up date Photo My Mighty Princess เอ็ม พิคเจอร์ส แจ้งตารางการเข้าฉายภาพยนตร์ประจำเดือนพฤษภาคม
MY MIGHTY PRINCESS
มาย ไมทตี้ พรินเซส
จัดจำหน่ายโดย บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด
ชื่อภาษาไทย สะดุดรัก...ยัยจอมพลัง
เว็ปไซด์
www.mulimgirl.comภาพยนตร์แนว โรแมนติกคอเมดี้
จากประเทศ เกาหลี
กำหนดฉาย 28 พฤษภาคม 2552
ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และ เอเพ็กซ์ สยามสแควร์
นักแสดง Shin Min Ah (Sad Movie, The Besdt and The Beauty ซีรี่ย์ A Love to Kill),
On Ju Wan, Yoo Gun
ผู้กำกับ Kwang Jae Young (My Sassy Girl, The Classic /Wind Struck)
จุดเด่น ภาพยนตร์โรแมนติก คอเมดี้ ฝีมือการกำกับของ กวังแจยง จาก My Sassy Girl, The Classic, Wind Struck พร้อมนักแสดงซูเปอร์สตาร์หญิงของเกาหลี ชินมินอา จาก Sad Movie, The Besdt and The Beauty ซีรี่ย์ A Love to Kill ร่วมด้วยหนุ่มหล่อ ยูกอน จาก Dasepo Naughty Girl และนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ ออนจูวาน ที่โด่งดังจาก The Peter Pan Formula
เรื่องย่อ
เรื่องราวความสนุกสนานในชีวิตนักเรียน และเรื่องราวความรักของ โซฮวี (รับบทโดย ชินมินอา) หญิงสาวผู้มีพลังวิทยายุทธเป็นเลิศ และร่างกายแข็งแรงผิดมนุษย์มนา แต่ข้อดีของเธอนี้เองทำให้เธอกลายเป็นขยาดในกลุ่มเพื่อนๆ รวมไปถึงชายหนุ่มที่เธอแอบชอบด้วย ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาจากโลกแห่งการต่อสู้ แต่ทางด้านพ่อของเธอซึ่งไม่อยากจะเสียผู้สืบทอดตำราวิทยายุทธไป จึงวางแผนให้เธอกลับหวนมาจับกระบี่อีกครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นก็มีจอมมารออกมาอาละวาดในยุทธจักรสร้างความปั่นป่วนจน โซฮวี ต้องกลับมาจับกระบี่เพื่อปราบมารอีกครั้งหนึ่ง
My Mighty Princess
เรื่องย่อ
เธอเดินบนกองถ่านไฟคุได้โดยไม่สะทกสะท้าน
เธอยกเตาเหล็กหนักอึ้งเป็นตันๆ ได้สบายๆ
เธอคือผู้เยี่ยมยุทธ์ – แต่กำลังสะดุดรัก
คัง โซฮวี (รับบทโดย ชิน มินอาห์) ดูๆ ไปก็ไม่ต่างจากเด็กสาววัยศึกษาเล่าเรียนทั่วๆ ไป แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอคือผู้สืบทอดหนึ่งเดียวแห่งตระกูลวู่หลิงอันทรงเกียรติ รวมทั้งเป็นสุดยอดในด้านศิลปะการต่อสู้อีกด้วย พ่อของเธอคือปรมาจารย์ด้านกาย้อก (ชี่กงรูปแบบหนึ่ง) ส่วนแม่นั้นเป็นบรมครูสายดาบ ทั้งสองต่างหวังว่าลูกสาวคนเดียวคนนี้จะฟื้นฟูศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมอย่างวู่หลิงให้กลับมารุ่งเรือง ในขณะที่โซฮวีแค่อยากเข้าเรียนในโรงเรียนและดำเนินชีวิตเรียบง่ายธรรมดาเหมือนเด็กสาวทั่วไป แต่แล้วก็ต้องเข้าชมรมกาย้อกตามความปรารถนาของพ่อซึ่งเชื่อว่ากาย้อกเปรียบเสมือนพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้ทุกแขนง เมื่อถึงวันงานประจำปีของโรงเรียน เธอวาดลวดลายเสียจนทุกคนต้องอ้าปากค้าง แต่หลังจากนั้น เธอค้นพบว่ามีบางอย่างน่าสนใจยิ่งกว่าการฝึกฝนกำลังภายในเสียอีก นั่นคือ จุนโม กัปตันคุมทีมฮอกกี้น้ำแข็งเสน่ห์แรง (รับบทโดย ยู กอน) โซฮวีหกคะเมนตีลังกาตกหลุมรักจุนโมเข้าเต็มเปา ด้วยความที่อยากใกล้ชิดกับเขา เธอจึงตัดสินใจลาออกจากชมรมกาย้อก และไปร่วมทีมฮอกกี้น้ำแข็งแทน แม้จะทำหน้าที่เพียงแค่ลับมีดใต้รองเท้าเท่านั้น
โซฮวีกับอุปสรรคใหญ่หลวงที่สุดในชีวิต!!!
