happy on June 06, 2014, 03:46:33 PM
งานเปิดตัว “โครงการทุ่งกระเจียวบาน จักสานท้องถิ่น กลิ่นอายอีสาน”


               คุณพรทิพย์ อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการ เพ ลา เพลินบูทิครีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์แคมป์ จัดงานเปิดตัว “โครงการทุ่งกระเจียวบาน จักสานท้องถิ่น กลิ่นอายอีสาน” ภายในงานได้รับเกียรติร่วมงานจาก (จากซ้าย) คุณหญิงเยาวรัตน์ เตชะเวศ, ท่านผู้หญิงสุวรรณี พัฒน์พงษ์พานิช, จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม, อาจารย์ พิทักษ์ หังสาจะระ และ คุณชนิดา อัษฎาธร เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2557 ณ  อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี


คุณพรทิพย์ อัษฎาธร

               ปัจจุบันอุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้รวบรวมดอกกระเจียวและปทุมมาไว้มากกว่า 40 สายพันธุ์ ซึ่งจัดเป็นเทศกาล “สยามทิวลิป” (Siam Tulip Festival) ไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวในหน้าฝนนี้ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2557










เทศกาลสยามทิวลิป ณ The Flora@Play La Ploen
ทุ่งดอกกระเจียวบาน ความงดงามแห่งไม้ดอกสยาม ถิ่นอีสานใต้

               หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวอันเลื่องชื่อ ความงดงามแห่งไม้ดอกสยาม ถิ่นอีสานใต้ คงพลาดไม่ได้สำหรับ เทศกาลสยามทิวลิป ณ The Flora@Play La Ploen ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2557 ณ อุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ชวนเพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกกระเจียวบาน จักสานท้องถิ่น กลิ่นอายอีสาน ประทับใจโชว์อลังการไม้ดอกชวนละลานตา

               เพ ลา เพลินบูทิครีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์แคมป์ (Play La Ploen Boutique Resort & Adventure Camp) และโครงการอุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน (The Flora@Play La Ploen) จังหวัดบุรีรัมย์ นับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในชั่วโมงนี้ ที่เน้นคอนเซป “JOURNEY WITH PLAY LA PLOEN” กับการตกแต่งรีสอร์ทในสไตล์ที่หลากหลายไม่ซ้ำกันในแต่ละห้องพัก ด้วยกลิ่นอายและบรรยากาศแบบเอเชีย ที่ดึงเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ มาตกแต่งไว้ในห้องพักโซนเอเชีย และกลิ่นอายตะวันตกในโซนยุโรป  และโซนแอดเวนเจอร์แคมป์ที่จำลองสถานที่ท่องเที่ยวดังระดับโลกมาไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น หอเอนปิซ่า, กำแพงเมืองจีน, สะพานทาวเวอร์บริดจ์ หรือแม้แต่บรรยากาศงานวัดจำลอง ที่มีเครื่องเล่นแบบงานวัดครบครัน และยังมีแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรเต็มรูปแบบ  ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสและเรียนรู้ ตื่นตาใกล้ชิดกับธรรมชาติไปกับไร่องุ่น, ไร่เสาวรส, อะโวกาโด, ฟักทองหวานญี่ปุ่น หรือข้าวโพดหวาน ชวนเพลิดเพลินไปกับสัตว์นานาชนิดและเหล่าอัลปาก้าน้อยน่ารัก  เรียกได้ว่ามาที่นี่คุณจะได้เพลิดเพลินและได้ความรู้อย่างไม่มีวันจบสิ้น พร้อมพักผ่อนในบรรยากาศความสวยงามของดอกไม้เคล้าคลอดนตรีอันไพเราะจากชมรมดนตรีนักศึกษาลูกหลานบ้านอีสาน อิ่มอร่อยไปกับอาหารรสเลิศนานาชนิดและโชว์กิจกรรมมากมาย

