sianbun on April 24, 2009, 10:12:42 PM
up date Photo My Mighty Princess เอ็ม พิคเจอร์ส แจ้งตารางการเข้าฉายภาพยนตร์ประจำเดือนพฤษภาคม

MY MIGHTY PRINCESS
มาย ไมทตี้ พรินเซส




จัดจำหน่ายโดย      บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด
ชื่อภาษาไทย      สะดุดรัก...ยัยจอมพลัง
เว็ปไซด์         www.mulimgirl.com
ภาพยนตร์แนว      โรแมนติกคอเมดี้
จากประเทศ      เกาหลี
กำหนดฉาย      28 พฤษภาคม 2552
ณ โรงภาพยนตร์      พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และ เอเพ็กซ์ สยามสแควร์      
นักแสดง         Shin Min Ah (Sad Movie, The Besdt and The Beauty ซีรี่ย์ A Love to Kill),
On Ju Wan, Yoo Gun
ผู้กำกับ         Kwang Jae Young (My Sassy Girl, The Classic /Wind Struck)
จุดเด่น         ภาพยนตร์โรแมนติก คอเมดี้ ฝีมือการกำกับของ กวังแจยง จาก My Sassy Girl, The Classic, Wind Struck พร้อมนักแสดงซูเปอร์สตาร์หญิงของเกาหลี ชินมินอา จาก Sad Movie, The Besdt and The Beauty ซีรี่ย์ A Love to Kill ร่วมด้วยหนุ่มหล่อ ยูกอน จาก Dasepo Naughty Girl และนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ ออนจูวาน ที่โด่งดังจาก The Peter Pan Formula

เรื่องย่อ
   เรื่องราวความสนุกสนานในชีวิตนักเรียน และเรื่องราวความรักของ โซฮวี (รับบทโดย ชินมินอา) หญิงสาวผู้มีพลังวิทยายุทธเป็นเลิศ และร่างกายแข็งแรงผิดมนุษย์มนา แต่ข้อดีของเธอนี้เองทำให้เธอกลายเป็นขยาดในกลุ่มเพื่อนๆ รวมไปถึงชายหนุ่มที่เธอแอบชอบด้วย ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาจากโลกแห่งการต่อสู้ แต่ทางด้านพ่อของเธอซึ่งไม่อยากจะเสียผู้สืบทอดตำราวิทยายุทธไป จึงวางแผนให้เธอกลับหวนมาจับกระบี่อีกครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นก็มีจอมมารออกมาอาละวาดในยุทธจักรสร้างความปั่นป่วนจน โซฮวี ต้องกลับมาจับกระบี่เพื่อปราบมารอีกครั้งหนึ่ง





My Mighty Princess

เรื่องย่อ

เธอเดินบนกองถ่านไฟคุได้โดยไม่สะทกสะท้าน
เธอยกเตาเหล็กหนักอึ้งเป็นตันๆ ได้สบายๆ
เธอคือผู้เยี่ยมยุทธ์ – แต่กำลังสะดุดรัก

คัง โซฮวี (รับบทโดย ชิน มินอาห์) ดูๆ ไปก็ไม่ต่างจากเด็กสาววัยศึกษาเล่าเรียนทั่วๆ ไป แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอคือผู้สืบทอดหนึ่งเดียวแห่งตระกูลวู่หลิงอันทรงเกียรติ รวมทั้งเป็นสุดยอดในด้านศิลปะการต่อสู้อีกด้วย พ่อของเธอคือปรมาจารย์ด้านกาย้อก (ชี่กงรูปแบบหนึ่ง) ส่วนแม่นั้นเป็นบรมครูสายดาบ ทั้งสองต่างหวังว่าลูกสาวคนเดียวคนนี้จะฟื้นฟูศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมอย่างวู่หลิงให้กลับมารุ่งเรือง ในขณะที่โซฮวีแค่อยากเข้าเรียนในโรงเรียนและดำเนินชีวิตเรียบง่ายธรรมดาเหมือนเด็กสาวทั่วไป แต่แล้วก็ต้องเข้าชมรมกาย้อกตามความปรารถนาของพ่อซึ่งเชื่อว่ากาย้อกเปรียบเสมือนพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้ทุกแขนง เมื่อถึงวันงานประจำปีของโรงเรียน เธอวาดลวดลายเสียจนทุกคนต้องอ้าปากค้าง แต่หลังจากนั้น เธอค้นพบว่ามีบางอย่างน่าสนใจยิ่งกว่าการฝึกฝนกำลังภายในเสียอีก นั่นคือ จุนโม กัปตันคุมทีมฮอกกี้น้ำแข็งเสน่ห์แรง (รับบทโดย ยู กอน) โซฮวีหกคะเมนตีลังกาตกหลุมรักจุนโมเข้าเต็มเปา ด้วยความที่อยากใกล้ชิดกับเขา เธอจึงตัดสินใจลาออกจากชมรมกาย้อก และไปร่วมทีมฮอกกี้น้ำแข็งแทน แม้จะทำหน้าที่เพียงแค่ลับมีดใต้รองเท้าเท่านั้น