ความใฝ่ฝันในวัยเด็กของโซฮวี คือเป็นเหมือนตัวเอกสุดเท่ในนิยายกำลังภายในทั้งหลาย มีอันต้องสูญสลายไปโดยพลันทันทีที่เธอประกาศลั่นว่านับจากนี้จะขอใช้ชีวิตธรรมดาสามัญ ถึงแม้ว่าทักษะทางศิลปะการต่อสู้จะไม่มีใครทัดเทียม แต่กับการค่อยๆ พยายามเอาชนะใจจุนโมให้ได้นั้น เธอกลับได้คืนมาเพียงความเย็นชาเฉยเมย ในขณะเดียวกัน การหันหลังให้กับศิลปะการต่อสู้ของโซฮวีก็ฉุดรั้งวู่หลิงให้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญหายเป็นอย่างยิ่ง ปรมาจารย์ทั้งสี่จึงต้องเรียกตัวเพื่อนในวัยเด็กของเธอ นั่นคือ อิลยอง (รับบทโดย ออน จูวาน) มาช่วยเป็นก้างขวางคอ คอยดึงโซฮวีให้ห่างจากจุนโม อิลยองรับหน้าที่นี้เพราะมีเครื่องล่อใจเป็นมอเตอร์ไซค์ในฝันอย่าง ‘ซูซูกิ ฮายาบูสะ’ และเริ่มปฏิบัติการดึงโซฮวีกลับสู่วู่หลิงทันที โซฮวีจะข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ และชนะใจจุนโมได้หรือไม่นั้น? ...ต้องติดตามกันต่อไป
เกี่ยวกับ The Mighty Princess
โปรเจกต์ภาพยนตร์ที่น่าจับตามองที่สุดแห่งปีโดย กวาก แจยัง ผู้กำกับคนดังจาก
My Sassy Girl
การผสมกลมกลืนเป็นอย่างยิ่งของหวู่เซี่ย คอเมดี และเรื่องรักกุ๊กกิ๊ก
กวาก แจยัง ผู้ซึ่งทุบสถิติดึงดูดผู้ชมกว่า 5 ล้านคนเข้าสู่โรงภาพยนตร์ด้วยโรแมนติกคอเมดีเรื่อง My Sassy Girl กลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยภาพยนตร์เรื่องใหม่ My Mighty Princess เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในบ้านเกิดและในระดับนานาชาติ จากสุดยอดความสามารถในการกำกับหนังรักซึ่งสอดแทรกด้วยฉากอารมณ์ลึกซึ้ง อย่างเช่น My Sassy Girl (2001), The Classic (2003) และ Windstruck (2004) หลายๆ คนจึงจับจ้องมาที่ผลงานล่าสุดของเขาอย่าง My Mighty Princess เป็นตาเดียว กวาก แจยัง เตรียมความพร้อมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยที่ยังถ่ายทำเรื่อง Windstruck แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์หรือแม้แต่การกำกับฉากแอ็กชั่น โดยตั้งใจมั่นว่านี่จะเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอสุดยอดทางอารมณ์และตัวละคร ซึ่งผสมผสานกันไปทั้งเรื่องรักกุ๊กกิ๊ก เรื่องตลกขบขัน และศิลปะการต่อสู้ ที่ผ่านมา กวาก แจยัง แสดงให้เห็นความสามารถอันโดดเด่นในการสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ ผ่านทางภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ของเขา ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า My Mighty Princess ย่อมถ่ายทอดอารมณ์อันละเมียดละไมซึ่งรวมอยู่กับองค์ประกอบชวนหัวทั้งหลายโดยไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังอย่างแน่นอนเมื่อมันเข้าฉายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
ตัวละครและนักแสดง
“หนูไม่อยากเป็นอย่างตัวเอกในนิยายกำลังภายใน ไม่อยากเดินตามรอยเท้าแม่อีกแล้ว!
