กสิกรไทยจัดทัพตั้งสายงานธุรกิจข้ามประเทศ ลุยหนุนการค้ากลุ่ม AEC +3

กสิกรไทยจัดทัพตั้งสายงานธุรกิจข้ามประเทศ ลุยหนุนการค้ากลุ่ม AEC +3

          กสิกรไทยรวบธุรกิจต่างประเทศ ตั้งสายงานธุรกิจข้ามประเทศ ให้บริการการค้า การลงทุนไทย-เทศครบวงจร พร้อมเปิดเครือข่ายในต่างประเทศอีก 5 แห่ง ตั้งเป้ารักษาอันดับ 1 ด้านการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจจีน ญี่ปุ่นในประเทศไทย

          นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมาธนาคารได้รวมสายงานธุรกิจต่างประเทศ และสายงานธุรกิจจีนเข้าด้วยกัน แล้วตั้งเป็นสายงานธุรกิจข้ามประเทศ โดยมีนายพิพิธ เอนกนิธิ รองกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้บริหารสายงาน เพื่อรวมศูนย์การให้บริการลูกค้าคนไทยและต่างประเทศที่ทำธุรกิจข้ามชาติไว้ด้วยกัน เป็นการรองรับกระแสการค้า การลงทุนที่จะมีมากขึ้นหลังจากประเทศสมาชิกในอาเซียน 10 ประเทศรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 และการร่วมเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสามประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของทวีปเอเชีย ซึ่งสามารถเห็นได้จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2556 ที่สูงถึงร้อยละ 25 ของ GDP โลก

          ในขณะที่เออีซี จะเป็นการรวมตลาดและฐานการผลิตที่มีศักยภาพ ทั้งปริมาณทรัพยากรที่มีจำนวนมาก ผู้บริโภคที่มีความต้องการในสินค้าและบริการสูง และแหล่งผลิตต้นทุนต่ำ ซึ่งจะเป็นเป้าหมายของกระแสดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนทั้งจากในอาเซียนและนอกภูมิภาค เช่น จากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

          สำหรับประเทศไทย เป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ แรงงานมีฝีมือคุณภาพ มีพรมแดนเชื่อมต่อกับมาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา และต่อเนื่องถึงเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว การค้าชายแดน การขนส่งและการกระจายสินค้าที่สำคัญ ซึ่งจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นอันดับหนึ่งได้ประกาศนโยบาย “ประเทศไทยบวกหนึ่ง (Thailand Plus One)” ซึ่งตอกย้ำการให้ประเทศไทยเป็นฐานเข้าสู่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

          ด้านนายพิพิธ เอนกนิธิ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้จัดตั้งสายงานธุรกิจข้ามประเทศ เพื่อให้บริการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนแก่นักธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศที่ต้องการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ AEC + 3 โดยแบ่งเป็น 6 ธุรกิจหลัก คือ การค้าขายระหว่างประเทศ, การค้าขายชายแดน, นักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาประเทศไทยเพื่อเข้าสู่ตลาดเออีซี, นักลงทุนไทยที่จะไปเออีซี, นักท่องเที่ยวต่างชาติ, ลูกค้าท้องถิ่นในประเทศที่ธนาคารมีสาขาอยู่ ด้วยการบริการทางการเงินและบริการอื่น ๆ ที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ AEC + 3 ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลและคำปรึกษาจากทีมงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ การแนะนำคู่ค้าทางธุรกิจ ช่องทางการให้บริการที่หลากหลาย

          ซึ่งในปี 2557 ธนาคารกสิกรไทยมีแผนจากขยายเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมใน AEC+3 จำนวน 5 แห่ง แบ่งเป็นสาขาต่างประเทศ 2 แห่ง สำนักงานผู้แทนจำนวน 3 แห่ง และขยายความร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารท้องถิ่น เพื่อพัฒนาบริการทางการเงิน การแลกเปลี่ยนความรู้ การร่วมมือจับคู่ทางธุรกิจ (Business matching) และเพิ่มศักยภาพของพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านธุรกิจและภาษา การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

          สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 2557 ธนาคารตั้งเป้ารักษาการเป็นผู้นำด้านการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจจีนญี่ปุ่นและเกาหลีเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยจะเน้นการให้บริการที่ครบวงจรธุรกิจ (Business Life Cycle)

          ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายการให้บริการธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศระหว่างประเทศไว้ที่ 910,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 28% ยอดสินเชื่อการลงทุน 37,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% การปล่อยสินเชื่อในประเทศจีน 20,600 ล้านบาท

KBank set up new division to supervise international businesses supporting trade of AEC+3

          KASIKORNBANK has integrated all international business into the “World Business Division”, a new division serving trade and investments at home and abroad, while planning to open five foreign outlets for better business coverage. The Bank aims to maintain its leadership in extending credit to Chinese and Japanese businesses in Thailand.

