แบล็คแคนยอน จับมือ ศิลปินระดับสากล สร้างสรรค์ผลงานแอบสแตกอาร์ต เปิดนิทรรศการ “เดอะ คอฟฟี่ อาร์ต” ความงามผสานระหว่าง “สี” กับ “เมล็ดกาแฟ”
แบล็คแคนยอน จับมือ ศิลปินระดับสากล และคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างสรรค์ผลงานศิลปะแนว” แอบสแตกอาร์ต” โดยผสานระหว่าง “สี” กับ “เมล็ดกาแฟ” จนเกิดผลงานศิลป์อินเทรนด์ ซึ่งต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ เติมเต็มพลังชีวิตให้สดใส พร้อมจัดแสดงนิทรรศการ “แบล็คแคนยอน : เดอะ คอฟฟี่ อาร์ต” เพื่อเปิดให้ผู้รักงานศิลปะ บุคคลทั่วไป ได้เข้าชมได้ ณ ร้านแบล็คแคนยอน สาขาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ – วันที่ 31 พฤษภาคม 2557 นี้
นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารตราสินค้า บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แบล็คแคนยอน ในฐานะผู้ให้บริการด้านกาแฟและอาหารอร่อยระดับแชมป์ โดยมีเครื่องดื่มประเภท “กาแฟ” ที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพดี มีรสชาติอร่อยเข้มข้น ซึ่งเปิดให้บริการมากว่า 21 ปี มีสาขามากกว่า 300 สาขาในประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย สหภาพพม่า สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ กัมพูชา สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมา พบว่า “กาแฟ” ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก แม้จะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ต้องการเหมือนๆ กันนั่นก็คือ “ความสุนทรีย์” อันเป็นความละเมียดละไม เฉกเช่นงานศิลปะชั้นยอด อย่างเป็นสากล
ด้วยเหตุนี้ แบล็คแคนยอน จึงได้ร่วมกับ มร.จิมมี่ เอ็นจิเนีย ศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับสากล ผู้สร้างสรรค์ศิลปะแนว “แอบสแตกอาร์ต” โดยใช้ชื่อผลงานชุดนี้ว่า Black Canyon: The Coffee Art [แบล็คแคนยอน: เดอะ คอฟฟี่ อาร์ต] มีทั้งหมด จำนวน 14 ภาพ และ อาจารย์จักรกฤษณ์ การะเกต อาจารย์พิเศษภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ร่วมสนับสนุนการจัดนิทรรศการครั้งนี้
“การจัดนิทรรศการ “BLACK CANYON: The Coffee Art” [แบล็คแคนยอน: เดอะคอฟฟี่อาร์ต] จะนำผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์จาก ศิลปินชื่อดังระดับสากล คือ มร.จิมมี่ เอ็นจิเนีย ศิลปินลูกครึ่ง “ปากีสถาน-อเมริกัน” ผู้มีชื่อเสียงและผลงานศิลปะที่สวยงามและเป็นที่รู้จักในระดับสากล ซึ่งโดดเด่นในด้านการนำเสนอผลงานแนวสะท้อนชีวิตและความเป็นอยู่ในรูปแบบต่างๆ และมากความสามารถวาดรูปได้หลากหลายสไตล์ โดยใช้เทคนิควาดรูป เช่น สีน้ำมัน , สีสเปรย์ และ เทคนิคอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากการวาดรูปแล้ว เขายังเป็นนักออกแบบสแตมป์ และนักสังคมสงเคราะห์ ผู้ที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะเขาเคยได้รับความรักและความช่วยเหลือมาจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันระหว่างสงครามมายาวนานถึง 25 ปี ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เขาได้รับการยอมรับว่า เป็นบุคคลที่มีมนุษยธรรมในการดำเนินชีวิต และนำมาเป็นแรงขับเคลื่อน ในการสร้างผลงานวาดภาพด้วยจินตนาการที่มีคุณค่าสวยงาม ผลงานศิลปะของเขา มีศิลปะมากกว่า 3,000 ชิ้น และตีพิมพ์ไปแล้ว 20,000 ชิ้นทั่วโลก สิ่งนี้ คือ เครื่องพิสูจน์ความสามารถในฐานะศิลปินระดับสากลของเขาได้เป็นอย่างดี”
