MSN on November 12, 2013, 02:30:13 PM
KTAMขายตราสารหนี้3เดือนชูยิลด์2.80% ต่อปี 


              นายสมชัย  บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย  จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี97 (KTSUPB97 )  เสนอขายวันที่ 13-19 พฤศจิกายน 2556   อายุ 3 เดือน  มูลค่า 7,000 ล้านบาท  ลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ    เน้นลงทุนในหุ้นกู้  ตั๋วแลกเงิน  สถาบันการเงิน 60%   ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก  Bank of  China   ,  Union  National Bank    ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี    ซึ่งเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

               ทั้งนี้  ตราสารหนี้ต่างประเทศที่บริษัทเลือกลงทุนประเภทเงินฝาก  ประกอบด้วย  Bank  of  China  (BOC ) มีสถานะเป็นธนาคารภาครัฐถือหุ้นใหญ่ โดยหน่วยงานเพื่อการลงทุนของรัฐบาลจีน 67.55%  มีบทบาทในการสนองนโยบายของภาครัฐ  มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 17 ของโลก  และขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของธนาคารจีน   ส่วน  Union National Bank  (UNB )  เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินกิจการในสหรัฐอาหรับอามิเรตม์   ถือหุ้นใหญ่โดยองค์กรเพื่อการลงทุนของภาครัฐอาบูดาบี 50%  และองค์กรเพื่อการลงทุนภาครัฐดูไบ 10% 

             นอกจากนี้  บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll  Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน 2 ( KTSIV6M2 )  เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556    อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝากธนาคารธนชาต  ธนาคารทิสโก้   ในสัดส่วน 40% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน   ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.75%ต่อปี
 
              สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นรุ่นอายุ 1 เดือน – 1 ปี ปรับลดลง 0-1 bps  ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย   จากความกังวลต่อประเด็นร่างกฎหมายนิรโทษกรรม  ส่วน เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 31.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยถูกกดดันจากแรงขายสุทธิ หุ้นและพันธบัตรไทยจากนักลงทุนต่างชาติ    ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้   อาทิ ดัชนี ISM ภาคบริการเดือนต.ค. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย. และจีดีพีประจำไตรมาส 3/2556 ก็เป็นปัจจัยบวกต่อเงินดอลลาร์ฯ เช่นกัน  ทั้งนี้  การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ  เพื่อเป็นการพักเงินในระยะสั้น  ในช่วงที่ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นผันผวน   และให้ผลตอบแทนที่มีโอกาสสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก  พร้อมทั้งไม่เสียภาษีหัก  ณ  ที่จ่ายอีกด้วย
« Last Edit: November 12, 2013, 02:32:16 PM by MSN »