MSN on February 23, 2015, 01:08:36 PM
KTAMจ่ายปันผลกองทุนอสังหาTRIF พร้อมขายตราสารหนี้6เดือนชูยิลด์2.35%

นางชวินดา หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า  สัปดาห์นี้ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนของบริษัท  พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทล อินเวสเม้นต์ ( TRIF)    ในอัตรา 0.375 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 กรกฎาคม -31 ธันวาคม 2557  โดยคิดเป็นเงินที่จ่ายปันผลกว่า 595 ล้านบาท   กองทุนจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 2 มีนาคม 2558  ปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 6 มีนาคม 2558   และจ่ายเงินปันผลในวันที่  16 มีนาคม 2558 

กองทุน TRIF ลงทุนในกรรมสิทธิ์ ที่ดินและอาคาร ศูนย์การค้า 7 โครงการ ได้แก่  โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน   ,โครงการพันธุ์ทิพย์  พลาซ่า เชียงใหม่  ,  โครงการพันธุ์ทิพย์  พลาซ่า บางกะปิ  , โครงการพันธุ์ทิพย์  พลาซ่า ประตูน้ำ   ,  โครงการเอเชีย ทีค  เดอะ รีเวอร์ ฟร้อนท์   ,  โครงการตะวันนา  และ โครงการโอพี เพลส   โดยกองทุนนี้มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

นอกจากนี้  บริษัทเปิดจำหน่ายอีก 2 กองทุนตราสารหนี้   ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 62  (KTFF62 ) เสนอขาย วันที่ 25 กุมภาพันธ์ –  2 มีนาคม  2558    อายุโครงการ 6 เดือน  เน้นลงทุนตราสารต่างประเทศ ประมาณ 80%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ซึ่งประกอบด้วย เงินฝากประจำ China Construction  Bank   , เงินฝากประจำ   Bank  of  China ,   MTN ออกโดย  Banco ABC  ( Brasil )  และ MTN ออกโดย  Banco BTG Pactual S.A.   ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภท  หุ้นกู้  ตั๋วแลกเงิน  สถาบันการเงิน   บริษัทเอกชน  ผลตอบแทนประมาณ 2.35% ต่อปี  โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

พร้อมทั้งอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 3 (KTFIX3M3) ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์  2558   เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ  ประเภทพันธบัตรภาครัฐ  ประมาณ 57% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์   ผลตอบแทนประมาณ 1.90% ต่อปี

ในช่วงที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกช่วงอายุยกเว้นรุ่นอายุ 2 ปี ตามแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนในประเทศจากการที่ตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ รวมถึงปรับตัวขึ้นตามผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ปรับขึ้นหลังมีกระแส Risk-on จากการที่กรีซและยูโรบรรลุข้อตกลง และการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ ประกอบกับสหรัฐยังยืนยันดอกเบี้ยต่ำไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับดอกเบี้ยทั่วโลก 
« Last Edit: February 24, 2015, 02:52:38 PM by MSN »