หนูอยากเป็นผู้หญิงธรรมดาค่ะ!”
ผู้เป็นสุดยอดในศิลปะการต่อสู้ซึ่งกำลังตกหลุมรัก: คัง โซฮวี
ด้วยความที่เป็นลูกสาวของปรมาจารย์ทางด้านศิลปะการต่อสู้ โซฮวีจึงกลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ และเคยใฝ่ฝันว่าสักวันจะเป็นอย่างตัวเอกในนิยายกำลังภายในให้จงได้ แต่หลังจากที่ตกหลุมรักจุนโมผู้เป็นกัปตันทีมฮอกกี้น้ำแข็งสุดเท่ เธอก็ละทิ้งทุกอย่างเพื่อความรักครั้งนี้ – ไม่ว่าจะเป็น ชะตาฟ้าลิขิตให้เป็นผู้ฟื้นฟูวงศ์ตระกูล หรือแม้กระทั่งชมรมกาย้อก – โดยเข้าเป็นสมาชิกทีมฮอกกี้น้ำแข็งแม้ว่าจะมีตำแหน่งเป็นแค่คนลับใบมีดใต้รองเท้าเท่านั้น จนเพื่อนในวัยเด็กชื่อ อิลยอง ต้องออกปฏิบัติการดึงเธอกลับสู่ศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมอีกครั้ง แล้วเธอจะเหนี่ยวรักในโลกอันสับสนนี้มาแนบใจได้หรือไม่?
การฉีกภาพลักษณ์ใสซื่อบริสุทธิ์แบบเดิมๆ มาสู่ตัวละครที่เปี่ยมไปด้วยความสดใส
และเสน่ห์ที่แตกต่าง – ชิน มินอาห์
ภาพลักษณ์ที่เห็นกันจนชินตาของ ชิน มินอาห์ คือความใสซื่อบริสุทธิ์และไร้เดียงสา ซึ่งชนะใจบรรดาหนุ่มๆ นักแสดงนำในหนังเรื่องต่างๆ มาแล้วนักต่อนัก แต่ใน My Mighty Princess เธอจะฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ทิ้งไป กลายมาเป็นสาววัยเรียนผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้พร้อมด้วยเสน่ห์ที่แปลกแตกต่างหลากหลาย นอกจากนี้ เธอยังพิสูจน์ให้เห็นความเป็นมืออาชีพทั้งในบทตลกและในฉากแอ็กชั่นยากๆ ซึ่งคาดว่าเธอจะก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงมากความสามารถประดับวงการภาพยนตร์เกาหลีรุ่นต่อไปอย่างแน่นอน
รายนามผลงานภาพยนตร์
The Beast and the Beauty (2005)
Sad Movie (2005)
A Bittersweet Life (2005)
Madeleine (2002)
Volcano High School (2001)
รายนามผลงานทางโทรทัศน์
Devil (2007)
A Love to Kill (2005)
때려 (2003)
Beautiful Days (2001)
“ผมต้องหยุดเธอไม่ให้ลงลึกไปในหลุมรัก เพื่อมอเตอร์ไซค์ซูซูกิ ฮายาบูสะ
และศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิม”
ก้างขวางคอผู้น่ายกย่อง: ชอน อิลยอง
อิลยอง คือเพื่อนในวัยเด็กของโซฮวีซึ่งเคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาด้วยกัน เขาต้องรับหน้าที่ดึงโซฮวีกลับสู่ศิลปะการต่อสู้อีกครั้ง – เพื่อให้ได้มาซึ่งมอเตอร์ไซค์ในฝันคันงาม นั่นคือ ‘ซูซูกิ ฮายาบูสะ’ เขาติดตามโซฮวีไปทั่วโรงเรียนเพื่อขัดขวางหนทางรักของเธอ แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด โซฮวีจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เขาเข้ามาขวาง แต่ก็เกลียดไม่ลงเพราะท่าทางน่ารักน่าหยิกของเขา งานนี้ทั้งสองจะต้องปะทะฝีปากกันตลอดทั้งเรื่องทีเดียว สุดท้ายแล้วเขาจะโน้มน้าวเธอกลับมาสู่สิ่งเดิมๆ ได้หรือไม่?
ความหลงใหลที่ไม่เคยหยุดนิ่งของนักแสดงผู้เพียบพร้อม
“ผมทุ่มสุดตัวกับบทอิลยอง” – ออน จูวาน
เฉพาะในปี 2006 เขาปรากฏตัวในภาพยนตร์ถึง 3 เรื่อง และถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงดวงหนึ่งในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเกาหลีใต้ เขาเลือกที่จะเป็นนักแสดงตัวจริงมากกว่าจะเป็นดารา ทั้งยังเป็นที่ทราบกันดีว่าเขาคือนักแสดงผู้เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ โดยจะศึกษาและพิจารณาบทบาทอย่างถ่องแท้ถึงแก่นก่อนจะแสดง ที่สำคัญ ความหลงใหลในการแสดงซึ่งไม่เคยหยุดนิ่งของเขาจะส่องประกายแวววาวในหนังเรื่องนี้
รายนามผลงานภาพยนตร์
The Cut (2007)
The City of Violence (2006)
Bloody Tie (2006)
The Peter Pan Formula (2006)
The Aggressives (2005)
Flying Boys (2004)
“หยุดวุ่นวายกับฉันสักที ไปลับใบมีดใต้รองเท้าซะ หรือไปหาอย่างอื่นทำนู่นไป~ ~!!”
หนุ่มผู้ไม่ยอมก้มหัวให้ใครและไม่ใส่ใจในเรื่องรัก: จุนโม
จุนโมคือกัปตันทีมฮอกกี้น้ำแข็งผู้ทรงเสน่ห์ สาวๆ ทั้งหลายต่างคลั่งไคล้ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เขาไม่เคยใส่ใจพวกเธอเลย โซฮวีตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ถึงขนาดอาสาทำหน้าที่ลับใบมีดใต้รองเท้าให้กับทีมฮอกกี้น้ำแข็งเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ เขา ทว่าเขาก็ยังเฉยชาไม่เคยเปลี่ยน อะไรคือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความเฉยชาต่อความรักของชายผู้นี้? และเขาจะต้านทานพลังแห่งความรักที่ไม่เหมือนใครของโซฮวีได้หรือไม่?
ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีกับความท้าทายบนจอเงิน – ยู กอน
ยู กอน เปิดตัวการแสดงอันยอดเยี่ยมกันที่ซีรี่ส์ทางโทรทัศน์เรื่อง “Hello, God” ในปี 2006 นับแต่นั้น เขากลายเป็นที่ต้องการของบรรดาผู้สร้างภาพยนตร์ทั้งหลายทันที ด้วยความที่มีบุคลิกหล่อเหลาสะอาดสะอ้านและฝีมือทางการแสดงจัดจ้าน แต่ในที่สุด เขาเลือกจะก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งนักแสดงภาพยนตร์ต่อไปในภาพยนตร์เรื่อง My Mighty Princess
รายนามผลงานภาพยนตร์
Project Makeover (2007)
Dasepo Naughty Girl (2006)
รายนามผลงานทางโทรทัศน์
Hello, God (2006)
ผู้สร้างภาพยนตร์
ผู้กำกับภาพยนตร์ / ผู้เขียนบทภาพยนตร์: กวาก แจยัง
