KTAMเปิดขายKTJEL1Yอิงตลาดหุ้นญี่ปุ่น
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เจแปน อิควิตี้ ลิงค์ คอมเพล็คซ์ รีเทิร์น 1 ปี (KTJEL1Y) ในวันที่ 21-27 สิงหาคม 2557 อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ตราสารทางการเงินอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อมุ่งให้ผลตอบแทนเติบโตเป็น 100% ของเงินลงทุน ซึ่งประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China , เงินฝาก China Construction Bank , MTN Agricultural Bank of China และ หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงินในประเทศ เช่น ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) (AAA), บริษัท กรุงไทยธุรกิจลิสซิ่ง จำกัด (AA-), บมจ. บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (A), บมจ. ภัทรลิสซิ่ง (A-), บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ เวลลอปเม้นท์(A-), บริษัท ไทยโอริกซ์ ลีสซิ่ง จำกัด (AA+), บริษัทลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (AAA), บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส (A+), ธนาคารซีไอเอ็มบี (ไทย)(A+), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (AAA), และส่วนที่เหลือจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงผลตอบแทนจากดัชนี Nikkei 225 ไม่เกินร้อยละ 5
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนดังกล่าวในช่วงเวลานี้ เนื่องจาก ฝ่ายวิจัยของบริษัท ได้คาดการณ์ ภาวะตลาดหุ้นของญี่ปุ่น ว่า ในปี 2557 รายได้ของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตประมาณ 12.1% และคาดเป้าหมายสิ้นปีดัชนี ไว้ที่ 16,633 จุด ซึ่งหมายถึง Upside ประมาณ 7.52% อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนเงินปันผลค่อนข้างต่ำเพียง 1.8% ทั้งนี้ ถ้าหากมองในเชิงมูลค่าวัดจาก P/E Ratio ของญี่ปุ่นนั้นอยู่ที่ 15.4 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตตั้งแต่ปี 2006 ที่ 17.6 เท่า แม้ว่าระดับ P/E Ratio ดังกล่าวจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตลาดอื่น
กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่สามารถคาดการณ์ผลตอบแทนได้และรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้บ้าง โดยเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศจะมีการทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน สำหรับเงื่อนไขการลงทุน จะจ่ายผลตอบแทนครั้งเดียวตอนสิ้นอายุโครงการ โดยมีเงื่อนไขดังนี้ กรณี ที่ 1 ราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิง คือดัชนี Nikkei 225 เพิ่มขึ้นมากกว่าหรือเท่ากับ 15% ของราคาดัชนี ณ สิ้นวัน
ใดวันหนึ่งของอายุตราสาร ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ1% กรณีที่ 2 หากราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันสิ้นสุดอายุตราสารเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาเริ่มต้น แต่ไม่ถึง 15% ของราคาเริ่มต้น จะได้รับผลตอบแทน
ประมาณ 0.01-11.99% โดยวิธีการคำนวณใช้ราคาดัชนี Nikkei 225 ณ วันสิ้นอายุตราสาร หารด้วยราคาดัชนีวันที่เริ่มต้นลงทุน ลบ1 คูณ 80% จะเท่ากับผลตอบแทนที่ลูกค้าได้รับ ส่วนกรณีที่ 3 ราคาปิดของสินทรัพย์
อ้างอิง ณ วันสิ้นสุดอายุตราสาร เท่ากับหรือน้อยกว่าราคาเริ่มต้น ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน0% แต่เงินต้นยังคงอยู่
กองทุนนี้จะเป็นอีกทางเลือก สำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสในการรับผลตอบแทนจากดัชนี Nikkei225 ตามเงื่อนไขของกองทุน และยังคงสามารถรักษาความเสี่ยงของเงินต้นได้เท่ากับระดับความเสี่ยงของกองทุนตราสารหนี้