เรื่องย่อ : ละครซีรีส์เลือดมังกร “เสือ”

เรื่องย่อ: เสือ









หัวใจลิขิต Ost.เลือดมังกร ตอน เสือ | อัสนี โชติกุล | Official MV
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=C1oajV2eTNE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=C1oajV2eTNE</a>

เลือดมังกร Ost.เลือดมังกร | กิต กิตตินันท์ (The Voice Thailand) | Official MV
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=AdaWz02qhj0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=AdaWz02qhj0</a>

บทประพันธ์ รพัด
บทโทรทัศน์ ยิ่งยศ ปัญญา
กำกับการแสดง พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
นักแสดงนำ อนันดา เอเวอริ่งแฮม และ คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ
ดำเนินการผลิต บริษัท แอคอาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
ควบคุมการผลิต ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ออกอากาศ วันจันทร์ และ อังคาร เวลา 20.15-22.45 น.
ทางช่อง 3 (ออริจินัล) และช่อง 3HD (ช่อง33)

      รายชื่อนักแสดง ละครซีรีส์เลือดมังกร “เสือ”
          1. อนันดา เอเวอริ่งแฮม รับบท ภรพ
          2. คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ รับบท วันวิสา
          3. ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ รับบท เถ้าแก่เซี้ย
          4. วิยะดา โกมารกุล รับบท สุพรรณษา
          5. แอนจี้ เฮสติ้งส์ รับบท พราวตา
          6. นวินดา เบอร์ต๊อตตี้ รับบท ภรีม
          7. อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ รับบท เถ้าแก่บันลือ
          8. รัชนี ศิระเลิศ รับบท ริน
          9. ทวีศักดิ์ ธนานันท์ รับบท บดิน
          10. กฤษณ เศรษฐธำรง รับบท วันชัย
          11. อังคณา สุระเรืองชัย รับบท วาริน
          12. ศุกล ศศิจุลกะ รับบท ประกิต
          13. แอนดี้ เขมพิมุก รับบท ประยูร
          14. กำปั้น บาซู รับบท โชคทวี
          15. ชาคริฐ จตุพรวัฒนพนธ์ รับบท มงคล
          16. ต๋อง ชวนชื่น รับบท อาเจิ้ง
          17. สหภูมิ โตตรึงทรัพย์ รับบท เถ้าแก่เฮ้ง
          18. พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง รับบท ซินแสง้วง
          19. รฐา โพธิ์งาม รับบท หยกมณี
          20. ชลิต เฟื่องอารมณ์ รับบท เมฆินทร์
          21. วริศ กฤตรัชตนันต์ รับบท ภาษิต
          22. ณนทภัทร บุญสอาด รับบท จู๋
          23. ชยพล กีรสว่างพร รับบท รตอ.ชานนท์
          24. ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ รับบท เล้ง
          25. เจษฎาภรณ์ ผลดี รับบท ทรงกลด
          26. แอนดริว เกร้กสัน รับบท คณิน
          27. ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ รับบท ธาม
          28. เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ รับบท หงส์

