แมกโนเลียจับมือกลุ่มทรู ทุ่ม 200 ล้านบาทตอกย้ำวิสัยทัศน์พัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต
• แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม เป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทย ที่ลงทุนกว่า 200 ล้านบาทในการติดตั้งเทคโนโลยีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงระดับเวิลด์คลาส แบบ GPON หรือ Gigabit Passive Optical Network เพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงถึง 2,000 Mbps แก่ผู้พักอาศัยในโครงการ
• แมกโนเลียจับมือกลุ่มทรู นำเสนอโครงการที่พักอาศัยมาตรฐานระดับสูงสุด เพื่อมอบไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีหรูเหนือขีดจำกัดแก่ลูกบ้าน โดยเป็นโครงการแรกที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ “Fiber to Home”
• แมกโนเลียและกลุ่มทรู ให้ความสำคัญกับการเป็นพันธมิตรระยะยาว เพื่อการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดย แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ จะเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทย ที่มอบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสุด พร้อมด้วย “อัลติเมท แพกเก็จ” ระดับเอ็กซ์คลูซีฟ มูลค่า100,000 บาท ตลอด 1 ปี แก่ลูกบ้านทุกยูนิต
• แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ร่วมเป็นพันธมิตรระยะยาวกับกลุ่มทรู โดยมีแผนติดตั้งเทคโนโลยี GPON หรือ Fiber to Home ในโครงการอื่นๆ ของแมกโนเลีย
กรุงเทพฯ 16 กันยายน 2557– บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดโดย นายธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ ร่วมลงนามสัญญากับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นายขจร เจียรวนนท์ผู้อำนวยการบริหาร ด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในการร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตเพื่อติดตั้งในโครงการหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ “แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์” ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทยที่จะมีเทคโนโลยี GPON (Gigabit Passive Optical Network) หรือ Fiber to Home รองรับไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต ด้วยเทคโนโลยีความเร็วสูงเหนือขีดจำกัดถึง 2,000Mbps ด้วยวงเงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ตอกย้ำวิสัยทัศน์การพัฒนาโครงการมาตรฐานสูงสุดระดับโลกเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้พักอาศัยทุกยูนิตในโครงการ
นายธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า “เรามีความมุ่งมั่นที่จะมอบโครงการที่พักอาศัยระดับคุณภาพและมีมาตรฐานสูงสุดเพื่อความยั่งยืนแห่งอนาคตให้แก่ผู้พักอาศัยในโครงการของเรา ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทและให้ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับในอนาคต เราจึงลงทุนติดตั้งระบบสื่อสารที่มีความทันสมัยสูงสุดด้วยมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยร่วมเป็นพันธมิตรระยะยาวกับกลุ่มทรู พัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารที่มีความเร็วสูงสุดถึง 2,000Mbps สามารถรองรับการใช้งานที่เกิดขึ้นในอนาคตได้ถึง 10 ปีมาติดตั้งในโครงการ“แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์” เป็นโครงการแรก เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ซึ่งตั้งใจสรรหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุด มาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของโครงการพักอาศัยที่มีความพิเศษในระดับโลกให้ตอบสนองในทุกความต้องการ ด้วยเทคโนโลยีเหนือระดับและความสะดวกสบายแห่งอนาคตได้อย่างไร้ขีดจำกัด
“การลงทุนมูลค่า 200 ล้านบาท ในการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นวิสัยทัศน์ของแมกโนเลียในการพัฒนาทุกโครงการให้มีมาตรฐานในระดับโลกสำหรับโครงการ“แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์” เลือกใช้ GPON ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุด ทำให้ลูกค้าในโครงการได้รับความสะดวกสบายด้านการสื่อสาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งถือว่าเราเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทยที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงติดตั้งในโครงการ โดยลูกค้าที่ซื้อโครงการทุกยูนิต จะได้รับ Ultimate Package ฟรีนาน 1 ปี ประกอบไปด้วย อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านใยแก้วนำแสง จุดรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่รองรับสัญญาณ 4G ป้องกันปัญหาจุดอับสัญญาณบนตึกสูง พร้อมช่องรายการระดับโลกจากทรูวิชั่นส์ ด้วยแพคเก็จสูงสุดระดับแพลตทินั่ม ที่มาพร้อมกับทรูวิชั่นส์ เอนี่แวร์ ให้รับชมรายการโปรดได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงโทรศัพท์บ้านสมัยใหม่ผ่านอินเทอร์เน็ตรวมมูลค่าสูงสุด 100,000 บาทตลอดระยะเวลา1 ปี” นายธนวันต์กล่าว
