VPO คาดกำไรปี 58 โตสวย เหตุภาวะตลาดปาล์มหนุน
ย้ำปัจจัยพื้นฐานแกร่ง เชื่ออุตฯ เกษตร อนาคตเลิศ
VPO ย้ำ พื้นฐานธุรกิจแกร่ง จากการเป็นผู้ผลิตที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย อีกทั้ง ทิศทางอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบมีโอกาสเติบโตสูง และได้รับผลบวกจากการเปิด AEC "กฤษดา ชวนะนันท์" กรรมการผู้จัดการ เผย ปี 58 ผลการดำเนินงานดี คาดโตได้ราว 30% จากงวดปี 57 หลังประเมินผลผลิตปาล์มสูงขึ้น ทั้งยังได้แรงหนุนหลังชำระคืนเงินกู้ ช่วยลดภาระต้นทุนดอกเบี้ยกว่า 20 ล้านบาทต่อปี ส่วนผลประกอบการปี 57 ทั้งปีทำกำไรใกล้เคียงปีก่อน แม้Q3/2557 ขาดทุนเล็กน้อย ย้ำเป็นเรื่องปกติ เพราะอุตสาหกรรมการเกษตร รวมทั้งปาล์มอิงตามฤดูกาลเป็นหลัก แต่ปาล์มเป็นสินค้าเกษตรอนาคตยิ่งมีความต้องการเพิ่มสูงตามจำนวนประชากรเพิ่ม ย้ำปัจจัยพื้นฐานบริษัทสุดแกร่ง D/E เพียง 0.6 เท่า แถมเป็นหุ้น Dividend Stock มีนโยบายจ่ายปันผลถึง 40% ของกำไรสุทธิ จึงมั่นใจ ผลงานที่ออกมาจะสร้างความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจลงทุนได้ เชื่อ การสร้างผลประกอบการที่ดี จะสะท้อนไปยังราคาหุ้น
นายกฤษดา ชวนะนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO กล่าวว่า มั่นใจ ปัจจัยพื้นฐานบริษัทยังแข็งแกร่ง มีศักยภาพการเติบโตสูง พร้อมรับโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบที่มีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งในประเทศและเป็นผู้ผลิตเพียง 1 ใน 3 รายที่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ด้วยตนเอง ประกอบกับ ทิศทางอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบมีโอกาสเติบอีกมาก เนื่องจากปาล์มเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งการอุปโภค บริโภค และการใช้เป็นพลังงานทดแทนในน้ำมันไบโอดีเซล ส่วนภาครัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเติบโตของประชากรโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทสามารถเติบโตสูงได้ในอนาคต โดยบริษัทประเมินทิศทางผลประกอบการในปี 2558 คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปี 2557 และถือเป็นเป็นช่วงที่ดีมากของบริษัท เนื่องจากผลผลิตปาล์มจะออกสู่ตลาดมากขึ้น จากในปี 2557 ปาล์มให้ผลผลิตที่ประมาณ 12 ล้านตัน สาเหตุมาจากปาล์มในพื้นที่โตเต็มที่ให้ผลผลิตในระดับสูง และพื้นที่ที่ปลูกใหม่จะเริ่มทยอยผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ในปี 2558 บริษัทมีภาระดอกเบี้ยลดลงกว่า 20 ล้านบาทต่อปี ภายหลังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปชำระคืนหนี้
ขณะเดียวกันในปี 2558 ซึ่งมีการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC นับเป็นโอกาสของ VPO ในฐานะผู้ผลิตที่มีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในจังหวัดชุมพร ที่คาดว่าได้รับประโยชน์อย่างสูง เนื่องจากบริษัทเตรียมการรองรับมาการเปิด AEC มาโดยตลอดอยู่แล้ว เพื่อสร้างโอกาสจากตลาดที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นจากประชากร 600 ล้านคน ใน 10 ประเทศอาเซียน รวมทั้งช่วยลดปัญหาการเก็งกำไรราคาน้ำมันปาล์มดิบลงอีกด้วย
สำหรับผลงานในปี 2557 บริษัทคาดว่า ผลการดำเนินงานจะสามารถเติบโตใกล้เคียงปี 2556 ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 173.32 ล้านบาท โดยผลประกอบการงวด 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิอยู่แล้วที่ 158.13 ล้านบาท แม้ผลงานไตรมาส 3/2557 ขาดทุนประมาณ 15 ล้านบาท เป็นผลจาก ซึ่งสินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่อิงกับฤดูกาล และภาวะธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เมื่อผลผลิตปาล์มออกมาน้อยกว่าปกติทำให้ราคาผลปาล์มดิบที่รับซื้อจากเกษตรกรสูงขึ้น ประกอบกับการเก็งกำไรราคาน้ำมันปาล์มดิบทำให้ราคาตลาดบิดเบือน
“บริษัทจะมีกำไรเยอะ ก็คือช่วงที่ผลผลิตปาล์มออกเยอะ ซึ่งจะมีอยู่ไม่กี่เดือนใน 1 ปี อุตสาหกรรมการเกษตรพึ่งพาฤดูกาล ดิน ฟ้า อากาศ จึงส่งผลต่อบริษัทในบางช่วงเวลา ต้องประเมินผลประกอบการทั้งปีจึงจะเห็นว่า VPO สามารถสร้างผลประกอบการที่ดี โดยผลงานปี 57 แม้รายได้ลดลงจากปี 56 เป็นผลจากเราให้ความสำคัญต่อความสามารถการทำกำไรมากกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่มองปี 58 จะเป็นอีกปีที่ดีมากของบริษัท เพราะมีหลายปัจจัยสนับสนุน อาทิ ผลผลิตปาล์มที่จะเพิ่มขึ้นอีก การเปิด AEC ส่งผลต่อโอกาสทางการตลาดที่กว้างขึ้น ภาระดอกเบี้ยลดถึงปีละ 20 ล้านบาท จากการชำระคืนเงินกู้ ยิ่งมั่นใจว่า VPO จะสามารถสร้างผลประกอบการเติบโตถึง 30% นอกจากนี้อัตราหนี้สินต่อทุน D/E ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ เหลือ แค่ 0.6 เท่า ยิ่งแสดงถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แทบจะปลอดหนี้ ดังนั้นเชื่อมั่นว่าหากพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการดี ย่อมสะท้อนต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน และราคาหุ้นที่แท้จริง นอกจากนี้ VPO ยังเป็นหนึ่งในหุ้นปันผลที่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนต่อเนื่อง เพราะมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว โดยที่ผ่านมาบริษัทจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นมาตลอด เชื่อว่าภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ คาดว่าน่าจะมีการจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทช่วงต้นปี 2558" นายกฤษดา กล่าว