KTAMขายตราสารหนี้6เดือนชูยิลด์2.55%ต่อปี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 11 (KTFFE11) เสนอขายในวันที่ 28 มกราคม -3 กุมภาพันธ์ 2558 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารทั้งในและต่างประเทศ ประเภท เงินฝากประจำ Akbank T.A.S , เงินฝาก Bank of China , MTN ออกโดย Banco BTG Pactual S.A. และ MTN ออกโดย IS Bank ในสัดส่วน 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ระยะสั้น ธนาคารทิสโก้ ผลตอบแทนประมาณ 2.55% ต่อปี
ทั้งนี้ ตราสารต่างประเทศที่ลงทุน Bank of China มีสถานะเป็นธนาคารภาครัฐถือหุ้นใหญ่ โดยหน่วยงานเพื่อการลงทุน ของรัฐบาลจีน 67.55% มีบทบาทในการสนองนโยบายภาครัฐ มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ4 ของธนาคารในจีน , AKBANK เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ3 ของธนาคารเอกชนในประเทศตุรกี และมีส่วนแบ่งการตลาดในลูกค้าหลายๆกลุ่มเป็นอันดับต้นๆของประเทศ , Banco BTG Pactual S.A. เป็นสถาบันการเงินในบราซิลที่ดำเนินธุรกิจด้าน Wholesale and Investment banking เช่น Corporate Lending , Investment Banking , Asset Management , Wealth Management เป็นธนาคารที่มีฐานธุรกิจที่เข้มแข็งทั้งในและต่างประเทศ โครงสร้างรายได้กระจายตัวค่อนข้างดี มีฐานเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง สูงกว่า 17% และ Turkiye IS Bankasi A.S. เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ1 ของธนาคารเอกชนในตุรกี ดำเนินธุรกิจการเงินครบวงจร
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือน คุ้มครองเงินต้น 5 ( KTFIX6M5 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มกราคม 2558 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทพันธบัตรภาครัฐ ในสัดส่วน 57% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ธนาคารออมสิน ธนาคารทิสโก้ และธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ผลตอบแทนประมาณ 1.95% ต่อปี
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนในประเทศก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 10 ปี และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยรุ่นอายุ 3 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจากธนาคารกลางยุโรปมีมติทำ QE ในปริมาณที่มากกว่าตลาดคาดการณ์ ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 2 ปี อยู่ที่ 2.02% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี อยู่ที่ 2.24% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ 2.57% ต่อปี