          “ผู้สูญเสียความซื่อสัตย์ เหมือนสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งหัวใจของตัวเอง...”
          ภรพ รุ่งเรืองไพศาลศิริ ทายาทเถ้าแก่เซี้ย หรือ ไพศาล รุ่งเรืองไพศาลศิริ เจ้าของสัมปทานเกาะรังนกใหญ่ทางภาคใต้ถูกคนร้ายลอบสังหารขณะอยู่บนเรือรับจ้างกลางทะเล แต่บุพเพอาละวาดชักนำให้เขาได้พบกับวันวิสา สาวหน้าใสโลกสวย ที่ต้องพลอยรับลูกหลงผจญกรรมไปกับเขาด้วย เรือที่ทั้งคู่โดยสารมาถูกมือมืดโจมตีด้วยระเบิด ภรพกับวันวิสาว่ายน้ำไปขึ้นเกาะร้าง ต้องขวนขวายดำรงชีพเพื่อเอาชีวิตรอด ทั้งสองใช้ชีวิตตามมีตามเกิด ได้เรียนรู้และพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่ความไว้วางใจกัน ดอกรักค่อยๆ ผลิบานในใจของหนุ่มสาวทั้งคู่อย่างช้าๆ โดยที่ทั้งสองต่างไม่รู้ภูมิหลังของอีกฝ่ายว่าเป็นใคร
          เถ้าแก่เซี้ย หัวหน้าแก๊งเสือกับสุพรรษา แม่ของภรพตกใจกับข่าวการหายสาบสูญของภรพ สั่งให้มงคล และโชคทวี ลูกน้องคนสนิทอกตามหาภรพด้วยความหวังอันริบหรี่เต็มทน หมายมั่นปั้นมือจะต้องสืบให้รู้ให้ได้ว่าคนที่คิดปองร้ายหมายชีวิตภรพเป็นใคร และหนึ่งในผู้ต้องสงสัยก็คือเถ้าแก่บันลือ หัวหน้าแก๊งมังกรทอง ซึ่งเป็นคู่แข่งค้ารังนกนั่นเอง เนื่องจากเถ้าแก่บันลือเคยแสดงท่าทีต้องการช่วงชิงสัมปทานรังนกบนเกาะใหญ่ของแก๊งเสือ
          ถึงแม้ภรพกับวันวิสา จะมีโอกาสได้อยู่ร่วมกันบนเกาะได้ไม่นาน แต่ทั้งสองก็ต้องทนแดด ทนฝน อดมื้อกินมื้อมาด้วยกัน ทั้งสองต่างใช้ชื่อปลอม ไม่ยอมบอกชื่อจริงของกันและกัน ภรพบอกว่าตนเองชื่อจู๋ ส่วนวันวิสา บอกว่าชื่อจิ๋ม ภรพต้องหักใจไม่ให้อยู่ใกล้วันวิสาหลายครั้ง เพราะเขาอดยอมรับกับตนเองไม่ได้ว่า ลึกๆ ในใจ ก็ชอบวันวิสาไม่น้อย ทั้งคู่ต้องหลบกระสุน จากการไล่ล่าของคนร้ายหลายครั้ง ดังคำว่า ซินแสง้วง (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง)ได้ทายทักโชคชะตาของภรพไว้ว่า “พระจันทร์จะอุ้มพยัคฆ์” วันวิสาเปรียบเหมือนพระจันทร์ ตราบใดที่วันวิสาอยู่ใกล้กับภรพ ภรพจึงปลอดภัยไปได้ทุกครั้ง ภรพกับวันวิสาได้รับการช่วยเหลือกลับมาได้ ไพศาลเอาตัวภรพกลับบ้าน ส่วนวันวิสาร่างกายอ่อนแอหนัก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทั้งสองถูกจับแยกออกจากกัน ต่างคิดถึงกัน แต่ไม่กล้าเล่าเรื่องความเป็นไป ให้แก่พ่อและแม่ของตนเองฟัง
          เถ้าแก่เซี้ยกับสุพรรษาเตรียมจับคู่ภรพให้แต่งงานกับวาริน ลูกสาวนายธนาคารใหญ่เพื่อความมั่นคงทางด้านการเงินของวงศ์ตระกูล และวารินก็เพียบพร้อมที่จะเป็นสะใภ้ของตระกูล แต่พราวตา (แอนจี้ เฮสติ้งส์) กับภรีม (นวินดา เบอร์ต๊อตตี้) พี่สาวและน้องสาวของภรพดูออกว่าพี่ชายไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนใจวารินเลย เขามอบหัวใจให้กับวันวิสาสาวแปลกหน้าลึกลับไปเสียแล้ว เช่นเดียวกับวันวิสาที่ถูกพ่อแม่จับคู่ดูตัวกับประยูร ลูกชายแก๊งหมีขาว แต่วันวิสาปฏิเสธ เพราะตนมีความรักอยู่แล้ว
          ภรพกับวันวิสานัดพบกัน ทำให้รู้ความจริงว่าวันวิสาเป็นลูกสาวของเถ้าแก่บันลือ คู่ปรับคนสำคัญกับครอบครัวเขา ความรักของทั้งคู่ที่เหมือนจะลงเอยด้วยดีต้องแปรเปลี่ยนกลายเป็นรักในรอยแค้น และถูกกีดกันสารพัด ประกอบกับธุรกิจส่งออกรังนกไปเมืองจีนมีปัญหาถูกคู่ค้าตีกลับ เนื่องจากพบว่ารังนกถูกย้อมไนเตรตให้กลายเป็นรังนกแดง ขณะเดียวกันบดิน พี่ชายของวันวิสาถูกคุกคามปองร้าย ยิ่งทำให้ความร้าวฉานระหว่างสองตระกูลยิ่งบาดหมางถึงขั้นแตกหัก
          ภรพพยายามที่จะตัดใจจากวันวิสา เนื่องจากต้องสะสางความแค้นของทั้งสองตระกูลที่ถูกมือที่สามอยู่เบื้องหลังคอยยุยงปลุกปั่นให้แก๊งเสือและแก๊งมังกรทองต้องห้ำหั่นกันเอง ความเข้าใจผิดระหว่างสองครอบครัว ทำให้ภรพกับวันวิสาเริ่มหมางใจกัน ประยูรพาวันวิสาไปที่ฉั่วเทียนเหลา พบกับภรพ ที่มากับวาริน ยังไม่ทันที่ภรพกับวารินจะได้พูดคุยกัน ก็เกิดการยิงถล่มที่ฉั่วเทียนเหลา ภรพพาวันวิสาหนีไป ทั้งประยูร และวาริน มัวแต่ห่วงความปลอดภัยของตนเอง เลยไม่ทันได้เห็นว่า ภรพกับวันวิสาหายไปด้วยกัน
          บันลือและวริน บอกกับประยูรว่าวันวิสาไปค้างบ้านเพื่อน ประยูรไม่อยากจะเชื่อ ภรพพาวันวิสา มาขังอยู่ในกระท่อม ที่เกาะรังนก โดยมีเด็กชายจู๋ (ณนทภัทร บุญสอาด) เด็กบนเกาะ คอยดูแลวันวิสาอีกด้วย วันวิสากระจ่างคราวนี้เอง ว่าภรพเอาชื่อจู๋มาจากไหน จากเด็กบนเกาะนี้เอง จู๋บอกว่าวันวิสาเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เข้ามาที่เกาะ เพราะภรพ ไม่ให้ผู้หญิงขึ้นมาบนเกาะ บอกว่าจะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้น วันวิสาลงไปอาบน้ำที่น้ำตก ภรพตามลงมาอาบน้ำด้วย พร้อมสั่งให้วันวิสาถูหลังให้อีก วันวิสากับภรพ อยู่ด้วยกันบนเกาะ กินข้าว นอนบ้านเดียวกัน ถึงแม้ภรพจะแกล้งร้ายใส่วันวิสา แต่เขาก็ไม่ได้คิดร้าย ดั่งที่ปากว่าไป วันวิสาหาทางจะหนีกลับบ้าน แต่ถูกภรพจับได้เสียก่อน เลยถูกลากตัวกลับมาที่กระท่อมอีกครั้ง ภรพขึ้นไปบนฝั่งเพื่อสืบเรื่องราวของการจัดส่งรังนก เพราะคาดว่า น่าจะมีมือที่สามคอยใส่ร้าย แต่ภรพกลับถูกลอบยิง คืนนั้น ภรพจึงไม่ได้กลับไปที่กระท่อม ทำให้วันวิสา รู้สึกว้าเหว่มากที่ไม่มีภรพอยู่ใกล้ๆ
          ภรพเริ่มสงสัย ว่าคนที่ปองร้าย น่าจะเป็นคนใกล้ตัว เพราะนอกจากพ่อและแม่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่า ภรพ อยู่ที่เกาะรังนก จึงโทรกลับไปหาไพศาล ภรพกับไพศาล เริ่มหาทางจับคนร้ายตัวจริงให้ได้ รังนกของภรพ ถูกส่งเข้ากรุงเทพฯ วันเดียวกับรังนกของบ้าน บันลือ เฮ้ง แกล้งพูดใส่ร้ายทั้งสองฝ่าย ให้เข้าใจกันผิดมากขึ้นไปอีก รถขนรังนกของภรพถูกจี้ รถของบันลือก็โดนด้วย ภรพกับภาษิต (วริศ กฤตรัชตนันต์) ตามไปดู รู้ว่าเป็นคนร้าย สลับเอารังนกปลอม ใส่รถของบันลืออยู่ เพื่อโยนความผิดให้ภรพ
          เมื่อกลับมาที่เกาะรังนก วันวิสาก็ป่วยหนัก ภรพเฝ้าดูแล ป้อนข้าว เช็ดตัวให้ทั้งคืน ความรักในใจของภรพยิ่งก่อตัวมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่เขาเองก็รู้ดีว่าความรักครั้งนี้ไม่อาจเป็นไปได้ สุดท้าย ภรพจึงตัดสินใจ ปล่อยให้วันวิสากลับไปบ้าน ด้วยหัวใจที่แตกสลาย เขาให้ภาษิต ขับเรือไปส่ง หลังจากนั้น ภรพจึงนั่งเรือตามไป แล้วก็ถูกยิงจนตกทะเลไปในที่สุด
          ภรพโทรหาไพศาล วางแผนหลอกทุกคนว่าภรพตายแล้ว ไพศาลลงไปหาภรพที่เกาะรังนก อ้างว่าไปรับศพภรพ ไพศาลจึงรู้ว่ามีมือที่สามทำให้ไพศาลกับบันลือเข้าใจผิด และคนร้าย พยายามจะฆ่าภรพ ให้ทั้งสองฝ่าย เข้าใจกันผิด วันวิสารู้ข่าว ก็ร้องไห้เสียใจหนัก ที่ศาลเจ้าซินแสง้วง ทรงกลดโผล่มา มอบของที่ว่าภรพฝากไว้ให้วันวิสา เป็นสร้อยที่วันวิสาเคยทำให้ภรพ ตอนที่อยู่บนเกาะด้วยกัน ยิ่งทำให้วันวิสานึกถึงภรพมากขึ้นไปอีก
          ไพศาลเริ่มเดินตามแผน ทำทีเป็นไล่มงคลออก เพื่อไปสืบข้อมูล คนร้ายมือที่สาม พราวตาเป็นห่วงมงคล แอบไปหามงคลหลายครั้ง เพราะทั้งสองมีใจต่อกัน ตั้งแต่ตอนที่มงคลอยู่ที่บ้านของไพศาลนั่นเอง ที่บ้านไพศาล เหลือเพียงโชคทวี (กำปั้น บาซู) ที่คอยเฝ้าดูไพศาลอย่างใกล้ชิด โดยใช้ภรีมเป็นสะพานเข้าถึงตัวไพศาล เล้งลอบไปหาอาเฮ้ง (สหภูมิ โตตรึงทรัพย์) ที่ฉั่วเทียนเหลา ทำให้หยกมณี (รฐา โพธิ์งาม) รู้ว่า เฮ้งกับเล้งมีแผนการชั่วด้วยกัน มงคล (ชาคริฐ จตุพรวัฒนพนธ์) ทำทีไปสมัครงานกับเฮ้ง และให้ทำงานใกล้ชิดกับเฮ้งในที่สุด
