สยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA) ขยายธุรกิจต่อเนื่องทันที เตรียมเปิด “ระรินจินดา เวลเนส สปา” เพลินจิต Rooftop Spa พร้อมวิวพาโนรามา เจ้าแรกในกรุงเทพฯ
สยามเวลเนสกรุ๊ปฯผู้นำด้านการให้บริการธุรกิจสปาแบบครบวงจร ลุยธุรกิจต่อเนื่อง หลังเปิดซื้อขายหุ้นวันแรกนักลงทุนตอบรับดี พร้อมเตรียมเปิด “ระรินจินดา เวลเนส สปา” ระดับ 5 ดาว สาขาเพลินจิต เป็น Rooftop Spa เจ้าแรกในกรุงเทพฯ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว และลูกค้าใน ไทยระดับ ไฮเอนด์
นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนส กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้นำด้านการให้บริการสปาชั้นนำที่มีมาตรฐานครบวงจรที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า “หลังบริษัทฯ ได้เปิดการซื้อขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนไปแล้วนั้น และเห็นได้ชัดว่านักลงทุนให้การตอบรับ ดีเยี่ยม จากยอดจองซื้อหุ้น IPO จำนวน 170 ล้านหุ้นหมดเกลี้ยงไม่พอกับความต้องการของนักลงทุน บริษัทฯ มีความยินดีและต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของ บริษัทและมองว่าธุรกิจสปามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและต่อเนื่อง เห็นได้จากการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของชาว ต่างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด ล่าสุด บริษัทฯ เดินหน้าธุรกิจตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยทางบริษัทฯ ได้พ ร้อมเปิดให้บริการสปาระดับ 5 ดาว “ระรินจินดา เวลเนส สปา” สาขาเพลินจิต ที่ตั้งอยู่บนชั้น 30 และ 31 ของโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ โดยเป็น Rooftop Spa เจ้าแรกในกรุงเทพเน้นเจาะกลุ่ม นักท่องเที่ยวและลูกค้าไทยที่ต้องการผ่อนคลายกับบริการสปาครบวงจร ระดับไฮเอนด์ อาทิ นวดใน บรรยากาศที่หรูหรา อบอุ่น พร้อมวิวกรุงเทพฯ แบบ พาโนรามา บนตึกสูงย่านใจกลางเมือง โดยจะเปิด ให้ บริการได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้”
สำหรับผลประกอบการที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 มีรายได้ รวม 320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปี 2555 ที่มีรายได้รวม 243 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจาก ปี 2554 ที่มีรายได้รวม 211 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 55% ภายใน 3 ปี โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจสปา คิดเป็นร้อยละ 78 รายได้ของธุรกิจรีสอร์ทและร้านอาหารคิดเป็นร้อยละ 16 และรายได้ของธุรกิจสปาโปรดักส์ คิดเป็นร้อยละ 4 ขณะเดียวกันบริษัทมีกำไรสุทธิขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกำไรสุทธิ 0.58 ล้านบาทในปี 2554 เป็นกำไรสุทธิ 17.8 ล้านบาทในปี 2555 และเป็นกำไรสุทธิ 57.3 ล้านบาทในปี 2556 คิดเป็นการเติบโตกว่า 300% ภายใน 3 ปี โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 32% ในปี 2555 และ 42% ในปี 2556 และมีอัตรากำไรสุทธิสูง (Net Margin) 7.3% ในปี 2555 และ 18% ในปี 2556 ส่วนในครึ่งปีแรก 2557 บริษัทฯมีรายได้ 143 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิลดลงประมาณ 6 ล้านบาท เนื่องจากความไม่สงบทางการเมืองที่ยาวนานกว่า 7 เดือน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ดีในช่วง ครึ่งปีหลัง 2557 คาดว่าแนวโน้มธุรกิจจะดีขึ้นพอสมควร เพราะการเมืองสงบ การท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด