “เราต่างก็ตื่นเต้นที่เคิร์ทสนใจมาร่วมแสดงกับเรา และเขาก็เพอร์เฟ็กต์สำหรับบทนี้ ตัวละครของเขามีกลิ่นไอความแปลกประหลาด เขาตระหนักดีและชื่นชอบความจริงที่ว่าดอมและทีมของเขาปฏิบัติการนอกกรอบแบบสุดขั้ว เคิร์ทสามารถแสดงบทนี้แบบตรงไปตรงมาได้ แต่เขาก็มีมุมมองเจ๋งๆ ที่คาดไม่ถึงสำหรับบทที่อาจจะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รัฐตามแบบฉบับครับ”

           นาตาลี เอ็มมานูเอล นักแสดงหญิงชาวอังกฤษ ผู้เป็นที่รู้จักดีที่สุดจากบท มิสซันเดย์ ล่ามและผู้ติดตามของแดแนริส ทาแกเรียนในซีรีส์ยอดนิยมของเอชบีโอเรื่อง Game of Thrones ร่วมทีมนักแสดงในบท แรมซีย์ แฮ็กเกอร์ใต้ดินอัจฉริยะ ผู้ซึ่งเทคโนโลยีล่าสุดของเธอ ที่มีชื่อว่าเนตรพระเจ้า เป็นกุญแจสำคัญในการไล่ล่าชอว์ก่อนที่เขาจะลงมือสังหารสมาชิกในทีม หน่วยงานรัฐบาลและกลุ่มก่อการร้ายทุกกลุ่มบนโลกต้องการมัน ส่วนผู้สร้างกลับถูกมองว่ากำจัดทิ้งได้

           เครื่องมือของแรมซีย์สามารถแฮ็กเข้าไปในทุกอย่างบนเครือข่ายดิจิตัล ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ เสียง วิดีโอ เอทีเอ็ม เครื่องมือไวร์เลสหรือคอมพิวเตอร์ และสำรวจข้อมูลทั้งหมดที่มีเพื่อไล่ล่าใครก็ได้ ที่ไหนก็ได้ทั่วโลก หากตกอยู่ในมือของคนร้าย มันก็อาจกลายเป็นเครื่องมือสุดอันตรายของคนที่เป็นเจ้าของได้ ถ้าดอมหาตัวแรมซีย์พบ เขาก็จะพบเครื่องมือสะกดรอยของเธอที่ทุกคนต่างก็หมายปอง และใช้มันไล่ล่าตัวชอว์ได้ก่อนที่จะส่งมันให้กับรัฐบาลสหรัฐ อุปสรรคน่ะหรือ ข่าวเรื่องเครื่องมือสะกดรอยที่ล้ำค่านี้ได้ถูกแพร่กระจายไปแล้ว และนักรบรับจ้างที่ชื่อ โมซี จาคันเด้ (ฮันซู) ก็ได้คว้าตัวแรมซีย์และเครื่องมือสะกดรอยนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

           สำหรับเอ็มมานูเอล นักแสดงหน้าใหม่ งานแรกของเธอหลังจากได้รู้ว่าเธอได้คว้าบทที่เป็นที่ต้องการนี้มาครองได้คือการดูแฟรนไชส์นี้ใหม่ทั้งหมด ไม่ต้องบอกเลยว่าเธอตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้อ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อหาคำตอบว่าตัวละครแฮ็กเกอร์ของเธอมีบทบาทอย่างไรในโลกของ Fast และในวันแรกของการถ่ายทำ เธอก็ได้พบคำตอบอย่างรวดเร็ว ทีมผู้สร้างมีธรรมเนียมในการส่งนักแสดงหน้าใหม่ของเรื่องไปประกบนักแสดงเก่าเต็มทีมตั้งแต่วันแรก ยกตัวอย่างเช่น ลุค อีวานส์ เจอกับวันแรกที่สั่นประสาทใน Fast & Furious 6 ด้วยการถ่ายทำฉากการเผชิญหน้าที่ตึงเครียดระหว่างเขากับดอม, ฮ็อบส์และลูกทีม วันนั้นยังเป็นวันที่รวมถึงช่วงเวลา “ให้ตายเหอะ” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรื่อง เมื่อมีการเปิดโปงโฉมหน้าของไรลีย์ หนอนบ่อนไส้ของฮ็อบส์ ที่รับบทโดยจีนา คาราโน

           แม้ว่าจะไม่ได้พบกับนักแสดงทุกคน เอ็มมานูเอลก็มีความสุขกับวันแรกในการทำงานและรับมือกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นได้ เพราะเธอรู้ว่ามันจะช่วยทำให้การแสดงของเธอมีมิติมากขึ้น ฉากที่พวกเขาถ่ายทำคือฉากการพบกันครั้งแรกระหว่างแรมซีย์กับผู้ที่มาช่วยเหลือเธอ ในตอนที่พวกเขาได้เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงเปราะบาง แต่เป็นแฮ็กเกอร์คนเก่งที่พูดตามที่คิด และก็สามารถมองพวกเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

