Thailand Open 2013
การแข่งขันเทนนิสอาชีพชายระดับโลกประจำปีของเมืองไทย ไทยแลนด์ โอเพ่น ก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 ของการเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันเอทีพีทัวร์ การแข่งขันในปี 2013 นี้จะจัดขึ้นในวันที่ 21 ถึง 29 กันยายน พ.ศ. 2556
ไทยแลนด์ โอเพ่นของเราได้มีโอกาสต้อนรับนักเทนนิสผู้มีชื่อเสียงในวงการเทนนิสชายมาเป็นจำนวนมาก
ในปีพ.ศ. 2546 กระแสภราดรฟีเวอร์หรือซูเปอร์ “บอล” ภราดร นักเทนนิสเอเชียคนแรกที่สามารถไต่ระดับถึงท็อป 10 ของโลก ทำให้วงการเทนนิสในบ้านเราตื่นตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งการแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น ได้ถือกำเนิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายการนี้ไม่ได้เป็นเพียงบททดสอบ หรือสังเวียนให้ภราดรโชว์ฝีมือต่อหน้าแฟนๆเทนนิสชาวไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงดูดนักเทนนิสชั้นนำระดับโลกหลายต่อหลายคนเข้ามาแข่งขันในบ้านเราในตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ในปีแรกเริ่มของการแข่งขันมีนักเทนนิสระดับโลกตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขัน อาทิเช่น ฆวน การ์ลอส เฟร์เรโร มือวางอันดับ1 ของโลกในขณะนั้น ตามด้วย คาร์ลอส โมย่า นักเทนนิสชั้นนำระดับท้อปเทน และ ภราดร ศรีชาพันธุ์ ซึ่ง ภราดรสามารถเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในปีนั้น และก็เป็นนักเทนนิสชาวอเมริกันจอมเสิร์ฟหนักอย่าง เทเลอร์ เดนท์ ที่สามารถเอาชนะ ฆวน การ์ลอส เฟร์เรโร ในรอบชิงชนะเลิศ และคว้าแชมป์การแข่งขันสมัยแรกไปครอง ส่วนในประเภทคู่ นักเทนนิสคู่หูจากอิสราเอล โจนาธาน เออร์ลิช และ แอนดี แรม ก็ประเดิมคว้าแชมป์ประเภทคู่ครั้งแรกของรายการไปครอง
ในปีพ.ศ. 2547 รายการก็ยิ่งทวีความน่าสนใจมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ชมที่มากขึ้นหรือนักเทนนิสระดับซูเปอร์สตาร์ที่มาเข้าร่วม นำทีมโดยนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และอันดับสองของโลกอย่าง แอนดี ร็อดดิก ร่วมลงแข่งขันในรายการ รวมถึงนักเทนนิสรัสเซียขวัญใจแฟน ๆ อย่าง มารัต ซาฟิน อีกด้วย หลังจากที่ได้ชมรอบรองชนะเลิศในฝันของใครต่อใครหลายคนทั้งคู่ของ เฟเดอเรอร์ กับ ภราดร และคู่ของ ร็อดดิก กับ ซาฟิน แมตช์ในรอบชิงชนะเลิศก็เป็นการพบกันระหว่างยอดมือวางอันดับ 1 และ 2 ของโลก โดย เฟเดอเรอร์ นั้นก็เป็นฝ่ายที่เอาชนะได้สำเร็จ