โซฮวีกับอุปสรรคใหญ่หลวงที่สุดในชีวิต!!!

ความใฝ่ฝันในวัยเด็กของโซฮวี คือเป็นเหมือนตัวเอกสุดเท่ในนิยายกำลังภายในทั้งหลาย มีอันต้องสูญสลายไปโดยพลันทันทีที่เธอประกาศลั่นว่านับจากนี้จะขอใช้ชีวิตธรรมดาสามัญ ถึงแม้ว่าทักษะทางศิลปะการต่อสู้จะไม่มีใครทัดเทียม แต่กับการค่อยๆ พยายามเอาชนะใจจุนโมให้ได้นั้น เธอกลับได้คืนมาเพียงความเย็นชาเฉยเมย ในขณะเดียวกัน การหันหลังให้กับศิลปะการต่อสู้ของโซฮวีก็ฉุดรั้งวู่หลิงให้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญหายเป็นอย่างยิ่ง ปรมาจารย์ทั้งสี่จึงต้องเรียกตัวเพื่อนในวัยเด็กของเธอ นั่นคือ อิลยอง (รับบทโดย ออน จูวาน) มาช่วยเป็นก้างขวางคอ คอยดึงโซฮวีให้ห่างจากจุนโม อิลยองรับหน้าที่นี้เพราะมีเครื่องล่อใจเป็นมอเตอร์ไซค์ในฝันอย่าง ‘ซูซูกิ ฮายาบูสะ’ และเริ่มปฏิบัติการดึงโซฮวีกลับสู่วู่หลิงทันที โซฮวีจะข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ และชนะใจจุนโมได้หรือไม่นั้น? ...ต้องติดตามกันต่อไป
 
เกี่ยวกับ The Mighty Princess

โปรเจกต์ภาพยนตร์ที่น่าจับตามองที่สุดแห่งปีโดย กวาก แจยัง ผู้กำกับคนดังจาก
 My Sassy Girl
การผสมกลมกลืนเป็นอย่างยิ่งของหวู่เซี่ย คอเมดี และเรื่องรักกุ๊กกิ๊ก

กวาก แจยัง ผู้ซึ่งทุบสถิติดึงดูดผู้ชมกว่า 5 ล้านคนเข้าสู่โรงภาพยนตร์ด้วยโรแมนติกคอเมดีเรื่อง My Sassy Girl กลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยภาพยนตร์เรื่องใหม่ My Mighty Princess เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในบ้านเกิดและในระดับนานาชาติ จากสุดยอดความสามารถในการกำกับหนังรักซึ่งสอดแทรกด้วยฉากอารมณ์ลึกซึ้ง อย่างเช่น My Sassy Girl (2001), The Classic (2003) และ Windstruck (2004) หลายๆ คนจึงจับจ้องมาที่ผลงานล่าสุดของเขาอย่าง My Mighty Princess เป็นตาเดียว กวาก แจยัง เตรียมความพร้อมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยที่ยังถ่ายทำเรื่อง Windstruck แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์หรือแม้แต่การกำกับฉากแอ็กชั่น โดยตั้งใจมั่นว่านี่จะเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอสุดยอดทางอารมณ์และตัวละคร ซึ่งผสมผสานกันไปทั้งเรื่องรักกุ๊กกิ๊ก เรื่องตลกขบขัน และศิลปะการต่อสู้ ที่ผ่านมา กวาก แจยัง แสดงให้เห็นความสามารถอันโดดเด่นในการสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ ผ่านทางภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ของเขา ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า My Mighty Princess ย่อมถ่ายทอดอารมณ์อันละเมียดละไมซึ่งรวมอยู่กับองค์ประกอบชวนหัวทั้งหลายโดยไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังอย่างแน่นอนเมื่อมันเข้าฉายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้