          บันลือกับวริน (รัชนี ศิระเลิศ) เร่งรัดให้วันวิสาแต่งงาน วันวิสาไม่อยากทำให้พ่อและแม่เสียใจ จึงตกลงใจแต่งงานกับประยูรในที่สุด ภรพทนหลบซ่อนตัวไม่ไหว เพราะกลัวจะสูญเสียวันวิสาไป จึงลอบมาหาที่บ้าน วันวิสาดีใจมากที่ภรพยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร กับโชคชะตาของตนเอง
          ในวันแต่งงานของวันวิสา ประยูรเฝ้าประกบวันวิสาไม่ห่าง ภรพทนไม่ได้ ไปฉุดวันวิสาออกมาจากงาน แล้วพามาอยู่ที่บ้านเช่าด้วยกัน ภรพอยู่กับวันวิสาแบบจนๆ ให้วันวิสาหุงหาอาหารให้ แถมยังให้วันวิสารับจ้างซักผ้า เพื่อหารายได้เข้าบ้านอีกด้วย เพราะปัจจุบันคนชื่อภรพได้ตายจากไปแล้ว เหลือแต่เพียงผู้ชายจนๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่จะร่วมชีวิตกับวันวิสาด้วย วันวิสาจนใจกับสิ่งที่เป็นไป ยอมรับสภาพทุกอย่าง ภรพแอบเสียใจ ที่ต้องทำให้วันวิสา ต้องเจอเรื่องราวร้ายๆ เรื่อยมา หยกมณี เอาข้าวปลาอาหารมาฝากวันวิสาที่บ้าน ยิ่งทำให้วันวิสาน้อยใจใหญ่ ที่รู้ว่าภรพกับหยกมณีสนิทสนมกัน
          ประยูรร้องไห้เสียใจใหญ่ เพราะอยากได้เมีย ประกิต (ศุกล ศศิจุลกะ) แค้นใจจัด เหมือนถูกตบหน้า ไม่ญาติดีกับครอบครัวของบันลืออีกต่อไป ประกิตไปเซ็นต์สัญญา ร่วมทุนกับเฮ้ง โดยที่ไม่รู้ว่า จริงๆ แล้ว เฮ้ง มีนายใหญ่ ซึ่งก็คือเสี่ยเล้งนั่นเอง ด้านโชคทวี ก็หลอกให้ภรีม เอาตัวเลขทางบัญชีของไพศาล มาให้ตนเองดู จึงรู้ราคาที่ไพศาลจะเข้าร่วมประมูลรังนก โชคทวีรีบเอาไปให้เสี่ยงเล้งดู แลกกับตำแหน่งใหญ่โต ที่เล้งอ้างว่า จะยกให้โชคทวี หากดำเนินแผนการ ล้มล้างแก๊งเสือของไพศาลและภรพสำเร็จ ทำให้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วเขานั่นเอง ที่เป็นไส้ศึก ทำให้ครอบครัวของภรพพบกับความเดือดร้อน
          วารินมาไหว้พระที่ศาลเจ้าซินแสง้วงกับ บดิน (ทวีศักดิ์ ธนานันท์) พบสุพรรษากับภรีมมาด้วยกัน วรินกับสุพรรษา ปรับทุกข์กัน ตามประสาผู้หญิง ส่วนภรีมก็ไม่ยอมพูดดีด้วยกับบดิน เพราะเห็นว่าเป็นลูกชายของครอบครัวบันลือ แต่บดินไม่ถือโทษ กลับชอบต่อปากต่อคำกับภรีมอีกต่างหาก
          ที่งานประมูลสัมปทานรังนก ประยูร ประกิต เฮ้งมาด้วยกัน ทั้งไพศาล และบันลือก็มาด้วย เฮ้งนึกว่าตัวเองประมูลสัมปทานรังนกได้ แต่กลับกลายเป็นบริษัทของภรพที่ได้ไป โชคทวีแทบช็อค เมื่อเห็นหน้าภรพ เพราะเขาเองเป็นคนยิงภรพที่กลางทะเล ประยูร ประกิต เซ็งจัด ที่เข้าข้างเฮ้ง เลยมองหน้าครอบครัวของภรพไม่ติด
          เฮ้งพยายามจะคัดค้าน การที่ภรพได้ประมูลเกาะรังนกไป ภรพเลยพาทุกคนทั้งไพศาล เฮ้ง ประกิต ประยูร มงคล บันลือ บดิน ไปที่โกงดังเก็บรังนกของเฮ้ง พบผงไนเตรต ที่เฮ้ง ใช้ย้อมรังนกของไพศาล และบันลือส่งไปขาย เพื่อกลั่นแกล้ง เฮ้งหมดทางรอด ภรพพยายามถามว่ามีใครบงการอยู่เบื้องหลังเฮ้ง แต่ไม่ทันที่เฮ้งจะพูดอะไร เขาก็ถูกคนร้ายฆ่าปิดปากเสียก่อน ซึ่งก็คือโชคทวี ซึ่งดักซุ่มอยู่นั่นเอง ไพศาลกับบันลือ ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด บดินเริ่มเห็นความเข้มแข็ง เฉลียวฉลาดของภรพ กลายเป็นความนับถือ ที่ภรพสามารถคลี่คลาย เรื่องราวทุกอย่างได้
          สุพรรษาดีใจมากที่ได้เห็นหน้าภรพอีกครั้ง แต่วันวิสากลับยิ่งเศร้าใจ เมื่อหยกมณี กลับมาเก็บเสื้อผ้าให้ภรพ และบอกให้วันวิสาอยู่ที่นี่ต่อจนกว่าจะสิ้นเดือน แต่ภรพจะไม่กลับมาอีก วันวิสาหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง กลับไปบ้านด้วยหัวใจแตกสลาย บันลือไม่ถือโทษโกรธวันวิสาอีกต่อไป กลับตรงเข้าไปกอดอย่างให้กำลังใจ วรินเศร้าใจมาก กับโชคชะตาของลูกสาวตนเอง หยกมณีเตือนภรพ ว่าไม่ควรลองใจวันวิสาหนักเกินไป กลัวว่า เธอจะโกรธ จนไม่สามารถให้อภัยภรพได้อีก
          เล้งแค้นใจจัดที่แผนการเรื่องประมูลรังนกที่ส่งเฮ้งไปเป็นนายหน้า ไม่สำเร็จ จึงสั่งให้โชคทวี จับตัว ภรีมมา ภรพมาช่วยน้องสาว โชคทวี จะยิงภรพ แต่มงคลมาช่วยไว้ก่อน ภรพจึงเปิดเผยว่า แท้ที่จริง เขาไม่เคยไล่มงคลออก แต่เป็นคนวางแผนให้มงคลไปสืบเรื่องราวของเฮ้ง เพื่อต้องการรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แล้วก็รู้ด้วยว่า โชคทวี ให้ภรีมเป็นเครื่องมือทำร้ายครอบครัวของตนเอง ภรีมเสียใจมากที่ตัวเองไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว ที่สำคัญ โชคทวีไม่เคยรักเธอเลย โชคทวีจนมุมในที่สุด ตัดสินใจยิงตัวตายหนีความผิด สุดท้ายภรพจึงไม่สามารถสาวถึงตัวคนร้ายตัวจริงได้ ว่าที่แท้ก็คือเล้งนั่นเอง
          ภรพพาไพศาล สุพรรษา มาหาบันลือและวรินที่บ้าน แต่วันวิสากลับหนีหน้า ไม่ยอมพบกับภรพ เพราะยังเสียใจที่ภรพทิ้งให้เธออยู่ที่บ้านเช่าเพียงลำพัง แล้วภรพก็จากมาโดยไม่ล่ำลา เหมือนไม่มีเยื่อใยต่อกัน ยิ่งเมื่อรู้จากแม่ ว่าภรพจะแต่งงาน วันวิสายิ่งเสียใจ คิดว่าภรพจะแต่งงานกับวาริน วารินอึ้ง พูดไม่ออก ไม่รู้จะอธิบายยังไง ภรพเองก็เสียใจ แต่ไพศาลกับบันลือไม่ย่อท้อ วางแผน จะให้ภรพกับวันวิสาลงเอยกันให้ได้
          ภรีมเสียใจมากที่ถูกโชคทวีหลอกเรื่อยมา เธอมีโอกาสได้พบกับบดิน บดินพยายามพูดให้กำลังใจภรีม แต่ทั้งสองก็ต้องเถียงกันได้ทุกทีไป บดินไม่ถือโทษ ยิ่งเถียงกันเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็งอกงามขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมงคล ก็กลับมาทำงานที่บ้านไพศาลเหมือนเดิม พราวตาดีใจมาก ที่เธอเองมองมงคลไม่ผิด สุดท้าย ไพศาลก็ยกพราวตาให้กับมงคล
          คณิณ (แอนดริว เกร้กสัน) ทรงกลด (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ธาม (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) รู้สึกเห็นใจภรพไม่น้อย จึงหาทางช่วยภรพ ยิ่งเมื่อเห็นวันวิสาเสียใจ ทั้งคณิณ ทรงกลม ธาม จึงยุให้วันวิสาเอาคืน ในสิ่งที่ภรพเคยทำกับวันวิสาไว้ ทั้งฉุดวันวิสาไปจากงานแต่ง ทั้งเอาตัวไปซ่อนที่เกาะ และที่บ้านเช่า ให้วันวิสาไม่ยอมแพ้แก่เจ้าเสือภรพ วันวิสายิ้มทั้งน้ำตา หาทางออกให้กับตนเอง
          ในวันแต่งงานของภรพและวาริน วันวิสาตัดสินใจเอาปืนจี้ตัวภรพออกจากงานแต่ง บอกว่าภรพคือผู้ชายของเขา วันวิสาพาภรพไปที่เกาะ แต่คราวนี้ เธอกลับเป็นฝ่าย บังคับ ขู่เข็ญ ภรพทุกอย่างทั้งให้ภรพ ซักผ้า หุงหาอาหาร คอยปรนนิบัติวันวิสาอย่างดี เพื่อแก้แค้นสิ่งที่ภรพทำกับเธอไว้ทุกอย่าง วันวิสาบังคับให้ภรพต้องกินพริกเป็นชาม เธอเองก็เสียใจไม่ต่างกัน ทำไปพร้อมกับน้ำตา จึงทำให้ภรพรู้ว่า สิ่งที่เขาได้กระทำกับวันวิสาไปนั้น รุนแรง และสร้างความเจ็บปวดให้กับวันวิสาครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้าย ทั้งภรพและวันวิสาก็ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ภรพโอบกอดวันวิสา และสัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจอีก วันวิสาเองก็ยอมรับ ว่าไม่เคยรักใครเท่ากับภรพ ทั้งสองจะครองคู่ด้วยกันตลอดไป