ในปีถัดมา เฟเดอเรอร์ ก็กลับมาป้องกันตำแหน่งแชมป์อีกครั้ง โดยมีนักกีฬาชื่อดังอย่างอดีตมือวางอันดับ 1 ของโลก เลย์ตัน ฮิววิตต์ นักเทนนิสชาวออสเตรเลีย และ ทอมมี ฮาส จากเยอรมนีมาเข้าร่วม แต่กลับกลายเป็นดาวรุ่งม้ามืดจากสก็อตต์แลนด์ในชณะนั้นอย่าง แอนดี เมอร์เรย์ ที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ทุกคนด้วยการฝ่าเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศในรายการเอทีพีเป็นครั้งแรกของเขาและสามารถทำให้ เฟดเดอเรอร์ นั้นต้องออกแรงเหนื่อยแต่สุดท้ายเป็นฝ่าย เฟดเดอเรอร์ ที่คว้าแชมป์ไปในที่สุด
ในปีพ.ศ. 2549 สายการแข่งขันของรายการนั้นนำทีมโดย อิวาน ลูบิชิช มือวางอันดับ 3 ของโลกในขณะนั้น ร่วมด้วย เจมส์ เบลก นักเทนนิสชาวอเมริกัน ทิม เฮ็นแมน, ซาฟิน, เฟร์เรโร และ ภราดรพร้อมการกลับมาของ เมอร์เรย์ ผลปรากฏว่า เจมส์ เบลก นักเทนนิสมือวางอันดับ 9 ของโลกในขณะนั้น เป็นผู้คว้าถ้วยรางวัลพระราชทานถ้วยนี้ไปครองด้วยชัยชนะเหนือ ลูบิชิช ไปอย่างขาดลอย
ปีพ.ศ. 2550 ดิมิทรี เทอร์ซินอฟ เอาชนะหนุ่มเยอรมัน เบ็นจามิน เบ็คเกอร์ ไปในนัดชิงประเภทเดี่ยว อย่างไรก็ดี สีสันของงานสำหรับแฟน ๆ ชาวไทยนั้นคงหนีไม่พ้นชัยชนะอันไม่คาดฝันของคู่แฝดมหัศจรรย์ สนฉัตร และ สรรค์ชัย รติวัฒน์ ที่เก็บแชมป์เอทีพีรายการแรกของพวกเขาไปด้วยการเอาชนะ นิโกลาส์ มาอูต์ และ มิคาเอล โลดรา ต่อหน้าแฟน ๆ นับหมื่นในบ้านเกิดของตนเอง
ในปีพ.ศ. 2551 เราได้ต้อนรับนักเทนนิสชาวฝรั่งเศสฟอร์มร้อนแรงอย่าง โจ-วิลฟรีด ซองก้า เป็นครั้งแรกและ ซองก้า ก็ได้ฟาดฟันเข้ามาคว้าชัยชนะรายการเอทีพีรายการแรกของเขาเองโดยเอาชนะมือหนึ่งของรายการ โนวัค ยอโควิช ไปในรอบชิงชนะเลิศ
ซองก้า กลับมาอีกครั้งในปีพ.ศ. 2552 พร้อมกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง จิลส์ ซีมง, มารัต ซาฟิน และดาวรุ่งอย่าง จอห์น อิสเนอร์ และ เออร์เนสท์ส กุลบิส โดย ซีมง นั้นเป็นผู้กุมชัยชนะเอทีพีรายการแรกในปีนั้นของเขา โดยที่คู่ของ เอริค บูโตรัค และ ราจีฟ แรม คว้าชัยในประเภทคู่ไปครอง