ตัวละครและนักแสดง

“หนูไม่อยากเป็นอย่างตัวเอกในนิยายกำลังภายใน ไม่อยากเดินตามรอยเท้าแม่อีกแล้ว!
หนูอยากเป็นผู้หญิงธรรมดาค่ะ!”
ผู้เป็นสุดยอดในศิลปะการต่อสู้ซึ่งกำลังตกหลุมรัก: คัง โซฮวี

ด้วยความที่เป็นลูกสาวของปรมาจารย์ทางด้านศิลปะการต่อสู้ โซฮวีจึงกลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ และเคยใฝ่ฝันว่าสักวันจะเป็นอย่างตัวเอกในนิยายกำลังภายในให้จงได้ แต่หลังจากที่ตกหลุมรักจุนโมผู้เป็นกัปตันทีมฮอกกี้น้ำแข็งสุดเท่ เธอก็ละทิ้งทุกอย่างเพื่อความรักครั้งนี้ – ไม่ว่าจะเป็น ชะตาฟ้าลิขิตให้เป็นผู้ฟื้นฟูวงศ์ตระกูล หรือแม้กระทั่งชมรมกาย้อก – โดยเข้าเป็นสมาชิกทีมฮอกกี้น้ำแข็งแม้ว่าจะมีตำแหน่งเป็นแค่คนลับใบมีดใต้รองเท้าเท่านั้น จนเพื่อนในวัยเด็กชื่อ อิลยอง ต้องออกปฏิบัติการดึงเธอกลับสู่ศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมอีกครั้ง แล้วเธอจะเหนี่ยวรักในโลกอันสับสนนี้มาแนบใจได้หรือไม่?
   
การฉีกภาพลักษณ์ใสซื่อบริสุทธิ์แบบเดิมๆ มาสู่ตัวละครที่เปี่ยมไปด้วยความสดใส
และเสน่ห์ที่แตกต่าง – ชิน มินอาห์

ภาพลักษณ์ที่เห็นกันจนชินตาของ ชิน มินอาห์ คือความใสซื่อบริสุทธิ์และไร้เดียงสา ซึ่งชนะใจบรรดาหนุ่มๆ นักแสดงนำในหนังเรื่องต่างๆ มาแล้วนักต่อนัก แต่ใน My Mighty Princess เธอจะฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ทิ้งไป กลายมาเป็นสาววัยเรียนผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้พร้อมด้วยเสน่ห์ที่แปลกแตกต่างหลากหลาย นอกจากนี้ เธอยังพิสูจน์ให้เห็นความเป็นมืออาชีพทั้งในบทตลกและในฉากแอ็กชั่นยากๆ ซึ่งคาดว่าเธอจะก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงมากความสามารถประดับวงการภาพยนตร์เกาหลีรุ่นต่อไปอย่างแน่นอน

รายนามผลงานภาพยนตร์
The Beast and the Beauty (2005)
Sad Movie (2005)
A Bittersweet Life (2005)
Madeleine (2002)
Volcano High School (2001)

รายนามผลงานทางโทรทัศน์
Devil (2007)
A Love to Kill (2005)
때려 (2003) 
Beautiful Days (2001)

“ผมต้องหยุดเธอไม่ให้ลงลึกไปในหลุมรัก เพื่อมอเตอร์ไซค์ซูซูกิ ฮายาบูสะ
และศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิม”
ก้างขวางคอผู้น่ายกย่อง: ชอน อิลยอง

อิลยอง คือเพื่อนในวัยเด็กของโซฮวีซึ่งเคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาด้วยกัน เขาต้องรับหน้าที่ดึงโซฮวีกลับสู่ศิลปะการต่อสู้อีกครั้ง – เพื่อให้ได้มาซึ่งมอเตอร์ไซค์ในฝันคันงาม นั่นคือ ‘ซูซูกิ ฮายาบูสะ’ เขาติดตามโซฮวีไปทั่วโรงเรียนเพื่อขัดขวางหนทางรักของเธอ แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด โซฮวีจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เขาเข้ามาขวาง แต่ก็เกลียดไม่ลงเพราะท่าทางน่ารักน่าหยิกของเขา งานนี้ทั้งสองจะต้องปะทะฝีปากกันตลอดทั้งเรื่องทีเดียว สุดท้ายแล้วเขาจะโน้มน้าวเธอกลับมาสู่สิ่งเดิมๆ ได้หรือไม่?

