KTAMขายตราสารหนี้ 1 ปีชู 3.05%ต่อปี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้นหรือระยะยาว โดยกองทุนเปิดกรุงไทย ฟิกซ์อินคัม 13 (KTFI13 ) เสนอขายวันที่ 16 - 22 กรกฎาคม 2557 อายุ 12 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศ ประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China , เงินฝากประจำ China Construction Bank , ECP ค้ำประกันโดย SBER Bank of Russia ,ECP ค้ำประกันโดย JSC VTB BANK , ECP ค้ำประกันโดย Gazprombank OJSC ในสัดส่วน 76% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนใน หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงินและบริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.05% ต่อปี และเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 4 (KTSIV6M4 ) เสนอขายถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทตราสารหนี้ภาคเอกชน 57% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคาร ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.40% ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตลาดตราสารหนี้ เริ่มทยอยปรับลดลงโดยเฉพาะในตราสารระยะกลางถึงยาว สำหรับตราสารหนี้ภาครัฐรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี อัตราผลตอบแทนซื้อขายอยู่ในช่วง 2.00 – 2.14% ต่อปี โดยแรงซื้อส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างประเทศ ส่วนตราสารระยะกลางถึงยาวเป็นนักลงทุนในประเทศที่เป็นผู้ซื้อขายหลัก
สำหรับตลาดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดแกว่งตัวเข้าใกล้ระดับ 32.12 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ระดับ 32.08 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ สาเหตุสำคัญเกิดจากกระแสเงินลงทุนไหลเข้าในภูมิภาค และหลังจากค่าเงินบาททะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 32.35-32.40 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้มีแรงเร่งซื้อเงินบาทเพื่อปิดสถานะ ทิศทางดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้ค่าเงินบาทในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าแข็งค่าขึ้น