MSN on September 05, 2013, 08:07:47 AM
 “การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง” แนวทางใหม่...ที่มีประสิทธิภาพและผู้หญิงยอมรับ










 
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่มีความสำคัญในผู้หญิงไทย เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกนั้นพบมากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย รองมาจากมะเร็งเต้านม แต่มะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นสาเหตุการตายจากมะเร็งในผู้หญิงไทยมากที่สุด ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ องค์การอนามัยโลกระบุว่า ในแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกประมาณ 10,000 คน หรือวันละ 27 คน โดยร้อยละ 80 ของมะเร็งปากมดลูกพบในผู้หญิงช่วงอายุ 30-60 ปี ในแต่ละปีมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 5,200 คน หรือเฉลี่ยวันละ 14 คน  ทั้งๆ ที่มะเร็งปากมดลูกนั้นเป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ 

มะเร็งปากมดลูก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ( HPV ) จากการมีเพศสัมพันธ์  ผู้หญิงกว่าร้อยละ 50-80 เคยติดเชื้อนี้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต แต่ร้อยละ 90 ของการติดเชื้อนั้น ร่างกายะสามารถกำจัดเองได้ด้วยระบบภูมิคุ้มกัน    มีเพียงส่วนน้อย คือ ประมาณร้อยละ 10 จะกลายเป็นการติดเชื้อแบบฝังแน่นต่อไป ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเซลล์บริเวณปากมดลูกไปเป็นมะเร็งในที่สุด   ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่เริ่มติดเชื้อ HPV จนกระทั่งเป็นมะเร็งนั้นมักกินเวลานาน โดยจะมีช่วงเวลา 5-10 ปีที่เกิดเป็นความผิดปกติในระยะก่อนเป็นมะเร็ง ซึ่งระยะนี้จะไม่มีอาการจนกว่าจะกลายเป็นมะเร็งลุกลาม  และ เราจะทราบว่าอยู่ในระยะที่มีความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งได้ก็ต่อเมื่อไปตรวจคัดกรองเท่านั้น   ดังนั้นหากตรวจพบก่อน จะสามารถรักษาได้ง่าย  มีโอกาสหายจากโรค และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเมื่อเป็นโรคแล้ว 

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย วิธีแพปสเมียร์ (Pap smear) แม้จะเป็นที่ยอมรับและมีประสิทธิภาพ แต่มีข้อจำกัดคือ ผู้หญิงมักจะปฏิเสธการตรวจ เนื่องจากผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะเขินอาย กลัวหมอ กลัวเจ็บ ที่ต้องไปพบแพทย์และขึ้นขาหยั่ง และยังมีบางส่วนไม่ไปตรวจเพราะไม่มีเวลาอันเนื่องจากการประกอบอาชีพการงานที่เร่งรีบ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตของคนในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพ   จึงพลาดโอกาสในการตรวจคัดกรองอย่างน่าเสียดาย นั่นเป็นสาเหตุที่ผู้หญิงไทยยังถูกคุกคามจากมะเร็งปากมดลูกและเสียชีวิตในอัตราที่สูง

   แนวทางใหม่ของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คือ การตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ที่เป็นตัวก่อการ โดยอาศัยหลักการว่า  “ถ้าไม่มีเชื้อไวรัสเอชพีวี จะไม่เป็นมะเร็งปากมดลูก” (no HPV, no cervical cancer)    เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและมีความไวสูง   ถ้าตรวจไม่พบเชื้อ HPV จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกน้อยมาก และสามารถเว้นระยะห่างของการตรวจได้นาน 3-5 ปี นอกจากนั้นถ้ามีความผิดปกติในระยะก่อนมะเร็ง การตรวจมักจะให้ผลบวกเพราะการตรวจมีความไวในการตรวจหารอยโรคก่อนเป็นมะเร็งสูงถึงร้อยละ 95-100   