               สำหรับทุ่งดอกกระเจียวของที่นี่ ครั้งหนึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการรวบรวมสายพันธุ์ดอกกระเจียว ทำให้ “โครงการกระเจียวคืนถิ่น” ของศูนย์การเรียนรู้ การเกษตร อุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน ถือกำเนิดขึ้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมสายพันธุ์ดอกกระเจียวนานาชนิดคืนสู่ถิ่นอีสานใต้ และที่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาเกษตรทางเลือก จากผลงานวิจัยอันทรงคุณค่าที่มีชื่อดังไปถึงต่างแดน และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศนำรายได้สร้างเม็ดเงินสู่ประเทศไทยมหาศาลกว่า 200 ล้านบาทต่อปี

               ปัจจุบัน ทางโครงการฯ ได้รวบรวมดอกกระเจียวและดอกปทุมมา ไว้มากกว่า 40 สายพันธุ์ โดยจำแนกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มปทุมรัตน์, บัวลาย, บัวตื้น และปทุมมา ซึ่งในช่วงแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2557 เป็นฤดูกาลที่ดอกกระเจียวจะบานสะพรั่งพร้อมกัน เป็นภาพบรรยากาศที่งดงามชวนให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ทางโครงการอุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน จึงจัดงานเทศการปทุมมาสยาม (Siam Tulip Festival) โดยร้อยเรียงเรื่องราวชวนประทับใจผ่านโชว์อลังการไม้ดอกชวนละลานตา ให้เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกกระเจียวบาน และกิจกรรมสนุกสนาน ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศตื่นตาของรีสอร์ท  ณ Play La Ploen Boutique Resort & Adventure Camp) และ The Flora@Play La Ploen อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์

               สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพัก ติดต่อ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด โทร. 087-799-4936, 087-798-1039, 087-797-6425 หรือ www.playlaploen.com

Facebook: PlayLaPloen
Instagram: playlaploen


“โครงการกระเจียวคืนถิ่น”
ความงดงามจากผลงานวิจัยสู่การพัฒนาดินแดนถิ่นอีสานใต้

               ครั้งหนึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการรวมรวบสายพันธุ์ดอกกระเจียว ทำให้ “โครงการกระเจียวคืนถิ่น” ของศูนย์การเรียนรู้ การเกษตร อุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน ถือกำเนิดขึ้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมสายพันธุ์ดอกกระเจียวนานาชนิดคืนสู่ถิ่นอีสานใต้ และที่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาเกษตรทางเลือก จากผลงานวิจัยอันทรงคุณค่าที่มีชื่อดังไปถึงต่างแดน และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศนำรายได้สู่ประเทศไทยได้กว่า 200 ล้านบาทต่อปี

               ด้วยความตั้งใจจริงในการนำกระเจียวคืนสู่อีสานใต้และพัฒนาเป็นเกษตรทางเลือก คุณพรทิพย์ อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการ เพ ลา เพลินบูทิครีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์แคมป์ (Play La Ploen Boutique Resort & Adventure Camp) และโครงการอุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน (The Flora@Play La Ploen) จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ร่วมกับ อาจารย์ สืบศักดิ์ เสนาวงศ์ นักวิจัยไม้ดอกและที่ปรึกษาโครงการฯ ริเริ่มทำงานวิจัยดอกกระเจียวหลากหลายสายพันธุ์และได้นำมาปลูกไว้ที่ อุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน เป็นระยะเวลาหลายปี จากผลงานวิจัยอันทรงคุณค่า ทำให้ดอกกระเจียวของประเทศไทยมีชื่อดังไปถึงประเทศ สามารถส่งออกและทำรายได้สู่ประเทศไทยกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นอันดับสองรองจากกล้วยไม้ ทำให้ที่นี่นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้การเกษตรทางเลือกครบวงจรอีกด้วย

               สำหรับกระเจียวและปทุมมา เป็นไม้หัวเขตร้อนวงศ์ขิง ที่ถูกค้นพบในป่าแถบอีสานใต้มาเป็นเวลากว่า 4 ทศวรรษ ซึ่งต่อมาได้นำไปทดลองปลูกเลี้ยงและเผยแพร่พันธุ์แก่เกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จนสามารถสร้างรายได้ในการส่งออกหัวพันธุ์ไปยังต่างประเทศเป็นเม็ดเงินมหาศาล โดย “โครงการกระเจียวคืนถิ่น” ณ ศูนย์การเรียนรู้ การเกษตร อุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน มีแนวคิดในการจัดทำแปลงสาธิตการผลิตและรวบรวมสายพันธุ์กระเจียวและปทุมมาชนิดต่างๆ เพื่อให้ ศูนย์การเรียนรู้ การเกษตร อุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เยาวชนและเกษตรกรแบบครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก, การดูแลรักษา, การเก็บเกี่ยว และการนำไปใช้ประโยชน์ในแง่ของการตกแต่งและประดับสถานที่ รวมไปถึงการสร้างองค์ความรู้นอกห้องเรียน

               ปัจจุบัน ทางโครงการฯ ได้รวบรวมดอกกระเจียวและดอกปทุมมา ไว้มากกว่า 40 สายพันธุ์ จำนวนประมาณ 100,000 หัว โดยจำแนกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มปทุมรัตน์, บัวลาย, บัวตื้น และปทุมมา ซึ่งในช่วงแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2557 เป็นฤดูกาลที่ดอกกระเจียวจะบานสะพรั่งพร้อมกัน เป็นภาพบรรยากาศที่งดงามชวนให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ทางโครงการอุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน จึงจัดงานเทศการปทุมมาสยาม (Siam Tulip Festival) โดยร้อยเรียงเรื่องราวชวนประทับใจผ่านโชว์อลังการไม้ดอกชวนละลานตา ให้เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกกระเจียวบาน และกิจกรรมสนุกสนาน ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศตื่นตาของรีสอร์ท  ณ Play La Ploen Boutique Resort & Adventure Camp) และ The Flora@Play La Ploen อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์

               สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพัก ติดต่อ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด โทร. 087-799-4936, 087-798-1039, 087-797-6425 หรือ www.playlaploen.com

Facebook: PlayLaPloen
Instagram: playlaploen


เกี่ยวกับโครงการกระเจียวคืนถิ่น
     1.ประวัติและความเป็นมา


               ชาวบ้านย่านถ้ำขุนตาน จังหวัดลำปาง ได้รู้จักนำดอกไม้ชนิดนี้ ซึ่งเป็นพุ่มช่อสีส้มสดใสใช้ประดับมานานแล้ว  ดังที่เห็นได้จากการที่ชาวบ้านเร่ขายตามสถานีรถไฟและจุดพักรถในช่วงฤดูฝน  ซึ่งดอกไม้ชนิดนี้คือ “กระเจียว” ภายหลังมีชื่อเรียกเฉพาะว่า “ฉัตรทอง”

               ในเวลาต่อมาพระยาวินิจวนันดร  นักธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของไทยในอดีต  ได้พบความงามของดอกไม้พื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของไทยชนิดหนึ่ง ซึ่งมีชื่อพื้นเมืองว่า “กระเจียวบัว” จึงได้นำต้นพืชดังกล่าวไปถวายแด่พระวินัยโกศล  แห่งวัดเจดีย์หลวง  จังหวัดเชียงใหม่  กระเจียวบัวจึงถูกเรียกชื่อ “ปทุมมาท่าน้อง” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “บัวสวรรค์” และเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ว่า “ประทุมมา”

               และนับเป็นเรื่องที่โชคดีของประเทศไทยอย่างมากที่ อาจารย์ดร.พิศิษฐ์ วรอุไร ปราชญ์ด้านไม้ดอกไม้ประดับของไทยได้เล็งเห็นศักยภาพของต้นไม้ชนิดนี้ที่มีคุณลักษณะสวยงามและโดดเด่น เมื่อรับมอบมาจากพระวินัยโกศล  ด้วยอัจฉริยภาพของท่านที่มองการณ์ไกลได้ทำให้ศักยภาพของปทุมมา เริ่มถูกพัฒนาขึ้น  โดยดร.พิศิษฐ์ ได้นำปทุมมาขึ้นไปปลูกยังพื้นที่วิจัยของโครงการหลวงบริเวณห้วยทุ่งจ๊อ  จังหวัดเชียงใหม่ ในราวปี พ.ศ.2519 ภายหลังปทุมมาต้นดังกล่าวได้ถูกขยายพันธุ์และนำมาปลูกในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดเชียงใหม่  จนถูกเรียกภายหลังว่าเป็นพันธุ์ “เชียงใหม่พิงค์” ในเวลาต่อมา