          According to KBank President Mr. Predee Daochai, the Bank has last year integrated the Global Business Division and China Business Division into the World Business Division, headed by Mr. Pipit Aneaknithi, the Bank’s Executive Vice President. The integration intends to enhance services for local and foreign customers who operate cross-border businesses in preparation for the ASEAN Economic Community (AEC) inception in 2015 plus the bloc’s cooperation with China, Japan and South Korea. The regional cooperation with these Asia’s major economic powers, whose combined GDP represents a fourth of the world’s GDP, will bring about more dynamic trade and investments thereafter.

          AEC will open a pool of high potential markets and low-cost production bases, with abundant resources and consumers in need of goods and services. The region is apparently an investment magnet for ASEAN as well as other parts of the world including China, Japan and South Korea.

          Rich in resources, quality labor forces and geological advantage, bordering Malaysia, Myanmar, Laos, Cambodia and Vietnam, Thailand becomes a hub for the region’s tourism, border trade, transportation and distribution. Therefore, these advantages attract foreign investors to establish production bases in Thailand particularly those from automotive and electronics industries, while Japan has already been the top investor in Thailand with “Thailand Plus One” policy, reinforcing Thailand’s role as the base for market penetration into other ASEAN countries.

           According to Mr. Pipit, the newly-established World Business Division serves trade and investments for local and foreign investors in AEC+3 through six main segments. These include international trade, border trade, foreign investors in Thailand who wish to invest in AEC, Thai investors penetrating the AEC market, foreign tourists, and local customers in countries where KBank branches are established. KBank services, financial and otherwise, including beneficial information, advisory services from experts, business matching, and diverse service channels will help streamline investors’ businesses in AEC+3.

          In 2014, KBank plans to expand in AEC+3 with five business outlets: two branches and three representative offices. Along with outlet expansion, KBank also aims to create stronger partnerships with local banks for financial service enhancement, information exchange, business matching, manpower enhancement in terms of business and language skills, and IT development for higher customer satisfaction.

          The 2014 business strategy for the World Business Division is to maintain the Bank’s position as the leader in Chinese, Japanese and South Korean businesses operating in Thailand; with “Business Life Cycle” services.

          KBank is also aiming for total international trade transactions targeted at 910 billion Baht, up 28 percent from last year, and loans for investment at 37 billion Baht, an increase of 48 percent. Loans in China are expected at 20.6 billion Baht.

ภาพข่าว: กสิกรไทยจัดทัพตั้งสายงานธุรกิจข้ามประเทศลุยหนุนการค้ากลุ่ม AEC +3


 
          นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ และนายพิพิธ เอนกนิธิ รองกรรมผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย แถลงข่าวเปิดตัวสายงานธุรกิจข้ามประเทศ เพื่อให้บริการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนแก่นักธุรกิจไทยและต่างประเทศที่ต้องการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมทั้งประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ (AEC+3) และตั้งเป้ารักษาอันดับ 1 ด้านการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยจะเน้นการให้บริการที่ครบวงจรธุรกิจ ณ ธนาคารกสิกรไทย อาคารพหลโยธิน เมื่อเร็วๆ นี้

Photo Release: KBank set up new division to supervise international businesses supporting trade of AEC+3


 
          Recently at KASIKORNBANK PhahonYothin Main Branch, Mr. PredeeDaochai, President, and Mr. Pipit Aneaknithi, Executive Vice President of KASIKORNBANK, held a press conference to introduce the “World Business Division”, a new business division serving trade and investments for local and foreign investors who wish to undertake business operation in ASEAN plus China, Japan and South Korea (AEC+3). The Bank aims to maintain its position as the leader in foreign SME businesses operating in Thailand; with “Business Life Cycle” services.