“อนันดา-คิมเบอร์ลี” เปิดม่านประเดิม “เลือดมังกร” จับคู่ บู๊รักโรแมนติก ในตอน “เสือ”





          สิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟนละครช่อง 3 กับซีรี่ส์แห่งปี อีกหนึ่งผลงานที่สรรค์สร้างให้แฟนละครโดยเฉพาะสำหรับละครซีรีส์ “เลือดมังกร” โดยได้ผู้จัดอย่าง คุณแดง-ธัญญา วชิระบรรจง แห่งค่าย แอคอาร์ต เจเนเรชั่น มาควบคุมทุกรายละเอียด พร้อมผู้กำกับคู่ชีวิต คุณอ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง ที่จ่อคิวลงจอตอนแรก เรื่อง “เสือ” ในเดือนมีนาคมนี้ กับการร่วมงานกันเรื่องแรกของคู่พระนางลูกครึ่งที่เคมีฟุ้งกระจายอย่าง อนันดา เอเวอร์ริงแฮม กับนางเอกหน้าสวย คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ ที่จับคู่มาร่วมฝ่ามรสุมแห่งโชคชะตาฟ้าลิขิต ที่ทั้งบู๊ ดราม่า โรแมนติก คอมเมดี้ ให้แฟนๆ ละครช่อง3 ได้ฟินกันแบบจุใจ พร้อมด้วยนักแสดงชั้นนำมากมาย อาทิ แอนจี้ เฮสติ้งส์, มิ้นท์ นวินดา, บี๋ ธีรพงศ์, ตุ๊ก วิยะดา, อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์, รัชนี ศิระเลิศ, แอนดี้ เขมพิมุก, ปาร์คคุง ชาคริฐ, กำปั้น บาซู, ญาญ่าญิ๋ง, ชาย ชาตโยดม, ติ๊ก เจษฎาภรณ์, แอนดริว เกร้กสัน, เคน ธีรเดช, เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ และอีกมากมาย

          ซีรี่ส์ “เลือดมังกร” ตอน “เสือ” เป็นเรื่องราวของ ภรพ รับบทโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ทายาทคนโตเจ้าของสัมปทานเกาะรังนกใหญ่ ซึ่งดูเหมือนชีวิตของเขาดูจะเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง แต่แล้วใครจะรู้ว่าภรพนั้นอยู่ใกล้ผู้หญิงไม่ได้ เพราะดวงชะตาของเขาที่ซินแสได้ทำนายไว้ว่าดวงชะตาของภรพนั้นต้องมี “พระจันทร์มาอุ้มพยัคฆ์” ตลอดเวลา หากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนไหนก็จะพบกับหายนะ มีวิธีแก้วิธีเดียวคือ ภรพจะต้องหาหญิงสาวที่เกิดในวันพระจันทร์เต็มดวง และที่สำคัญต้องเป็นสาวพรหมจรรย์ สดๆ ซิงๆ เท่านั้นมาเสริมดวง แต่บุพเพอาละวาดชักนำให้เขาได้พบกับ วันวิสา รับบทโดย คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ สาวหน้าใสโลกสวยที่ผ่านเหตุการณ์ลอบสังหารบนเรือกลางทะเลมาติดอยู่บนเกาะร้างด้วยกัน ซึ่งการที่ ภรพ มี วันวิสา อยู่ข้างกายทำให้เขารอดพ้นอันตรายจากบุคคลปริศนาได้ทุกเมื่อ ความรักในใจของภรพยิ่งก่อตัวมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่เขาเองก็รู้ดีว่าความรักครั้งนี้ไม่อาจเป็นไปได้เมื่อสองครอบครัวเป็นคู่ปรับสำคัญทางธุรกิจส่งออกรังนก

          ความรักที่เหมือนจะลงเอยด้วยดีระหว่าง “ภรพ” และ “วันวิสา” กลับต้องแปรเปลี่ยนกลายเป็นรักในรอยแค้น ทั้งคู่จะฝ่าด่านอันหฤโหดของครอบครัวได้อย่างไร ติดตามชมได้ในซีรี่ส์ “เลือดมังกร” ตอน “เสือ” เร็วๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และทีวีดิจิตอลช่อง 3HD (ช่อง 33)

