happy on December 29, 2014, 05:09:37 PM
ส่องผลงานครีเอทีฟ คนรุ่นใหม่ แชมป์หนังสั้นโฆษณา
อยากชนะ ต้องตั้งใจฝึกซ้อม!!!


ทีมผู้กับกับและคณะกรรมการ

               เรื่องราวของโค้ชชาวญี่ปุ่น กับนักมวยไทยที่มีพรสวรรค์และความสามารถ แต่ไม่ได้ทุ่มเทกับอาชีพอย่างเต็มที่ ตรงกันข้าม คนเป็นโค้ชพยายามทุกด้านที่จะเทรนด์ให้นักมวยไปถึงฝั่งฝัน แม้ระหว่างทางจะมีอุปสรรค ภายนอกคุยกันคนละภาษา และอุปสรรคภายในคือความตั้งใจของนักมวยเอง ซึ่งไม่สนใจที่จะฝึกซ้อม แล้ววันหนึ่งก็มาถึงทางตัน วันที่โค้ชตัดสินใจแขวนนวมตัวเอง ไม่ฝึกสอนอีกต่อไป กลายเป็นวันที่นักมวยคิดได้ และหันกลับมาซื่อสัตย์กับสิ่งที่ฝัน เมื่ออยากเป็นแชมป์ก็ต้องตั้งใจฝึกซ้อม!! หนังสามารถสื่อสาร บอกเล่าเรื่องราว ประเด็นอย่างชัดเจน ขณะเดียวก็สามารถสอดแทรกอารมณ์ขันและเรื่องดราม่าได้อย่างครบรส  เล่าและลากแต่ละเส้นได้ไปถึงจุดพีค”

               คำตัดสินของคณะกรรมการ ประกอบด้วยผู้กำกับและผู้ทรงคุณวุฒิ นำโดย คุณกานต์ - ศิวโรจณ์ คงสกุล, คุณปิง-ม.ร.ว.อัมพรพล ยุคล,คุณปอม-ราสิเกติ์ สุขกาล , คุณตุลย์ หิรัญญลาวัลย์, คุณคงเดช จาตุรันต์รัศมี และ คุณวรัญชัย รักษาเกียรติ Head of Creative Branding บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ตัดสินให้ผลงานเรื่อง  Champion ของคนรุ่นใหม่ไฟแรงจากทีม A.Planet  คว้ารางวัลชนะเลิศไป รวมถึงสองสาขา ได้แก่ สาขาหนังสั้นโฆษณา  และสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม  ภายในงาน ประกาศผลงานประกวดหนังสั้นโฆษณา ภายใต้แนวคิด “คนไทย…ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก” โดย  แสงโสม และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด












               หลังประกาศผล กตัณณ์ ธรรมวิจิตเดช ตัวแทนจากทีม A.Planet  กล่าวว่า “ แนวคิดของหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้ เกิดจากการระดมความคิดของทีมทั้งหมด 4 คน คิดตามโจทย์ว่าอะไรที่คนไทยทำแล้วไม่แพ้ชาติใดในโลกบ้าง ก็ได้คำตอบว่าน่าจะเป็นเรื่องมวย เพราะมวยไทยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งเป็นกีฬาที่เป็นความหวังเหรียญทองทุกครั้ง ทั้งโอลิมปิก เอเชี่ยนเกมส์ ซีเกมส์ แต่ได้แทนเรื่องราวผ่านความขัดแย้งและอุปสรรคในตอนแรกก่อน ผ่านตัวละครโค้ชชาวญี่ปุ่นที่ต้องมาสอนนักมวยชาวไทย สาเหตุที่เป็นชาวญี่ปุ่น เพราะเป็นตัวแทนของความมุ่งมั่น ตั้งใจ มีวินัย รับผิดชอบ ทำอะไรก็จะทำเต็มที่ ซึ่งมันมีความต่างกับคนไทยที่จะชอบความสบายๆ ความขัดแย้งและไม่ลงรอยจะเกิดขึ้นตั้งแต่วินาทีแรก มาถึงการทำงานร่วมกัน อุปสรรคก็มีทั้งภายนอก เช่น เรื่องภาษา วัฒนธรรม และภายในที่เป็นนิสัยของตัวนักมวยเอง เรื่องดำเนินมาจนถึงวันหนึ่ง โค้ชถอดใจ จากความเคยชิน ที่ต้องมาคนมาจ้ำจี้จ้ำชัย กลายเป็นความว่างเปล่า ไม่มีใครมาสนใจ และตัวละครได้เรียนรู้ว่า ที่โค้ชเหนื่อยและทุ่มเทก็ไม่ใช่เพราะใคร เพราะเห็นแววในศักยภาพของตัวเขาเอง ว่าถ้ามุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อม เขาสามารถไปถึงฝั่งฝันของอาชีพ นั่นคือแชมป์ เขาถึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยเริ่มจากตั้งใจและฝึกซ้อม” ด้านอีกหนึ่งเพื่อนร่วมทีม A.Planet  ธีร์ บุญเกรียงไกร เสริมว่า “ทีแรกก็กลัวเหมือนกันว่าหนังเราจะเครียดไปมั๊ย จะไปเหยียดหยามหรือดูถูกคนไทยด้วยกันเองหรือเปล่า แต่ก็ต้องตัดตรงนั้นทิ้งไป เพราะเจตนา เราต้องการสื่อความหมายออกมาในเมสเสจที่ให้กำลังใจ ซึ่งมันก็ไม่ได้เกินเลย คนญี่ปุ่นมีความตั้งใจ แต่คนไทยยังมีความสบาย แต่ประเด็นคือ ถ้าเรามีความตั้งใจ ทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก มิติอีกด้านหนึ่งของหนังบอกว่า วันนี้คุณตั้งใจทำอะไรหรือยัง สิ่งที่คุณรัก หรือคุณมีพรสวรรค์ หามันเจอ หรือยัง เจอแล้ววางเฉยเอาไว้ ก็ไม่สำเร็จนะ คีย์ของมันคือต้องตั้งใจ ทุ่มเท กับสิ่งนั้นก่อน”




