happy on August 16, 2014, 02:09:18 PM

แคสเปอร์สกี้ แลป เผย
องค์กรธุกิจห่วงประสิทธิภาพการทำงานของเวอร์ชวลไลเซชั่น
มากกว่าเรื่องความปลอดภัย

จากรายงานการสำรวจผู้ปฏิบัติงานไอทีทั่วโลก เรื่อง “2014 IT Security Risks for Virtualization summary report” โดยแคสเปอร์สกี้ แลป ชี้ว่าธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกต่างเริ่มกังวลด้านความปลอดภัยของการใช้งานแบบเวอร์ชวลไลเซชั่น แต่ก็ยังกังขาเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยที่เจาะจงเฉพาะเวอร์ชวลไลเซชั่นอยู่ดี และยังลังเลระหว่างประเด็นประสิทธิภาพการทำงาน (performance) กับระบบความปลอดภัยของระบบไอที (security) ซึ่งจะเป็นความท้าทายในการสร้างสมดุลของสองประเด็นนี้ การใช้ระบบความปลอดภัยป้องกันเวอร์ชวลเอ็นด์พอยต์ดูจะเป็นการข่มขู่ในส่วนประสิทธิภาพการทำงานของทั้งอุตสาหกรรมไอทีเลยทีเดียว

ผลการสำรวจชี้ว่า 64% ของผู้บริหารงานไอทีเห็นด้วยว่าต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เมื่อใช้งานโครงสร้างแบบเวอร์ชวล ซึ่งไม่ควรจะเป็นเรื่องน่าแปลกอันใดที่จะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยก่อนเรื่องอื่นๆ โดยพิจารณาจาก 52% ซึ่งก็เห็นด้วยการทำงานในสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวลนั้นกำลังกลายมาเป็นส่วนหลักของโครงสร้างไอทีของหลายๆ ธุรกิจ และยิ่งธุรกิจยิ่งพึ่งพาโครงสร้างเวอร์ชวลมาเท่าไรในการดำเนินธุรกรรมสำคัญประจำวัน การป้องกันโครงสร้างเหล่านี้ก็ยิ่งต้องได้รับความสำคัญมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

อย่างไรก็ดี การสำรวจยังแสดงผลว่าธุรกิจต่างกังวลว่าการป้องกันดังกล่าวจะมากระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน อันที่จริงแล้ว 39% เห็นด้วยว่าการนำระบบความปลอดภัยมาใช้บนโครงสร้างเวอร์ชวลนั้นทำให้ทำงานได้ช้าลง ซึ่งแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ยังเป็นเรื่องใหญ่ของหลายธุรกิจ ซึ่งมี 55% ที่รายงานว่า ประสิทธิภาพการทำงานของเวอร์ชวลไลซ์เซิร์ฟเวอร์นั้นเป็นหัวใจหลักของธุรกิจของตน





ธุรกิจที่เลือกทูลผิดเป็นเหตุให้โครงสร้างเวอร์ชลทำงานช้าลง

ความปลอดภัยของระบบการใช้เวอร์ชวลไลเซชั่นได้เดินทางมาถึงทางแยก: “ประสิทธิภาพการทำงาน” และ “ความปลอดภัย” ต่างเป็นหัวใจหลักของโครงสร้างเวอร์ชวล แต่การเพิ่มความปลอดภัยมักจะมากับการต้องสละประสิทธิภาพการทำงาน อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจยังชี้ถึงสาเหตุที่ทำให้การขยายตัวของเวอร์ชวลเน็ตเวิร์กช้าลง:

                1)   46% ของผู้ตอบการสำรวจเชื่อว่า “สภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวลสามารถที่จะปกป้องได้ด้วยโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยแบบดั้งเดิม ออกแบบเพื่อป้องกันระบบทางกายภาพ”

                2)   24% ของผู้ตอบการสำรวจเชื่อว่า “โซลูชั่นแอนตี้มัลแวร์ที่ใช้งานอยู่มีประสิทธิภาพการป้องกันและการทำงานเหนือชั้นกว่าโซลูชั่นจากผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ”