ปัจจุบัน การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ที่เป็นตัวก่อการ  โดยผู้หญิงจะใช้อุปกรณ์สำหรับเก็บตัวอย่างซึ่งมีหลายแบบ แบบที่เป็นที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับได้แก่ แปรงเก็บตัวอย่างที่ออกแบบมาพิเศษเก็บตัวอย่างเซลล์ในช่องคลอดด้วยตนเองที่บ้าน  หรืออุปกรณ์สำหรับเก็บตัวอย่างที่อาศัยของเหลวร่วมด้วยในการเก็บตัวอย่าง แล้วส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือศูนย์ตรวจทางการแพทย์ด้วยชุดตรวจหาดีเอ็นเอของไวรัสเอชพีวี  และจะทราบผลตรวจภายใน  7-10 วัน

แปรงเก็บตัวอย่างด้วยตัวเอง มีลักษณะขนแปรงที่นุ่มเหมือนกับแปรงที่แพทย์ใช้ทั่วไป  แต่อุปกรณ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้หญิงสามารถใช้เองที่บ้านเพื่อคงความเป็นส่วนตัวของผู้หญิง  เป็นมิตรกับช่องคลอด  ใช้ง่ายตามคำแนะนำในคู่มือ มีขนาดเล็กสอดใส่ได้ง่าย  มีระยะการสอดใส่ที่แน่นอนเพื่อป้องกันการบาดเจ็บในช่องคลอด  ปราศจากการเจ็บปวดหรือสิ่งแปลกปลอมตกค้าง ผ่านการประเมินความพึงพอใจของผู้หญิงในระดับสูง   และคงไว้ซึ่งความถูกต้องและความน่าเชื่อถือทางการแพทย์เช่นเดียวกับที่แพทย์ใช้อุปกรณ์มาตรฐานเก็บให้เองเป็นอุปกรณ์ที่ปลอดเชื้อ (sterile)  มีความปลอดภัยในการใช้สูง  เนื่องจากหัวใจของการพัฒนาอุปกรณ์  คือ “มาตรฐานทางการแพทย์ ความปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้หญิง”

ผู้หญิงกว่าร้อยละ 90 จะมีผลการตรวจเป็นลบ หรือตรวจไม่พบไวรัสเอชพีวีตัวก่อการ จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งน้อยมาก สามารถเว้นการตรวจได้ 3-5 ปี  มีเพียงส่วนน้อยคือประมาณร้อยละ 10 จะมีผลการตรวจเป็นบวก หรือตรวจพบไวรัสเอชพีวีตัวก่อการ  การมีผลบวกนี้ยังไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นมะเร็ง  แต่หมายความว่าคุณเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง และจะต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อขอรับการตรวจอย่างละเอียดเพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูกตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยการซักประวัติค้นหาความเสี่ยงต่างๆ   ตรวจร่างกายและตรวจภายใน การตรวจแพปสเมียร์ หาเซลล์ผิดปกติที่บ่งบอกว่าเป็นมะเร็ง หรือการส่องกล้องขยายเพื่อค้นหารอยโรคที่ปากมดลูกและตัดชิ้นเนื้อปากมดลูกไปตรวจทางพยาธิวิทยา  ตามดุลยพินิจของแพทย์  และอาจช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติของอวัยวะ อื่นๆ เช่น มดลูก หรือรังไข่ได้
 
ดังนั้นผู้หญิงที่ตรวจด้วยวิธีนี้แล้วให้ผลเป็นบวก จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์ หรือสูตินรีแพทย์มะเร็งนรีเวช  เพื่อตรวจภายในและค้นหามะเร็งปากมดลูกอย่างละเอียด  หากตรวจพบความผิดปกติหรือมะเร็งแรกเริ่ม แพทย์จะวางแผนการรักษา เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งลุกลามต่อไป 

การตรวจด้วยวิธีนี้มีการยอมรับและใช้ในต่างประเทศมาแล้ว ดังนั้นวิธีดังกล่าวจึงเป็นทางเลือกให้กับผู้หญิงไทยอายุ 30 ปีขึ้นไปที่ไม่เคยตรวจคัดกรองมาก่อน หรือไม่สามารถไปตรวจได้อย่างสม่ำเสมอ วิธีนี้จะเป็นช่องทางที่ผู้หญิงเข้าถึงได้ง่าย มีค่าใช้จ่ายน้อย ช่วยให้ผู้หญิงไทยก้าวพ้นอุปสรรคความกลัวและความอายได้ เนื่องจากทำเองได้ที่บ้าน จึงยังรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ได้ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง จะช่วยค้นหาผู้หญิงกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก ให้มาพบสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด เพื่อทำการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ เพื่อหยุดยั้งก่อนเป็นมะเร็งรุกลามต่อไป หากพบความผิดปกติ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก้วยตนเองได้ที่ www.ichecketest.net
« Last Edit: September 05, 2013, 08:45:33 AM by MSN »

