MSN on February 11, 2014, 02:24:24 PM
KTAMเปิดขายKT-EY1Y6M2เริ่ม13-21ก.พ.นี้ เน้นคุ้มครองเงินต้นผลตอบแทนอิงSET50Index

นายสมชัย  บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า   บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม อิควิตี้ อินเด็กซ์  ลิงค์ คอมเพล็กซ์  รีเทิร์น 1 ปี 6 เดือน 2  (KT-EY1Y6M2)  ในวันที่ 13 - 21 กุมภาพันธ์  2557  อายุโครงการ 1 ปี6 เดือน   โดยจะเน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศ ประเภทเงินฝาก Bank of China , China Construction  Bank   ในสัดส่วน 44% ลงทุนตราสารในประเทศ ประเภทหุ้นกู้  ตั๋วแลกเงิน  สถาบันการเงิน /บริษัทเอกชน 5% ส่วนที่เหลือลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)  ได้แก่ สัญญาออปชั่น  (Option)    ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี SET 50   โดยกองทุนจะจ่ายผลตอบแทน(ถ้ามี) ทุกๆรอบ6 เดือน ซึ่งเงื่อนไขในแต่ละรอบของการจ่ายผลตอบแทน  จะจ่ายผลตอบแทน โดยหาก ณ สิ้นวันใดวันหนึ่ง  ในรอบ6 เดือน  ราคาปิดดัชนี SET 50 Index เพิ่มขึ้นมากกว่า หรือเท่ากับ 20% ของราคาดัชนี SET 50 Index ต้นงวดในแต่ละรอบ  ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ1.33% ต่อ6 เดือน  แต่หาก   ณ ทุกสิ้นวันในแต่ละรอบ 6 เดือน  ราคาปิด ดัชนีราคา SET 50  Index  เพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึง 20%  ของราคา  ณ  วันเริ่มต้นงวด   ผู้ลงทุนมีโอกาสจะได้รับผลตอบแทนเป็นสัดส่วน 1 ใน3 ของอัตราเพิ่มของดัชนี  SET 50 Index สูงสุดถึง 6.66% ต่อ 6 เดือน

อย่างไรก็ดี  หากดัชนี SET 50   Index ปรับลดลง ณ วันสิ้นสุดรอบ 6 เดือน ของแต่ละรอบ  และระหว่างงวดราคาปิดดัชนีราคา SET 50 Index เพิ่มขึ้นน้อยกว่า 20% ของราคา  ณ วันเริ่มต้นงวด   ผู้ลงทุนยังคงมีโอกาสรับผลตอบแทนในงวดถัดไป และได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน ในสิ้นรอบสุดท้ายของการลงทุน ทั้งนี้  กองทุนดังกล่าว เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทน ในทิศทางเดียวกับการลงทุนในตราสารทุน สูงสุดไม่เกิน 6.66% ต่องวด  โดยเงินต้นยังคงอยู่ในระดับความเสี่ยง เทียบเท่าการลงทุนในตราสารหนี้ และเงินฝากที่กองทุนลงทุนเท่านั้น

นอกจากนี้ บริษัทยังเพิ่มอีก1 ทางเลือก  โดยการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 116 ( KTSUPB116 )  เสนอขายวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์  2557   อายุ 6 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท   โดยเน้นลงทุนในเงินฝาก Bank of China  ,  China Construction  Bank  , MTN ออกโดย ICBC  Asia Ltd. , MTN ออกโดย  Banco BTG Pactual  ในสัดส่วน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารในประเทศ ประเภท หุ้นกู้  / ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน และบริษัทเอกชน   ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี   โดยเงินลงทุนในต่างประเทศ จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน  และผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับจะไม่เสียภาษี

สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้จะมีความผันผวนเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยที่จะกระทบตลาดในระยะสั้นยังคงเป็นเรื่องของความไม่มั่นคงทางการเมืองและกระแสเงินทุนที่ไหลออกยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เนื่องจากการที่สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขนาดการลดมาตรการ QE  อย่างต่อเนื่องรวมถึงแนวโน้มที่ประเทศไทยมีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินบาทมีความน่าสนใจลดลง ทำให้นักลงทุนต่างประเทศถอนการลงทุนในตราสารหนี้ไทย โดยเฉพาะหากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองอาจเกิดแรงขายในตราสารหนี้เพื่อลดความเสี่ยง โดยมีปัจจัยบวกได้แก่ ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลที่จะเปิดประมูลในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2557 ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ  โดยส่วนใหญ่เป็นตราสารในระยะยาวกว่า 10 ปี จึงทำให้คาดว่าอัตราผลตอบแทนจะปรับขึ้นในระดับจำกัด ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า จะการการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)  ครั้งต่อไป จากปัญหาการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีการทบทวนปรับประมาณการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2557 ที่เดิมคาดว่าจะโตร้อยละ 4 เหลือเพียง 3%
 ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ อัตราผลตอบแทนของตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีคุณภาพดี เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ และตราสารหนี้ระดับ Investment Grade มีการปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความต้องการในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ Developed Market ทำให้มีเงินทุนไหลเข้าในตลาด Credit ต่อเนื่อง  และฝ่ายวิจัยของบลจ.กรุงไทย  ได้ประเมินเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไว้ที่ 1,450 จุด