               ประมาณปี พ.ศ. 2528 เริ่มมีการตัดดอกและผลิตหัวพันธุ์ประทุมมามากขึ้น ชาวต่างชาติเริ่มเล็งเห็นความสวยงามของพืชชนิดนี้ และมีความสนใจที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในแบบไม้กระถาง จึงมีการส่งออกหัวพันธุ์พืชชนิดนี้สู่ต่างประเทศซึ่งได้แก่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่ริเริ่มเป็นลำดับต้นๆ คือ คุณอุดร คำหอมหวาน นักพืชสวนอิสระ ผู้มากความสามารถและประสบการณ์จากรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ส่งไม้ตัดดอกและหัวพันธุ์ชุดแรกไปประเทศญี่ปุ่น  และเป็นผู้ให้นิยามคำว่า “สยามทิวลิป”  (Siamese  tulip) ที่บ่งบอกถึงที่มาของคำว่า “สยาม” ที่มีความหมายเก่า เพื่อให้ต่างชาติทราบว่าเป็นสมบัติของไทยแต่โบราณ  ออกเผยแพร่สู่สายตาของชาวโลก (สุรวิช.2539)
« Last Edit: June 06, 2014, 04:43:45 PM by happy »

happy on June 06, 2014, 04:42:22 PM
3.   ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และสัณฐานวิทยา  ( อดิสร. 2539)

               ปทุมมา  เป็นพืชที่อยู่ในวงค์ขิง (Zingiberaceae) สกุลขมิ้น (Curcuma)  มีถิ่นกำเนิดแถบอินโดจีน เช่นพม่า, ไทย, ลาว และเขมร เป็นต้น สำหรับประเทศไทย คนไทยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือรู้จักกันดี ในช่วงฤดูฝนพืชสกุลขมิ้นจะมีการเจริญเติบโตและออกดอกในช่วงฤดูฝนซึ่งสามารถนำดอกมารับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริกและยังเป็นพืชสมุนไพร

               [ปทุมมาเป็นไม้หัวล้มลุกอายุหลายปีมีลำต้นใต้ดินแบบเหง้า อยู่ในวงศ์ขิง(Zingiberacae) สกุลขมิ้น (Curcuma) พืชในสกุลนี้มีอยู่ไม่น้อยกว่า 70 ชนิด โดยมีอยู่ในประเทศไทยประมาณ 30 ชนิด กระจายพันธุ์อยู่ทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยอาจพบในทุ่งหญ้าป่าละเมาะหรือป่าชื้นแหล่งพันธุกรรมที่ยังคงพบเห็นได้ในปัจจุบัน คือ บริเวณป่าหินงาม  อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิจะจัดงานทุ่งกระเจียวบานในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมของทุกปี พืชสกุลขมิ้นนั้นมีความหลากหลายของลักษณะต่างๆมากมาย นักพฤกษศาสตร์ได้จำแนกขมิ้นเป็น เป็น 2 สกุลย่อย ได้แก่/size]

               1.สกุลย่อย Eucurcuma หรือกลุ่มกระเจียว

               ลักษณะเด่น ปากกลีบดอกจะมีสีขาวหรือสีเหลือง และการออกดอก ช่อดอกจะเกิดจากเหง้าโดยตรง หรือช่อดอกเกิดจากตายอดของลำต้นเทียม เช่น ฉัตรทิทย์, ฉัตรทอง, พลอยชมพู และพลอยทักษิณ เป็นต้น

               2.สกุลย่อย Paracurcuma หรือกลุ่มประทุมมา

               ลักษณะเด่น ปากกลีบดอกจะมีสีขาวหรือม่วง และการออกดอก ช่อดอกที่เกิดจะเกิดจากตายอดของลำต้นเทียม เช่น ปทุมมาพลอยมยุรา, แววอุบล และเทพรำลึก เป็นต้น