ละครเรื่องเสือ ออกอากาศตอนแรก อังคารที่ 10 มีนาคม หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3



          วันนี้ จะพาท่านผู้ชม ไปดูฉากเปิดตัวซีรีย์ละครเลือดมังกร ในตอนเสือ ซึ่งจะเปิดฉากให้ได้ชมกัน ในวันที่ 10 มีนาคม โดยจะเป็นเรื่องราวที่อนันดา (ภรพ) ได้พบกับนางเอกของเราครั้งแรก คิมเบอร์ลี่(วันวิสา) โดยทั้งสอง กำลังจะข้ามเรือไปที่เกาะรังนก อนันดา จะเข้าไปดูกิจการที่เกาะรังนกของตน ส่วนคิมเบอร์ลี่ ก็จะเอาสตางค์ ไปจ่ายค่าแรงบนเกาะรังนก ให้กับคนงานของตน ซึ่งเป็นคนละเกาะกัน แต่บังเอิญ ไม่มีเรือโดยสารผ่านมา ทำให้คิมเบอร์ลี่ กระโดดขึ้นเรือไปกับอนันดา เรียกว่า เป็นเคราะห์กรรมของทั้งคู่ที่ต้องไปเจอะเจอด้วยกัน ซึ่งจริง ๆ แล้ว คนร้าย วางแผนจะฆ่าอนันดา แต่บังเอิญ คิมเบอร์ลี่ อยู่ในเหตุการณ์ จึงโชคร้ายไปด้วย ถูกคนร้ายตามประกบยิง และระเบิดเรือ จนทั้งสอง ต้องว่างน้ำ เข้าไปในเกาะด้วยกัน ทั้งสองต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในการเอาตัวรอด หาอาหารเพื่อยังชีพ ทั้งหาปลา ไม่มีที่นอน พอฝนตก ก็ต้องใช้ใบตอง คลุมหัวเพื่อกันฝน ทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำให้ต้องทะเลาะกันไปตลอดทาง ต่างฝ่าย คิดว่าอีกฝ่ายเป็นตัวซวย ทำให้ต้องลำบาก ด้านอนันดา ก็บอกว่าตนเองชื่อจู๋ ส่วนคิมเบอร์ลี่ ก็บอกว่าตนเองชื่อจิ๋ม โดยทั้งคู่ไม่กล้าที่จะบอกความจริงว่าเป็นใคร เพราะไม่รู้ ว่าคนร้าย ตามฆ่าใครกันแน่

          เรียกว่าเป็นเรื่องของโชคชะตา นำพาให้ทั้งสองได้มาพบกัน ดังคำทำนาย ของพี่ออฟ พงษ์พัฒน์(ซินแสง้วง) ว่าจะมีพระจันทร์มาอุ้มพยัคฆ์ พระจันทร์ก็หมายถึงคิมเบอร์ลี่ ส่วนพยัคฆ์ก็คือ อนันดานั่นเอง เมื่อไหร่ที่อนันดา อยู่ให้กับนางเอก ก็จะทำให้แคล้วคลาด กับเรื่องเลวร้ายทั้งปวง

          ฉากนี้ไปเซ็ทถ่ายทำกันตั้งแต่ตอนที่ทั้งสองไป ขึ้นเรือด้วยกัน ที่ท่าเรือย่านสัตหีบ ส่วนชายหาดที่ท้ั้งสองจะต้องไปตกระกำลำบากด้วยกัน ก็คือที่ สัตหีบเช่นเดียวกัน สังเกตุให้ดี ชุดที่นางเอกใส่ในเรื่อง จะเป็นชุดเดียวกันตลอด เพราะไม่มีชุดเปลี่ยน ที่สำคัญ ต้องใส่ส้นสูง วิ่งหนีโจรกันต่างหาก แต่ก็ขอยกนิ้วให้คิมเบอร์ลี่ เพราะเจ้าตัว ไม่เคยบ่นเลยสักคำ ตั้งใจเล่นละครมาก ส่วนพระเอกของเรา อนันดานั้น ไม่ต้องพูดถึง ชอบอยู่ทะเลอยู่แล้ว ตอนที่เข้าฉากก็ตั้งใจเล่นเต็มที่ ผู้กำกับอย่างพี่ออฟ พงษ์พัฒน์ สั่งอะไร ทำให้ได้ทุกอย่าง แต่เมื่อไหร่ที่สั่งคัท หรือมีเวลาว่าง เจ้าตัวก็จะไปแหวกว่ายอยู่ในทะเล ไม่กลัวแดด ไม่กลัวผิวเสียใด ๆ ทั้งสิ้น อนันดา บอกว่าชอบทะเลมาก ซึ่งละครเรื่องนี้ก็เป็นครั้งแรก ที่ทั้งคู่มาเจอกัน แต่ขอบอกว่า ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว พูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา รับรองว่าคนดูจะต้องประทับใจไปกับความรักของคนคู่นี้แน่นอน ห้ามพลาด

สกู๊ปละครเรื่อง “เสือ”




 
           วันนี้จะพาท่านผู้ชมไปดูภาพเบื้องหลังละครเรื่องเสือ หลังจากที่พระเอกและนางเอก ต่างต้องตกระกำลำบากมาด้วยกัน แล้วทั้งคู่ก็รอดชีวิตกลับมาได้ แล้วก็ไม่มีโอกาสได้พบกันอีกเลย ทั้งที่ทั้งสองก็รักกันแล้ว มาวันนี้ ฝ่ายคุณตุ๊ก วิยะดา แม่ของอนันดา ก็พาอนันดามาหาคุณออฟ พงษ์พัฒน์ (ซินแสง้วง) เพื่อตรวจดวงชะตา เพราะอยากให้อนันดาแต่งงาน ฝ่ายคุณแพร รัชนี แม่ของคิมเบอร์ลี่(วันวิสา) ก็พาคิมเบอร์ลี่ มาหาซินแสง้วงด้วยกัน เรียกว่า ต่างคลาดกันนิดเดียว พอฝ่ายแม่ของอนันดาคุยเสร็จ ทั้งสองก็เข้าไปไหว้พระด้วยกัน แล้วบังเอิญ อนันดา ทำนาฬิกาตกไว้ พอดีกับที่คิมเบอร์ลี่ เข้ามาไหว้พระ แล้วพบนาฬิกาของอนันดาพอดี ทำให้เธอเก็บนาฬิกาไว้ อนันดา รีบเข้ามาตามหานาฬิกา ทำให้ทั้งคู่ได้เจอกัน เรียกว่าสองคนดีใจมาก ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันอีกครั้ง หลังจากนั้น อนันดา กับคิมเบอร์ลี่ กับนัดพบกันที่วัดของพี่ออฟ ดังคำทำนาย ว่าทั้งสอง ไม่มีวันที่จะแยกจากกันได้

