happy on August 31, 2014, 06:29:27 PM
“THE PRINCE คนอึดแค้นเกินพิกัด”
9 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์


จัดจำหน่ายโดย       HANDMADE DISTRIBUTION
ชื่อภาพยนตร์         THE PRINCE  คนอึดแค้นเกินพิกัด      
ภาพยนตร์แนว         แอ็คชั่น
จากประเทศ         ประเทศสหรัฐอเมริกา
กำหนดฉาย          9 ตุลาคม  2557
ผู้กำกับ             Brian A Miller  (ไบรอัน เอ. มิลเลอร์)

นักแสดงนำ


BRUCE WILLIS (บรูซ วิลลิส)   รับบท OMAR (โอมาร์) 
ผลงานที่ผ่านมา  Die Hard , The Sixth Sense , Looper ,Moonrise Kingdom , The Expendables , Sin City

JOHN CUSACK (จอห์น คูแซค) รับบท SAM (แซม)
ผลงานที่ผ่านมา The Butler , The Frozen Ground , Con Air , The Paperboy , 2012 , The Grand Piano

JASON PATRIC (เจสัน แพทริค)  รับบท PAUL  (พอล)
ผลงานที่ผ่านมา Narc , Speed2 , The Journey of August King , Rush , Cavemen , The Losers

RAIN (เรน) รับบท  MARK (มาร์ค)
ผลงานที่ผ่านมา Ninja Assassin , Speed Racer , R2B : Return to Base

GIA MANTEGNA (เกีย แมนแท็คน่า)  รับบท BETH  (เบธ)
ผลงานที่ผ่านมา The Frozen Ground , In The Land of Woman , 13 Going on 30 , Empire State , Emergo

Curtis “50 Cent” Jackson (เคอร์ติส ฟิฟตี้ เซนต์ แจ็คสัน)  รับบท  The Pharmacy (คนขายยา)
ผลงานที่ผ่านมา Get Rich or Die Tryin , Last Vegas , So You Think You Can Dance (TV Series) , Escape Plan


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=WeKL4H8BOqY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=WeKL4H8BOqY</a>






เรื่องย่อภาพยนตร์ The Prince

                พอล เบรนแนน (เจสัน แพทริค) อดีตหัวหน้ามาเฟียนิวออร์ลีนส์ ได้ถอนตัวออกจากวงการอาชญากรรม เพื่อไปใช้ชีวิตสงบเงียบด้วยการเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ในเมืองมิสซิสซิปปี้ที่ห่างไกล แต่เมื่อเบธ (เกีย แมนแท็คน่า) ลูกสาวของเขาหายตัวไป พอลจึงถูกบีบให้เดินทางกลับมาพบกับบรรดาคู่ปรับเก่าของเขาอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของแองเจล่า (เจสสิก้า ลาวด์ส) เพื่อนของเบธ ทำให้พอลได้เผชิญหน้ากับโอมาร์ (บรูซ วิลลิส) ชายผู้มีอำนาจมากที่สุดในเมือง จนเป็นที่มาของการต่อสู้ที่เปรียบเสมือนการกู้ศักดิ์ศรีคืนจากความผิดพลาดในอดีตของพอล

                The Prince คือภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญ ที่นำแสดงโดย เจสัน แพทริค (ภาพยนตร์ Narc), บรูซ วิลลิส (ภาพยนตร์ Sin City), เจสสิก้า ลาวด์ส (ภาพยนตร์ The Haunting of Molly Hartley) ร่วมด้วยนักแสดงชื่อดัง อาทิ จอห์น คูแซค (ภาพยนตร์ 2012), โจห์นาธอน แชค (ภาพยนตร์ The Legend of Hercules), เกีย  แมนแท็คน่า (ภพาพยนตร์ The Frozen Ground ), เคอร์ติส  “ฟิฟตี้ เซนต์” แจ็คสัน (ภาพยนตร์ Escape Plan) และเรน (ภาพยนตร์ Ninja Assassin) ซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีชื่อดัง




