du_sit on December 04, 2014, 03:15:47 AM
เครดิต บูโรจับมือ JMT นำร่องรายแรกช่วยลูกหนี้ขอแก้ไขข้อมูลเครดิต




2 ธันวาคม 2557 : บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ได้จัดให้มีงาน “พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ลูกหนี้ในการขอแก้ไขข้อมูลเมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้น” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกหนี้ที่สถาบัน การเงินโอนหนี้ไปยังนิติบุคคลอื่นและต่อมาลูกหนี้นั้นได้ชำระ หนี้ให้แก่นิติบุคคลผู้รับโอนหนี้เสร็จสิ้นแล้ว สามารถแก้ไขรหัสสถานะบัญชีในรายงานข้อมูลเครดิตของลูกหนี้ราย นั้นในระบบข้อมูลเครดิตของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ถูกต้องตามข้อเท็จจริงได้

                ผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วย งาน ได้แก่ นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT และบริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย พร้อมด้วย นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือ

           
                โดย นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT และบริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด บริษัทย่อย เปิดเผยว่า การเซ็นสัญญาในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าในการชำระหนี้ และสามารถอัพเดทสถานะบัญชีที่แท้จริงจากทางเครดิตบูโร ให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง และรวดเร็ว โดยมี JMT เป็นสื่อกลางใน การให้ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า และทางเครดิตบูโรอีกทางหนึ่ง รวมทั้ง สร้างความเชื่อมั่น ให้ JMT ในการ ชำระเงินของลูกค้าเข้ามา

                ทั้งนี้ ด้วยจุดแข็งของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์การบริหารหนี้มายาวนาน และซื้อหนี้จากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารในพอร์ตจำนวนมาก ส่งผลให้ในปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าในระบบสูงถึงประมาณ 2 ล้านราย ซึ่งสถาบันการเงินเหล่านั้นก็เป็นสมาชิกกับทางเครดิตบูโรอยู่ แล้ว ดังนั้น การที่ลูกค้าชำระเงินเข้ามาที่ JMT ก็ สามารถมั่นใจได้ว่า ข้อมูลดังกล่าวได้อัพเดทสถานะให้เป็นปัจจุบันกับเครดิตบูโร อย่างแน่นอน และด้วยปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทำให้ JMT เป็นบริษัทเอกชนบริษัทแรกที่ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือ กับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ในการอำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลยื่นขอแก้ไขรหัสสถานะบัญชี สินเชื่อในครั้งนี้

              “เราจะเป็นสื่อกลางให้ระหว่าง เครดิตบูโร กับ ลูกค้าที่ชำระหนี้ ในการเปลี่ยนแปลงสถานะข้อมูลในระบบของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน เพราะบางแห่ง เมื่อลูกค้าชำระงินเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งกับทางเครดิตบูโร สถานะข้อมูลจึงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การเซ็นสัญญาในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย โดยเฉพาะกับลูกค้าที่มีการชำระหนี้เข้ามา” นายปิยะ กล่าว

ในขณะที่ นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร เปิดเผยว่า “ปัจจุบันมีสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรหลายแห่งได้โอน ขายหนี้ให้กับนิติบุคคลอื่น และลูกหนี้ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลหลายรายได้ไปชำระหนี้ให้กับ นิติบุคคลอื่นนั้นเสร็จสิ้นแล้ว แต่ข้อมูลของลูกหนี้ในเครดิตบูโรยังปรากฏว่ามีหนี้ค้างชำระอยู่ กับสถาบันการเงินผู้โอนขายหนี้ ทำให้รหัสสถานะบัญชีสินเชื่อมิได้รับการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งอาจมีผลต่อการได้รับสินเชื่อของลูกค้าในอนาคตได้ ประกอบกับนิติบุคคลผู้รับโอนหนี้มิใช่สมาชิกของเครดิตบูโร จึงไม่สามารถนำส่งข้อมูลใดๆ ให้แก่เครดิตบูโรเพื่อปรับปรุงแก้ไขรหัสสถานะบัญชีให้ตรงตามข้อ เท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูล เครดิต เครดิตบูโรได้พิจารณาว่า JMT เป็นผู้ประกอบธุรกิจรับโอน หนี้จากสถาบันการเงินชั้นนำที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรเป็นจำนวน มาก จึงเชิญ JMT ร่วมลงนามบันทึกความร่วม มือดังกล่าวเป็นรายแรกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกหนี้ดัง กล่าวรายที่ได้ชำระหนี้ให้แก่ JMT เรียบร้อยแล้ว รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้กับลูกหนี้ หากลูกหนี้ไปขอกู้เงินใหม่ และสถาบันการเงินเข้ามาดูข้อมูลของลูกหนี้ ก็จะทราบว่าลูกหนี้รายนี้เคยมีการถูกโอนหรือขายหนี้ และต่อมาได้มีการชำระหนี้เสร็จสิ้นกับผู้รับโอนหนี้แล้ว เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาพร้อมกับหลักเกณฑ์อื่นของสถาบันการ เงินต่อไป”[/size