          ฉากนี้ไปถ่ายทำกันที่วัดจีน ย่านอรุณอัมรินทร์ เป็นวัดที่เก่าแก่ และสวยงามมาก งานนี้ ผู้กำกับอย่างคุณออฟ พงษ์พัฒน์ ต้องทิ้งจอมอนิเตอร์ มารับบทเป็นซินแสอยู่ที่ศาลเจ้า กว่าจะแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ ทำเอาพี่ออฟ เบื่อกันไปเลย เพราะต้องใส่ชุดยาว ในบรรยากาศ ที่ร้อนอบอ้าว แถมต้องต้องติดหนวดเครา อันรุงรังอีกด้วย แต่ขอบอกว่า ถึงแม้จะต้องเข้าฉากไปด้วย แต่ก็สามารถ กำกับพระเอก และนางเอกไปได้อีกด้วย ฉากนี้เป็นฉากซึ้งของอนันดา และ คิมเบอร์ลี่ เพราะต่างต้องแสดงความรู้สึกว่า ทั้งคู่คิดถึงกันสุดหัวใจ ซึ่งทั้งสองก็ไม่ทำให้ให้ผู้กำกับอย่างพี่ออฟผิดหวัง สั่งอะไรมา ทั้งคู่ก็ตั้งอก ตั้งใจเล่นกันเป็นอย่างดี ถึงแม้ฝ่ายพระเอก อนันดา จะไม่แตกฉานเรื่องบทภาษาไทยนัก แต่พี่ออฟ ก็อธิบาย ซะละเอียดยิบ ทำให้อนันดา ถ่ายทอดอารมณ์มาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีนางเอกของเรา คิมเบอร์ลี่ เป็นตัวช่วยอีกคน ที่ทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เรียกว่าเป็นความรักที่มีจุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก และทั้งคู่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน จะสมหวังหรือไม่ ต้องติดตาม อย่าพลาดชม

ละครเรื่อง เสือ ออกอากาศ วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3









          วันนี้จะพาท่านผู้ชมไปดูภาพเบื้องหลังละครเรื่องเสือ หลังจากที่พระเอกและนางเอก ต่างต้องตกระกำลำบากมาด้วยกัน แล้วทั้งคู่ก็รอดชีวิตกลับมาได้ แล้วก็ไม่มีโอกาสได้พบกันอีกเลย ทั้งที่ทั้งสองก็รักกันแล้ว มาวันนี้ ฝ่ายคุณตุ๊ก วิยะดา แม่ของอนันดา ก็พาอนันดามาหาคุณออฟ พงษ์พัฒน์ (ซินแสง้วง) เพื่อตรวจดวงชะตา เพราะอยากให้อนันดาแต่งงาน ฝ่ายคุณแพร รัชนี แม่ของคิมเบอร์ลี่(วันวิสา) ก็พาคิมเบอร์ลี่ มาหาซินแสง้วงด้วยกัน เรียกว่า ต่างคลาดกันนิดเดียว พอฝ่ายแม่ของอนันดาคุยเสร็จ ทั้งสองก็เข้าไปไหว้พระด้วยกัน แล้วบังเอิญ อนันดา ทำนาฬิกาตกไว้ พอดีกับที่คิมเบอร์ลี่ เข้ามาไหว้พระ แล้วพบนาฬิกาของอนันดาพอดี ทำให้เธอเก็บนาฬิกาไว้ อนันดา รีบเข้ามาตามหานาฬิกา ทำให้ทั้งคู่ได้เจอกัน เรียกว่าสองคนดีใจมาก ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันอีกครั้ง หลังจากนั้น อนันดา กับคิมเบอร์ลี่ กับนัดพบกันที่วัดของพี่ออฟ ดังคำทำนาย ว่าทั้งสอง ไม่มีวันที่จะแยกจากกันได้

          ฉากนี้ไปถ่ายทำกันที่วัดจีน ย่านอรุณอัมรินทร์ เป็นวัดที่เก่าแก่ และสวยงามมาก งานนี้ ผู้กำกับอย่างคุณออฟ พงษ์พัฒน์ ต้องทิ้งจอมอนิเตอร์ มารับบทเป็นซินแสอยู่ที่ศาลเจ้า กว่าจะแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ ทำเอาพี่ออฟ เบื่อกันไปเลย เพราะต้องใส่ชุดยาว ในบรรยากาศ ที่ร้อนอบอ้าว แถมต้องต้องติดหนวดเครา อันรุงรังอีกด้วย แต่ขอบอกว่า ถึงแม้จะต้องเข้าฉากไปด้วย แต่ก็สามารถ กำกับพระเอก และนางเอกไปได้อีกด้วย ฉากนี้เป็นฉากซึ้งของอนันดา และ คิมเบอร์ลี่ เพราะต่างต้องแสดงความรู้สึกว่า ทั้งคู่คิดถึงกันสุดหัวใจ ซึ่งทั้งสองก็ไม่ทำให้ให้ผู้กำกับอย่างพี่ออฟผิดหวัง สั่งอะไรมา ทั้งคู่ก็ตั้งอก ตั้งใจเล่นกันเป็นอย่างดี ถึงแม้ฝ่ายพระเอก อนันดา จะไม่แตกฉานเรื่องบทภาษาไทยนัก แต่พี่ออฟ ก็อธิบาย ซะละเอียดยิบ ทำให้อนันดา ถ่ายทอดอารมณ์มาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีนางเอกของเรา คิมเบอร์ลี่ เป็นตัวช่วยอีกคน ที่ทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เรียกว่าเป็นความรักที่มีจุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก และทั้งคู่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน จะสมหวังหรือไม่ ต้องติดตาม อย่าพลาดชม

ละครเรื่อง เสือ ออกอากาศ วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3








 
          หลังจากที่อนันดา (ภรพ) ฝ่าฟันอุปสรรค จนรอดตายกลับมาจากเกาะรังนก พร้อมกับคิมเบอร์ลี่(วันวิสา) สองคนก็รู้ใจของตนเอง ว่าต่างรักกันมาก งานนี้ พระเอกของเรา จึงไม่ยอมให้เวลา ผ่านเลยไป จึงไปสู่ขอ คิมเบอร์ลี่ ถึงที่บ้าน และพบกับ ปู อนุวัฒน์(เถ้าแก่บันลือ) ผู้เป็นพ่อ และ รัชนี(มาลี) ผู้เป็นแม่ พร้อมด้วยพี่ชายของคิมที่บ้าน ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกทุกอย่างจะราบรื่นดี แต่เมื่อคุณปู อนุวัฒน์ รู้ว่า อนันดา เป็นลูกชายของ คุณบี๋ ธีรพงศ์(เถ้าแก่เซี้ย) ซึ่งเป็นศรัตรูตัวฉกาจด้านการค้าของตนเอง จึงไม่ต้อนรับอนันดา ไม่อยากร่วมวงศ์สกุลด้วย อนันดา จึงต้องกลับบ้านไปด้วยความผิดหวัง แต่ก่อนกลับ ด้วยความรัก ความคิดถึง อนันดา จึงไม่ลืม ที่จะหอมแก้ม เป็นการสั่งลา ซึ่งภาพเบื้องหลังจะเป็นเช่นไรนั้น ต้องติดตามชม ดูกันซึ่งฉากนี้ไปถ่ายทำกันที่บ้านของนางเอก ก็คือบ้านของคิมเบอร์ลี่ อยู่ที่ย่านตึกชัย ในกรุงเทพฯนี่เอง วันนี้เป็นการรวมทัพนักแสดง ฝ่ายบ้านของคิมเบอร์ลี่ กับอนันดา ซึ่งไม่บ่อยนัก ที่อนันดา จะได้มาที่บ้านของนางเอก เรียกว่า ต่อให้อากาศร้อนสักเพียงไหน นักแสดงทุกท่านก็ทำการแสดงอย่างเต็มที่ ตามที่ผู้กำกับ ออฟ พงษ์พัฒน์ สั่งได้ทุกประการ ที่สำคัญ ตอนที่ผู้กำกับ สั่งให้พระเอก อนันดา หอมแก้ม คิมเบอร์ลี่ ก่อนลาจากกัน ซึ่งตอนที่ซักซ้อม ก็นัดหมาย ว่าจะหอมแก้มกันแล้ว แต่พอถ่ายทำจริง อนันดา รอทีเผลอ จูบปากคิมเบอร์ลี่เข้าอย่างจัง ทำเอาคิม ถึงกับอึ้งกันไปเลย เพราะไม่ได้เตรียมกันไว้อย่างนี้ เรียกว่า มีเซอร์ไพร้ส์กันให้เห็นแบบเต็มๆ ฝ่ายพระเอกบอกว่า เล่นแบบนี้ ถึงจะดูสมจริง ในแบบที่คู่รักเขาทำกันหน่อย รับรองว่า ได้ชมภาพฉากนี้กันแบบเต็มอิ่ม แน่นอน ห้ามพลาด ซึ่งสุดท้ายเราก็ต้องมาลุ้นกันว่า ความรักของคนทั้งสอง จะลงเอยกันได้อย่างไร อย่าพลาดชม