เมื่อปีพ.ศ. 2553 แฟนเทนนิสที่กรุงเทพฯ ต่างหลั่งไหลมาชมการแข่งขันเป็นจำนวนมากเมื่อนักเทนนิสซูเปอร์สตาร์อย่าง ราฟาเอล นาดาล มาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรก ตามด้วยทีมนักหวดอย่าง ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร นักเทนนิสชาวอาร์เจนตินาอดีตแชมป์ยูเอสโอเพ่น เออร์เนสท์ส กุลบิส, เยอร์เกน เมลเซอร์ และ เฟร์นานโด เบร์ดาสโก สิ่งที่พลิกความคาดหมายคนดูทั้งสนามอิมแพ็คอารีน่า ก็คือการที่นาดาลพ่ายไปในรอบรองชนะเลิศให้แก่เพื่อนร่วมชาติอย่าง กิแชร์โม การ์เซีย-โลเปซ ในการแข่งขันสูสีถึง 3 เซ็ต คู่แข่งของ การ์เซีย-โลเปซ ในรอบชิงชนะเลิศเป็นนักเทนนิสชื่อดังชาวฟินแลนด์ ยาร์คโค นีมิเน็น และหลังจากขับเคี่ยวกันถึง 3 เซ็ต หนุ่มสเปนก็เป็นฝ่ายชนะไป ในการแข่งขันประเภทคู่ คู่นักเทนนิสจากเซอร์เบียและเยอรมนี วิคเตอร์ ทรอยซกี้ และ คริสโตเฟอร์ แคส เอาชนะ โจนาธาน เออร์ลิช จากอิสราเอล และ เยอร์เกน เมลเซอร์ จากออสเตรีย
ในปีพ.ศ.2554 รายการเราได้ต้อนรับการกลับมาของ แอนดี เมอร์เรย์, จิลส์ ซีมง เช่นเดียวกับการกลับมาของแชมป์เก่า การ์เซีย-โลเปซ ฟากหนึ่งในขณะที่ เมอร์เรย์ กรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแบบสบาย ๆ ด้วยการเอาชนะ ซีมง ในรอบรองชนะเลิศ อีกฟากหนึ่งก็เกิดการพลิกล็อคขึ้นเมื่อนักเทนนิสหนุ่มชาวอเมริกัน โดนัลด์ ยัง เอาชนะ มงฟิล์ส ไปด้วยสกอร์ไทเบรคในเซ็ตที่ 3 อย่างไรก็ดี หนุ่มอเมริกันที่เข้ามาเล่นรอบชิงชนะเลิศเอทีพีเป็นรายการแรกอย่าง โดนัลด์ นั้นก็เทียบไม่ได้เลยกับ เมอร์เรย์ ที่เอาชนะไปอย่างสบาย ๆ 2 เซ็ตรวดและคว้าแชมป์ไปครอง ส่วนในแชมป์ในประเภทคู่ตกเป็นของ โอลิเวอร์ มาราช และ ไอแซม อัลฮัค คูเรชี
ในปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีที่น่าตื่นเต้นอีกปีหนึ่ง เพราะได้มีนักเทนนิสระดับชั้นนำหน้าใหม่หลายต่อหลายคนเข้าร่วมชิงชัย รวมไปถึงนักเทนนิสขวัญใจฝีมือดี ที่เคยมาในปีก่อนๆ เริ่มจาก จานโก ทิปซาเรวิช นักเทนนิสระดับท้อปเทนจาก เซอร์เบีย ตามด้วย ริชาร์ด กาสเกต์ นักเทนนิสสโตรคหนักจากฝรั่งเศส บวกกับอีกสองนักเทนนิสดาวรุ่งที่กำลังมาแรง อย่าง มิลอส ราโอนิค ชาวแคนาดา และ เบอร์นาร์ด โทมิค จากออสเตรเลีย
และนักเทนนิสชื่อดังอีกมากมาย อาทิ มองฟิลส์, เบอร์ดาสโก, ซิมง, นีมิเน่น, ทรอยซกี้, ยัง และดาวรุ่งอย่าง กริกอร์ ดริมิทรอฟ ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้แก่การแข่งขัน ในรอบรองชนะเลิศ ซิมง สามารถเอาชนะ ทิปซาเรวิช สองเซตรวด ส่วน กาสเกต์นั้นต้องออกแรงเหนื่อยในการพลิกกลับมาชนะ นิมีเน่น ในสามเซต ในรอบชิงชนะเลิศ เป็น กาสเกต์ ที่สามารถเอาชนะเพื่อนร่วมชาติอย่างซิมง ได้อย่างง่ายดาย ส่วนประเภทคู่นั้นถือว่าได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้แก่แฟนๆชาวไทย โดยดนัย อุดมโชค จับคู่กับ เหยิน เซิน ลู จากไต้หวัน เอาชนะคู่มือวางอันดับ4 เอริค บูโทแรค กับ พอล ฮันเลย์ และถือว่าเป็นแชมป์เอทีพี ทัวร์รายการแรกของดนัยอีกด้วย
Hall of Fame - ทำเนียบผู้ชนะ
ประเภทเดี่ยว
ปี
แชมป์
รองแชมป์
2012
ริชาร์ด กาสเกต์
(ฝรั่งเศส)
ชิลส์ ซิมง
(ฝรั่งเศส)
2011
แอนดี เมอร์เรย์
(สหราชอาณาจักร)
โดนัลด์ ยัง
(สหัฐอเมริกา)
2010
กิแชร์โม การ์เซีย-โลเปซ
(สเปน)
ยาร์คโค นีมิเน็น
(ฟินแลนด์)
2009
จิลส์ ซิมง
(ฝรั่งเศส)
วิคเตอร์ ทรอยอิคกี้
(เซอร์เบีย)
2008
โจ-วิลฟรีด ซองก้า
(ฝรั่งเศส)
โนวัค ยอโควิช
(เซอร์เบีย)
2007
ดิมิทรี เทอร์ซินอฟ
(รัสเซีย)
เบนจามิน เบ็คเกอร์
(เยอรมนี)
2006
เจมส์ เบลก
(สหรัฐอเมริกา)
อิวาน ลูบิชิช
(โครเอเชีย)
2005
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์
(สวิตเซอร์แลนด์)
แอนดี เมอร์เรย์
(สหราชอาณาจักร)
2004
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์
(สวิตเซอร์แลนด์)
แอนดี ร็อดดิก
(สหรัฐอเมริกา)
2003
เทเลอร์ เดนท์
(สหรัฐอเมริกา)
ฆวน การ์ลอส เฟร์เรโร
(สเปน)
ประเภทคู่
ปี
แชมป์
2012
ดนัย อุดมโชค (ไทย) และ
เยน ชุน ลู (ไต้หวัน)
2011
โอลิเวอร์ มารัค (ออสเตรีย) และ
ไอซาม-อุล-ฮัค คูเรชิ (ปากีสถาน)
2010
วิคเตอร์ ทรอยซกี้ (เซอร์เบีย) และ
คริสโตเฟอร์ แคส (เยอรมนี)
2009
เอริค บูโตรัค (สหรัฐอเมริกา) และ
ราจีฟ แรม (สหรัฐอเมริกา)
2008
ลูกัส โดลอี (สาธารณรัฐเช็ก) และ
ลีแอนเดอร์ เพส (อินเดีย)
2007
สนฉัตร รติวัฒน์ และ
สรรค์ชัย รติวัฒน์ (ไทย)
2006
โจนาธาน เออร์ลิช และ
แอนดี แรม (อิสราเอล)
2005
พอล แฮนเลย์ (ออสเตรเลีย) และ
ลีแอนเดอร์ เพส (อินเดีย)
2004
จัสติน กิเมลสต็อป และ
เกรย์ดอน โอลิเวอร์ (สหรัฐอเมริกา)
2003
โจนาธาน เออร์ลิช และ
แอนดี แรม (อิสราเอล)
Ticket Information
สถานที่แสดง
อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
รอบการแสดง
++กรุณาคลิกเพื่อดูรายละเอียด++
ประตูเปิด
ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชม. ก่อนการแข่งขันเริ่ม
วันจำหน่ายบัตร
ตั้งแต่ 20 กรกฎาคม 2556 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป
ช่องทางการจัดจำหน่าย
บัตรราคา
>> รอบ Qualifying (รอบคัดเลือก)<<
(21 - 22 กันยายน 2556)
• 900 บาท (VIP)
• 600 บาท (VIP)
• 300 บาท
>> Main Draw รอบแรก และ รอบสอง <<
(23 - 26 กันยายน 2556)
• 2,400 บาท (VIP)
• 1,600 บาท (VIP)