ประเด็นเหล่านี้ล้วนชี้ถึงความเชื่อทั่วไปว่าแอนตี้มัลแวร์ที่ออกแบบสำหรับปกป้องเอ็นด์พอยต์ทางกายภาพนั้นสามารถที่จะให้การปกป้องเช่นเดียวกันต่อเวอร์ชวลเน็ตเวิร์ก อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้ก็ได้ชี้ให้เห็นด้วยว่าบรรดาผู้บริหารจัดการด้านไอทีนั้นพลาดเรื่องประสิทธิภาพการทำงานที่จะตกลงเมื่อใช้โซลูชั่นด้านความปลอดภัย ความเข้าใจโดยทั่วไปเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่ตกลงจากการใช้ระบบความปลอดภัยสำหรับลงบนเครื่องแบบดั้งเดิมบนเวอร์ชวลแมชชีนนั้นอาจเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันระบบความปลอดภัยบนโครงสร้างเวอร์ชวลทั่วโลก จากการทดสอบโดยสถาบัน AV-Test หน่วยงานอิสระด้านระบบความปลอดภัย พบว่าประสิทธิภาพต่างไปเมื่อนำซิเคียวริตี้ซอฟต์แวร์ออกแบบมาเพื่อใช้กับเครื่องเอ็นด์พอยต์มาใช้ป้องกันเครื่องเวอร์ชวล

การศึกษาทดสอบนี้ได้เปรียบเทียบผลของซอฟต์แวร์เพื่อความปลอดภัย “แบบดั้งเดิม” สองตัว โดยใช้ซอฟต์แวร์เอเจนต์ลงบนเครื่องแบบเวอร์ชวลแต่ละตัว เพื่อเปรียบเทียบกับกับเอเจนต์จากแคสเปอร์สกี้ แลป ซึ่งย้ายหน้าที่ด้านป้องกัยความปลอดภัยออกจากเอนด์พอยน์มาอยู่บนอุปกรณ์ต่างหาก โซลูชั่นทั้งสองตัวทำงานได้เหมือนกันเมื่อทำหน้าที่แอนตี้ไวรัสพื้นฐาน แต่ต่างกันเมื่อขนาดของงานเพิ่มขึ้นจนมีขนาดใหญ่ พบว่าโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยของเอ็นด์พอยต์แบบเดิมใช้เวลานาน ในบางกรณีนานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว ในการทำงานประมวลเวอร์ชวลเดสก์ทอปที่บูทขึ้นมาหลายงานในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นปกติที่ผู้จัดการไอทีทุกองค์กรต้องเผชิญตอนแปดโมงเช้าเวลาเข้างาน การทดสอบยังพบว่า มาตรการความปลอดภัย “แบบเก่า” ใช้ทรัพยากรระบบไปถึง 40% - 65% มากกว่าโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยของระบบเวอร์ชวลของแคสเปอร์สกี้ แลปเมื่อถึงคราวต้องปกป้องเครื่องหลายๆ เครื่องพร้อมกัน

แคสเปอร์สกี้ แลป เชื่อว่า ไม่มีโซลูชั่นใดที่สามารถทำหน้าที่ปกป้องได้ทุกอย่างในหนึ่งเดียว “one size fits all” สำหรับสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวล แบบรวมลูกผสมสไตล์ต่างๆ เช่น เอเจนต์เบส ไลท์เอเจนต์ หรือแบบไม่ใช้เอเจนต์นั้นน่าจะตอบโจทย์ความจำเป็นของธุรกิจแต่ละประเภทได้ดีกว่า ผู้บริหารควรที่จะต้องศึกษาหาความข้อมูลเกี่ยวกับโซลูชั่นที่รองรับทั้งการป้องกันและไม่ขัดต่อประสิทธภาพการทำงานสำหรับองค์กรของตน  และสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับโซลูชั่นเพื่อระบบเวอร์ชวลไลเซชั่นของแคสเปอร์สกี้ แลปได้ที่ Virtualization Security Product Page www.kaspersky.com/business-security/virtualization


ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ประสานงานประชาสัมพันธ์

•   2014 IT Security Risks for Virtualization summary report
http://media.kaspersky.com/en/IT_Security_Risks_Survey_2014_Virtualization_report.pdf
•   Virtualization Security Product Page
•   http://www.kaspersky.com/business-security/virtualization


เกี่ยวกับแคสเปอร์สกี้ แลป

แคสเปอร์สกี้ แลป บริษัทเอกชนผู้ให้บริการโซลูชั่นเพื่อการปกป้องคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ติดอันดับหนึ่งในสี่ผู้ให้บริการโซลูชั่นเพื่อการปกป้องผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แคสเปอร์สกี้ แลป ยังคงอยู่ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยทางไอทีมายาวนานกว่า 16 ปี และนำเสนอโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพแก่องค์กรขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม รวมถึงผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป แคสเปอร์สกี้ แลป จดทะเบียนบริษัทในสหราชอาณาจักร ปกป้องผู้ใช้กว่า 300 ล้านคน กว่า 200 ประเทศทั่วโลก รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคสเปอร์สกี้ แลป โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kaspersky.com