“ปาร์คคุง” ภูมิใจเป็นหนึ่งในซีรีส์ “เลือดมังกร” ร่วมงาน “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” ได้เทคนิคเพียบ


 
          ละครกำลังดำเนินเรื่องราวไปอย่างสนุกสนานสำหรับซีรีส์ “เลือดมังกร” ตอน “เสือ” และอีกหนึ่งนักแสดงคนสำคัญในเรื่อง “ปาร์คคุง-ชาคริฐ จตุพรวัฒนพนธ์” ในบทบาทของ มงคล บอดี้การ์ดผู้ซื่อสัตย์ กับการร่วมงานกับผู้กำกับมือรางวัลอย่าง “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” ที่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการแสดงของหนุ่มปาร์คคุงจนเจ้าตัวประทับใจเอามากๆ

          “ผมเล่นในตอน เสือ ครับ เป็นบอดี้การ์ดของพระเอกที่ซื่อสัตย์มาก ยอมตายแทนเจ้านายได้ มาดก็จะสุขุม นิ่งๆ หน่อย ผมว่าละครเรื่องนี้ตัวละครแต่ละตัวจะชี้ให้เห็นเลยนะครับว่าเป็นยังไง อย่างตัวของ มงคล ก็จะให้เห็นในเรื่องของความซื่อสัตย์นี่หล่ะครับ เพราะมงคลจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์มากไม่ว่าจะเปลี่ยนนาย เปลี่ยนแก๊งค์ แต่เขาไม่เคยลืมบุญคุณว่าใครที่ชุบเลี้ยงเขามา และผลของความซื่อสัตย์ต่อผู้มีพระคุณก็จะได้สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตเสมอ ผมดีใจและตื่นตันมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ชุดนี้และที่สำคัญได้ร่วมงานกับพี่อ๊อฟด้วย ทำงานกับพี่เขาค่อนข้างง่ายครับ พี่อ๊อฟจะชอบเล่าเรื่องให้ฟังก่อนเข้าทุกฉาก ว่าในฉากนี้มันมีเรื่องราวเป็นมายังไง แล้วมีการแต่งเติมสีสันของทุกฉากให้สนุกขึ้น การแสดงออกทางสายตา ท่าทางต่างๆ จะบ่งบอกถึงบุคลิกคนแบบไหน ผมว่าผมได้มาจากพี่อ๊อฟครบสูตรเลยครับ แต่เรื่องบทสด นี่มีมาตลอดเลย ก็ดีนะครับท้าทายความสามารถเราดี เรียกว่าได้ว่าทำงานกับพี่อ๊อฟครบสูตรยุทธจักร (หัวเราะ) ยังไงผมก็หวังว่าคนดูจะได้รับ ข้อคิดดีๆ จากซีรีย์ชุดนี้ไม่ว่าจะความซื่อสัตย์ต่ออาชีพการงาน ความรัก ผมว่าถ้าเราชมเรื่องนี้ดีๆ นอกจากจะได้อรรถรสจากการชมละครแล้ว เรายังได้มุมมองในการดำเนินชีวิตได้อีกด้วย ขอฝาก ซีรีย์เรื่องนี้ด้วยนะครับ”

          ติดตามชมซีรีส์ “เลือดมังกร” ตอน “เสือ” ได้ทุกวันจันทร์ และ อังคาร เวลา 20.15-22.45 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และทีวีดิจิตอล ช่อง 3HD (ช่อง 33)

เบื้องหลังละครเรื่องเสือ ออกอากาศ วันอังคารที่ 24 มีนาคม หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3






 
          วันนี้จะพาท่านผู้ชมไปดูฉากรักหวาน ๆ ของพระเอก และนางเอกละครเรื่องเสือ หลังจากที่ทั้งคู่ไม่สบความสำเร็จ เรื่องที่ไปขออนุญาติแต่งงานกัน เพราะพ่อแม่ของทั้งคู่ไม่ถูกกัน สุดท้ายอนันดา(ภรพ) จึงตัดสินใจ ฉุดคิมเบอร์ลี่(วันวิสา) มาเสียเลย ฝ่ายคิมไม่เข้าใจ คิดว่าอนันดาไม่รักตนเองจริง ๆ จึงทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันอยู่ตลอดเวลา ฉากนี้เป็นฉากที่คิมเบอร์ลี่มาอาบน้ำที่น้ำตก ให้ชื่นฉ่ำใจ แต่อนันดา ก็ยังตามมาก่อกวน เดินตรงเข้ามาแล้วก็ถอดเสื้อซะตรงนั้น ให้คิมเบอร์ลี่ถูหลังให้ ฝ่ายคิม ไม่เต็มใจ แต่ถูกบังคับ เลยต้องจำยอม

          ฉากนี้ไปถ่ายทำกันที่น้ำตก ย่านจังหวัดสระบุรี เป็นน้ำตกแห่งเดียวที่มีอยู่ เพราะตอนที่ถ่ายทำเป็นหน้าแล้ว น้ำตกที่อื่น น้ำแห้งกันไปหมดแล้ว เหลือที่นี่ที่เดียว ที่ยังมีแอ่งน้ำตก ให้พอได้เก็บภาพสวย ๆ มาฝากกัน เรื่องลงน้ำ รับรองว่าทั้งคู่ไม่มีปฎิเสธแน่ เพราะด้วยอากาศที่ร้อนจัด ใคร ๆ ก็อยากลงไปแช่น้ำกันทั้งนั้น แต่งานนี้นางเอกของเราต้องนุ่งกระโจมอกนี่ซิ มันคอยจะหลุดอยู่เรื่อย เพราะต้องลงไปแช่น้ำอยู่นาน กระแสน้ำคอยแต่จะพัดผ้าถุงไป เลยต้องทั้งมัด ทั้งดึงกันให้แน่นอยู่ตลอดเวลา ทีมกล้อง ก็ต้องลงกันไปในน้ำด้วย กว่าจะได้ภาพมาฝากท่านผู้ชม ขอบอกว่า ลำบากลำบนกันไปด้วยทุกคน ฝ่ายที่จะดูเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศสุด ๆ หนีไม่พ้น อนันดา เพราะนอกจากได้แช่น้ำเย็น ๆ แล้วยังมีคนถูหลังให้อีกด้วย ขอบอกว่า เป็นพระเอกที่มีบุญสุด ๆ เพราะมีคิมเบอร์ลี่ เป็นสาวสวยคอยถูหลังให้กลางน้ำตก ซึ่งในซึ่งคิมจะต้องไม่เต็มใจถูกหลังให้ พออนันดา หันหน้าไปทางอื่น เธอก็จะแกล้ง แลบลิ้นให้บ้าง จะทุบหลังบ้าง สร้างความสนุกสนาน ในการถ่ายทำให้เป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ทั้งสองจะต้องแช่น้ำอยู่หลายชั่วโมง แต่ก็ไม่มีบ่นสักคำ เรียกว่าเป็นความรัก ที่ทั้งสอง ต้องต่อสู้ ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยกันอย่างมากมาย และสุดท้าย จะลงเอยกันได้อย่างไร ต้องติดตามชม