นายขจร เจียรวนนท์ ผู้อำนวยการบริหาร ด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มทรูภาคภูมิใจที่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสุดเอ๊กซ์คลูซีพที่พิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียดของการดำเนินชีวิต สะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของผู้อยู่อาศัยในโครงการ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งกลุ่มทรูเริ่มดำเนินการตั้งแต่วิจัยและพัฒนาเพื่อสรรหาเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมกับโครงการและผู้พักอาศัย โดยเลือกใช้โครงข่ายโทรคมนาคมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับเวิลด์คลาส ด้วยเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติคผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงหรือ “จีพอน” (GPON: Gigabit Passive Optical Network ) โดยนำมาใช้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการใช้งานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี พร้อมประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ทั้งด้านความปลอดภัยความเสถียร และสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูงในระดับกิ๊กกะบิตซึ่งจะเปลี่ยนประสบการณ์ ให้กับผู้พักอาศัยในโครงการ ได้ใช้บริการคอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู ได้อย่างครบครันและเต็มรูปแบบ ทั้งอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์แบบมีสายและไร้สายความเร็วสูงเหนือมาตรฐานทั่วไป พร้อมชมเคเบิ้ลทีวีในระบบ HD ที่มีคมชัดรวมถึงบริการด้านโมบายล์ที่มีสัญญาณเครือข่าย 4G ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ภายในโครงการ ทั้งหมดนี้คือความพิเศษเหนือระดับด้านเทคโนโลยีสื่อสารที่กลุ่มทรูมอบให้กับลูกค้าโครงการ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์”
โครงการ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 50 ไร่ ของโครงการไอคอนสยาม ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คระดับโลกริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำทอดยาวในเขตใจกลางกรุงเทพฯ คิดเป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร ซึ่งเปิดตัวโครงการและห้องตัวอย่างในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และได้การตอบรับอย่างดียิ่งจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างด้วยองค์ประกอบสามส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนโครงการที่พักอาศัยแห่งนี้ให้เป็นโครงการที่พักอาศัยที่มีความพิเศษระดับโลกได้ ได้แก่ 1) ทุกห้องพักใช้วัสดุอุปกรณ์ที่หรูหราที่สุด 2) ตัวอาคารถูกใส่ความหรูหราและสง่างามอย่างพิถีพิถัน ขณะที่องค์ประกอบด้านวิศวกรรม และระบบกลไกภายในอาคารที่มองไม่เห็นได้รับการออกแบบคัดสรรให้มีคุณภาพระดับโลก และที่สำคัญ คือ 3) การตั้งอยู่ในพื้นที่ 50 ของโครงการไอคอนสยาม ทำให้สิ่งแวดล้อมโดยรวมของที่ตั้งโครงการ จะได้รับการออกแบบและควบคุมให้อยู่ในมาตรฐานระดับสูงสุด อีกทั้งผู้พักอาศัยในโครงการยังได้อยู่ใกล้อาณาจักรศูนย์การค้าและแหล่งบันเทิงระดับโลก ในขณะที่ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติริมน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังได้อิ่มเอมกับวิวธรรมชาติที่สวยงามมีมนต์เสน่ห์และสร้างแรงบันดาลใจ
“ความร่วมมือกับทรู เพื่อติดตั้งและพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อที่อยู่อาศัยในระดับเวิลด์คลาสในวันนี้ จึงถือได้ว่าเป็นอีกก้าวของความสำเร็จและเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่มาช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นให้แก่โครงการ “แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์” พร้อมตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของเราในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานสูงสุดเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) ที่เรายึดถือมาโดยตลอด” นายธนวันต์กล่าวทิ้งท้าย
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
อภิมหาโครงการไอคอนสยาม ซึ่งมีแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างด้วยเงินลงทุน 50,000 ล้านบาท (1.54 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และเป็นโครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาของภาคเอกชนไทยในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ไอคอนสยามเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดใหม่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และกำลังสร้างจุดหมายปลายทางใหม่ในประเทศที่มีความสมบูรณ์ครบวงจรเหมือนกับเมืองๆ หนึ่ง คาดว่าโครงการนี้จะเปลี่ยนโครงสร้างหลักของกิจกรรมในกรุงเทพมหานครและกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและทั่วประเทศไทยให้เดินทางมาเยือน
นอกจากนี้ ไอคอนสยามยังเป็นศูนย์กลางโครงการด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่จะพลิกฟื้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่เลื่องชื่อในกรุงเทพฯ ในฐานะจุดปลายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างกระทรวงต่างๆ หน่วยงานภาครัฐ กรุงเทพมหานคร และภาคเอกชน
ไอคอนสยาม และแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่ดิน 50 ไร่ (20 เอเคอร์) ที่เป็นที่ตั้งโครงการไอคอนสยามมีพื้นที่ติดแม่น้ำทอดยาวที่สุดในเขตใจกลางกรุงเทพฯ คิดเป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร
ไอคอนสยามได้รับการพัฒนาโดยพันธมิตรธุรกิจที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในวงการ ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศไทยสามกลุ่ม ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทอสังหาริมทรัพย์เจ้าของนวัตกรรมครบวงจรของโครงการที่พักอาศัยระดับบน อาทิ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด และเครือเจริญโภคภัณฑ์