MSN on February 16, 2015, 02:40:10 PM
ซีเค พาวเวอร์ โชว์กำไรปี 57 โต 116% เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งแรกเมษายนนี้ พร้อมเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ต่อเนื่อง



ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 7,027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนและมีกำไรสุทธิที่ 472 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 116% จากปีก่อน เตรียมพิจารณาจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในช่วงเดือนเมษายนนี้ พร้อมเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ  ไซยะบุรี เสริมศักยภาพผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานของอาเซียน

ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการมีการเติบโตสูงในปี 2557 โดยในส่วนของกำไรสุทธิมีการเติบโตมากกว่า 116% นั้น เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำของโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น โครงการ 1 (BIC1) เต็มปี เทียบกับปี 2556 ที่รับรู้รายได้เพียงครึ่งปี และโรงไฟฟ้าทุกแห่งของบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดี การเดินเครื่องมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหารการเงินได้ดี ถึงแม้ในปีที่ผ่านมาโรงไฟฟ้าหลักอย่าง โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 (NN2) ที่ สปป.ลาว จะผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าแผนเล็กน้อยเนื่องจากฤดูฝนที่มาช้า แต่ด้วยเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ NN2 ที่สามารถรับรู้รายได้จากบัญชีสำรองที่เคยผลิตไว้ได้เกินเป้าหมายจากปีก่อนหน้าได้ ทำให้รายได้ของ NN2 ในปีนี้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก นอกจากนั้นบริษัทเริ่มรับรู้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากธุรกิจที่เข้าลงทุน บริษัทจึงจะนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 เมษายน 2558 เพื่อขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2557 ให้ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งแรกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาทด้วย

สำหรับการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทยังคงมุ่งสร้างผลประกอบการที่ดีต่อไป โดยจะปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าและเดินหน้าลดต้นทุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ในส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา นั่นคือ โรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น โครงการ 2 (BIC 2) ขนาดกำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์และเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2560 และจะสร้างรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี  นอกจากนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี กำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ ในสปป.ลาว ซึ่งการก่อสร้าง ณ สิ้นปี 2557 แล้วเสร็จไปกว่า 40% โดยบริษัทคาดว่าจะเข้าซื้อหุ้น 30% ในโรงไฟฟ้าดังกล่าวจาก บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) โดยพิจารณาแล้วว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมเพราะขั้นตอนการก่อสร้างในเฟส 1 เสร็จสมบูรณ์แล้ว และการก่อสร้างเฟส 2 มีความเสี่ยงทางวิศวกรรมในระดับที่บริหารจัดการได้ การเข้าซื้อหุ้นโครงการไซยะบุรีในเวลานี้จะทำให้สามารถซื้อได้ในราคาที่เหมาะสม มีผลตอบแทนในระดับที่ดีตามนโยบายการลงทุนของบริษัท นอกจากนั้น ยังส่งผลให้กำลังการผลิต CKP เพิ่มจาก 755 เมกะวัตต์ เป็น 2,160 เมกะวัตต์ ซึ่งนับเป็นการเติบโตเกือบ 3 เท่า สร้างมูลค่าเพิ่มให้ CKP และตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานในประเทศและอาเซียน
« Last Edit: February 18, 2015, 02:51:23 PM by MSN »

MSN on February 18, 2015, 02:50:49 PM
CK Power reports 2014 strong growth of 116%, paving way for first dividend in April 2015 and new project investment   



Dr. Supamas Trivisvavet, Managing Director, CK Power Plc. (CKP) said that the company reported a strong growth in 2014 with total revenue of Bt 7,027 million, up 25% YOY, and net profit of Bt 472 million, up 116% YOY. The company also considered paying its first dividend in April 2015 and gears towards investing in the Xayaburi Hydroelectric Power Plant project, which will strengthen CKP’s vision to be the leading power player of the ASEAN. 

The key factor that contributed to the high growth in 2014, especially the 116% growth in net profit, is the revenue recognition from power and steam sales by the Bangpa-In Cogeneration Power Plant – Phase 1 (BIC1) for the full year, compared to half-year BIC1 revenue recognition in 2013. Moreover, all power plants showed excellent performance through operational efficiency, effective administrative and financial cost management. Although the Nam Ngum 2 Hydroelectric Power Plant (NN2) in Lao PDR generated a slightly lower-than-expected power due to delayed rainy season in 2014, the mechanism in the Power Purchase Agreement of NN2 allowed for the use of energy reserve accounts, cumulated from the previous year when water was abundant and extra energy was produced. The revenue of NN2 in 2014 was therefore, not substantially affected. In addition, as CKP began to receive dividend incomes from invested projects, the company would seek shareholder approval in the Annual General Shareholder Meeting on 9 April 2015 on paying the first dividend of Bt 0.10 per share for its 2014 performance.

In 2015, CKP will continue to grow its business with focus on improving the efficiency of its power plants and cost control measures. The new project which is under development phase - the Bangpa-In Cogeneration Power Plant - Phase 2 (BIC 2) with installed capacity of 120 MW, is under construction and expected to be completed and start commercial operation in 2017, and will contribute approximately Bt 3 billion of revenue annually. Moreover, CKP is considering the investment in Xayaburi Hydroelectric Power Plant (XPCL) project with installed capacity of 1,285 MW, of which the construction is now 40% completed. 

The company plans to purchase 30% stake in XPCL from CH. Karnchang Public Company Limited (CK).  Dr. Supamas said that this is the right time to buy XPCL since the construction of the Phase 1 is completed and the engineering risk in the construction of Phase 2 is under control. Buying XPCL now will allow CKP to get good price, resulting in good rate of returns that is in line with CKP’s investment policy. The deal will also increase CKP’s total power production capacity by nearly three folds - from 755 MW to 2,160 MW, giving substantial value to the company and strengthening its vision to be the leading power player in Thailand and the ASEAN.
« Last Edit: February 18, 2015, 02:53:26 PM by MSN »