บทสัมภาษณ์ ‘ นูมิ ราเพซ ‘ จาก Child 44 อำมหิตซ่อนโลก
“ นูมิ ราเพซ ” นักแสดงสาวสัญชาติสวีเดน ผู้ซึ่งโด่งดัง และได้รับคำชื่นชมมากมายจากการรับบทนำใน ‘The Girl with the Dragon Tattoo’ หนึ่งในไตรภาคชุด ‘มิลเลเนียม’ ของภาพยนตร์แนวสืบสวน – อาชญากรรมจากประเทศสวีเดน
จากนั้นเธอจึงเริ่มก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด ด้วยการร่วมแสดงกับโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ และ จู้ด ลอว์ในภาพยนตร์เรื่อง Sherlock Holmes: A Game of Shadows ตามมาด้วยผลงานภาพยนตร์ลึกลับ - ไซไฟโดยผู้กำกับริดลีย์ สก็อตต์อย่าง Prometheus และล่าสุดเธอได้กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับคุณภาพเยี่ยมมากฝีมืออย่าง ริดลีย์ สก็อตต์ อีกครั้งใน “ Child 44 ” ภาพยนตร์ทริลเลอร์สุดเข้มข้น โดยมีพื้นฐานมาจากเหตุการณ์จริงที่สั่นสะเทือนไปทั้งประวัติศาสตร์โลกของชายผู้มีฉายาว่า “นักเชือดแห่งรัสตอฟ” ซึ่งก่อคดีฆาตกรรมเด็ก และหญิงสาวไปมากกว่า 50 ชีวิต !
ตอนนี้คุณผมบลอนด์แล้ว ?
ใช่ค่ะ ใน Child 44 ฉันเล่นเป็นคนรัสเซีย ฉันจึงต้องย้อมสีผม ฟอกสีคิ้ว และใส่คอนแทคเลนส์สีอมเขียวเล็กน้อยเพื่อให้ดูเป็นคนรัสเซียมากที่สุดค่ะ
เล่าให้ฟังเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ “ Child 44 ” ภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดของคุณหน่อยได้ไหม
Child 44 เป็นภาพยนตร์ทริลเลอร์ – สืบสวนสอบสวน ฉันรับบทเป็น ‘เรซา เดมิดอฟ’ ซึ่งเป็นภรรยาของ ลีโอ เดมิดอฟ ที่รับบทโดย ทอม ฮาร์ดี้ ภายในภาพยนตร์ตัวละครของเราทั้งคู่ได้พบ และทำความรู้จักกัน จากนั้นจึงตกหลุมรักกันในที่สุดค่ะ
คุณห่างหายจากการแสดงภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนมาสักพักหนึ่งแล้ว การได้กลับมาแสดงในภาพยนตร์แนวนี้อีกครั้งมีความท้าทายมากน้อยอย่างไร ?
ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้แสดงในภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนแบบจริงจังมาพักหนึ่งแล้ว ล่าสุดก็ตอนในภาพยนตร์ชุด ‘The Girl with the Dragon Tattoo’ เมื่อปี 2009 โน่นเลย การห่างจากภาพยนตร์แนวนี้ไปถึง 5 ปีแล้วต้องกลับมาแสดงอีกครั้งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมากค่ะ เพราะว่าการแสดงในภาพยนตร์แนวนี้คุณจะใช้แค่พลังร่างกายอย่างเดียวไม่ได้ แต่คุณต้องใช้อารมณ์ไปกับมันด้วย สำหรับใน Child 44 มันเต็มไปด้วยเรื่องราวของการสืบสวนสอบสวนสุดเข้มข้น ในหลายๆ ฉากฉันต้องวางจังหวะอารมณ์ทั้งทางสีหน้า แววตา และคำพูดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับเหตุการณ์ในฉากนั้นๆ มันค่อนข้างยากเลยทีเดียว แต่ฉันก็เต็มที่กับมันค่ะ
นี่เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 2 แล้วที่คุณได้มีโอกาสร่วมงานกับทอม ฮาร์ดี้ การทำงานกับเขาเป็นอย่างไรบ้าง ?
