happy on June 23, 2014, 08:46:34 PM

8 เทคนิคเพื่อประสบการณ์ช้อปออนไลน์แบบสบายใจ
จากราคูเท็นตลาดดอทคอม

ด้วยความนิยมในการช้อปปิ้งออนไลน์ในหมู่คนไทยขยายวงกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 2 ปัจจัยสำคัญที่เร่งเครื่องอย่างอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ถูกเปรียบเทียบให้เป็นเสมือนปัจจัยที่ 5 ของชีวิตผู้คนในเมือง บวกกับ อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีให้เลือกอย่างหลากหลายมากขึ้นครอบคลุมทุกระดับราคา จนกลายเป็นที่มาของอัตราการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซขยับตัวสูงขึ้นกว่า 30% ต่อปี “ราคูเท็น (Rakuten)” หนึ่งในผู้นำด้านตลาดออนไลน์ของโลกและผู้เป็นเจ้าของราคูเท็นตลาดดอทคอม (Rakuten TARAD.com) ในประเทศไทย ได้รวบรวมเอา 8 เทคนิคสำหรับนักช้อปออนไลน์ เพื่อประสบการณ์ช้อปปิ้งซื้อสินค้าออนไลน์อันน่าพึงพอใจทุกครั้งที่ช้อปออนไลน์ ใน 8 แง่มุมดังนี้

                1.       ช้อปออนไลน์ผ่านอุปกรณ์ส่วนตัว เพิ่มความปลอดภัยให้ข้อมูลสมาชิกตลอดจนข้อมูลการชำระเงินของคุณได้ง่ายๆแค่หลีกเลี่ยงทำรายการช้อปออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์สาธารณะ ปัจจุบันนี้ เว็บไซต์ช้อปออนไลน์ชั้นนำหลายๆรายรวมถึง ราคูเท็นตลาดดอทคอมเองนั้นถูกออกแบบให้เป็นหน้าเว็บที่รองรับทุกรูปแบบหน้าจออุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้อัตโนมัติไม่ว่าคุณจะช้อปออนไลน์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บเล็ต

                2.       ดูรายละเอียดให้ถี่ถ้วนแน่ใจก่อนคลิกซื้อ นักช้อปออนไลน์มืออาชีพต้องไม่ลืมที่จะเลื่อนเมาส์ลงอ่านข้อมูลสินค้าอย่างถี่ถ้วนก่อนคลิกสั่งซื้อ นอกเหนือจากราคาสินค้า ไม่ว่าจะเป็น ชื่อรุ่น สี ไซส์ น้ำหนัก คุณสมบัติ การรับประกันและแหล่งที่มาของสินค้า อาทิ ประกันครอบคลุมศูนย์บริการในเมืองไทยหรือไม่ หรือ วันหมดอายุและวันที่ผลิตสำหรับสินค้าเพื่อการบริโภค หากเป็นไปได้ ควรมองหาช่องทางการซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ซึ่งมักจะมีนโยบายการันตีคืนเงินกรณีไม่ได้รับสินค้า หรือ กรณีสินค้าที่ได้รับบกพร่องด้านคุณภาพ เขียนไว้บนเว็บไซต์อย่างชัดเจน เพื่อมอบความเชื่อมั่นและความคุ้มครองแก่ผู้บริโภค

                3.       ทำความรู้จักร้านค้าออนไลน์ ดูตัวตนและความน่าเชื่อถือของร้านค้า การซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีหน้าโฮมเพจเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบ นอกเหนือจากจะอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆให้แก่ลูกค้าได้มากกว่าแล้ว ยังเป็นส่วนสะท้อนความตั้งใจในการทำธุรกิจออนไลน์ได้เป็นอย่างดี เพราะการช้อปปิ้งซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ที่มีหน้าร้านเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ช่วยยืนยันได้ถึงตัวตนและแหล่งที่มาของสินค้าได้ ตลอดจน วันที่เริ่มเปิดร้านค้า จำนวนสินค้า และการบริการหลังการขาย เป็นต้น

                4.       เลือกรูปแบบการชำระเงินที่ตรงสไตล์คุณ การช้อปปิ้งผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบนั้นมักจะมีบริการชำระเงินที่หลากหลายรองรับความต้องการของลูกค้าไว้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตของธนาคารต่างๆ การชำระเงินสดปลายทางเมื่อสินค้าส่งถึงมือ (Cash on Delivery)  หรือ อาจเลือกชำระผ่านช่องทางออฟไลน์ที่คุ้นเคยอย่างเครื่องเอทีเอ็ม หรือ จุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่างๆ ด้วยการสั่งพิมพ์เอกสารแล้วนำไปชำระด้วยบาร์โค้ด