               สุธารักษ์ พวงพันธ์ นักศึกษาจากคณะวิทยาการสารสนเทศ สาขานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ทีม Sunday is only someday เจ้าของผลงาน  E-sarn Drum Line  ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ สาขา กำกับภาพยอดเยี่ยม ให้สัมภาษณ์ว่า “หนังเป็นเรียลลิตี้ ตามติดเด็กวัยรุ่นชาวอีสานกลุ่มหนึ่ง ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักดนตรีและมีหัวใจที่รักในการตีกลอง พวกเขาจึงร่วมกันก่อตั้งวงดรัมไลน์ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “E-Sarn Drumline” เพื่อทำให้ฝัน เป็นจริง พวกเขาเริ่มฝึกซ้อมกันอย่างหนักเพื่อที่จะไปแสดงฝีมือบนเวทีโลก  แต่จะทำอย่างไร ให้ทีมของพวกเขาแตกต่าง? และน่าสนใจ ด้วยคำถามนี้จึงทำให้ได้คำ ตอบว่า “เราไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนใคร เราแค่เป็นตัวเรา แค่นั้นเอง” พวกเขาจึงนำเสนอการ ประชันการตีกลองที่ใช้เครื่องดนตรีฝั่งตะวันตกผสมผสานกับเครื่องดนตรีพื้นบ้านเข้าด้วยกัน โดยได้สอดแทรกศิลปวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของชาวอีสาน ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ตกแต่งกลองที่ทำจากไม้ไผ่สานคล้ายกระติ๊บข้าวเหนียว เพิ่มเอกลักษณ์ความโดดเด่น บ่งบอกความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน! ด้วยทำนองและลีลาในแบบอีสานที่เน้นความสนุกสนาน หยอกล้อกับคู่แข่งฝ่ายตรงข้าม แสดงให้เห็นความเข้มแข็งและความพร้อมเพียงของสมาชิกในวง และศิลปวัฒนธรรมที่ สวยงามของไทย ทำให้สามารถคว้าแชมป์โลก จากการแข่งขัน Street Drumline Battle ใน งาน DCI World Championships 2013 ได้สำเร็จ!!” นอกจากนั้นเจ้าตัวยังเผยความรู้สึกว่า  “กิจกรรมนี้ ให้อะไรมากกว่าที่คิด เพราะโจทย์ของการประกวด ท้าทายให้ผมตั้งใจ ทำสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ คือผมทำผลงานเรื่องนี้คนเดียว ไม่ได้ทำเป็นทีมเหมือนที่ผ่านมา วินาทีที่ได้ยินเสียงประกาศ ดีใจมาก คุ้มค่ากับที่ตั้งใจ”