               ราก

               รากเป็นระบบรากฝอย ปลายรากส่วนหนึ่งที่ปลายบวมพองออก  มีลักษณะเป็นตุ้ม ทำหน้าที่เก็บสะสมน้ำและอาหาร เพื่อใช้ในช่วงพักตัวและช่วยในการงอก ในการเก็บรักษาหัวพันธุ์  หากเก็บไว้นานตุ้มจะค่อยๆ เหี่ยวลง หัวพันธุ์ที่ไม่มีตุ้มรากก็สามารถงอกได้เช่นกัน

               ลำต้น

               พืชสกุลขมิ้น ลำต้นที่เห็นเหนือดินจะเป็นลำต้นเทียม (Pseudosterm) ลำต้นจริงอยู่ใต้ดิน ทำหน้าที่สะสมน้ำและอาหารเรียกว่า เหง้า (Rhizome) ตาข้างของเหง้าเจริญเติบโตเป็นลำต้นเทียมอยู่เหนือดินซึ่งเกิดจากการอัดตัวกันของกาบใบในลำต้นเทียม

               ใบ

               ใบปทุมมมา เป็นใบเดี่ยว ประกอบด้วยกาบใบที่ห่อรวมตัวกันแน่น เกิดเป็นลำต้นเทียมก้านใบชูออกจากลำต้นเทียมในมุมที่ต่างกัน แผ่นใบเป็นใบเดี่ยวที่มีรูปร่างเป็นวงรีแคบบ้าง ป้องบ้าง โคนใบมนหรือเรียว ขอบใบเรียบ หรือเป็นคลื่นปลายใบป้านหรือแหลม เส้นใบขนานแบบเฉียงขึ้น

               ช่อดอก

               เป็นแบบช่อแน่น (Compact spike) ประกอบด้วยกลีบของใบประดับ (Bract) เรียงซ้อนกันเกิดเป็นช่อทรงกระบอกโอบรอบโคนช่อดอกย่อยโดยเรียงซ้อนกันเวียนเป็นเกลียวหรือเรียงเป็นแถว เกิดเป็นช่อมีลักษณะเป็นทรงกระบอก ภายในถ้วยของใบประดับเป็นที่อยู่ของช่อดอกย่อย แต่ใบประดับที่อยู่ส่วนบนของช่อดอกจะไม่มีช่อดอกย่อย ส่วนที่มีสีสันสวยงามที่เราเห็นอยู่ภายนอก คนทั่วไปเรียกว่า ดอก ที่จริงๆ คือใบประดับส่วนบน (Coma bract) หรือกลีบประดับ ส่วนดอกจริงๆซ่อนอยู่ข้างในช่องของกลีบประดับส่วน

               ผลและเมล็ด

               ภายหลังจากที่มีกรผสมพันธุ์แล้ว ผลจะมีรูปหน้าตัดเป็น 3 เหลี่ยม พัฒนาเป็น 3 พู ภายในแต่ละพู เป็นที่อยู่ของเมล็ดคล้ายเมล็ดองุ่น ผลมีอายุประมาณ 1-2 เดือน ผลแก่มีผนังบางและภายในเห็นเมล็ดแก่สีน้ำตาลเข้มงอกในฤดูฝน

เกี่ยวกับเพ ลา เพลิน

               จากการทำงานตลอดระยะเวลา 16 ปี ของ คุณ พรทิพย์ อัษฎาธร ผู้บริหารในเครือ THE BRIGHT GROUP ได้พบว่าแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ FIELD TRIP, CAMP หรือการทัศนศึกษาทุกรูปแบบ ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาเด็กแบบยั่งยืน เพราะประสบการณ์ที่เด็กได้รับโดยตรงจะเป็นการกระตุ้นให้เด็กต้องการที่จะรู้และสืบค้นด้วยตัวของเด็กเอง และเสริมสร้างจินตนาการให้เด็ก และสามารถสร้างเด็กให้เป็นบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์เพื่อสามารถเป็นผู้นำ และกล้าคิด กล้าตัดสินใจ เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป ทำให้จุดเริ่มต้นของ บริษัท เพ ลา เพลิน บูทิค รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ แคมป์ จำกัด (PLAY LA PLOEN BOUTQIUE RESORT & ADVENTURE CAMP) กำเนิดขึ้นจากการเล็งเห็นความสำคัญของการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยมีจุดมุ่งหมายหลัก “ในการพัฒนาผู้เรียนนอกห้องเรียน” ที่จะเสริมสร้างและเติมเต็มความรู้ เพื่อเตรียมตัวให้เด็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ AEC ในปี พ.ศ. 2558