ความหลงใหลที่ไม่เคยหยุดนิ่งของนักแสดงผู้เพียบพร้อม
“ผมทุ่มสุดตัวกับบทอิลยอง” – ออน จูวาน

เฉพาะในปี 2006 เขาปรากฏตัวในภาพยนตร์ถึง 3 เรื่อง และถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงดวงหนึ่งในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเกาหลีใต้ เขาเลือกที่จะเป็นนักแสดงตัวจริงมากกว่าจะเป็นดารา ทั้งยังเป็นที่ทราบกันดีว่าเขาคือนักแสดงผู้เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ โดยจะศึกษาและพิจารณาบทบาทอย่างถ่องแท้ถึงแก่นก่อนจะแสดง ที่สำคัญ ความหลงใหลในการแสดงซึ่งไม่เคยหยุดนิ่งของเขาจะส่องประกายแวววาวในหนังเรื่องนี้

รายนามผลงานภาพยนตร์
The Cut (2007)
The City of Violence (2006)
Bloody Tie (2006)
The Peter Pan Formula (2006)
The Aggressives (2005)
Flying Boys (2004)

“หยุดวุ่นวายกับฉันสักที ไปลับใบมีดใต้รองเท้าซะ หรือไปหาอย่างอื่นทำนู่นไป~ ~!!”
หนุ่มผู้ไม่ยอมก้มหัวให้ใครและไม่ใส่ใจในเรื่องรัก: จุนโม

จุนโมคือกัปตันทีมฮอกกี้น้ำแข็งผู้ทรงเสน่ห์ สาวๆ ทั้งหลายต่างคลั่งไคล้ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เขาไม่เคยใส่ใจพวกเธอเลย โซฮวีตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ถึงขนาดอาสาทำหน้าที่ลับใบมีดใต้รองเท้าให้กับทีมฮอกกี้น้ำแข็งเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ เขา ทว่าเขาก็ยังเฉยชาไม่เคยเปลี่ยน อะไรคือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความเฉยชาต่อความรักของชายผู้นี้? และเขาจะต้านทานพลังแห่งความรักที่ไม่เหมือนใครของโซฮวีได้หรือไม่?

ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีกับความท้าทายบนจอเงิน – ยู กอน

ยู กอน เปิดตัวการแสดงอันยอดเยี่ยมกันที่ซีรี่ส์ทางโทรทัศน์เรื่อง “Hello, God” ในปี 2006 นับแต่นั้น เขากลายเป็นที่ต้องการของบรรดาผู้สร้างภาพยนตร์ทั้งหลายทันที ด้วยความที่มีบุคลิกหล่อเหลาสะอาดสะอ้านและฝีมือทางการแสดงจัดจ้าน แต่ในที่สุด เขาเลือกจะก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งนักแสดงภาพยนตร์ต่อไปในภาพยนตร์เรื่อง My Mighty Princess

รายนามผลงานภาพยนตร์
Project  Makeover (2007)
Dasepo Naughty Girl (2006)

รายนามผลงานทางโทรทัศน์
Hello, God (2006)

