“me” limited edition ธุรกิจแนวคิดใหม่ด้านการผลิตโมเดล 3 มิติ ครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย
บริษัท อิน – จัน หุ่นจำลอง จำกัด นำทัพโดยผู้บริหารหนุ่ม ศุภชัย ปราบใหญ่ ผู้ก่อตั้งและ ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ เปิดตัวธุรกิจแนวคิดใหม่ด้านงานพิมพ์ในชื่อ “me” limited edition ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตโมเดล 3 มิติ ครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ สยามสแควร์ ซอย 6 หวังรุกตลาดวงการดีไซน์ที่ยังมีข้อจำกัดในการทำงานด้านการออกแบบสิ่งต่างๆ ที่เป็นวัตถุ โดยพร้อมก้าวขึ้นสู่ ศูนย์กลางการพิมพ์งานแบบ 3D Printing ในประเทศไทย และตั้งเป้าในเรื่องของยอดขายจากการดำเนินธุรกิจในปีแรกนี้อยู่ที่ 20 ล้านบาท โดยตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ กลุ่มบุคคลทั่วไปที่ต้องการทำ “me” Model เก็บไว้เป็นของตัวเอง และ ดีไซเนอร์ที่ทำงานด้าน “ออกแบบผลิตภัณฑ์” และ “งานสถาปัตยกรรม” โดยเป็นกลุ่มคนที่ต้องการเห็นตัวงานเป็นชิ้นออกมาจริงๆ เพื่อปรับแก้ก่อนลงมือทำจริง ซึ่งจะช่วยทำให้นักออกแบบสามารถทำงานได้สะดวกและสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น
ศุภชัย ปราบใหญ่ ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเรคเตอร์ ได้กล่าวถึงแนวคิดของการเริ่มต้นทำธุรกิจว่า “เราได้เล็งเห็นถึงข้อจำกัดในการออกแบบสิ่งต่างๆ ที่เป็นวัตถุ และเห็นว่าในต่างประเทศเขามีอุปกรณ์ที่ทำให้ข้อจำกัดของการออกแบบนั่นหมดไป ซึ่งผมในฐานะที่เคยทำงานด้านกราฟฟิกดีไซน์มาก่อน ก็อยากจะทำให้ข้อจำกัดต่างๆ เหล่านั้นหมดไปจากวงการงานออกแบบของประเทศเราบ้าง โดยมีอุปกรณ์สำคัญก็คือ 3D Scanner และ 3D Printer ดังนั้นเมื่อเรามีอุปกรณ์ชิ้นสำคัญนี้ จากนี้ต่อไปเราอยากเห็นงานที่ออกแบบไว้ว่าเป็นอย่างไร ก็สามารถพิมพ์ออกมาในรูปแบบที่เป็นวัตถุได้เลย ซึ่งนี่เองคือ แนวคิดของการเริ่มต้นทำธุรกิจของ “me” limited edition และนับตั้งแต่ เปิดบริการมาตั้งแต่เดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้ว เราก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมากมาตลอดเลยครับ”
คุณศุภชัยยังได้กล่าวต่อว่า “สำหรับเหตุผลที่ใช้ชื่อว่า “me” limited edition นั่นเพราะว่า เราเป็นโชว์รูมที่จะทำ “คุณ” ขึ้นมา เพื่อให้คุณมองเห็นตัวคุณเองแบบจับต้องได้ ซึ่งผมไม่ได้หมายความแค่เป็นเพียงโมเดล แต่มันก็การดึง “ตัวตน” ของคุณออกมาเห็นให้กันชัดๆ เลย ผมมักบอกกับผู้ที่มาใช้บริการว่า
คุณไม่ต้องเสียเวลาจัดหาเครื่องแต่งกายดี หรือต้องหน้าสวย หน้าหล่อ เพื่อมาทำ “me” Model อะไรเลย เพราะคุณแค่เดินเข้ามาที่โชว์รูมของเรา ถ้าคุณชอบใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ ก็ขอให้เป็นชุดนั้นแหละ แต่ถ้าคุณชอบใส่สูท แต่งตัวเนี้ยบก็ตามนั้น เพราะนั่นคือตัวตนของคุณ หรือ “me” นั่นเอง ส่วนคำว่า limited edition มาจากที่ผมคิดว่า คนเราทุกคนอยากได้สิ่งของมากมาย ยากแค่ไหนก็พยายามหามายิ่งเป็นสิ่งของที่มีอยู่อย่างจำกัดยิ่งอยากได้มาเป็นเจ้าของ แต่เราลืมอะไรกันไปหรือเปล่า? ผมว่า “ตัวคุณ” นี่แหละ ที่ไม่มีอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าหายาก แต่โลกทั้งใบนี้ มี “คุณ” แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครมาทำเหมือน หรือเลียนแบบได้ ดังนั้นคุณไม่อยากมีตัวคุณเองเก็บไว้บ้างเหรอ”
