MSN on August 05, 2014, 02:31:09 PM
KTAMขายตราสารหนี้3กองทุนชู6เดือน2.60%

นางชวินดา  หาญรัตกูล   กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)    เปิดเผยว่า  สัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการ  จำนวน 3  กองทุน  ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 122 ( KTSUPB122 )  เสนอขายวันที่ 6-13  สิงหาคม 2557 อายุ 6 เดือน  มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท   เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประมาณ 75%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน   ประกอบด้วย เงินฝาก  Bank of  China    , เงินฝาก  China Construction  Bank  ,  MTN ออกโดย  Banco  BTG  Pactual S.A  , MTN ออกโดย  Banco ABC ( Brasil )     ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ  ประเภท หุ้นกู้  ตั๋วแลกเงินสถาบันการเงิน  บริษัทเอกชน   ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ  2.60%   ต่อปี

ส่วนอีก2 กองทุน  บริษัทเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over)  สำหรับ กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3 เดือน 2 (KTSIV3M2)   อายุ 3 เดือน   เสนอขายถึงวันที่  8  สิงหาคม 2557   ลงทุนตราสารหนี้ของภาคเอกชน  82% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารออมสิน ผลตอบแทนประมาณ 2.35% ต่อปี     และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6เดือน5(KTSIV6M5)  เสนอขายวันที่ 7-15 สิงหาคม 2557  อายุ6 เดือน   ลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชน 85% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ส่วนที่เหลือลงทุนเงินฝากธนาคารออมสิน  ผลตอบแทนประมาณ 2.40% ต่อปี   

สำหรับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น  โดยเฉพาะในช่วงอายุ 3-8 ปี จากแรงขายของนักลงทุนในประเทศ เพื่อปรับพอร์ต  หลังจากการที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งระยะเวลา 8 ปี วงเงินลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท  การชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 basis point (bps.) มาอยู่ที่ 2.39% ต่อปี อายุ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps.มาอยู่ที่ 3.12% ต่อปี อายุ 8 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 bps.มาอยู่ที่ 3.51% ต่อปี และอายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.64% ต่อปี

ด้านเศรษฐกิจในประเทศ  ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. โดยรวมแล้วส่งสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่อง การบริโภค-การลงทุนภาคเอกชนหดตัว ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวปรับลดลงถึง 14.1%MoM   ซึ่งเป็นผลกระทบจากเคอร์ฟิวซึ่งมีผลบังคับใช้ในขณะนั้น  ถูกยกเลิกในช่วงปลาย มิถุนายน  ฝ่ายวิจัยของบลจ.  กรุงไทย เชื่อว่าทิศทางอุปสงค์ก็น่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นในเดือนถัดๆ ไปจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อการดำเนินงานของ คสช. ตามโรดแมพที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ การแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะนำมาสู่การเลือกนายกฯ มาบริหารประเทศ และผลักดันโครงการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาทให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การส่งออกที่ยังคงไม่ดี  และระดับสินค้าคงคลังที่ยังคงอยู่ในระดับสูงน่าจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่สำคัญในช่วงถัดไป ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้มีการปรับประมาณการเติบโตในปีนี้ลงเหลือ 2.0% จาก 2.6% ขณะที่บลจ.  กรุงไทยยังคงมองการเติบโตเพียง 1.1% เท่านั้นในปีนี้ แต่ในปีหน้ามองการเติบโตสูงในระดับกว่า 5%
« Last Edit: August 05, 2014, 02:34:24 PM by MSN »