MSN on March 17, 2015, 12:46:35 PM
TFEX – AFET ผนึกกำลัง ก.ล.ต. และ ก.ส.ล. เดินหน้ารวมศูนย์ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า









4 องค์กรจับมือ ผลักดันการรวมศูนย์การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า รวมตลาดซื้อขายและหน่วยงานกำกับดูแล เชื่อมั่นเพิ่มประสิทธิภาพดำเนินงานและลดต้นทุนการซื้อขาย พร้อมตั้งเป้าผลักดันสินค้าเกษตรล่วงหน้าสู่สากล 

วันนี้ (16 มี.ค. 2558) บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมแถลงข่าวการรวมศูนย์การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยทั้ง 4 องค์กรได้ร่วมมือดำเนินการตามนโยบายภาครัฐ โดยนำสินค้าเกษตรล่วงหน้าใน AFET มารวมไว้ที่ TFEX เพื่อให้มีศูนย์การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเพียงแห่งเดียว อันจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานและเกิดประโยชน์ต่อผู้ลงทุนที่จะสามารถซื้อขายอนุพันธ์ทุกประเภทได้ในแห่งเดียว

ดร. สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ประธานกรรมการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การรวมศูนย์การซื้อขายเกษตรล่วงหน้าไว้ที่ TFEX ในครั้งนี้ เป็นพัฒนาการในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และลดต้นทุนการซื้อขายของผู้ลงทุน โดยเชื่อว่าหลังจากการรวมศูนย์การซื้อขายเสร็จสิ้นแล้ว จะเกิดผลดีต่อการพัฒนาสินค้าเกษตรล่วงหน้า ด้วยผู้ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศจะสามารถเข้ามาซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าได้อย่างสะดวกโดยใช้ระบบและช่องทางเดียวกับการซื้อขายอนุพันธ์ใน TFEX และวางหลักประกันไว้เพียงแห่งเดียว ทำให้การบริหารต้นทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งในอนาคต ยังสามารถพัฒนาสินค้าเกษตรล่วงหน้าให้มีการดำเนินการและเชื่อมโยงสู่ระดับสากลได้ง่ายยิ่งขึ้น  อันจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการและภาคเศรษฐกิจของไทย”

ทางด้าน ดร. วรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า “ก.ล.ต. พร้อมให้การสนับสนุนการรวมศูนย์ซื้อขาย โดยเมื่อมกราคม 2558 ก.ล.ต. ได้เห็นชอบหลักการ 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสินค้าและตลาด  2) ด้านผู้ประกอบธุรกิจ และ 3) ด้านบุคลากร  เพื่อให้การรวมตลาดดำเนินไปได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงภาพรวมของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ลงทุน ตลอดจนบุคลากรของ กสล. และ AFET ซึ่ง ก.ล.ต. ได้มีการหารือร่วมกับ ก.ส.ล. และ AFET broker เป็นระยะและมีความคืบหน้าไปมากในทุกๆ ด้าน  โดย ก.ล.ต. เชื่อมั่นว่าการรวมตลาดอนุพันธ์ในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ตลาดเกิดการพัฒนา มีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ประกอบกิจการผู้ลงทุน  และการแข่งขันของตลาดไทย รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”

ดร. ชัยพัฒน์ สหัสกุล ประธานกรรมการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงการดำเนินการของ AFET ว่า “ AFET สนับสนุนการรวมศูนย์การซื้อขายสินค้าเกษตรโดยได้ทำงานร่วมกับ TFEX ในประเด็นนี้มาโดยตลอด รวมทั้งได้ช่วยถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการชำระราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า และการส่งมอบ-รับมอบให้แก่ TFEX นอกจากนี้ ยังได้มีบทบาทในการช่วยเหลือสมาชิกของ AFET ในการเตรียมการที่จะก้าวไปสู่การเป็นสมาชิกซื้อขายใน TFEX ซึ่งจะมีโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น ทั้งนี้ AFET ขอขอบคุณ TFEX และ ก.ล.ต. ที่ร่วมสืบทอดเจตนารมณ์ในการจัดตั้ง AFET เพื่อผู้ที่อยู่ในภาคเกษตรของไทย"

นายประยุทธ ศิริสวัสดิ์พิพัฒน์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า กล่าวว่า “ก.ส.ล. สนับสนุนการรวมศูนย์ซื้อขายในครั้งนี้ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการให้การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเป็นประโยชน์สูงสุดต่อภาคการเกษตรไทย และให้ได้ราคาอ้างอิงที่มีบทบาทในตลาดโลก โดยที่ผ่านมาได้ประสานงานกับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไข พรบ. การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อเปิดให้สามารถจัดให้มีการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าใน TFEX ได้ นอกจากนี้ ยังดูแลให้บริษัทสมาชิกและผู้ลงทุนใน AFET ให้โอนถ่ายมายัง TFEX เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ลงทุนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการรวมศูนย์ในครั้งนี้”

หน่วยงานทั้ง 4 แห่ง ได้มีการเตรียมการเพื่อรองรับการรวมศูนย์การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในด้านกฏเกณฑ์และระบบงานที่เกี่ยวข้องนั้น คาดว่าจะสามารถเตรียมการได้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 3 และพร้อมที่จะดำเนินการเมื่อร่างแก้ไขพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าและกฏหมายที่เกี่ยวข้องมีผลบังคับใช้  ทั้งนี้ บริษัทสมาชิก AFET อยู่ระหว่างเตรียมการที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก TFEX เพื่อดำเนินธุรกรรมต่อเนื่อง โดยหลังจากรวมศูนย์แล้ว การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าทั้งหมดจะดำเนินการโดยระบบซื้อขายของ TFEX และชำระราคาโดยบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) เท่านั้น ผู้ลงทุนใน TFEX จะสามารถซื้อขายสินค้าเกษตรโดยใช้บัญชีซื้อขายอนุพันธ์เดิมที่มีอยู่กับโบรกเกอร์ TFEX ในปัจจุบัน ส่วนผู้ลงทุนใน AFET จะยังสามารถถือสัญญาเดิมต่อไปได้จนสัญญาครบกำหนดอายุ หรือเปิดบัญชีใหม่เพื่อซื้อขายอนุพันธ์ใน TFEX 
« Last Edit: March 18, 2015, 02:29:14 PM by MSN »