วิน ดีเซล ร่วมเปิดตัวโบอิ้งสุดหรู Fast & Furious 777
วิน ดีเซล นักแสดงนำและผู้อำนวยการสร้าง Fast & Furious 7 เร็ว...แรงทะลุนรก 7 ร่วมเปิดตัวเครื่องบินโบอิ้งสุดหรู Fast & Furious 777 ที่สนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่าง สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมเปิดตัวและรอบปฐมทัศน์ของ Fast & Furious 7 เร็ว...แรงทะลุนรก 7 ภาพยนตร์มีกำหนดฉายเมืองไทย 1 เมษายน นี้
Fast & Furious 777 ลำนี้ จะบินตรงจากอาบูดาบีสู่ลอสแองเจลิส ซึ่งเส้นทางการบินนี้ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 สายการบินเอทิฮัด คือผู้สนับสนุนงานเปิดตัวและรอบปฐมทัศน์ Fast & Furious 7 ในลอสแองเจลิส ในวันที่ 1 เมษายน นี้ เมื่อสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ได้นำเสนอสถานที่อันโดดเด่น เพื่อใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ซีรีย์ระดับตำนาน อาบูดาบี ก็กลายมาเป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำ Fast & Furious 7 ทีมงานได้ถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่นอกเมืองอาบูดาบีกลางทะเลทรายลีวา รวมถึงถ่ายทำกลางเมือง เช่น ที่มัสยิดชีค ซาเย็ด, โรงแรมเอมิเรตส์พาเลซ, สนามแข่งรถฟอร์มูล่าวันยาสมารีน่า และเอทิฮัด ทาวเวอร์ นอกจากนี้ ยังมีฉากไฮไลท์บนเวหาที่เห็นทั้งตึกระฟ้าและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ทีมงานใช้เวลาถ่ายทำในอาบูดาบีนาน 2 สัปดาห์
“สายการบินเอทิฮัด คือสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมและนวัตกรรมที่แข็งแกร่งและเรามุ่งมั่นที่จะรังสรรค์ประสบการณ์การเดินทางใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าของเรา” ปีเตอร์ บอมการ์ตเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพาณิชย์ สายการบินเอทิฮัด กล่าว “เรารู้สึกยินดีที่ได้ทำงานร่วมกับยูนิเวอร์แซล ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมและมีไอเดียใหม่ ๆ ในวงการบันเทิง ดังเช่น การเปิดตัวเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่มีโลโก้ภาพยนตร์ Fast & Furious 7 บนตัวเครื่องในครั้งนี้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการตอกย้ำแบรนด์แฟรนไชส์ Fast & Furious และภาคล่าสุด ที่จะมีรอบปฐมทัศน์ในเดือนหน้าและเป็นการไฮไลท์สายการบินของอาบูดาบีอีกด้วย”“ตอนที่เราเริ่มถ่ายทำ The Fast and the Furious ในปี 2543 ถ้าคุณบอกว่าสักวันหนึ่งเราจะมีโลโก้บนเครื่องบินลำยักษ์ ผมคงว่าคุณเพี้ยนแน่ ๆ” นีล เอช โมริทซ์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ที่ร่วมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มาทั้ง 7 ภาค ให้ความเห็น “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่เอทิฮัดเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ ขอบคุณทุกคนในสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์สำหรับความเอื้ออารีและน้ำใจที่มีให้กับเราตลอดการถ่ายทำภาพยนตร์”
สื่อ Fast & Furious จะยังคงติดอยู่บนเครื่องบินต่อไปอีกประมาณ 4 ถึง 6 เดือน