บลจ.บัวหลวง เตรียมเสนอขายกองทุนอสังหาฯ ทีโลจิส ชูจุดเด่นเป็นเจ้าของคลังสินค้าทันสมัย มั่นคงด้วยการรับประกันรายได้ค่าเช่า
บลจ.บัวหลวงเตรียมขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ หรือทีโลจิส (TLOGIS) ภายในเดือน พ.ย.52 นี้ เผยขนาดกองทุนประมาณ 1.5 พันล้านบาท ลงทุนในคลังสินค้าทันสมัย 2 ทำเลทอง ได้แก่ โครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค วังน้อย อยุธยา ที่เป็นจุดกระจายสินค้าสำคัญไปยังภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ โครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค บางนา ใกล้สุวรรณภูมิและมอเตอร์เวย์ ชูจุดเด่นเป็นเจ้าของทรัพย์สินด้วยการเข้าลงทุนแบบซื้อขาดหรือ Freehold ขณะที่มีความมั่นคงด้วยการรับประกันรายได้ค่าเช่าขั้นต่ำเป็นเวลาถึง 7 ปี ระบุนอกจากจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพแล้ว คลังสินค้ายังใหม่ มีมาตรฐานสูง ทันสมัย ภายใต้การบริหารจัดการโดยมืออาชีพที่มีประสบการณ์
นาง วรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทีพาร์ค โลจิสติคส์ หรือทีโลจิส(TLOGIS) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บลจ.บัวหลวง กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทีพาร์ค โลจิสติคส์ หรือ TLOGIS ขนาดกองทุนประมาณ 1,535 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้ โดยกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในกรรมสิทธิที่ดินและคลังสินค้าใน 2 โครงการ ด้วยการซื้อทรัพย์สินจากบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด ประกอบด้วยคลังสินค้าในโครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา บนที่ดินจำนวน 48-3- 32 ไร่ และคลังสินค้าทั่วไป และคลังสินค้าในเขตปลอดอากร (Custom Free Zone) ของโครงการเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ ทีพาร์ค บางนา บนที่ดินจำนวน 41-1- 80 ไร่
สำหรับจุดเด่นของกองทุนดังกล่าวอยู่ที่การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่ดินและสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุน ซึ่งในระยะยาวมีโอกาสที่มูลค่าจะสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน จากการเพิ่มของราคาที่ดิน และค่าเช่าที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากโครงการทั้ง 2 แห่ง อยู่ในทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูง ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ TLOGIS นั้น ได้รับการป้องกันความเสี่ยงด้วยการรับประกันรายได้ขั้นต่ำโดยผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 7 ปี และจะมีการวางหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์เป็นหลักประกันเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนอีกชั้นหนึ่งด้วย
“สินทรัพย์ที่เราเข้าไปลงทุนถือว่าอยู่ในทำเลที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นที่ทีพาร์ควังน้อย ซึ่งอยู่ริมถนนพหลโยธินใกล้ทางขึ้นลงถนนวงแหวนตะวันออกและตะวันตก ซึ่งปัจจุบันเป็นเขตคลังสินค้าสำหรับการกระจายสินค้าไปภาคกลาง เหนือ และอีสาน หรือที่ทีพาร์คบางนา ริมถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนบางนา-ตราด ถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และเขตอุตสาหกรรมสำคัญ ขณะที่ลักษณะของคลังสินค้าก็เป็นสไตล์โมเดิร์น ทันสมัยเหมาะสำหรับระบบการขนส่งในปัจจุบัน ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของคลังสินค้าแบบเดิมๆ ด้วยการออกแบบให้รถคอนเทนเนอร์สามารถจอดเทียบได้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการขนถ่ายสินค้าอันจำเป็นสำหรับธุรกิจโลจิสติคส์ พื้นรับน้ำหนักต่อตารางเมตรได้สูงถึง 3-5 ตัน และมีเพดานสูงที่สามารถบรรจุสินค้าได้ปริมาณมาก ทำให้ต้นทุนในการเก็บสินค้าต่อตารางเมตรต่ำลง ด้วยปัจจัยเหล่านี้คลังสินค้ามีโอกาสปรับราคาค่าเช่าต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต โดยปัจจุบันมีผู้เช่าหลายรายที่มีแนวโน้มจะขยายพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น” นางวรวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ด้วยความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง ศักยภาพของทรัพย์สิน และการบริหารจัดการโดยมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานอย่าง บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้มั่นใจว่า กองทุนดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