               ส่วนตัวแทนจากทีม C5532  เรื่อง โคตรไทย ทีมชนะเลิศ สาขาบทสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม  เผยว่า “หนังเล่าเรื่องถึงคนไทย 4 คนที่อยากจะทำหนังสั้นสักเรื่องหนึ่งเพื่อ ส่งประกวด จึงได้มารวมตัวเพื่อประชุมและถกเถียงกันถึงความคิด เห็นต่างๆ โดยทั้ง 4 คนจะมีบุคลิกของคนไทย 4 แบบอยู่ ในตัวเอง โดยทางเราได้สอดแทรกบุคลิก การแต่งกาย รวมไปถึง ประโยคการพูดที่แสดงให้ เห็นถึงบุคลิกที่กล่าวมาข้างต้น คนแรก นนท์ จะเป็นคนไทยในลักษณะที่เป็นผู้นำ ลุยๆ มี พลังล้นเหลือ ในการทำสิ่งต่างๆ อยากทำโน่นอยากทำนี่ ทว่าขาดไอเดียที่เป็นความ คิดสร้างสรรค์ ใหม่ๆ ไม่ออกจากกรอบเดิมๆ ยังต้องการตัวช่วยที่เป็นคน สนับสนุน เน้นลงมือกระทำตามสิ่งที่สังคม หรือคนอื่นคาดหวังให้ตนทำ คนที่สองมิ้นท์ เป็นคนไทยในแบบที่ไม่ ภูมิใจในประเทศของตนเอง มักจ้องจับผิดและหาข้อเสียต่างๆ รวมไปถึง แสดงความเห็นที่ขัดแย้งใน ด้านที่ไม่ดีของประเทศตนเองมานำเสนอ มัก จะคิดแต่อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ จนไม่ได้ลงมือทำสักที คนที่สามโฟล์ค เป็นคนไทยประเภทที่คอยแต่จะเป็นผู้ตามอย่างเดียว โลเล ไม่มั่นใจในตัว เอง หัวอ่อน ชอบตามกระแส ใครพูดอะไรก็จะเออออ ห่อหมกตามเขาไป แต่กลับไม่ช่วยคิดหาหนทาง ออกให้กับปัญหาที่เกิด ขึ้น และคนสุดท้ายแม็กซ์ เป็นคนไทยประเภทที่มีไอเดีย มี ความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ แต่จะมีความเผด็จการอยู่ในตัว! แต่สุดท้ายหนังจะขมวดปมว่า ความสำเร็จยังไงก็ยังคงเป็นความฝัน ถ้ายังไม่เริ่มต้นลงมือทำอย่างตั้งใจ พร้อมมีไอดอลนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จจากความตั้งใจฝึกซ้อมทุกวัน มาเป็นตัวอย่างให้ผู้ชมเข้าถึงง่ายๆ ด้วย”

               ด้าน ทีม ซุกซน โปรดักชั่น  นักศึกษาจากสถาบันราชภัฏสวนดุสิต ผู้ชนะเลิศ สาขา Popular  vote จากหนังสั้นโฆษณาเรื่อง “ Smile ” เผยว่า “แนวคิดของเรื่อง เป็นความตั้งใจที่จะสื่อสาร ผ่านรอยยิ้ม แค่ยิ้มทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่าย โดยเล่าผ่านตัวละครสองพี่น้องคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ในบ้านที่มีฐานะค่อนข้างยากจน ต้องใช้ชีวิตกันอย่างขัดสน จนวันหนึ่ง น้องชายอยากได้จักรยาน แต่ด้วยความที่บ้านจนจึงไม่มีเงินซื้อจักรยาน พี่สาวจึงพยายามจะหาหนทาง ในการเอาจักรยานมาให้น้องให้ได้ โดยวิธีการต่างๆ เท่าที่เธอจะทำได้ และสุดท้ายน้องเธอก็ได้จักรยานจริงๆ ไม่ใช่จากน้ำพัก น้ำแรง แต่มาจากความตั้งใจ นำวัสดุแต่ละชิ้นมาปรับแต่งเป็นพาหนะ ไม่ได้สวยหรู แต่คุณค่าทางใจนั้นยิ่งใหญ่เกินบรรยาย ” ท้ายสุด รางวัล Surprise Awards ได้แก่ ทีม Dog Film จากหนังสั้นโฆษณาเรื่อง “ คนไทย ” เผยว่า “ต้องการนำเสนอความสามรถด้านต่างๆของคนไทยอย่างหลากหลาย โดยสื่อสารผ่านศิลปะ วาดเป็นลายเส้น และตัวการ์ตูน ให้น่าสนใจและเกิดการติดตาม วาดเล่าเรื่องราวตั้งแต่อดีตสมัยเริ่มต้น อาณาจักรไทย ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของบรรพบุรุษที่รักษาชาติไทยไม่ให้ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร จน สามารถมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง มีภาษา งานศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ จวบจนปัจจุบันคนไทย ก็ ยังคงเอกลักษณ์ประจำชาติไทย และสร้างสรรค์ลักษณะเฉพาะตนให้มีความโดดเด่นในสังคมโลก และ ในสถานการณ์ปัจจุบันทั่วโลกมีการแข่งขัน คนไทยก็ได้แสดงความสามรถในด้านต่างๆ จนเป็นที่ ยอมรับจากคนทั่วโลก”

