happy on January 04, 2015, 04:54:30 PM
ปราชญ์ชาวบ้าน แนะทำน้ำหมักชีวภาพแทนการใช้สารเคมี เรียนรู้ได้ที่
“ศูนย์การเรียนรู้ปุ๋ยหมักชีวภาพ บ้านแกหัวแฮดส้มโฮง”จ.กาฬสินธุ์

                โครงการแคมป์สนุกคิดกับอินทัช “เยาวชนพอดี โรงเรียนพอเพียง"ประจำปี 2557 ยังคงติดตามความคืบหน้าและพัฒนาการ “ศูนย์การเรียนรู้ปุ๋ยหมักชีวภาพ บ้านแกหัวแฮดส้มโฮง จ.กาฬสินธุ์” เพื่อพัฒนาและต่อยอดโครงการอย่างต่อเนื่อง  ด้วยการอบรมให้ความรู้การทำปุ๋ยหมักชีวภาพเพิ่มเติม โดยมีชาวบ้านโดยรอบศูนย์การเรียนรู้ฯ สนใจเข้าร่วมเรียนรู้จำนวน 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1และ12 หมู่บ้านแก หมู่ที่ 10 หมู่บ้านหัวแฮด และหมู่ที่ 11 หมู่บ้านส้มโฮง โดยมีปราชญ์ชาวบ้านมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับสูตรน้ำหมักตามสรรพคุณของวัตถุดิบพื้นบ้าน อาทิ การนำหอยเชอรี่มาเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำหมักชีวภาพบำรุงไร่นา ไร่สวน ทำดินปลูกชีวภาพ และทำ EM BALL เป็นการลดการใช้สารเคมีในการทำการเกษตรของชุมชน


                นายเฉลิมศักดิ์ ถนอมสิทธิ์ ปราชญ์ชาวบ้าน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า “ปัจจุบันการทำเกษตร มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องหาวิธีลดค่าใช้จ่าย รวมถึงเรื่องผลกระทบที่เกิดกับชาวบ้านในการนำสารเคมีมาใช้กับการทำไร่ ทำนา ทำสวนจนเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้น ทำให้ชาวบ้านต้องหาทางเลือกใหม่ เมื่อมีโอกาสได้เรียนรู้กับ“ศูนย์การเรียนรู้ปุ๋ยหมักชีวภาพ บ้านแกหัวแฮดส้มโฮง” ที่ แคมป์สนุกคิดกับอินทัช จัดสร้างให้เมื่อ 2556 ปัจจุบันมีชาวบ้านสนใจเข้ามาเรียนรู้ และนำไปทดลองใช้จนเห็นผลด้วยตัวเอง สามารถลดค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนในการทำไร่ ทำนา ทำให้เกิดการยอมรับและเริ่มใช้กันมากขึ้น เช่น การนำหอยเชอรี่มาทำน้ำหมักชีวภาพหรือ น้ำหมักหอยเชอรี่ แทนการใช้สารเคมีในการทำการเกษตร มีวิธีการทำ โดยนำ หอยเชอรี่ 1 กิโลกรัม กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม สับปะรด 1 กิโลกรัม สับให้ละเอียดนำมาผสมกับน้ำเปล่า 5 ลิตร หมักไว้ประมาณ 21 วัน แต่ต้องกวนหรือคนทุกๆ 7 วัน เพื่อให้เกิดการระบายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  จากนั้นจึงนำออกมาใช้ในอัตราส่วน : 1 ช้อน ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุกๆ 7 วัน หรือราดลงดินช่วยให้พืชเจริญเติบโตเร็ว หรือสูตรเข้มข้น 1:1 พ่นตอซังข้าวแล้วไถกลบ และนำน้ำหมักมาสาดในนาข้าวในช่วงที่ทำเทือกนา เป็นปุ๋ยบำรุงดิน และต้นข้าว โดยไม่ต้องพึ่งปุ๋ยเคมีเป็นการลดต้นทุนได้อีกทาง

                หรือ การทำน้ำหมักรสขม โดยนำ ฟ้าทะลายโจร ใบสะเดา บอระเพ็ด ใบขี้เหล็ก หญ้าใต้ใบ เสลดพังพอน และพืชสมุนไพรที่มีรสขม นำมารวมกันสับละเอียดประมาณ 3 กิโลกรัม กากน้ำตาล 1  ลิตร และน้ำเปล่า 10 กิโลกรัม จากนั้น นำน้ำเปล่ากับกากน้ำตาล มาเทรวมกันในถังพลาสติกคนให้เข้ากันจนกากน้ำตาลเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำ จึงเทส่วมผสมที่มีรสขมสับละเอียดทั้ง 3 กิโลกรัมลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วปิดฝาเก็บไว้ในที่ร่ม ประมาณ 3 เดือน ถึงนำมาใช้เป็นประโยชน์ต่อการปลูกพืชผักผลไม้ การทำไร่ ทำนา ในอัตราส่วนน้ำหมักรสขม 1 ลิตร ผสมกับน้ำเปล่า 20 ลิตร ฉีดพ่นในพืชผักทั่วไปทุกวัน 3 วัน หากเป็นไม้ผลให้ฉีดทุก  7 วัน  พืชผักเจริญงอกงามดี เมื่อนำไปใช้แล้วยังช่วยเรื่องความมั่นใจของอาหารปลอดภัยไม่มีสารตกค้างในพืชผักเหมือนการใช้สารเคมี สามารถลดต้นทุนการผลิตได้มาก ซึ่งเป็นการนำวัตถุดิบในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการนำองค์ความรู้ของคนโบราณมาใช้ร่วมกับคำแนะนำดีๆที่ทางอินทัชเข้ามาให้ความรู้เพิ่มเติม จนกลายเป็นองค์ความรู้ชุดใหม่ให้ชาวบ้านได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าในวงกว้างต่อไป

อินทัช เชื่อมต่อโอกาส สร้างรากฐานที่แข็งแรง เพื่ออนาคตของสังคมไทย

สำนักประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
www.intouchcompany.com