ทีเส็บ ผนึกความร่วมมือภาคีพันธมิตรธุรกิจไมซ์ เปิดตัวโครงการ Love MICE, Love Thailand กระตุ้นเป้าตลาดดีไมซ์ไตรมาสสุดท้ายของปี
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บผนึกความร่วมมือภาคีธุรกิจไมซ์ ได้แก่ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA, สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) และกลุ่มพันธมิตรการตลาดของโรงแรมในย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร (BRMP) เดินหน้ากระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ผุดกิจกรรม “Love MICE, Love Thailand” หวังกระตุ้นให้เกิดการจัดงานไมซ์คุณภาพในประเทศไทย
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ทีเส็บ ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทหลัก ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมตลาดไมซ์ภายในประเทศ ให้เป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจ สอดรับกับแผนของคสช. ในการเร่งรัดฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ โดยกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเพิ่มกิจกรรมการประชุมสัมมนาและฝึกอบรมภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งทีเส็บได้ดำเนินการส่งเสริมและกระตุ้นตลาดร่วมกับหน่วยงานภาคีมาโดยตลอด อาทิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและตลาด งาน Domestic MICE Mart ครั้งที่ 1 ซึ่งได้จัดเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การจัดกิจกรรม Domestic Familiarization Trip โดยนำกลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเยี่ยมชมศักยภาพของเมืองต่างๆในการรองรับการจัดประชุมสัมมนา โดยเฉพาะใน 5 เมืองไมซ์ซิตี้ ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น
สำหรับกิจกรรม Love MICE Love Thailand ครั้งนี้ ทีเส็บได้ร่วมมือกับ สมาคม TICA สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจ ในย่านราชประสงค์ และกลุ่มพันธมิตรการตลาดของโรงแรมในย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน 2557 โดยเชิญหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ กลุ่มบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 100 หน่วยงาน เยี่ยมชมศักยภาพความพร้อม ของสถานที่จัดประชุมสัมมนา จัดฝึกอบรมในย่านราชประสงค์และย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมุ่งหวังว่าจะช่วยกระตุ้น ให้เกิดการจัดงานประชุมสัมมนาภายในประเทศมากขึ้น
ด้านนางประชุม ตันติประเสริฐสุข ประธานกรรมการฝ่ายขาย สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ หรือ TICA กล่าวว่า “งาน “Love MICE, Love Thailand” จัดขึ้นในรูปแบบ Familiarisation Trip โดยการเชิญกลุ่มลูกค้า ระดับผู้บริหารที่รับผิดชอบด้านการจัดประชุม สัมมนา และการท่องเที่ยวแบบให้เป็นรางวัล จากบริษัท corporate ข้ามชาติ หน่วยราชการ และสมาคมวิชาชีพ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยกลุ่มลูกค้าจะได้เข้าพักและทำกิจกรรม team building บริเวณย่านราชประสงค์ ใช้บริการการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ทำกิจกรรม “Amazing River Race” เยี่ยมชมจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่บนเส้นทางริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงเยี่ยมชมและเข้าพักในโรงแรม ย่านริมแม่น้ำ เจ้าพระยา เป็นต้น นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการซึ่งเป็นสมาชิกของ TICA ได้พบปะเจรจาธุรกิจ และเสนอสินค้าและบริการให้แก่กลุ่มลูกค้าในกิจกรรม “ผู้ซื้อพบผู้ขาย” รวมถึงได้แสดงศักยภาพ ความพร้อมและสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้อีกด้วย”
นางประชุมกล่าวต่อไปว่า “ประเทศไทยมีความพร้อมในด้านการจัดประชุมสัมมนา รวมถึงความหลากหลาย ของสถานที่ แหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ แหล่งเรียนรู้ ทั้งในย่านราชประสงค์และย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นจึงอยากเสนอให้ผู้ประกอบการ และภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาให้มีกิจกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องซึ่งจะช่วยดึงดูดนักเดินทางกลุ่มไมซ์ ทั้งในและต่างประเทศให้กลับมาจัดการประชุมในประเทศไทย อีกในครั้งต่อๆ ไป”