               ท้ายที่สุด ตัวแทนของทีมผู้ชนะเลิศได้กล่าวขอบคุณผู้จัด เพราะเมืองไทยตอนนี้ มีสปอนเซอร์จำนวนน้อยมากที่สนับสนุนงานศิลปะ  โดยกิจกรรม Sangsom หนังสั้นโฆษณาเป็นเหมือนแหล่งรวบรวมกลุ่มคน ที่เปิดโอกาสให้คนจากหลากหลายที่ได้เข้ามาร่วมกันจุดประกายความคิดและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ รวมถึงมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซึ่งถือเป็นสนามทดสอบที่ดี และอยากให้ทุกคนลองเปิดโอกาสให้ตัวเองหากมีการจัดแข่งขันในโอกาสต่อไป สามารถติดตามผลงานชนะเลิศทั้งหมดได้ทาง www.thesangsom.com/shortfilm หรือ www.facebook.com/sangsomexperience  แล้วจะรู้ว่าคนรุ่นใหม่ของไทย ทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ




สัมภาษณ์เพิ่มเติม ผู้กำกับรุ่นใหม่ กล่าวถึงเทคนิคเพื่อเป็นแนวทางการทำหนังสั้นโฆษณา สุดพีค ดังนี้

               คุณกานต์- ศิวโรจณ์ คงสกุล “สำหรับเราการทำงานเราแยกสองส่วน กำกับการแสดง กำกับกองถ่าย ให้คงความสมดุล ทำให้เกิดเป็นเรื่องได้อย่างไร และมีความสุขกับการทำงานด้วย  เพราะ เชื่อว่าความสุขทำให้เกิดงานดี  ตั้งใจมากๆ และรักมันจริงๆ งานก็จะไม่แฉลบ สำเร็จได้  แต่ถ้าตั้งใจทำจริง  รับรองผลงานไม่อายใคร  เรื่องไม่แพ้ใครนี่  คนอื่นนั่นแหล่ะที่จะมาบอกเรา” คุณปิง-ม.ร.ว.อัมพรพล ยุคล “เคล็ดลับคือ  ทำยังไง ทำให้มันมีตัวตน หนังมีเป็นร้อยปี คงไม่มีอะไรโดดออกมาไม่เหมือนใครหรอก แค่เป็นหนังที่มีความเป็นตัวตนของตัวเองให้เป็นเรื่องความตั้งใจทำมากกว่า คนทำงานแต่ละคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง ตั้งใจทำในแนวทางของตัวเองพอ ผลงานก็จะออกมาเนี๊ยบ” คุณปอม-ราสิเกติ์  สุขกาล “การทำหนังสั้นโฆษณา คือการสร้างโลกที่ไม่มีอยู่จริง ให้คน เชื่อได้ ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง มีบทมาแล้ว ตีความโลกใบนั้น อย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ อดทน  แล้วจะไปถึงจุดนั้นได้แน่นอน ทุกคนมีความสามารถเท่ากัน  แต่ใครจะอดทนในสิ่งที่เราเชื่อได้มากที่สุด  อะไรที่ทำให้พีค ยูนีค คำคมเท่านั้นที่จะสื่อได้  ต้องชัดเจน  มีมุมมองที่แตกต่าง และน่าสนใจ ดีใจที่มีโครงการนี้เกิดขึ้น ให้น้องๆ มาแชร์กัน ถึงแม้บางทีมจะไม่ได้รางวัล แต่รับรองว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่สุดยอดกลับไป” นอกจากนี้หนึ่งในฐานะคณะกรรมการ  คุณวรัญชัย รักษาเกียรติ Head of Creative Branding บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)  ได้กล่าวเพื่อให้กำลังใจแก่คนรุ่นใหม่ที่ส่งผลงานเข้าร่วมว่า  “คนไทยเก่งอยู่แล้ว เพียงแต่ให้โอกาส สนับสนุน ก็จะไม่ต่างจากชาติอื่น  ทีนี้เรื่องความยูนีค สิ่งที่ต้องการคือ อยู่ในกรอบ ศีลธรรม จริยธรรม และหวังว่าเวทีนี้ จะเป็นโอกาสให้น้องๆ ที่สนใจ ได้ประลองสมองกัน คิดอย่างไร ตีความอย่างไร เรื่องโปรดักชั่นไม่รู้ไม่ต้องกลัว ที่นี่เรามีสอนมาเรียนไปพร้อมๆกัน”