               สำหรับ เพ ลา เพลิน เรามีหวังให้เป็นแหล่งพักผ่อน แหล่งเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ แห่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยแบ่งรูปแบบการบริการออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

               1.  BOUTIQUE RESORT เน้นการตกแต่ง เป็น 2 ส่วน คือ

               - ZONE ASIA ชั้นล่างจำนวน 10 ห้อง ห้องพักเน้นการตกแต่งแบบ ASIA 10 ประเทศ ซึ่งมีการตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ และให้ความรู้แก่ผู้เข้าพัก ตั้งแต่กลิ่นอาย และบรรยากาศห้องแบบเอเชีย

               - ZONE EUROPE ชั้นบนจำนวน 10 ห้อง ห้องพักเน้นตกแต่งแบบยุโรป ของที่ใช้ในการตกแต่งห้องบางส่วนได้นำเข้ามาจากแต่ละประเทศนั้นๆ เช่นห้อง LONDON, PARIS, ROME เป็นต้น

               2.  ADVENTURE CAMP เน้นการตกแต่งและเสริมสร้างบรรยากาศตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้สัมผัส

               - บริเวณทางเข้า LOBBY จัดทำป้าย PLAY LA PLOEN ขนาดใหญ่บนเนิน ยาว 14 เมตร และมีสัญลักษณ์ LONDON EYE หมุนให้ชมตลอดเวลา

               - ภายใน LOBBY จะจัดเน้น CONCEPT “JOURNEY WITH PLAY LA PLOEN” บรรยากาศและของตกแต่งได้นำเข้ามาจากหลากหลาย ประเทศทั้งเอเชียและยุโรป     
 
               - KID ZONE ประกอบไปด้วย LONDON BUS, LOCOMOTIVE TRAIN ซึ่งเด็กเล็กสามารถค้นคว้าและมีมุมให้ความรู้มากมายเช่นมุมชั่ง ตวง วัด และ มุมนิทาน ซึ่งนับได้ว่าเป็นของเล่นสำหรับเด็กเล็ก เพื่อพัฒนาผู้เรียนรู้แห่งใหม่ในประเทศไทย       

               ที่นี่ยังจัดกิจกรรมไว้หลากหลาย อาทิ ADVENTURE CAMP โรยตัวและไต่หน้าผาสุดมันในโซน “หอเอนปิซ่าและกำแพงเมืองจีน” ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณงานวัดจำลองที่มีเครื่องเล่นที่เราพบเห็นได้ทั่วไปในงานเทศกาลต่างๆ รวมไปถึงเครื่องเล่นสำหรับไต่หน้าผา ให้ทดสอบความกล้า โรยตัวจากหอสูง ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ ที่พร้อมสอนและอำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน หรือตื่นเต้นพร้อมเปียกได้ทุกเมื่อกับกิจกรรม “จิ้งจอกเหินเวหา” (Flying Fox) ในบรรยากาศสะพานทาวเวอร์บริดจ์ สัญลักษณ์เลื่องชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ เลื่อนข้ามลำน้ำเสมือนได้บินไปในอากาศ ควบคุมด้วยสลิงและรอกเลื่อน


               นอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรเต็มรูปแบบ  ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสและเรียนรู้ เกี่ยวกับความรู้ด้านการเกษตรที่ผ่านการวิจัยและทดลอง เพื่อเป็นองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสานและอื่นๆ รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวการเกษตรที่ต้องชื่นชอบ เช่น  ไร่องุ่น, ไร่เสาวรส, อะโวคาโด,  ฟักทองหวานญี่ปุ่น, ข้าวโพดหวาน และฟาร์มปศุสัตว์ อาทิ กวาง, ไก่แจ้, ไก่ฟ้าพญาลอ, วัวเนื้อ และอัลปาก้า ที่ทุกคนจะได้เพลิดเพลินและได้ความรู้อย่างไม่มีวันจบสิ้น พร้อมพักผ่อนในบรรยากาศความสวยงามของดอกไม้เคล้าคลอดนตรีอันไพเราะจากชมรมดนตรีนักศึกษาลูกหลานบ้านเรา และเสริฟอาหารรสเลิศนานาชนิด พร้อมกิจกรรมโชว์มากมาย

