TRUEIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมกองแรกของไทยเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย

TRUEIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมกองแรกของไทยเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 27 ธันวาคม นี้



          กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 27 ธันวาคมส่งท้ายปี 2556 ด้วยมูลค่ากองทุนสูงถึง 58,080 ล้านบาท เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมกองแรกของไทย และเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองที่ 3 ที่เข้าจดทะเบียนในปีนี้

          นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มเทคโนโลยี ในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 โดย TRUEIF เสนอขายหน่วยลงทุนต่อประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 9 – 19 ธันวาคม 2556 จำนวน 5,808 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 58,080 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นบริษัทจัดการกองทุน และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

          TRUEIF ลงทุนในสิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิที่เกิดจากการให้เช่าเสาโทรคมนาคม 5,845 เสา ระบบใยแก้วนำแสงหลัก และอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณที่เกี่ยวข้อง (ระบบ FOC) ตามสัญญาเช่าเครื่องและอุปกรณ์ HSPA ระยะเวลา 12 ปี (สิ้นสุด 3 สิงหาคม 2568) รวมทั้งสิทธิในการซื้อหรือรับโอนทรัพย์สินโทรคมนาคมดังกล่าวบางส่วนเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด และลงทุนในกรรมสิทธิ์เสาโทรคมนาคม 6,000 เสา (ส่งมอบ 3,000 เสา ภายในปี 2557 และส่วนที่เหลือ ภายในปี 2558) ระบบ FOC และระบบบรอดแบนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด

          นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่ากองทุน TRUEIF จะทำให้นักลงทุนได้มีส่วนร่วมลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่มีทรัพย์สินหลากหลาย และกระจายอยู่ทั่วประเทศ และให้โอกาสแก่ผู้ลงทุนรับผลตอบแทนที่มั่นคงจากผู้เช่าหลักคือ กลุ่มทรู ซึ่งทําสัญญาเช่าดําเนินการ การบํารุงรักษา และบริหารจัดการกับกองทุนเป็นเวลานานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ กองทุนมีโอกาสเติบโตจากการให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นร่วมใช้เสาและอุปกรณ์โทรคมนาคม รวมถึงโอกาสจากการพัฒนาของอุตสาหกรรม โทรคมนาคมในอนาคต จึงทำให้ทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยให้การตอบรับที่ดีในช่วงเสนอขายหน่วยลงทุน

          TRUEIF มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลและการคืนเงินลงทุนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ตามที่ระบุไว้ในโครงการจัดการกองทุน โดยกองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนมีกำไรเพียงพอเมื่อรวมแล้วไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของปีนั้น

          TRUEIF มีผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) ถือหน่วยลงทุน 33.24% ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ถือหน่วยลงทุน 9.04% และ Beyond Advanced Limited ถือหน่วยลงทุน 6.03%

          ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของกองทุนที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของกองทุนที่ www.true-gif.com และที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th

ภาพข่าว: กองทุนรวม TRUEIF ซื้อขายวันแรก



          ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ และจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมยินดีกับธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ในโอกาสกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยมูลค่ากองทุนสูงถึง 58,080 ล้านบาท เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมกองแรกของไทย และเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองที่ 3 ที่เข้าจดทะเบียนในปีนี้

กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมแสดงความยินดีกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในโอกาสที่ TRUEIF เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์วันแรก



          กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายลงทุน และผู้จัดการกองทุนรวมโครงการสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) ร่วมแสดงความยินดีกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ในโอกาสที่ TRUEIF เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์วันแรก โดยมีผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ซึ่งการร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ย่อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ SCB BANK ที่การันตีด้วยตำแหน่ง The first bank in Thailand จนได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรทางธุรกิจจากหลากหลายวงการ สำหรับการร่วมมือกับบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่อย่าง ทรู คอร์ปอเรชั่น (จำกัด) มหาชน ในครั้งนี้ ย่อมส่งผลต่อความน่าเชื่อมั่นในสายตาของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี

          สำหรับการให้บริการในด้านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ถือเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ “ให้เงินทำงานแทนคุณ” ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงกว้าง แต่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ผู้ลงทุนต้องทำการศึกษาหาข้อมูลของตลาดรวมถึงหุ้นแต่ละตัวให้ละเอียดถี่ถ้วยเสียก่อน ซึ่งคุณลูกค้าสามารถมองหาที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่จะคอยให้บริการคุณอย่างมืออาชีพ รู้ลึก รู้จริงได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาใกล้บ้านของคุณ

          นอกจากบริการด้านการลงทุนดังกล่าวแล้ว ทาง SCB BANK ยังมีการให้บริการในรูปแบบของการประกันภัยหลากหลายรูปแบบไว้คอยให้บริการคุณอีกด้วย ทั้งจะเป็นในรูปแบบของการประกันภัยบุคคล ที่เน้นการออมน้อย แต่ชดเชยให้สูงกับประกัน “ออมสบาย ชดเชยรายวัน” หรือจะเป็นการประกันวินาศภัยให้กับรถยนต์ ทรัพย์สินของคุณ รวมไปถึงการประกันอุบัติเหตุทั่วๆไป รวมถึงโรคร้าย ตลอดจนประกันภัยทางธุรกิจ ที่จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้แก่คุณ หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น อย่างน้อยก็จะไม่สูญเปล่า บริการที่จะเสริมสร้างความมั่นคงและความอุ่นใจให้แก่คุณ ด้วยเงื่อนไขดีดีจากธนาคารไทยพาณิชย์ที่คุณไม่อาจจะปฏิเสธได้

          ธนาคารไทยพาณิชย์ยังไม่หยุดยั้งที่จะให้บริการคุณ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยบริการบัตรเงินสดSCB CASH ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถใช้บริการได้ทั้ง ถอนเงินสดจากบัตรผ่านตู้ ATM , โอนเงิน , ใฃ้ชำระค่าบริการต่างๆ รวมถึงเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ผ่านการให้บริการของตู้ ATM สะดวกสบายไม่ต้องพกเงินสดให้วุ่นวาย เพียงแค่คุณมีบัตรเงินสด SCB CASH เท่านั้น บริการดีดีทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น อย่าลังเลที่จะให้เราเป็นส่วนหนึ่งในทุกย่างกว้างในทุกช่วงชีวิตของคุณ ภายใต้สโลแกนที่ว่า “ไม่ว่าคุณจะคิดอะไร คิดถึง...SCB” พบกับบริการระดับมาตรฐานได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถหาช้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเราได้ด้วยตัวคุณเองด้วยวิธีง่ายๆเพียงแค่เข้าไปที่ www.scb.co.th