“คิมเบอร์ลี” เล่นจริง เจ็บจริง จัดเต็ม ใน “เลือดมังกร” ตอน “เสือ”







          หลังจากละครซีรีส์ “เลือดมังกร” ตอน “เสือ” ของค่ายแอคอาร์ต เจเนเรชั่น ออกอากาศ กระแสคู่กัดติดเกาะ นายจู๋ กับ เจ๊จิ๋ม ทำเอาบนโลกโซเชี่ยลฮือฮาไม่น้อย โดยเฉพาะนางเอกสาวหน้าสวย “คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ” ที่ครั้งนี้เรียกได้ว่าเอาใจแฟนๆ ไปเลย เพราะในละครเรื่องนี้เธอทั้งโก๊ะ ทั้งเปิ่น สมบุกสมบัน ไม่ห่วงสวยเลยซักนิด

          “เล่นละครเรื่องนี้สนุกมากๆ ค่ะ วันวิสา ช่วงแรกๆ จะเป็นแนวคอมเมดี้ ซุ่มซ่าม โก๊ะๆ เปิ่นๆ เป็นคาแรกเตอร์ของ คิม เอง (หัวเราะ) พอมาพาร์ทหลังๆ ก็จะฉีกมาฟิลโรมิโอแอนจูเลียต ความรักที่ถูกที่บ้านกีดกัน แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้สองครอบครัวเข้าใจผิด พระเอกก็จะฉุดเราไปเหมือนจำเลยรัก ทำนองนี้ คิมอยากให้ทุกคนดูจริงๆ ค่ะ เพราะเป็นเรื่องที่คิมคิดว่าตั้งแต่เล่นละครมา เรื่องนี้ลำบากสุด โหดสุด เหนื่อยสุด ทุกอย่างคือสุดจริงๆ (หัวเราะ) แต่ก็สนุกมากนะคะ เวลาไปกองนี่แฮปปี้มาก มีพี่อนันดาเป็นเพื่อนเล่นในกองเราก็สนิทกันค่อนข้างเร็ว สนิทกันเหมือนรู้จักกันมากนานทั้งๆ ที่ก็เพิ่งจะมารู้จักกันตอนเล่นละครเรื่องนี้แหละ พี่เค้าติงต๊อง พี่อ๊อฟก็เป็นคนตลก เวลาอยู่ในกองก็ลืมเหนื่อยไปเลยค่ะ ทั้งๆ ที่โคตรเหนื่อยเลย (ยิ้ม) แต่ก็ถือว่าเรื่องนี้คิมได้ทำอะไรโหดๆ เยอะเลย ปีนเขากับรองเท้าส้นสูง กลิ้งตกจากเขา วิ่งหลบระเบิด กระโดนลงน้ำกลางทะเลแบบไม่มีชูชีพ ที่พูดมาคิมเล่นเองหมดนะคะไม่มีสแตนอินเลย เล่นจริง เจ็บจริง ทุกอย่างจริงหมด (หัวเราะ) แต่ฉากที่กลัวที่สุดก็ตอนกระโดดลงน้ำ กว่าคิมจะกระโดดได้ทำใจนานมาก และมันก็ยากที่จะทำใจ (หัวเราะ) คิมเลยอยากให้ดูจริงๆ นะคะ คือมันอาจจะสั้นกว่าเรื่องอื่นๆ แต่รับรองว่าสนุกครบรสมากๆ ค่ะ”

          ทุ่มเทขนาดนี้ แฟนคลับสาว คิมเบอร์ลี และแฟนละครช่อง 3 พลาดไม่ได้ซะแล้ว สำหรับละครซีรีส์ เลือดมังกร ตอน เสือ ออกอากาศทุกวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.15-22.45 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และทีวีดิจิตอลช่อง 3HD (ช่อง 33)

“อนันดา” แฮปปี้ร่วมงาน “คิมเบอร์ลี” รับ…ยอมเล่น “เลือดมังกร” รักษาสัญญาใจลูกผู้ชาย







          สัญญาใจทำให้ผู้ชายคนนี้ตกลงรับงานละครอีกครั้งสำหรับพระเอกเจ้าเสน่ห์ “อนันดา เอเวอริ่งแฮม” ในบทบาทของทายาทนักธุรกิจรังนกเชื้อสายจีนในโปรเจคละครฉลองครบรอบ 45 ปี สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กับซีรีส์ชุด “เลือดมังกร” ในตอน “เสือ” ของค่ายแอคอาร์ต เจเนเรชั่น

          “ผมห่างหายละครไปนานครับ กลับมารับเล่นเรื่องนี้เพราะผมเองมีสัญญาใจไว้กับพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ พอเขาติดต่อมาให้ผมมารับบท ภรพ ในเรื่อง เสือ ผมก็รับเลย ซึ่งตัวละครตัวนี้มันหลงรักคนง่าย ภายนอกดูแข็งแรง แต่ข้างในเป็นคนอ่อนไหว โรแมนติกด้วย แต่ตัวนี้มันจะเอาความแค้นมาปนความรัก ดวงชะตาเขาจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ วันวิสา ซึ่งก็คือ คิมเบอร์ลี ถึงจะปลอดภัยจากอันตราย คือเวลาที่อยู่กับนางเอกนี่รอดตายทุกครั้ง แต่ด้วยพ่อแม่เราทะเลาะกันความรักก็เลยมีอุปสรรค ไม่ราบรื่น คือผมดีใจมากที่คู่ของผมเป็น คิม เขาค่อนข้างฟรีสไตล์ประมาณนึงนะ เป็นคนที่เล่นละคร ธรรมชาติ สบายๆ บางทีตัวผมเอง มีนอกบทบ้าง แต่คิมก็สามารถดึงผมให้กลับมาเล่นได้ ตรงนี้มันทำให้เราสบายใจมาก เวลารับ ส่ง อารมณ์ในการแสดงได้ดี ถ้าผมไปเจอคนอื่นที่เนี๊ยบในการแสดง ผมก็คงแย่เหมือนกันนะ โชคดีที่ได้เจอน้องเค้า แล้วคิมเค้าเป็นคนอารมณ์ดีตลอดเวลา เหมือนเด็กน่ารักๆ คนนึง ร่วมงานด้วยก็สนุกไปอีกแบบนะ สำหรับผมผมภูมิใจมากที่มีโอกาสได้มาเล่นละครในซีรีส์ ชุดนี้ของพี่อ๊อฟ เพราะเป็นอะไรที่เราได้ทำงานดีๆ กับคนที่เรารัก มีนักแสดงมากหน้าหลายตา ล้วนมีฝีมือกันด้วยทุกคนครับ ยังไงผมคงต้องฝากเด็กใหม่คนนี้ด้วย ขอฝากเข้ามาดูเด็กใหม่ชื่อ อนันดา ด้วย (หัวเราะ)”

          แฟนๆ สามารถติดตามผลงานละครเรื่องล่าสุดของหนุ่ม อนันดา เอเวอริ่งแฮม ได้ในละครซีรีส์ “เลือดมังกร” ตอน “เสือ” ทุกวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.15-22.45 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และทีวีดิจิตอล ช่อง 3HD (ช่อง 33)