ผู้สร้างภาพยนตร์

ผู้กำกับภาพยนตร์ / ผู้เขียนบทภาพยนตร์: กวาก แจยัง

กวาก แจยัง เปิดตัวฝีมือกำกับภาพยนตร์อันเหนือชั้นกันที่ A Sketch of a Rainy Day ซึ่งเป็นผลงานรักหวานซึ้งถึงพร้อมด้วยฉากสะเทือนอารมณ์และเพลงประกอบนำสมัย ตั้งแต่นั้น ภาพยนตร์เรื่องต่อๆ มาของเขาก็เปิดแนวทางใหม่และกรุยทางให้ภาพยนตร์รักสัญชาติเกาหลีก้าวเดินไปได้โดยสะดวก เขามีความสามารถระดับสูงในการสร้างภาพยนตร์ที่ดึงดูดใจผู้ชมทุกเพศทุกวัย ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือ My Sassy Girl ซึ่งทุบสถิติรายได้กระจุยกระจาย My Sassy Girl ได้รับความนิยมในวงกว้าง ไม่เฉพาะแต่ในเกาหลีเท่านั้น แต่เป็นที่นิยมไปทั่วทั้งเอเชียตะวันออก อย่างเช่น ญี่ปุ่นและฮ่องกง เรียกว่าขยายฐานแฟนๆ ที่ชื่นชอบแนวกำกับภาพยนตร์ของเขาออกไปในระดับสากลเลยทีเดียว ขอบเขตเรื่องรักในแบบของเขานั้นกินวงกว้างตั้งแต่แนวคลาสสิกไปจนถึงแนวล้ำนำสมัย นอกจากนี้ ความสามารถในการสอดแทรกมุกตลกให้โดนใจผู้ชมยังมีบทบาทสำคัญต่อแนวทางของภาพยนตร์เกาหลีเรื่องอื่นๆ อีกด้วย สำหรับ My Mighty Princess เป็นผลงานที่เขาปรุงแต่งอยู่หลายปี โดยการผสมผสานศิลปะการต่อสู้เข้ากับโรแมนติกคอเมดีอย่างกลมกล่อม เพื่อให้มันกลายเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในปีนี้ น่าปลาบปลื้มยิ่งนักกับการที่เขาไม่เคยหยุดแสวงหาสิ่งใหม่ๆ มาใส่ในผลงาน รวมถึงความสามารถในการอ่านใจสาธารณชนได้ทะลุปรุโปร่ง

รายนามผลงานภาพยนตร์
A Sketch of a Rainy Day (1990)
Autumn Journey (1991)
A Sketch of a Rainy Day 2 (1993)
My Sassy Girl (2001)
The Classic (2003)
Windstruck (2004)

“เอ็ม พิคเจอร์ส” แจ้งตารางการปรับเปลี่ยนวันที่เข้าฉายภาพยนตร์ ประจำเดือนพฤษภาคม และ มิถุนายน 2552 ดังนี้


 


 


7 พฤษภาคม Big Stan (พี่บิ๊กเบิ้ม ขอทีอย่าแหยม!!)


***เข้าฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ***



-                                                         ภาพยนตร์คอเมดี้ จากประเทศสหรัฐอเมริกา


-                                                         ภาพยนตร์ฮาระดับพระกาฬเริ่มต้นขึ้น... เมื่อหนุ่มหน้าตาบ้านๆ (ร็อบ ชไนเดอร์) มีเหตุต้องเข้าไปอยู่ในคุกในอีกหกเดือนข้างหน้า เขาจึงตัดสินใจเรียนกังฟูกับบุรุษเร่ร่อน ที่เรียกตัวเองว่า The Master (เดวิด คาร์ราดีน) ระหว่างนั้น เขาก็ยังต้องคอยปลอบใจภรรยาสุดสวยของเขา (เจนนิเฟอร์ มอร์ริสัน) ซึ่งการฝึกฝนนั้นก็ดูเหมือนจะได้ผล เพราะเมื่อถึงกำหนดการที่เขาต้องไปเข้าคุก เขาก็สามารถลงมือจัดการสั่งสอนหัวโจกของแก๊งค์ทุกแก๊งค์ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นพี่มืดร่างยักษ์จอมตุ๋ย หรือแม้กระทั่งแก๊งค์นาซีจอมโหด จนในที่สุดเขาก็ได้รับการยกย่องจากทุกคนในคุกว่าเป็น “ลูกพี่ใหญ่!”


