เมืองไทยประกันชีวิตเปิดศูนย์บริการลูกค้าแห่งใหม่ “เชียงคาน” ย้ำยุทธศาสตร์เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมขานรับ AEC
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมเปิดศูนย์บริการลูกค้าแห่งใหม่สาขาเชียงคาน จังหวัดเลยอย่างเป็นทางการ โดยมีนายโสภณ สุวรรณรัตน์ นายอำเภอเชียงคาน ให้เกียรติร่วมด้วย ณ อ.เชียงคาน จ.เลย
นายสาระ เปิดเผยว่า จากยุทธศาสตร์การเติบโตโดยใช้หลากหลายช่องทางเพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ทำให้บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาทุกช่องทางให้มีศักยภาพบริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการบริการผ่านสาขาและศูนย์บริการลูกค้าที่ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางบริการที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมาก
ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดศูนย์บริการลูกค้า สาขาเชียงคาน จังหวัดเลย จุดยุทธศาสตร์สำหรับการเติบโตสู่อนาคต ทั้งในด้านรองรับการขยายธุรกิจ และให้บริการลูกค้า โดยมุ่งเน้นความครอบคลุมแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง
นายสาระ กล่าวอีกว่า การเลือกเปิดศูนย์บริการลูกค้า สาขาเชียงคานนั้น ถือว่าสอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายสาขาของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจเข้ามาในเขตพื้นที่ชายแดนในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้สอดรับกับการเปิดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community-AEC) ที่จะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2558 ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพการค้าและบริการให้ขยายตัวขึ้น ทั้งในแง่การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงการค้าในเขตชายแดนด้วย
ภายใต้กลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่พื้นที่การค้าชายแดนนั้น ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทยอยเปิดศูนย์บริการลูกค้า สาขาต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในเดือนมกราคม 2558 ที่เพิ่งเปิดสาขาเชียงของ จังหวัดเชียงราย ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีศูนย์บริการลูกค้าทั้งสิ้น 154 แห่ง
“เรามองว่า AEC ถือเป็นโอกาสสำหรับเมืองไทยประกันชีวิต ในแง่การออกไปทำธุรกิจในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตภายใต้กฎหมายของประเทศนั้นๆขณะเดียวกันเรายังมองว่า การเปิด AEC จะทำให้การค้าและบริการในพื้นที่ชายแดนขยายตัวขึ้น เศรษฐกิจเติบโต ประชาชนมีกำลังซื้อและมีความต้องการประกันชีวิตเพิ่มตามมาด้วย ฉะนั้น เราจึงกำหนดกลยุทธ์ต่างๆ ให้เข้ามารับกับโอกาสตรงนี้ โดยมองทั้งการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเติบโต รวมถึงให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้นด้วย”
นอกจากการเปิดศูนย์บริการลูกค้าในพื้นที่ชายแดนดังกล่าวแล้ว นายสาระกล่าวว่า ด้วยกลยุทธ์ของ บริษัทฯ ที่ต้องการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมาย บริษัทฯ ได้กำหนดทำเลที่ตั้งสาขาให้สอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้า ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์และโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถบริการของสาขา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เช่น บริการชำระเบี้ยประกัน บริการรับเงินสินไหมทดแทน และบริการกู้ยืมตามกรมธรรม์ที่สามารถรอรับได้ ณ ศูนย์บริการลูกค้า (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)
“เราให้ความสำคัญกับบริการอย่างมากในทุกมิติ ไม่ใช่มองว่าเป็นเพียงขั้นตอนที่เข้ามารองรับหลังการขายเท่านั้น แต่ต้องการทำให้ความสะดวกสบายในไลฟ์สไตล์ของลูกค้านั้นกลายเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้จริง ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และสอดคล้องไปกับยุทธศาสตร์การเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งสามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ได้อย่างชัดเจน” นายสาระกล่าว