สาธิตม.รังสิต แนะเทคนิคการสอน
สร้างนักเรียนเป็นผู้นำ
กิจกรรมการเรียนการสอน ในห้องเรียนเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการสร้างพฤติกรรมที่ดีให้กับนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วม ความเอื้อเฟื้อมีน้ำใจ ความกล้าแสดงออก หรือแม้แต่ความเป็นผู้นำ ถือเป็นสิ่งที่ครูผู้สอนควรให้ความสำคัญในรายละเอียดต่างๆ ของการสอนเป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิตได้มีการนำเสนอผลงานวิจัยชั้นเรียนเกี่ยวกับ “เทคนิคการสอนเพื่อสร้างนักเรียนให้มีความเป็นผู้นำ” เพื่อการมีบุคลิกภาพของผู้นำที่ดีของนักเรียน สู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต โดยที่ผู้นำที่ดีต้องมีความพร้อม ความสมดุลทั้งร่างกาย จิตใจ ความคิด และจินตนาการ เพื่อให้ก้าวทันสังคมในยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้ผลงานวิจัยที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิตนำเสนอ ได้แก่ เทคนิคการสอนเพื่อสร้างนักเรียนให้มีความเป็นผู้นำ โดยทำการจำลองสถานการณ์การเรียนผ่านกิจกรรมในวิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นกิจกรรมที่ชื่อว่า “การเป็นผู้ประกอบการ” ซึ่งให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มและสร้างสถานการณ์จำลองเพื่อขายสินค้า และนักเรียนแต่ละกลุ่มจะได้คิด วิเคราะห์ ตั้งเป้าหมาย และวางแผนการดำเนินการในสินค้าของตนเอง ในระยะเวลา 1 เทอมการศึกษา
โดยที่ครูผู้สอนจะเป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำ สังเกตการณ์ และประเมินทักษะความสามารถของนักเรียนในด้านต่างๆ อาทิ การทำงานร่วมกัน ความเป็นผู้นำ การกล้าคิด กล้าแสดงออก กลยุทธ์เทคนิคการขาย รวมถึงการเผชิญกับปัญหา และแก้ปัญหาของนักเรียน เป็นต้น ซึ่งผลปรากฏว่ากว่าร้อยละ 90 ของนักเรียนทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากในเรื่องของการทำงานร่วมกัน ความเป็นผู้นำ และการกล้าแสดงออก เนื่องจากนักเรียนต้องมีการวางแผนการขาย ทั้งวางกลยุทธ์ แบ่งงานกันให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และแก้ปัญหาร่วมกัน โดยเมื่อสิ้นสุดกิจกรรม ต้องมีการรายงานผลการดำเนินงานหน้าชั้นเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดระหว่างเพื่อนนักเรียน และคุณครู ทำให้พบได้ว่าตลอดระยะเวลา 1 เทอมการศึกษานักเรียนมีการพัฒนาตนเอง จัดระบบความคิดและการแสดงออกในทางที่ถูกวิธี ซึ่งนับเป็นพัฒนาการตามลำดับขั้นของนักเรียนที่มีความพร้อมในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำ
และด้วยผลงานวิจัยในชั้นเรียน จะเป็นสิ่งที่ทำให้ครูผู้สอนสามารถประเมินศักยภาพของนักเรียนได้ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการออกไปรับใช้สังคม ซึ่งโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิตเชื่อว่า การวิจัยและพัฒนาชั้นเรียน เป็นการช่วยส่งเสริมการเรียนการสอนให้นักเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
ตัวอย่างความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
“กิจกรรมวิชาเศรษฐศาสตร์ทำให้เราได้เรียนรู้จักที่จะเริ่มต้นคิดอย่างเป็นระบบ และมีแบบแผนหากเราต้องเป็นผู้ประกอบการในอนาคต มีความมั่นใจในการพูดมากขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับลูกค้า รู้จักการกำหนดเวลาการในการทำงาน การยอมรับฟังความคิดเห็นของคนในกลุ่ม นอกจากนี้ทำให้รู้จักค่าของเงินมากขึ้น ซึ่งกิจกรรมนี้นำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน และอนาคตของพวกเราได้”
ตัวอย่างความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
“กิจกรรมนี้ทำให้เราระมัดระวังในการดำเนินชีวิต การใช้เงินมากขึ้น และทำให้รู้จักคนมากขึ้นไม่อายที่ต้องพูดในการขายสินค้า ทำให้เมื่อกลับเข้าสู่ชีวิตจริงได้นำมาใช้จริง เช่น การบริหารการใช้เงินในแต่ละวันเพื่อให้เพียงพอ และเข้าใจคุณพ่อคุณแม่มากขึ้นว่าการหาเงินมาไม่ง่าย และสามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่ประหยัดการใช้จ่ายอีกด้วย”