ฉันรักการทำงานร่วมกันกับเขาค่ะ พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดี บางครั้งคุณพบใครบางคน และคุณรู้สึกว่าคุณสามารถไปได้ทุกที่ ก้าวเข้าสู่บทบาทตัวละครที่แตกต่างกันได้โดยไม่เคร่งเครียดมาก ... คนๆ นั้นก็คือทอม ฮาร์ดี้นี่ล่ะค่ะ พวกเรามีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และความไว้วางใจซึ่งกันและกันมาก ข้อดีของการมีคนที่เราสนิทสนมมาร่วมแสดงด้วยกันในภาพยนตร์คือคุณพร้อมที่จะเสี่ยงทุกอย่าง เพราะเพื่อนจะคอยหนุนหลังของคุณไว้ให้ ซึ่งมันทำให้คุณกล้าที่จะแสดงในรูปแบบต่างๆ ออกไปโดยแทบไม่ต้องคอยกังวลว่าเพื่อนของคุณจะรับได้ หรือรับไม่ได้กับการแสดงในเทคๆ หนึ่ง ... ทอม ฮาร์ดี้ เป็นนักแสดงที่น่าทึ่งมาก และฉันก็รู้สึกโชคดีเสมอที่ได้ร่วมงานกับเขาค่ะ
แล้วกับทีมงานคนอื่นๆ ในภาพยนตร์ล่ะ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
ฉันได้ร่วมงานกับ แกรี่ โอลด์แมน เขาเป็นฮีโร่ในดวงใจของฉันเลย , ริดลีย์ สก็อตต์ ผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งฉันก็เคยร่วมงานกับเขามาแล้วเช่นกัน เขาเป็นคนเก่งรอบด้าน มีไอเดียต่างๆ ที่ดีต่อภาพยนตร์มาก และแดเนียล เอสพิโนซ่า ผู้กำกับชาวชิลีที่เติบโตมาในสวีเดน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฉัน พวกเราเข้ากันได้ดีมาก ... ถึงแม้การถ่ายทำจะใช้เวลานาน เพราะนี่คือภาพยนตร์ระดับฟอร์มยักษ์ มีงานสร้างใหญ่โต แต่พวกเราก็สนุก มีช่วงเวลาดีๆ และเต็มที่ไปด้วยกันมากค่ะ
คุณเตรียมตัวมารับบทเป็น ‘เรซา เดมิดอฟ’ ด้วยวิธีการใดบ้าง ?
ฉันต้องเตรียมตัวเยอะเลยทีเดียวค่ะ เริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงก่อนว่าเป็นมาอย่างไร มีจุดไหนสำคัญที่น่าหยิบมาเป็นไฮไลท์ รวมไปถึงพยายามทำความเข้าใจกับบทภาพยนตร์ให้มากที่สุด เพราะบทบาทของฉันในเรื่องนี้ค่อนข้างมีความซับซ้อนในแง่ของความสัมพันธ์ตัวละคร ถัดมาก็ต้องฝึกหัดพูดให้เป็นสำเนียงแบบคนรัสเซีย โดยฉันลองดูนั่งภาพยนตร์รัสเซียหลายเรื่องแล้วฝึกพูดตาม จากนั้นจึงลองขอความช่วยเหลือจากเพื่อนชาวรัสเซียคนหนึ่งของฉันให้มาช่วยตรวจทานดูว่าประโยคนี้ควรจะเน้นโทนเสียงแบบนี้ หรือเน้นคำไหนบ้างโดยเฉพาะ ซึ่งการต้องพูดเป็นสำเนียงแบบรัสเซียนี่ถือว่ายากมาก แต่เต็มไปด้วยความท้าทายดี ซึ่งสุดท้ายแล้วฉันก็ทำสำเร็จค่ะ (หัวเราะ)