           แรมซีย์อาจจะเป็นพวกไม่ยึดติดกับสังคมและสบายใจที่จะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากกว่าการมีส่วนร่วมกับมิตรภาพแบบผ่อนคลายในกลุ่ม แต่เธอก็มีทักษะในการปรับตัว และแม้ว่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันบ้าง ในที่สุด เธอก็ยอมจำนนต่อเสน่ห์ของพวกเขา

           ในตอนที่ดอม, ไบรอันและลูกทีมพยายามจะหนีจากชอว์ สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงคือความมุ่งมั่นของนักรบรับจ้าง โมซี จาคันเด้ ที่รับบทโดยดิมอน ฮันซู และเคียท สมุนคนสำคัญของจาคันเด้ ที่รับบทโดย โทนี จา นักแสดง/นักสู้ศิลปะการต่อสู้ชาวไทย ชายทั้งสองต้องการเครื่องมือสะกดรอยโปรโตไทป์นี้มากพอๆ กับพวกเขา

           ในบทวายร้ายจาคันเด้ ผู้ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องร่วมมือกับชอว์ด้วยความจำเป็น ฮันซูได้แสดงบทนี้ชนิดไม่มีเวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจ หลังจากปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง Guardians of the Galaxy เขาก็บินไปแอตแลนตาเพื่อพบกับวัน, ดีเซลและทีมผู้อำนวยการสร้าง ก่อนที่จะต้องเดินทางไปโคโลราโดเพื่อถ่ายทำฉากแอ็กชันกับยูนิทท่สอง และกลับไปแอตแลนตาอีกครั้ง บทนี้เต็มไปด้วยอะดรีนาลินพลุ่งพล่านสำหรับฮันซู ผู้ซึ่งมีแต่ฉากแอ็กชันล้วนๆ แต่ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางดงกระสุนหรือช็อตกลางอากาศ เขาก็สนุกกับมันทั้งนั้น

           ฮันซู นักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงสองรางวัลอคาเดมี อวอร์ด เล่าว่า “การถ่ายทำวันแรกๆ ของผมกับยูนิทที่สองและเฮลิคอปเตอร์เป็นเรื่องง่ายๆ เมื่อเทียบกับฉากที่เราถ่ายทำกับยูนิทหลัก เรามีฉากสตันท์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองได้แสดง Fast & Furious 7 จริงๆ น่ะครับ”

           จา ผู้อาจเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากการแสดงแอ็กชันท้าแรงโน้มถ่วงของเขาในภาพยนตร์ไตรภาคเรื่ององค์บากและวิดีโอที่เรียกเสียงฮือฮาทางยูทูป เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในความคิดของวันและทีมผู้สร้างสำหรับบทเคียท ทั้งทีมงานและนักแสดงต่างก็ตื่นเต้นที่ได้ชมฝีมือของเขาอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงความชำนาญด้านมวยไทย เทควันโด้และกายกรรม แม้ว่าทีมงานและนักแสดงจะชื่นชอบการได้ดูจาวาดฝีไม้ลายมือบนหน้าจอมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาหลงใหลตั้งแต่วันแรกคือชายผู้ถ่อมตนแต่ก็มากล้นไปด้วยเสน่ห์

           ผู้ที่ร่วมทีมนักแสดงด้วยคือโรมิโอ ซานโตส ศิลปินซูเปอร์สตาร์เชื้อสายลาติน ผู้รับบท มันโด้ เพื่อนของดอมและไบรอันในสาธารณรัฐโดมินิกันและจอห์น บราเธอร์ตัน ในบทเชพเพิร์ด มือขวาคนสนิทของมิสเตอร์โนบอดี้ หนึ่งในนักแสดงหน้าใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของแฟรนไชส์นี้คือรอนดา เราซีย์ นักสู้ศิลปะการต่อสู้ผสมและแชมเปียนยูเอฟซี วีเมนรุ่นแบนตัมเวท ผู้เปิดตัวในโลกภาพยนตร์ด้วย The Expendables 3

           ใน Fast & Furious 7 เราซีย์รับบท คารา องครักษ์ของเศรษฐีในอาบู ดาบี ผู้ต้องต่อกรกับเล็ตตี้...ซึ่งทั้งคู่แต่งตัวสวยเลิศ โรดริเกซเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่งของเราซีย์ และเธอก็พูดถึงวันที่น่าสนใจเป็นพิเศษในกองถ่ายว่า “เธอเจ๋งมาก เธอทั้งเท่และแข็งแกร่ง รอนดาจับฉันยกขึ้นเหนือหัวเหมือนว่าฉันเบาหวิว แล้วเธอก็คุยกับฉันระหว่างที่ฉันก็ห้อยต่องแต่งเหนือไหล่เธอ ผู้หญิงอย่างเธอน่าทึ่งมากค่ะ”