นอกจากนี้ “me” limited edition นั้นไม่ได้แค่ผลิตโมเดล “me” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรับ Scan และ Print ได้ทุกอย่าง “ใครมีของสะสมอะไร อยากเก็บไว้ในลักษณะโมเดล หรือ นักออกแบบท่านใดสร้างสรรค์งานเอาไว้แล้วอยากผลิตออกมาเป็นชิ้นงาน เราก็รับทำให้ได้ โดย “me” limited edition จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Product Design และ 3D Max เพื่อตอบสนองนักออกแบบทุกท่านที่ต้องการขึ้นชิ้นงานในระยะเวลาและงบประมาณที่จำกัดครับ” คุณศุภชัยกล่าว
สำหรับการเติบโตในธุรกิจของ “me” limited edition ผู้บริหารหนุ่มยังได้เปิดเผยว่า “ภายในปีแรก ผมคาดหวังให้ “me” limited edition พัฒนาการทำหุ่นจำลองให้ได้เหมือนตัวจริงมากที่สุด สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ที่ตอนนี้ยังมีข้อจำกัดให้ได้ทั้งหมด โดยตั้งเป้าผลประกอบการไว้ที่ประมาณ 20 ล้านบาท โดยภายใน 3 ปีจากนี้ เราจะพัฒนาตนเอง ศึกษานวัตกรรม 3D Print ในทุกๆ ด้าน พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางงานพิมพ์ 3 มิติของประเทศไทยให้ได้ และภายในระยะเวลา 5 ปีจากนี้เราต้องการที่จะเป็น ศูนย์กลางงานพิมพ์ 3 มิติในเชิงอุตสาหกรรมด้วย “me” limited edition จะเป็นโรงงานผลิตงานพิมพ์ 3 มิติ ขนาดใหญ่ที่สามารถรับทำงานพิมพ์ 3 มิติได้จำนวนมากๆ ต่อครั้ง และสามารถรับออเดอร์จากต่างประเทศได้ด้วย”
สามารถพบกับ “me” limited edition ผู้นำด้านการผลิตโมเดล 3 มิติ ครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ได้แล้ว วันนี้ที่ สยามสแควร์ ซอย 6 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-658-3752 และ 093-939-7525 หรือ
www.facebook.com/me.limitededition.thailand และ Instagram : me_limitededition
Step by Step to “me” limited edition
Step 1 : Model Size
ลูกค้าต้องเลือก ขนาดของโมเดล (Model Size) ที่ต้องการเสียก่อน ซึ่งจะมีให้เลือก 9 ไซส์ คือ 8 ซม. / 10 ซม. 12 ซม. / 14 ซม. / 16 ซม. / 18 ซม. / 20 ซม. / 22 ซม. และ 29 ซม.
Step 2 : Scanning
ขั้นตอนนี้ลูกค้าจะต้องยืนนิ่งๆ ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญใช้ 3D Scanner (รุ่น Artec EVA) ทำการสแกนเก็บรายละเอียดทั้งหมดบนตัวของลูกค้า เพื่อให้ได้ 3D File ตัวของลูกค้าออกมา
Step 3 : Post Production
หลังจากได้ไฟล์ที่เป็นแบบ 3D File มาแล้ว ไฟล์นี้จะส่งต่อไปยังทีม 3D Renderer เพื่อปรับแต่งและตกแต่งไฟล์ ให้มีความสมบูรณ์แบบที่สุด
Step 4 : 3D Printing
ไฟล์ที่ถูกปรับแต่งเรียบร้อยแล้ว จะส่งต่อมายังห้อง 3D Printing เพื่อทำการพิมพ์ “me” Model
Step 5 : Packing Case
“me” Model ที่ได้ผ่านการตรวจ QC จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญแล้ว เราจะบรรจุลงในเคส ที่สั่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถป้องกันการเสียหายของ “me” Model เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย