ยูไอพี ประเทศไทย กวาดรายได้รวม 770 ล้านบาท ส่งท้ายปี 57
ยูไอพี ประเทศไทย กวาดรายได้รวม 770 ล้านบาท จากการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย โดยมีภาพยนตร์ออกฉายทั้งหมด 18 เรื่อง และสร้างสถิติใหม่ในวงการภาพยนตร์ ด้วยการนำภาพยนตร์ "Transformers : Age of Extinction หรือ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 4 : มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์" คว้าแชมป์ภาพยนตร์ต่างประเทศที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศไทยในปี 2557 ด้วยรายได้รวมมากกว่า 320 ล้านบาทบริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือ ยูไอพี ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างสตูดิโอชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย พาราเมาท์ พิคเจอร์ส และยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส เปิดเผยว่า ในปี 2557 บริษัทฯ ได้นำภาพยนตร์ต่างประเทศมาฉายในประเทศไทยรวมทั้งหมด 18 เรื่อง โดยสามารถทำรายได้รวม 770 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ยอดรายได้รวมของตลาดภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศเข้าสู่หลัก 4,200 ล้านบาทนอกจากนี้ ยูไอพี ประเทศไทย ยังได้สร้างสถิติใหม่ในวงการภาพยนตร์ ด้วยการนำภาพยนตร์ "Transformers : Age of Extinction หรือ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 4 : มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์" คว้าแชมป์ภาพยนตร์ต่างประเทศที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในประเทศไทย ด้วยรายได้รวมมากกว่า 320 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ เปิดตัว 3 วันแรก ทำรายได้ถึง 100 ล้านบาท, 4 วันแรก 150 ล้านบาท และ สามารถทำรายได้ 7 วันแรก 200 ล้านบาท และคว้าแชมป์ภาพยนตร์เปิดตัวสัปดาห์แรกสูงสุดตลอดกาลในประเทศ คุณ ปัณณทัต พรหมสุภา ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทย บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือ ยูไอพี ประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับปี 2557 นี้ ก็นับว่าเป็นปีที่ดีของยูไอพีอีกปีหนึ่ง แม้ว่ารายได้รวมของบริษัทจะลดลงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากการเลื่อนฉายของ Fast and Furious 7 แต่ยูไอพี ก็ยังสามารถทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการพา Transformers: Age of Extinction คว้าแชมป์ภาพยนตร์ต่างประเทศที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศไทยแทน Transformers 3 และยังมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ภาคต่อที่สามารถสร้างรายได้ระหว่าง 70-80 ล้านบาท เช่น Teenage Mutant Ninja Turtles (เต่านินจา), Lucy (ลูซี่ สวยพิฆาต), Noah (โนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลก) และ Hercules (เฮอร์คิวลีส) จึงเป็นแนวโน้มที่ดีในการที่จะสามารถต่อยอดเป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่แข็งแกร่งและทรงคุณค่าในอนาคตได้”“เราคาดการณ์ว่าปี 2558 จะเป็นปีแห่งความสำเร็จของยูไอพี ประเทศไทย เช่นเดียวกับปี 2554 ซึ่งยูไอพีเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์รายแรกและรายเดียวที่สามารถทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาทภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยผู้ชมจะได้พบกับภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์อย่าง Fast & Furious 7 (เร็ว..แรงทะลุนรก 7), Jurassic World (จูราสสิค เวิลด์), Terminator Genisys (ฅนเหล็ก : มหาวิบัติจักรกลยึดโลก) และ Mission Impossible 5 (มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ภาค 5) นอกจากนี้ เราก็ยังมีภาพยนตร์คุณภาพระดับชิงรางวัล อย่าง The Theory of Everything และ Unbroken (คนแกร่งหัวใจไม่ยอมแพ้) รวมทั้งภาพยนตร์ที่เป็นกระแสทั่วโลกอย่าง Fifty Shades of Grey (ฟิฟตี้ เชดส์ ออฟ เกรย์) และ Minions (มินเนี่ยน) ภาคแยกของ Despicable Me (มิสเตอร์แสบ...ร้ายเกินพิกัด) ซึ่งภาคสองเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นต่างประเทศที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล มาให้คนไทยได้ชมกันตลอดทั้งปีอีกด้วย” คุณปัณณทัต กล่าวเสริม