                5.       สำรวจโปรโมชั่นให้ครบแบบนักช้อปมือโปร จากหน้าฟีด (Feed) สินค้าที่คุณสนใจบนโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ หากมีลิงก์ให้คลิกกลับมาที่หน้าร้านค้าบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเมื่อไหร่ อย่าลืมมองหาโปรโมชั่นเสริม ซึ่งโดยปกติแล้วเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้า อาทิ โค้ดส่วนลดพิเศษ ของแถม คูปองต่างๆ ตลอดจน ทางเลือกในการผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิตจากธนาคารต่างๆ ซึ่งยิ่งตอกย้ำได้ดีว่าเหตุใดบัตรเครดิตจึงเป็นรูปแบบการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกนิยม เพราะไม่เพียงมีโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ แต่สถาบันการเงินยังทำหน้าที่เป็นคนกลางทำหน้าที่พยานยืนยันการชำระเงิน พร้อมระบุวันและเวลาอย่างชัดเจนได้อีกด้วย

                6.       สมัครสมาชิกก่อนซื้อเพื่อสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า หากพบว่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซดังกล่าวมีระบบสมาชิกให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งช่วยให้นักช้อปสามารถติดต่อสื่อสารกับร้านค้าหรือเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกฉับไวเพียงแค่อ้างอิงข้อมูลหรือหมายเลขสมาชิก นอกจากนี้ การมีระบบสมาชิกย่อมหมายสิทธิประโยชน์ที่มากกว่าเฉพาะสมาชิกที่แลกมาด้วยระยะเวลาการสมัครไม่กี่นาที อาทิ  เว็บไซต์ราคูเท็นมีการออกแบบโปรแกรมสมาชิกเพื่อให้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่าแก่นักช้อปออนไลน์จากทั่วโลก โปรแกรมสะสมแต้มทุกยอดการซื้อครบ 100 บาทบนเว็บไซต์ราคูเท็นตลาดดอทคอม มอบแต้มสะสม “ราคูเท็น ซูเปอร์พอยท์ (Rakuten Super Points)” 1 แต้มสำหรับใช้แทนเงินสด 1 บาทในการซื้อครั้งต่อไป รวมถึง ส่วนลดเพิ่มเติมเฉพาะสมาชิก และสิทธิพิเศษอื่นๆ

                7.       รอรับสินค้าอย่างไรสบายใจหลังช้อป ภายหลังจากทำรายการสั่งซื้อสินค้าพร้อมชำระเงินเสร็จสิ้นก็เข้าสู่ระยะเวลาการรอคอย โดยปกติระยะเวลาการส่งสินค้ามีตั้งแต่ 1-7 วันขึ้นอยู่กับรูปแบบการชำระเงินและการส่งสินค้าที่ท่านเลือก อาทิ ท่านที่เลือกชำระเงินด้วย Cash on Delivery เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการใช้สินค้าโดยด่วนและพร้อมชำระเงินปลายทางได้ในวันทำการถัดไป เป็นต้น หากยังไม่ได้รับสินค้าภายในระยะเวลาดังกล่าว ได้เวลาที่นักช้อปควรเข้าไปตรวจสอบสถานะการสั่งซื้อบนระบบ หรือ เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ เปิดเราให้สามารถติดต่อร้านค้าหรือผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆได้มากมาย ทั้ง Facebook Twitter รวมถึงการส่งอีเมล เพื่อลดเวลาการรอคอย และ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจากการโทรศัพท์ไปสอบถาม

                8.       รีวิวหรือให้คะแนนร้านค้าหลังช้อป จะดีแค่ไหนหากนักช้อปออนไลน์สามารถเห็นคำยืนยัน/คำแนะนำจากนักช้อปท่านอื่นๆให้มั่นใจก่อนช้อป ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสมัยใหม่จึงให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นรีวิวร้านค้า เพื่อสร้างความมั่นใจในการช้อปสินค้าในรูปแบบของการบอกต่อ ทำให้นักช้อปออนไลน์ทุกคนมีส่วนช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ให้กับเพื่อนนักช้อปด้วยกัน ด้วยการให้ความเห็นต่อร้านค้าบนบริการรีวิวร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำ คำติชมร้านค้า หรือแม้แต่รีวิวสินค้าที่ประทับใจ

« Last Edit: June 23, 2014, 08:49:22 PM by happy »