MSN on October 14, 2013, 03:24:05 PM
iCheck Test นวัตกรรมใหม่ ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง



          ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง ง่าย ปลอดภัย มั่นใจได้ และยังคงรักษาความเป็นส่วนตัว คือสิ่งที่ผู้หญิงต้องการ จะปล่อยเวลาผ่านไปทำไม ในเมื่อคุณไม่อยากเป็นมะเร็ง ขอรับบริการชุดตรวจ iCheck Test ที่ศูนย์ตรวจสุขภาพและคลินิกใก้ล้บ้านได้แล้ววันนี้

          มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในสตรีไทยรองลงมาจากมะเร็งเต้านม พบได้ตั้งแต่วัยสาวอายุก่อน 30 ปี จนถึงวัยชราอายุ 80 ปี พบมากในช่วง 35-50 ปี ในปีหนึ่งๆ พบว่ามีสตรีป่วยเป็นโรคนี้ทั่วโลก ทั้งๆ ที่เป็นมะเร็งที่ตรวจพบง่าย และสามารถป้องกันได้

          การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

          ปัจจุบันมีวิธีที่ได้ผล และ ได้รับความนิยมอยู่ 2 วิธี คือ

          Pap testThipPrep คือ การตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV มีวิธีจำกัดเหมือนการตรวจคัดกรองโรคอื่นๆ คือ อาจตรวจไม่พบเซลล์ที่ผิดปกติ ถ้าเซลล์เหล่านี้ไม่ได้ถูกเก็บเข้ามาในแผ่นกระจกหรือ สิ่งส่งตรวจ

          HPV DNA Test คือ วิธีการทดสอบหาเชื้อ HPV ที่เป็นสาเหตุของเซลล์ปากมดลูกผิดปกติ ถ้าตรวจพบว่ามีเชื้อ HPV ชนิดความเสี่ยงสูงที่ปากมดลูก จะต้องตรวจติดตามดูการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูกอย่างใกล้ชิด

          แม้ 2 วิธีที่กล่าวมา จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่มีข้อจำกัดคือ ผู้หญิงมักปฏิเสธการตรวจ เนื่องจากมีอาการเขินอาย กลัวหมอ กลัวเจ็บ ที่ต้องไปพบแพทย์และขึ้นขาหยั่ง และด้วยชีวิตที่เร่งรีบ ปัยหาการจราจรที่ยากแก่การเดินทาง ล้วนเป็นปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่พลาดโอกาสในการตรวจคัดกรองอย่างน่าเสียดาย

          แต่ในปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ ที่ทำให้คุณผู้หญิงสามารถตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้เองที่บ้านง่าย ๆ ด้วยวิธี iCheck Test โดยอุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า แปรงอีวาลีน (Evalyn Brush) เก็บตัวอย่างในช่องคลอดด้วยตัวเองที่บ้าน แล้วส่งตัวอย่างที่ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลห­รือศูนย์ตรวจทางการแพทย์ ด้วยชุดตรวจหาดีเอ็นเอเชื้อไวรัสเอชพีวี (HC2 HPV DNA Test) และจะทราบผลตรวจภายใน 7-10 วัน การตรวจด้วยวิธีนี้มีความถูกต้องทางแพทย์เ­ช่นเดียวกับที่แพทย์ใช้อุปกรณ์มาตรฐานเก็บ­ให้เอง จึงมั่นใจผลการตรวจได้