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ระหว่างแบล็คแคนยอน และ มร.จิมมี่ เอ็นจิเนีย เกิดขึ้นจากความปรารถนาให้ชีวิตของมนุษย์มีความสุข และต้องการให้ทุกคนมีพลังงาน มีแรงบันดาลใจ ซึ่งในบางครั้งของช่วงเวลา เราอาจรู้สึกถดถอย การสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองอยู่เสมอๆ ก็เสมือนการเติมพลังงาน เพื่อเติมพลังชีวิตให้มีพลังที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า การนำเมล็ดกาแฟ มาผสมผสานกับสี เพื่อสร้างชิ้นงานศิลปะ นับว่าสามารถกลมกลืนเข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นอีกมิติหนึ่งของงานศิลปะแนว “แอบสแตกอาร์ต” ซึ่ง “กาแฟ” ก็นับเป็นเครื่องดื่มจากสรวงสวรรค์ที่ผู้คนทั่วโลกหลงไหลในกลิ่น รส และนิยมดื่ม อย่างแพร่หลายทั่วโลก เมื่อนำมาผสานอยู่ในชิ้นงานศิลปะ เชื่อว่า นอกจากความงามของงานศิลปะแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่า “ชีวิต” ของมนุษย์จะขาดสีสันไม่ได้ และต้องเป็นสีสันที่จะช่วยให้ชีวิตสดชื่นและมีชีวิตชีวา อันจะเป็นความสุนทรีย์ที่มีความสุข แสนกลมกล่อมและมีค่ามากที่สุด ผลงานศิลปะครั้งนี้ เขาได้ผสมผสานระหว่าง “สี” กับ “เมล็ดกาแฟ” จนเกิดงานศิลปะเหนือจินตนาการ การผสมผสาน ชีวิตที่สวยงามแนว Abstract Art [แอบสแตกอาร์ต] หรือ มโนศิลปะ ทั้งนี้ มุ่งเน้นนำเสนอรูปแบบให้ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่” นางกรรณิการ์กล่าว
มร.จิมมี่ เอ็นจิเนีย ศิลปินระดับสากล ผู้สร้างสรรค์ผลงาน กล่าวว่า ผลงานศิลปะชุด “BLACK CANYON: The Coffee Art” [แบล็คแคนยอน: เดอะคอฟฟี่อาร์ต] นั้น เป็นแนว แอบสแตกอาร์ต ซึ่งเกิดจากแนวคิด และแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นมา โดยใช้สีสเปรย์ (Spray Paint) ในการวาดภาพ และเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมจากแบล็คแคนยอนมาเป็นส่วนประกอบหลักของภาพวาดทุกภาพ โดยนำเมล็ดกาแฟมาสร้างสรรค์เป็นรูปร่างต่างๆ ในภาพวาดของเขา ซึ่งเมล็ดกาแฟ เป็นสิ่งที่น่าสนใจและท้าทายในการวาดรูป เพราะผลงานที่ผ่านๆ มา ยังไม่เคยใช้เมล็ดกาแฟมาเป็นส่วนประกอบในการวาดภาพ นอกจากนี้ ธรรมชาติรอบตัวเขายังเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการวาดภาพในทุกๆ ภาพ ตลอดรวมถึงภาพวาด 14 ภาพ ทำให้ได้รูปแบบของผลงานที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป จำนวน 14 ชิ้น ด้วยกัน ซึ่งมีชื่อเรียก ดังนี้
1. Black is Beautiful
2. Coffee at Sunrise
3. Coffee at Sunset
4. Coffee at Black Sun
5. Coffee at Moonlight
6. Coffee Beans with Square, Triangle and Circle
7. Coffee in the Garden of Flower
8. Coffee Bean in the Galaxy
9. Sunlight through the Branches
10. Different Shapes
11. Spreading of Black Canyon Coffee
12. Coffee is Gold
13. Coffee beans in white circle
14. Floating square in pink
อาจารย์จักรกฤษณ์ การะเกต อาจารย์พิเศษ ภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจ อีกทั้งได้เปิดโอกาสให้นิสิต เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานสนับสนุนการทำงานของ มร.จิมมี่ เอ็นจิเนีย ครั้งนี้ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในการสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะชุด “BLACK CANYON: The Coffee Art” [แบล็คแคนยอน: เดอะคอฟฟี่อาร์ต] ได้ช่วยเหลือในการสนับสนุน การบริหารจัดการสถานที่ วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ มร.จิมมี่ เอ็นจิเนีย ได้สร้างสรรค์ผลงานทั้ง 14 ภาพ และมองว่า ผลงานศิลปะ ของ มร.จิมมี่ เอ็นจิเนีย เป็นงานที่ถ่ายทอดตัวตน ความรู้สึกภายในให้เห็นแก่นแท้ของชีวิต ที่ผ่านเวลาของการเดินทาง
ผลงานศิลปะชุด “BLACK CANYON: The Coffee Art” [แบล็คแคนยอน: เดอะคอฟฟี่อาร์ต] นั้น จะจัดแสดงเพื่อให้ผู้ที่รักงานศิลปะ และประชาชนทั่วไป ได้รับชม ณ ร้านแบล็คแคนยอน สาขาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ – วันที่ 31 พฤษภาคม 2557 นี้ หลังจากนั้น แบล็คแคนยอนจะนำไปใช้ในกิจกรรมการตลาด และนำไปตกแต่งภายในร้านแบล็คแคนยอน สาขาต่างๆ ต่อไป นางกรรณิการ์ กล่าวสรุปในที่สุด