sianbun on October 09, 2009, 03:01:54 PM
แพทย์แนะนำตรวจยีน K - RAS mutation ในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะลุกลาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและประหยัดค่าใช้จ่าย



แพทย์แนะนำผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะลุกลาม ตรวจหายีน K-RAS mutation เพื่อให้ข้อมูลประกอบแนวทางการรักษาและการให้ยาเคมีบำบัดที่เหมาะสม ต่อผู้ป่วยเฉพาะบุคคล ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย รวมทั้งป้องกันการเกิดผลข้างเคียงจากยาที่ไม่ให้ผลการรักษาโดยไม่จำเป็น สามารถตรวจได้ที่โรงเรียนแพทย์ ซึ่งตรวจด้วยเทคนิค Real Time PCR: K-RAS Mutation Kit เป็นน้ำยาชุดแรกที่ผ่านการรับรองจาก  CE Mark เพื่อใช้ในการตรวจหาชนิดของยีน K-RAS สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่จะได้รับยาในกลุ่ม  anti-EGFR therapy

รองศาสตราจารย์นายแพทย์ นรินทร์ วรวุฒิ อาจารย์ประจำหน่วยมะเร็งวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า การเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ทั่วโลกเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 4 ในผู้ชาย และเป็นอันดับ 3 ในผู้หญิง ขณะเดียวกันในเอเชียมีอัตราการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มสูงขึ้น โดยในประเทศไทยพบผู้ชายป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงเป็นอันดับที่ 3 และผู้หญิงเป็นอันดับ 5 เลยทีเดียว ซึ่งที่ผ่านมาแนวทางการรักษาจะใช้รูปแบบการรักษาที่เหมือนกัน ขณะที่ในปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้น และค้นพบว่าประมาณ 35 – 45% ของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่จะมียีน K-RAS ที่ผิดปกติ โดยยีน K-RAS ที่ผิดปกติจะยังส่งสัญญาณกระตุ้นการเติบโตของเซลล์อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่มีปัจจัยกระตุ้นการเติบโตจากภายนอกเซลล์ก็ตาม ซึ่งทำให้ไม่สามารถควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ได้ ดังนั้นจึงเป็นการกระตุ้นเนื้อร้ายให้เติบโตขึ้น นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าผู้ป่วยที่มียีน K-RAS ชนิดปกติ จะตอบสนองการรักษาที่ดีจากการรักษาด้วยยา ในกลุ่ม anti-EGFR monoclonal therapies เช่นยา panitumumab และยา cetuximab ในขณะที่ผู้ป่วยที่มียีน K-RAS ชนิดผิดปกติ จะไม่ตอบสนองต่อการรักษาใดๆ ด้วยยาใช้กลุ่มนี้ ดังนั้น การรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่แบบเฉพาะบุคคลด้วยการตรวจชนิดของยีน K-RAS จึงเป็นการรักษาแนวใหม่ จึงอยากแนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้รับการตรวจชนิดยีน K-RAS ก่อนการรักษาด้วยยาในกลุ่มดังกล่าว เพื่อช่วยให้ข้อมูลแก่แพทย์ในการตัดสินใจรักษาได้อย่างถูกแนวทาง รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการรักษาให้กับผู้ป่วยอีกด้วย   

“โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่พบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในแถบเอเชีย โดยมีอัตราการเกิดสูงเป็นอันดับที่ 4 รองลงมาจากโรคมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูก ในปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ด้วยการตรวจชนิดยีน K-RAS ในประเทศไทย เริ่มมีบทบาทมากขึ้น และเป็นแนวทางการรักษาใหม่ที่ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมในภาพรวม เนื่องจากเป็นการยืนยันได้ว่าผู้ป่วยคนใดตอบสนองต่อยาที่รักษาหรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ตัดสินใจให้การรักษาที่ถูกแนวทาง และมีประสิทธิผล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับโอกาสในการรักษาที่มีแนวโน้มดีขึ้น ช่วยประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็งได้” แพทย์กล่าวสรุปในที่สุด

sianbun on October 09, 2009, 03:02:48 PM
รายละเอียดสินค้า  TheraScreen® : K-RAS mutation test

      การตรวจ TheraScreen® : K-RAS Mutation Test ที่สามารถตรวจหาความผิดปกติของยีนจากการวิเคราะห์เซลล์เนื้อเยื้อด้วยความไวสูง มีความถูกต้องแม่นยำ แม้ว่ามียีนที่ผิดปกติเพียง 1% ในยีนปกติ 

วิธีการ    : Real -Time Polymerase Chain Reaction (Real-Time PCR)

                        ด้วยเทคนิค ARMs® และ Scorpions®

สิ่งส่งตรวจ   : Formalin fixed paraffin-embedded tissue

ตำแหน่งการตรวจ  : ตำแหน่งยีนผิดปกติ (mutation) ที่พบบ่อย 7 ตำแหน่ง ใน codon 12 และ 13

ระยะเวลาปฏิบัติการ  : ประมาณ 3 ชั่วโมง หลังขั้นตอนสกัด DNA

มาตรฐานรับรอง  : CE-Mark จากกลุ่มประเทศยุโรปเป็นรายแรกของโลก

ความแม่นยำ   : ชุดตรวจสามารถตรวจสิ่งส่งตรวจที่มีปริมาณยีนที่ผิดปกติ (mutation)

                            เพียง 1% ในพื้นยีนปกติ ( wild type)

ห้องปฏิบัติการ   : ศูนย์บริการตรวจอณูโมเลกุลทางคลินิก ตึกอดุลยเดชวิกรม ชั้น 10

                            คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล 

ข้อมูลเพิ่มเติม   : สอบถามได้ที่  โทรศัพท์ 0-2419-6605   ระหว่างวันจันทร์ – ศุกร์ เวลาทำการ

เกี่ยวกับโรช

      Roche มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองบาเซิล ( Basel ) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้นำในด้านการให้การดูแลสุขภาพในเชิงค้นคว้าวิจัย  ซึ่งได้รวมเอาจุดแข็งในด้านเภสัชกรรมและการวิเคราะห์โรคเข้าด้วยกัน  Roche เป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีการแพทย์ที่แตกต่างอย่างแท้จริงในด้าน     มะเร็งวิทยา (Oncology), ไวรัสวิทยา (Virology), การติดเชื้อ (Inflammation), การเมตะบอลิสึม (Metabolism) และระบบประสาทส่วนกลาง (CNS)  Roche ยังเป็นผู้นำในด้านการวิเคราะห์โรคทางห้องปฏิบัติการ (In-Vitro diagnostics)   การวินิจฉัยมะเร็งระดับเซลล์ และ เป็นผู้บุกเบิกการบริหารจัดการโรคเบาหวาน เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลของ Roche คือการจัดหายาและเครื่องมือการวิเคราะห์โรคที่สามารถทำให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีอัตราการเสียชีวิตที่น้อยลง


      ในปี 2008 Roche มีพนักงานกว่า 80,000 คน ทั่วโลก และลงทุนเกือบ 9 พันล้านฟรังก์สวิส ในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนา (R&D) และมียอดขายอยู่ที่ 45.6 พันล้านฟรังก์สวิส Roche เป็นเจ้าของบริษัท Genentech ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท Chugai Pharmaceutical ในประเทศญี่ปุ่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.roche.com