ประวัติ ผู้บริหาร

คุณ พรทิพย์ อัษฎาธร
ผู้บริหารในเครือ THE BRIGHT GROUP และ
บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ แคมป์ จำกัด

โรงเรียนธุรกิจสารสนเทศ ในสังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชนซึ่งดำเนินการฝึกอบรมด้าน ภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์ ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ดำเนินงานด้านการศึกษาเป็นหลักมาโดยตลอดเป็นเวลากว่า 16 ปี และเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ได้ขยายโครงการ “ SCHOOL PROJECT ” ไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีรูปแบบทั้งด้าน ภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร และโครงการการเรียนการสอนในรูปแบบสอนแบบสองภาษา (ENGLISH PROGRAME) ซึ่งมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการมากกว่า 30 โรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ประวัติ นักวิชาการ

อาจารย์ สืบศักดิ์ เสนาวงศ์

ที่ปรึกษาโครงการ   :  ด้านวิชาการและฝึกอบรมการผลิตพืช (ไม้ดอก  ไม้ผล พืชผักเมืองร้อน

ประวัติการศึกษา      :  วทม. (สาขาพืชสวน) คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
 
ประสบการณ์การทำงาน
2529 –2556      :  มูลนิธิโครงการหลวง  จังหวัดเชียงใหม่ (นักวิชาการไม้ดอก)

ความชำนาญเฉพาะทาง
                :  การปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกประเภทหัวชนิด แกลลดิโอลัส กลอลิโอซ่า ว่านสี่ทิศ
                :  รักแรก ฟรีเซีย และไฮเดรนเยีย
                :  สรีรวิทยาพืช, การจัดการดินและธาตุอาหาร
           :  เป็นผู้รับผิดชอบพืชที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อศึกษาและวิจัย   
         :  การผลิตไม้ดอกและไม้กระถาง

ประสบการณ์การทำงานร่วมกับภาคเอกชน 

2551-  ปัจจุบัน      :   ที่ปรึกษาด้านวิชาการและวางแผนการผลิตไม้ดอกเมืองหนาวของ บริษัท NAT
                         สวนเกษตร (ผู้ผลิตไม้ดอกและไม้ประดับของจังหวัดเชียงใหม่)
ประสบการณ์ด้านการศึกษาดูงานต่างประเทศ
2537         :   ดูงานและฝึกงานด้านการผลิตไม้ดอกที่ chantonbury nursery, westsussex ประเทศอังกฤษ
2551          :   ดูงานด้านการผลิตไม้ดอกที่ Sydney, Brisbant, Victoria ประเทศออสเตรเลีย
2552          :   ดูงานด้านการผลิตไม้ดอกที่มหาวิทยาลัย Chung shing University ประเทศไต้หวัน


ชื่อ     พิทักษ์  หังสาจะระ  (ครูกอล์ฟ)

-     Flower Designer
-     เจ้าของ Flower Décor Studio  สอนจัดดอกไม้
-     ผลงาน  หนังสือจัดดอกไม้  4  เล่ม
-     ประธานอนุกรรมการ  สาขา ช่างจัดดอกไม้  ให้กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  กระทรวงแรงงาน
-     โดยถวายงานรับใช้ในวังสุโขทัย  ในการจัดตกแต่งดอกไม้
-     รับเชิญจัด  Flower Fashion Show  เมืองโอซาก้า  ประเทศญี่ปุ่น
-     เป็นกรรมการตัดสินการจัดดอกไม้  งาน World  Skill Competition  ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
-     เป็นกรรมการตัดสินการจัดดอกไม้  งาน World  Skill Competition  ประเทศ  ฟินแลนด์
-     เป็นกรรมการตัดสินการจัดดอกไม้  World  Skill Competition  ประเทศ อังกฤษ