ข้อมูลเบื้องหลังภาพยนตร์ The Prince

                เมื่อแรนดัลล์ เอ็มเมทท์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์จอมขยัน อ่านบท The Prince ก็รู้ทันทีว่าตัวเองพบภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมที่เต็มเปี่ยมด้วยฉากแอ็คชั่นเข้มข้น ผสมผสานกับความประทับใจในแบบดราม่า ไม่ต่างจากผลงานเรื่องก่อนของเขาอย่าง The Frozen Ground, Catch .44 และ Narc. 

                “ นักแสดง บรูซ วิลลิส ก็ชอบมัน เช่นเดียวกับเจสัน แพทริค และ จอห์น คูแซค ก็ตบเท้าเข้ามาแจมในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย  นักแสดงเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความพิเศษให้บรรดาตัวละคร และเรื่องราวที่เล่าถึงชายคนหนึ่งผู้ต้องกลับไปเผชิญอดีตอันเลวร้าย เมื่อลูกสาวของเขาหายตัวไปในโลกโสมมที่เขาเคยอยู่มาก่อน”  เอ็มเมทท์กล่าว.

                ส่วนอังเดร ฟาบริซิโอ และเจเรมี่ พาสมอร์ คู่หูผู้เขียนบท ก็พยายามอธิบายแนวคิดที่ว่า “เราไม่มีทางหนีตัวตนที่แท้จริงของเราได้ มันทำให้เกิดคำถามในหัวว่า เราตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงหรือ เหมือนกับเรื่อง Unforgiven ของคลินท์ อีสต์วู้ด The Prince พูดถึงประเด็นนี้ในแบบทันสมัย” ฟาบริซิโอกล่าว.

                พาสมอร์เสริมว่า “The Prince คือเรื่องของชายผู้หวนกลับไปเป็นสัตว์ร้ายอย่างที่เขาเคยเป็น เพื่อจะปกป้องสิ่งเดียวที่เขารัก ซึ่งก็คือลูกสาวนั่นเอง”

                ผู้กำกับ ไบรอัน เอ. มิลเลอร์จะพาผู้ชมไปสำรวจโลกใต้ดินของแก๊งมาเฟีย ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและการแก้แค้น เมื่อลูกสาวของเขาหายตัวไป และเขากลายเป็นคนมีค่าหัว พอลจึงจำเป็นต้องกลับไปสู่วงจรเดิมอีกครั้ง “มันนำเราย้อนไปพบบาปกรรมที่เขาเคยทำไว้ ซึ่งเขาเองก็หาทางชำระบาปเหล่านั้น เป็นเรื่องราวพลิกผันที่ดึงดูดผมจริงๆ” มิลเลอร์กล่าว.

                เจสัน แพทริคกล่าวว่า  “ผมแสดงเป็นพ่อที่จู่ๆ ลูกสาวก็หายไป และพอออกตามหา เขาก็พบชีวิตลึกลับของเธอ เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ผู้ชมจะได้รู้ว่าตัวพ่อก็มีชีวิตที่ลึกลับเหมือนกัน ผมว่าเราทุกคนล้วนมีอดีตบางส่วนที่เราอยากเก็บซ่อน เช่นเดียวกับที่ชายคนนี้ฝังความลับไว้ เพราะเขาอยากให้อะไรๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น”

                เกีย แมนแท็คน่า  ผู้รับบทเป็นเบธ ลูกสาวหัวดื้อของพอล กล่าวเสริมว่า “พอลเป็นพ่อที่เข้มงวด แต่ลึกๆ ข้างในก็ใจดีและอบอุ่น เบธคือแรงผลักดันให้พอลกลับไปนิวออร์ลีนส์ ไปเผชิญหน้ากับศัตรูเก่า”