กวาก แจยัง เปิดตัวฝีมือกำกับภาพยนตร์อันเหนือชั้นกันที่ A Sketch of a Rainy Day ซึ่งเป็นผลงานรักหวานซึ้งถึงพร้อมด้วยฉากสะเทือนอารมณ์และเพลงประกอบนำสมัย ตั้งแต่นั้น ภาพยนตร์เรื่องต่อๆ มาของเขาก็เปิดแนวทางใหม่และกรุยทางให้ภาพยนตร์รักสัญชาติเกาหลีก้าวเดินไปได้โดยสะดวก เขามีความสามารถระดับสูงในการสร้างภาพยนตร์ที่ดึงดูดใจผู้ชมทุกเพศทุกวัย ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือ My Sassy Girl ซึ่งทุบสถิติรายได้กระจุยกระจาย My Sassy Girl ได้รับความนิยมในวงกว้าง ไม่เฉพาะแต่ในเกาหลีเท่านั้น แต่เป็นที่นิยมไปทั่วทั้งเอเชียตะวันออก อย่างเช่น ญี่ปุ่นและฮ่องกง เรียกว่าขยายฐานแฟนๆ ที่ชื่นชอบแนวกำกับภาพยนตร์ของเขาออกไปในระดับสากลเลยทีเดียว ขอบเขตเรื่องรักในแบบของเขานั้นกินวงกว้างตั้งแต่แนวคลาสสิกไปจนถึงแนวล้ำนำสมัย นอกจากนี้ ความสามารถในการสอดแทรกมุกตลกให้โดนใจผู้ชมยังมีบทบาทสำคัญต่อแนวทางของภาพยนตร์เกาหลีเรื่องอื่นๆ อีกด้วย สำหรับ My Mighty Princess เป็นผลงานที่เขาปรุงแต่งอยู่หลายปี โดยการผสมผสานศิลปะการต่อสู้เข้ากับโรแมนติกคอเมดีอย่างกลมกล่อม เพื่อให้มันกลายเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในปีนี้ น่าปลาบปลื้มยิ่งนักกับการที่เขาไม่เคยหยุดแสวงหาสิ่งใหม่ๆ มาใส่ในผลงาน รวมถึงความสามารถในการอ่านใจสาธารณชนได้ทะลุปรุโปร่ง
รายนามผลงานภาพยนตร์
A Sketch of a Rainy Day (1990)
Autumn Journey (1991)
A Sketch of a Rainy Day 2 (1993)
My Sassy Girl (2001)
The Classic (2003)
Windstruck (2004)
“เอ็ม พิคเจอร์ส” แจ้งตารางการปรับเปลี่ยนวันที่เข้าฉายภาพยนตร์ ประจำเดือนพฤษภาคม และ มิถุนายน 2552 ดังนี้
7 พฤษภาคม Big Stan (พี่บิ๊กเบิ้ม ขอทีอย่าแหยม!!)
***เข้าฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ***
- ภาพยนตร์คอเมดี้ จากประเทศสหรัฐอเมริกา
- ภาพยนตร์ฮาระดับพระกาฬเริ่มต้นขึ้น... เมื่อหนุ่มหน้าตาบ้านๆ (ร็อบ ชไนเดอร์) มีเหตุต้องเข้าไปอยู่ในคุกในอีกหกเดือนข้างหน้า เขาจึงตัดสินใจเรียนกังฟูกับบุรุษเร่ร่อน ที่เรียกตัวเองว่า The Master (เดวิด คาร์ราดีน) ระหว่างนั้น เขาก็ยังต้องคอยปลอบใจภรรยาสุดสวยของเขา (เจนนิเฟอร์ มอร์ริสัน) ซึ่งการฝึกฝนนั้นก็ดูเหมือนจะได้ผล เพราะเมื่อถึงกำหนดการที่เขาต้องไปเข้าคุก เขาก็สามารถลงมือจัดการสั่งสอนหัวโจกของแก๊งค์ทุกแก๊งค์ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นพี่มืดร่างยักษ์จอมตุ๋ย หรือแม้กระทั่งแก๊งค์นาซีจอมโหด จนในที่สุดเขาก็ได้รับการยกย่องจากทุกคนในคุกว่าเป็น “ลูกพี่ใหญ่!”