          แปรงอีวาลีน (Evalyn Brush) พัฒนามาจากแปรงเก็บตัวอย่างที่แพทย์ใช้เป็นมาตรฐาน มีลักษณะพู่ขนแปรงที่อ่อนนุ่ม ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้หญิงสามารถเก็บตัวอย่างในช่องคลอดด้วยตัวเองที่บ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้หญิง แปรงมีขนาดเล็ก สอดใส่ง่ายไม่ทำให้บาดเจ็บ มีระยะสอดใส่ง่ายเพียง 4 เซนติเมตร และ พู่ขนแปรงสีขาวเรียวยาว 3.5 เซนติเมตร ให้สัมผัสที่นุ่มนวลขณะเก็บตัวอย่างไม่ทำให้เจ็บปวดและไม่มีสิ่งแปลกปลอมตกค้างภายในช่องคลอด เพียงทำตามคู่มือการใช้ก็มันใจได้ว่าสามารถเก็บตัวอย่างได้ครบถ้วน ภายใน 1 นาที คุณผู้หญิงจะรู้สึกสะดวกสบายทุกขั้นตอนเพียงแค่ “เปิดฝา สอด ดัน หมุน ดึง ปิดฝา ส่งตรวจ”

          แปรงอีวาลีน คือ อุปกรณ์การแพทย์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ผู้หญิงสามารถเก็บตัวอย่างในช่องคลอดด้วยตัวเองที่บ้าน แล้วส่งตัวอย่างที่ได้ไปที่โรงพยาบาลหรือศูนย์ตรวจทางการแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวีตัวก่อการมะเร็งปากมดลูก แปรงอีวาลีน เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Rover Medical Devices BV,Netherlands มีมาตรฐานทางการแพทย์และประสิทธิภาพเหมือนอุปกรณ์ที่แพทย์ใช้ ผ่านการรับรองของสภาสุขภาพประเทศเนเธอร์แลนด์ และใช้ในโปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแห่งชาติเนเธอร์แลนด์

          ใครบ้างที่ควรตรวจด้วยวิธี iCheck Test
          ผู้หญิงทุกคนที่อายุ 30 ปี ขึ้นไปที่ไม่เคยตรวจคัดกรองมาก่อน หรือไม่สามารถตรวจได้อย่างสม่ำเสมอ การตรวจด้วยวิธี iCheck Test จะทำให้คุณก้าวพ้นความกลัวและความอาย และไม่มีอุปสรรคอีกต่อไป สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้ง่าย จึงเป็นหนทางรอดพ้นจากมะเร็งร้ายนี้

          ผลการตรวจ iCheck Test บอกอะไรได้บ้าง?
          ผู้หญิงกว่าร้อยละ 90 จะมีผลการตรวจเป็นลบ หรือตรวจไม่พบไวรัสเอชพีวี ตัวต่อการ จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกน้อยมาก คุณจึงมั่นใจ และสามารถเว้นการตรวจได้ 3 – 5 ปี
          ผู้หญิงส่วนน้อย คือ ประมาณร้อยละ 10 จะมีผลการตรวจเป็นบวก หรือตรวจพบไวรัสเอชพีวี ตัวต่อการ ยังไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นมะเร็ง แต่คคุณเป็นกลุ่มที่เสี่ยงอาจจะเป็นมะเร็ง และจะต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อขอรับการตรวจอย่างละเอียดตามมาตรฐานทางการแพทย์ต่อไป

          ดังนั้นคุณผู้หญิงที่ตรวจด้วยวิธี iCheck Test แล้วให้ผลเป็นบวก จะต้องไปพบสูตินรีแพทย์ หรือสูตินรีแพทย์มะเร็งนรีเวช เพื่อตรวจอย่างละเอียด โดยการซักประวัติเพื่อค้นหาความเสี่ยงต่าง ๆ ตรวจร่างกายและตรวจภายใน การตรวจแพปสเมียร์เพื่อหาเซลล์ผิดปกติ หรือการส่องกล้องขยายเพื่อหารอยโรคที่ปากมดลูกและตัดชิ้นเนื้อที่ปากมดลูกไปตรวจทางพยาธิวิทยา ตามดุลยพินิจของแพทย์ หากตรวจพบความผิดปกติ หรือมะเร็งเริ่มแรก แพทย์จะวางแผนการรักษา เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งลุกลามต่อไป

          ติดต่อ:
          www.ichecktest.net