                “The Prince คือหนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ที่มีความละเอียดอ่อนด้วย มีความแค้นที่โอมาร์สั่งสมมานานกว่ายี่สิบปี และพัฒนามาเป็นการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ในตอนจบ มีความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกที่เป็นจริงมาก ซึ่งผมว่าทุกคนคงเข้าใจ เช่นเดียวกับคนอีกมาก พอลกับลูกสาวไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก แต่พอเกิดเรื่องร้ายขึ้นมา ทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และเรื่องนี้ยังช่วยปลุกตัวละครทั้งหมดที่ต่างก็มีชะตากรรมของตัวเอง เมื่อผู้ชมดูหนังจบ พวกเขาจะอินไปกับมัน” มิลเลอร์กล่าว.




ข้อมูลสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ The Prince

                The Prince ใช้สถานที่หลายแห่งทั่วเมืองโมบิล รัฐอาลาบาม่า เป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำ “ไบรอันตกหลุมรักโมบิล และคิดว่าเมืองนี้เหมาะกับ The Prince ที่สุด” ผู้อำนวยการสร้าง เอ็มเมทท์กล่าว

                ผู้กำกับ มิลเลอร์เสริมว่า “การหาโลเกชั่นที่โดดเด่นไม่เหมือนใครเป็นเรื่องสำคัญ สถานที่แต่ละแห่งในเมืองนี้ช่วยยกระดับให้งานของเราดูดีขึ้น ตั้งแต่ตึกสูงของโอมาร์ จนถึงอู่ซ่อมรถของพอลที่เต็มไปด้วยรถยนต์เก๋าๆ จากยุค 60 และ 70”

                การเสกสรรปั้นแต่งให้โมบิลกลายเป็นนิวออร์ลีนส์ รวมทั้งการสร้างภาพลักษณ์ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ออกแบบงานสร้าง เนท โจนส์ “สมัยโบราณโมบิลเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ชื่อเดิมของมันคือ Fort Louis de la Louisiane เราเลยเห็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสที่นี่” โจนส์อธิบาย “การเล่าเรื่องคนที่เดินทางกลับบ้านที่นิวออร์ลีนส์ เกี่ยวข้องกับผมโดยตรง เพราะครอบครัวพ่อผมก็มาจากนิวออร์ลีนส์ เมืองนี้มีชีวิตชีวา แต่บางครั้งคนก็ลืมว่ามันมีด้านมืดอยู่ด้วย มันเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไปตรงที่ถ้าคุณอยากมีปัญหา คุณก็จะเจอปัญหา”

                “ไบรอันเป็นพวกบ้าพลัง ผมเลยต้องเตรียมพร้อมเสมอ” โจนส์เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกในการทำงานร่วมกับมิลเลอร์ “เขามีมุมมองที่ชัดเจนในทุกฉากทุกตอน จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะทำให้ภาพในหัวของเขาปรากฏออกมาเป็นรูปเป็นร่าง อู่ของพอลคืองานใหญ่ของเรา ผมอยากให้ผู้ชมเห็นว่าพอลต้องทุ่มเทมากขนาดไหน เพื่อที่จะลืมทุกอย่างที่เขาเคยทำในอดีต การทำงานกับรถยนต์ทำให้เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น เพราะมันบังคับให้เขาต้องจดจ่ออยู่กับงานที่เร่งด่วน เมื่อเทียบกับโอมาร์ เราต้องการให้เห็นความแตกต่างของคนสองคน ทั้งการดำเนินชีวิตและฐานะการเงิน นอกจากนี้ ผมยังใช้รูปแบบที่หลากหลายและสัญลักษณ์ต่างๆ แสดงให้ผู้ชมเห็นว่าต่างฝ่ายต่างมีมุมมองยังไง ซึ่งสุดท้ายความจริงจะเผยออกมาในตอนจบ” ผู้ออกแบบงานสร้างสรุป.

« Last Edit: September 19, 2014, 07:06:51 PM by happy »