ด้าน นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ในฐานะหนึ่งในเจ้าภาพการจัดงาน “Love MICE, Love Thailand” กล่าวยืนยันถึงความพร้อมของย่านราชประสงค์ในการรองรับธุรกิจไมซ์ว่า “สมาคมฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายผู้ประกอบวิสาหกิจบริเวณย่านราชประสงค์ เพื่อส่งเสริมศักยภาพแ ละยกระดับการแข่งขันทางธุรกิจการตลาดสู่ระดับเอเชีย บนพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่ในการการจัดสัมมนามากกว่า 470,000 ตารางเมตร พร้อมทั้งยังมีห้องพักรับรองมากถึง 3,900 ห้อง จากโรงแรมระดับลักซ์ชัวรี่ โดยมีสมาชิกที่เข้าร่วมได้แก่ ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ห้างสรรพสินค้า เอราวัณ แบงค็อก, ศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า, โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ, โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ, โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ กรุงเทพฯ, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ, โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์, อาคารมณียา เซ็นเตอร์ และ อาคารเพรสซิเด้นท์ ทาวเวอร์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่ ครบวงจรให้แก่นักท่องเที่ยว วันนี้เรามีเครือข่ายที่เข้มแข็งและมีความพร้อมที่จะรองรับการขยายตัวของธุรกิจไมซ์ ทั้งในด้านสถานที่จัดการประชุม ห้องพักอาศัย แหล่งจับจ่ายซื้อของ ไลฟ์สไตล์รูปแบบต่างๆ รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย เชื่อมต่อกับทุกจุดในกรุงเทพมหานครได้โดยสะดวก”
ด้าน Mr. Dirk De Cuyper Regional General Manager – Thailand, General Manager - Millennium Hilton Bangkok ตัวแทนจาก BRMP กล่าวถึงศักยภาพและจุดเด่นของโรงแรมในย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานครว่า “กว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา กลุ่มโรงแรมทั้งแปดแห่งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ร่วมมือกัน ดำเนินกิจกรรมการตลาด เพื่อให้บรรลุปณิธานในการสร้างความตระหนักรู้ว่าทำเลที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดหมายปลายทางหลักแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง มีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอด ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง แหล่งเรียนรู้ใหม่ทางด้านวัฒนธรรม ศาสนา และประวัติศาสตร์ รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ทั้งทางน้ำ ทางรถยนต์ และรถไฟฟ้า เมื่อประกอบกับสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมทั้ง 8 ในกลุ่มความร่วมมือ ซึ่งประกอบด้วย ห้องพัก 4,152 ห้อง ร้านอาหาร 43 แห่ง บาร์ 17 แห่ง ห้องบอลรูม 13 ห้อง ห้องจัดประชุม 112 ห้อง สระว่ายน้ำ 12 แห่ง ศูนย์ฟิตเนสและสปา 8 แห่ง ในทำเลริมแม่น้ำอันงดงาม เราจึงมีความมั่นใจว่าบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาคือจุดหมายปลายทางหลักแห่งใหม่ของการจัดงานไมซ์ คุณภาพในกรุงเทพมหานคร”
“จากจุดแข็งของประเทศไทยทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม สิ่งอำนวยความสะดวกที่พรั่งพร้อม และการบริการอันเป็นเลิศ ทีเส็บและหน่วยงานพันธมิตรเล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศที่จะก้าวสู่การเป็นตลาดไมซ์ คุณภาพ ของภูมิภาคเอเชีย (Asia’s High Quality Business Events Destination) โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ สู่การขยายตลาดและการส่งเสริมตลาดของประเทศไทยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละประเภท พร้อมไปกับการพัฒนาและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยอย่างทันท่วงทีและยั่งยืน ทั้งนีทีเส็บตั้งเป้าว่า ในปี 2557 นั้น จะมีจำนวนนักเดินทางกลุ่มดีไมซ์ 4,502,406 คน และรายได้จากตลาดดีไมซ์เป็นจำนวน 13,291 ล้านบาท” นางศุภวรรณ กล่าวสรุป