sianbun on March 11, 2009, 11:49:31 AM
บลจ.ไอเอ็นจีคลอด 3 กองทุนเปิด ‘ไทย ไลฟ์ไซเคิล’ เตรียมความพร้อมนักลงทุนรับวัยเกษียณ


 
             บลจ.ไอเอ็นจี คลอดกองทุนเปิด “ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ ไซเคิล” พร้อมกัน 3 กองทุนรวด ทั้ง “ไลฟ์ไซเคิล 2015, 2020 และ 2025” ยึดจุดหมายปลายทางในปีที่ผู้ลงทุนตั้งเป้าเกษียณเป็นหลัก พร้อมดีไซน์รูปแบบที่สอดคล้องกับแต่ละช่วงอายุ ชูจุดเด่นปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้แบบอัตโนมัติ หวังลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุน เผยยิ่งเข้าใกล้วันหมดอายุกองทุน ยิ่งเพิ่มน้ำหนักตราสารหนี้ระยะสั้นจนถึงระดับ 100% เมื่อสิ้นอายุโครงการ มั่นใจช่วยสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ เสนอขาย IPO พร้อมกัน 19-26 มี.ค.นี้ จองขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท

          บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกองทุนใหม่ 3 กองทุนในซีรีย์ส “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล” (ING Thai Lifecycle Fund) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งและจัดการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยกองทุนถูกออกแบบการลงทุนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับช่วงอายุของผู้ลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 โดยใช้ปีที่ผู้ลงทุนต้องการเกษียณอายุเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการลงทุน

          นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า จุดเด่นของกองทุนอยู่ที่การออกแบบการจัดสรรพอร์ตลงทุนตามอายุของผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งความเสี่ยงของกองทุนจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินของตนเองเพื่อสร้างโอกาสการมีเงินใช้อย่างสบายในวัยเกษียณ
          ทั้งนี้ แต่ละกองทุนจะมีเป้าหมายของปีที่คาดว่า จะเกษียณไว้ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะเกษียณประมาณปีใด จาก 3 กอง ได้แก่ ปี 2015 ปี 2020 และปี 2025 โดยทั้ง 3 กองทุนนับเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับทางเลือกลงทุนก่อนวัยเกษียณ

          สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 จะมีอายุโครงการ 16 ปี 8 เดือน แต่มีสภาพคล่องด้วยการเปิดให้ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 40-45 ปี และคาดว่าอยากจะเกษียณอายุในวัยประมาณ 60 ปี คือ ในปี 2023-2028 ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ยังอยู่ในวัยทำงานที่แสวงหาทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงาน และความ มั่งคั่งให้กับตนเอง การแสวงหาผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับการยอมรับความเสี่ยงจึงยังมีได้มาก ดังนั้น สัดส่วนการลงทุนจะเน้นการลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 55% แต่ในปีใกล้สิ้นอายุของกองทุน ตราสารในพอร์ตการลงทุนจะมีการเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้นจนกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมดในวันสิ้นอายุกองทุน เพื่อลดความเสี่ยงในตลอดช่วงอายุการลงทุน

          ขณะที่กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 จะมีอายุโครงการ 11 ปี 8 เดือน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 45-50 ปี โดยคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณ 60 ปี ในปี 2018-2023 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสม่ำเสมอของรายได้และ รับความเสี่ยงได้น้อยลง ดังนั้น จึงให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยจะลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 45%

          ส่วนกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 อายุโครงการ 6 ปี 8 เดือน เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีอายุ 50-55 ปี ซึ่งคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณในปี 2013-2023 ดังนั้น การจัดสรรการลงทุนจะเน้นความปลอดภัยมากกว่าผลตอบแทนที่สูง เพื่อเตรียมเงินทุนไว้รองรับการใช้จ่ายในยามเกษียณแล้ว โดยในช่วงปีแรกจะลงทุนในตราสารทุนไม่เกินกว่า 30% และจะกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นในที่สุด

          “เราอยากให้ผู้ลงทุนเชื่อมั่นว่า เราได้ออกแบบการปรับเปลี่ยนพอร์ตตามความเสี่ยงที่สอดคล้องกับระยะเวลาการลงทุนไว้เป็นอย่างดีระหว่างหุ้น ตราสารหนี้และเงินสด ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องจังหวะของการลงทุนและการเลือกลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ เพราะทางไอเอ็นจีจะทำการปรับสัดส่วนการลงทุนให้ผู้ลงทุนเองโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่จะทยอยลดการลงทุนในตราสารทุนไปสู่ตราสารหนี้ระยะสั้นเมื่อกองทุนเข้าใกล้วันหมดอายุ ซึ่งเมื่อสิ้นสุดโครงการ สัดส่วนการลงทุนจะขยับเข้าสู่การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นครบ 100% ” นายมาริษกล่าว

          “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล” ทั้ง 3 กองทุน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมกัน ระหว่างวันที่ 19-26 มีนาคม 2552 โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด โทร.0-2688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th รวมทั้งที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (HSBC) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี
         
ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ซิมีโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)
ธนาคาร ดอยซ์แบงก์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ไอวี โกลบอล จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน)