MSN on December 04, 2013, 08:28:29 AM
ทีอี ส่งเทคโนโลยีสายสัญญาณ 100 กิกะบิต/วินาที เตรียมองค์กรพร้อมรับเทรนด์ยุค Digital Universe





28 พฤศจิกายน 2556 ทีอี คอนเน็คทิวิตี้  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สายสัญญาณและอุปกรณ์เชื่อมต่อภายใต้แบรนด์ AMP Netconnect และ Krone ทุ่มจัดงาน ทีอี โร้ดโชว์ 2013 ครั้งยิ่งใหญ่ รับเทรนด์ Digital Universe ยุคข้อมูลดิจิทัลขยายตัวสูง โชว์ศักยภาพสายสัญญาณยุคใหม่รองรับได้สูงถึง 100 กิกะบิตต่อวินาที พร้อมเปิดตัว ควอริโอ สำหรับไฟเบอร์ อย่างเป็นทางการในแนวคิดการทำงาน “เร็ว แรง ไม่สะดุด” เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดด ชูความสำเร็จยุคนี้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว

นายรักเกียรติ หงษ์กาญจนพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประจำภาคพื้นอาเซียนเหนือ กล่าวว่า “ปัจจุบันเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ Digital Universe ที่ผู้บริโภคมีการใช้ชีวิตผูกอยู่กับโลกดิจิทัลแทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การใช้โซเชียลมีเดีย การดาวน์โหลดคอนเท้นต์ดิจิทัลต่างๆ ภาพยนตร์ เกมส์ รวมทั้งการทำธุรกรรม Online ซึ่งนับวันจะมีการใช้งานเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ  ปัจจัยที่ตามมาคือเรื่องความพร้อมของผู้ให้บริการต่างๆ ที่ต้องทำความเข้าใจ และตระหนักถึงการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เคยชินกับการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการต่างๆ ได้ตลอดเวลา ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุค หรือสมาร์ทโฟน แทปเล็ต ที่มียอดขายเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และสะท้อนถึงปริมาณการใช้ข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นตามสัดส่วนเช่นกัน”

ทีอี เล็งเห็นว่า หัวใจหลักของการให้บริการที่สำคัญในยุคนี้คือ องค์กรจะต้องบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้นให้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีดาต้าเซ็นเตอร์ หรือศูนย์เครือข่ายข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง ทีอีได้ทำการวิจัย ค้นคว้า และผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการในกลุ่มของดาต้าเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานบนเครือข่ายความเร็วสูงในปัจจุบัน ได้ทั้ง 10 กิกะบิต  40 กิกะบิต และ 100 กิกะบิต บนแนวคิดที่เป็นหัวใจหลักคือ ต้องเป็นระบบที่ติดตั้งง่าย และ อัพเกรดให้ทำงานที่ความเร็วสูงขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องรื้อถอนหรือติดตั้งระบบสายสัญญาณใหม่ เพียงแค่เปลี่ยนอุปกรณ์เชื่อมต่อ Interface ด้านหน้าก็สามารถที่จะใช้งานกับระบบที่ต้องการความเร็วสูงขึ้นได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นระบบสายใยแก้วนำแสงที่มี MPO Solution สำหรับรองรับการใช้งาน หรือระบบสายทองแดง ก็จะมี MRJ21 XG สำหรับใช้งานกับระบบที่ต้องการความเร็วสูง ทั้งสองระบบนี้เป็นการออกแบบเพื่อรองรับการติดตั้งที่รองรับการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ทีอียังได้พัฒนาระบบสายสัญญาณอัจฉริยะ ควอริโอในรูปแบบใยแก้วนำแสง ให้ความเร็วและรองรับสัญาณได้มากกว่าควอริโอแบบสายทองแดง ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 40 และ 100 กิกะบิตต่อวินาที ทั้งยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบ สามารถติดตามการใช้งาน การเชื่อมต่อ และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบ Intelligent Infrastructure Management สามารถรับรู้การเชื่อมต่อ การเปลี่ยนแปลงของระบบสายสัญญาณได้ด้วยตัวเอง และ Update ข้อมูลเหล่านี้โดยอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการบันทึกเปลี่ยนแปลง โดยที่ระบบยังสามารถแจ้งเตือนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่ายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสายสัญญาณเข้ามาใหม่ หรือถอดออก แม้กระทั่งอุปกรณ์ที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งใช้งานก็สามารถแจ้งเตือนให้ทราบได้ ระบบยังสามารถพัฒนาเพิ่มเติมผ่าน API/SDK ซึ่งผู้ใช้งานสามารถพัฒนาต่อยอดให้ระบบสามารถทำงานได้ตามความต้องการ และสามารถติดต่อสื่อสารรวมถึงควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยให้กับระบบเครือข่ายได้มากยิ่งชึ้น
“จุดเด่นอีกประการก็คือ ผู้ใช้งานสามารถเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมเพื่อให้ระบบทำงานร่วมกับระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว หรือกล้องวงจรปิดเพื่อจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ จุดที่เกิดการ Disconnect ของระบบสายสัญญาณ ซึ่งจะทำให้เรามีข้อมูลไว้ตรวจสอบได้ทันทีว่าใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ที่เกิดความเสียหายแก่ระบบขึ้น หรือสามารถตั้งเงื่อนไขการใช้งานต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยให้กับระบบเครือข่ายเช่น ผู้ใช้งานสามารถกำหนดรหัสหรือชุดข้อมูลของตัวเองให้กับระบบสายสัญญาณที่อนุญาตให้ใช้งานได้ เมื่อนำสายสัญญาณที่ไม่มีชุดข้อมูล หรือรหัสที่กำหนดไว้มาใช้ ระบบจะทำการปิดพอร์ทของอุปกรณ์ Switch ที่เชื่อมต่อกับจุดที่ต้องการใช้งานนั้น จนกว่าจะใช้สายสัญญาณที่มีชุดรหัสที่กำหนดไว้เท่านั้น ระบบจึงจะสั่งการให้ Switch เปิดพอร์ทที่ต้องการให้สามารถใช้งานได้ ซึ่งระบบนี้ผู้ใช้งานสามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถใช้งานได้กับระบบ และตรงกับความต้องการของแต่ละหน่วยงานหรือองค์กรได้มากที่สุด” นายรักเกียรติ กล่าวเสริม