28 พฤษภาคม My Mighty Princess (สะดุดรัก...ยัยจอมพลัง)
http://www.mulimgirl.com ***เข้าฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และ เอเพ็กซ์ สยามสแควร์***
- ภาพยนตร์โรแมนติก คอเมดี้ จากประเทศเกาหลี
- ภาพยนตร์โรแมนติกฝีมือการกำกับของ กวังแจยง จาก My Sassy Girl, The Classic, Wind Struck พร้อมนักแสดงซูเปอร์สตาร์หญิงของเกาหลี ชินมินอา จาก Sad Movie, The Besdt and The Beauty ซีรี่ย์ A Love to Kill ร่วมด้วยหนุ่มหล่อ ยูกอน จาก Dasepo Naughty Girl และนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ ออนจูวาน ที่โด่งดังจาก The Peter Pan Formula
- เรื่องราวความสนุกสนานในชีวิตนักเรียน และเรื่องราวความรักของ โซฮวี (รับบทโดย ชินมินอา) หญิงสาวผู้มีพลังวิทยายุทธเป็นเลิศ และร่างกายแข็งแรงผิดมนุษย์มนา แต่ข้อดีของเธอนี้เองทำให้เธอกลายเป็นขยาดในกลุ่มเพื่อนๆ รวมไปถึงชายหนุ่มที่เธอแอบชอบด้วย ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาจากโลกแห่งการต่อสู้ แต่ทางด้านพ่อของเธอซึ่งไม่อยากจะเสียผู้สืบทอดตำราวิทยายุทธไป จึงวางแผนให้เธอกลับหวนมาจับกระบี่อีกครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นก็มีจอมมารออกมาอาละวาดในยุทธจักรสร้างความปั่นป่วนจน โซฮวี ต้องกลับมาจับกระบี่เพื่อปราบมารอีกครั้งหนึ่ง
11 มิถุนายน Blood The Last Vampire
***ทุกโรงภาพยนตร์ ***
- ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น จากประเทศสหรัฐอเมริกา
- ด้วยทุนสร้างมากถึง 35 ล้านเหรียญสหรัฐ ดัดแปลงจากแอนิเมชั่นชื่อดังที่ได้รับรางวัลแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมจาก World Animation Celebration 2001 ได้ผู้กำกับมือฉมังจาก Kiss of The Dragon ร่วมด้วยทีมงานสร้างรางวัลออสการ์จากเรื่อง Crouching Tiger Hidden Dargon, Hero และสุดยอดทีมสเปเชียลเอฟเฟ็คจาก Spider-Man, Ternimator และ Fantastic Four
- นำแสดงโดย Gianna Jun หรือ จวน จีฮุน (II Mare และ MY Sassy Girl – ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม)นักแสดงสาวซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของเกาหลีที่ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเป็นครั้งแรก โดยรับบทเป็นแวมไพร์สาวที่ตามล่าสังหารแวมไพร์นอกคอกให้หมดสิ้น นอกจากนี้ยังได้ อลิสัน มิลเลอร์ (CSI:NY, Desperate Housewives, Take) นักแสดงสาวดาวรุ่งของวงการฮอลลีวู้ด และ โคะยูกิ (The Last Samurai, Always L Sunset on The Third Street) นักแสดงนำหญิงชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่น มาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Blood The Last Vampire นี้ด้วย
- ซายะ (จวน จีฮุน) สาวสวยวัย 16 ทว่าภายใต้ความเยาว์วัย เธอคือลูกครึ่งแวมไพร์ที่มีชีวิตทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 400 ปี คอยออกตามล่าสังหารเหล่าแวมไพร์นอกรีตมานับศตวรรษ ตามคำสั่งขององค์กรลับแห่งหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐในการล่าและทำลายล้างอสูรกายที่แฝงตัวเข้ามาในฐานทัพอเมริกันในญี่ปุ่น เธอปลอมตัวมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนและเริ่มสืบหาผู้ต้องสงสัยซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในหมู่เพื่อนร่วมห้อง ทหารศพแล้วศพเล่าถูกกระชากอวัยวะฉีกขาดจากกันบ่งบอกถึงความอำมหิต และยิ่งทวีความน่ากลัวเมื่อปิศาจร้ายอาจจะมีมากกว่าหนึ่ง ทว่าการปลิดชีพปีศาจตนนี้หาใช่เรื่องง่าย เพราะมันมีความสามารถในการแปลงกายได้อย่างแนบเนียนและแยบยล ศึกมหาสงครามตามล่าล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่มีเลือดเนื้อ และชีวิตของมนุษย์เป็นเดิมพันได้อุบัติขึ้นอีกครั้ง