 


 


28 พฤษภาคม My Mighty Princess (สะดุดรัก...ยัยจอมพลัง) http://www.mulimgirl.com


***เข้าฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และ เอเพ็กซ์ สยามสแควร์***



-                                                         ภาพยนตร์โรแมนติก คอเมดี้ จากประเทศเกาหลี


-                                                         ภาพยนตร์โรแมนติกฝีมือการกำกับของ กวังแจยง จาก My Sassy Girl, The Classic, Wind Struck พร้อมนักแสดงซูเปอร์สตาร์หญิงของเกาหลี ชินมินอา จาก Sad Movie, The Besdt and The Beauty ซีรี่ย์ A Love to Kill ร่วมด้วยหนุ่มหล่อ ยูกอน จาก Dasepo Naughty Girl และนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ ออนจูวาน ที่โด่งดังจาก The Peter Pan Formula


-                                                         เรื่องราวความสนุกสนานในชีวิตนักเรียน และเรื่องราวความรักของ โซฮวี (รับบทโดย ชินมินอา) หญิงสาวผู้มีพลังวิทยายุทธเป็นเลิศ และร่างกายแข็งแรงผิดมนุษย์มนา แต่ข้อดีของเธอนี้เองทำให้เธอกลายเป็นขยาดในกลุ่มเพื่อนๆ รวมไปถึงชายหนุ่มที่เธอแอบชอบด้วย ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาจากโลกแห่งการต่อสู้ แต่ทางด้านพ่อของเธอซึ่งไม่อยากจะเสียผู้สืบทอดตำราวิทยายุทธไป จึงวางแผนให้เธอกลับหวนมาจับกระบี่อีกครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นก็มีจอมมารออกมาอาละวาดในยุทธจักรสร้างความปั่นป่วนจน โซฮวี ต้องกลับมาจับกระบี่เพื่อปราบมารอีกครั้งหนึ่ง


 


 


11 มิถุนายน Blood The Last Vampire


***ทุกโรงภาพยนตร์ ***



-                                                         ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น จากประเทศสหรัฐอเมริกา


-                                                         ด้วยทุนสร้างมากถึง 35 ล้านเหรียญสหรัฐ ดัดแปลงจากแอนิเมชั่นชื่อดังที่ได้รับรางวัลแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมจาก World Animation Celebration 2001 ได้ผู้กำกับมือฉมังจาก Kiss of The Dragon ร่วมด้วยทีมงานสร้างรางวัลออสการ์จากเรื่อง Crouching Tiger Hidden Dargon, Hero และสุดยอดทีมสเปเชียลเอฟเฟ็คจาก Spider-Man, Ternimator และ Fantastic Four


-                                                         นำแสดงโดย Gianna Jun หรือ จวน จีฮุน (II Mare และ MY Sassy Girl – ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม)นักแสดงสาวซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของเกาหลีที่ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเป็นครั้งแรก โดยรับบทเป็นแวมไพร์สาวที่ตามล่าสังหารแวมไพร์นอกคอกให้หมดสิ้น นอกจากนี้ยังได้ อลิสัน มิลเลอร์ (CSI:NY, Desperate Housewives, Take) นักแสดงสาวดาวรุ่งของวงการฮอลลีวู้ด และ โคะยูกิ (The Last Samurai, Always L Sunset on The Third Street) นักแสดงนำหญิงชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่น มาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Blood The Last Vampire นี้ด้วย


-                                                         ซายะ (จวน จีฮุน) สาวสวยวัย 16 ทว่าภายใต้ความเยาว์วัย เธอคือลูกครึ่งแวมไพร์ที่มีชีวิตทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 400 ปี คอยออกตามล่าสังหารเหล่าแวมไพร์นอกรีตมานับศตวรรษ ตามคำสั่งขององค์กรลับแห่งหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐในการล่าและทำลายล้างอสูรกายที่แฝงตัวเข้ามาในฐานทัพอเมริกันในญี่ปุ่น เธอปลอมตัวมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนและเริ่มสืบหาผู้ต้องสงสัยซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในหมู่เพื่อนร่วมห้อง ทหารศพแล้วศพเล่าถูกกระชากอวัยวะฉีกขาดจากกันบ่งบอกถึงความอำมหิต และยิ่งทวีความน่ากลัวเมื่อปิศาจร้ายอาจจะมีมากกว่าหนึ่ง ทว่าการปลิดชีพปีศาจตนนี้หาใช่เรื่องง่าย เพราะมันมีความสามารถในการแปลงกายได้อย่างแนบเนียนและแยบยล ศึกมหาสงครามตามล่าล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่มีเลือดเนื้อ และชีวิตของมนุษย์เป็นเดิมพันได้อุบัติขึ้นอีกครั้ง
« Last Edit: April 25, 2009, 10:59:45 AM by sianbun »