ทีอีมั่นใจว่า เทคโนโลยีระบบเครือข่ายสายสัญญาณของทีอี สามารถช่วยให้ลูกค้าสามารถรับมือกับการขยายตัวของโลกดิจิทัลในปัจจุบันได้อย่างแน่นอน ด้วยประสิทธิภาพและการรองรับความต้องการด้านความเร็วที่มากขึ้น ความง่ายดายได้การติดตั้งไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องรื้อสายใหม่ทั้งชุดหากต้องการขยาย เหมือนเทคโนโลยียุคก่อนๆ รวมถึงการรองรับสถานการณ์การเติบโตของการใช้ข้อมูลของลูกค้าที่ถาโถมยากเกินจะคาดเดา ดังนั้นการเตรียมความพร้อมในการรองรับการใช้ข้อมูลของผู้บริโภคที่มากขึ้นเสียแต่วันนี้ ช่วยให้องค์กรไม่ต้อง ฉุกระหุกกับสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะผู้บริโภคยุค Digital Universe คุ้นเคยกับความรวดเร็ว และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หากไม่ตอบโจทย์ความต้องการให้ได้ทันใจ

เกี่ยวกับทีอี
ทีอี คอนเน็คทิวิตี้ (NYSE: TEL) คือบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์สายสัญญาณและอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีมูลค่า 13,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ บริษัทอออกแบบ และผลิตอุปกรณ์ที่ถือเป็นหัวใจหลักของการเชื่อมต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออุตสาหกรรมชั้นนำต่างๆ ระดับโลก รวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงาน โรงงานอุตสาหกรรม การสื่อสารความเร็วสูง อุปกรณ์ปลายทางสำหรับผู้บริโภค การแพทย์ และกิจการอวกาศ จนถึงกลาโหม พันธสัญญาในระยะยาวที่ทีอี คอนเน็คทิวิตี้มีต่อความเป็นเลิศทางด้านนวัตกรรม และวิศวกรรม คือการช่วยลูกค้าในการแก้ไขปัญหาปัญหาด้านความต้องการประสิทธิภาพพลังงานที่สูงมากขึ้น การติดต่อสื่อสารผ่านบนระบบออนไลน์ตลอดเวลา และประสิทธิภาพในการผลิตที่เพิ่มขึ้น ด้วยจำนวนพนักงานเกือบ 90,000 คน ใน 50 ประเทศทั่วโลก ทีอี คอนเน็คทิวิตี้ทำให้การเชื่อมโยงสื่อสารของทั้งโลกทำงานได้โดยไม่มีข้อบกพร่องในทุกวันของการทำงาน สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.te.com/enterprisenetworks
« Last Edit: December 04, 2013, 09:41:39 AM by MSN »