• 1,000 บาท
• 800 บาท
• 500 บาท
Special !! Flexi Ticket for Main Draw
• 2,400 บาท
• 1,600 บาท
>> รอบ Quarter Finals <<
(27 กันยายน 2556)
• 3,000 บาท (VIP)
• 2,000 บาท (VIP)
• 1,400 บาท
• 1,200 บาท
• 800 บาท
• 600 บาท
>> รอบ Semi-Finals (28 กันยายน 2556) <<
>> รอบ Finals (29 กันยายน 2556)<<
• 4,500 บาท (VIP)
• 3,000 บาท (VIP)
• 1,800 บาท
• 1,500 บาท
• 1,000 บาท
• 800 บาท
หมายเหตุ
“แอนดี เมอร์เรย์” มือ 2 โลกตอบรับดวลแร็คเก็ตไทยแลนด์ โอเพ่น 2013
เจ้าของแชมป์รายการวิมเบิลดันคนล่าสุด มือวางอันดับ 2 ของโลก “แอนดี เมอร์เรย์” ตอบรับเข้าร่วมในการแข่งขันเทนนิส “ไทยแลนด์ โอเพ่น 2013” พร้อมด้วย 3 นักเทนนิสท็อป 10 ของโลก “โทมัส เบอร์ดิช” มือ 6 โลก และแชมป์เก่าปี 2012 “ริชาร์ด กาสเก้ต์” มือวางอันดับ 9 ของโลก นอกจากนี้ “มิลอส ราโอนิค” นักหวดดาวรุ่งชาวแคนาดา มือวางอันดับ 13 ซึ่งเคยลงแข่งที่บ้านเราเมื่อปีที่แล้ว พร้อมทั้งนักหวดชาวรัสเซีย “มิคาอิล ยูซนี” ที่จะลงแข่ง ณ ประเทศไทยเป็นครั้งแรกต่างยืนยันความพร้อมและตอบรับเข้าร่วมการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 21 - 29 กันยายนนี้ ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ชิงเงินรางวัลมูลค่า 631,500 ดอลล่าห์สหรัฐ
สำหรับ “แอนดี เมอร์เรย์” นับเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ที่ได้ลงหวดในรายการไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อครั้งที่เมอร์เรย์ออกทัวร์ครั้งแรกในปี พ.ศ.2548 เขาสามารถเข้าถึงรอบสุดท้าย และต่อมา แอนดีเมอร์เร่ย์ สามารถคว้าแชมป์จากรายการนี้ในปี พ.ศ.2554 ในเวลาสองปีจากที่เขาได้ชัยชนะที่กรุงเทพฯ นักเทนนิสชาวสก็อตแลนด์ผู้นี้สามารถครองตำแหน่งแชมป์แกรนด์แสลมถึงสองสมัย และเป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิค ทั้งยังเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเทนนิสชาย “บิ๊กโฟร์” ที่รวมเอาเหล่าซุเปอร์สตาร์เอาไว้ด้วยกัน “เมื่อปีที่แล้วผมไม่สามารถกลับมาป้องกันตำแหน่งของตัวเองได้ จึงเป็นโอกาสที่ดีมากที่ในการแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น 2013 ผมจะได้กลับมาอีกครั้ง ผมหวังว่าจะได้พบปะกับแฟนๆที่น่ารักของผมอีกครั้ง” แอนดี เมอร์เรย์ กล่าว นักหวดชาวสก็อตยังคงประสบความสำเร็จอย่างไม่หยุดหย่อนในปี พ.ศ.2556 นอกจากชัยชนะจากรายการวิมเบิลดัน เขายังได้ตำแหน่งรองชนะเลิศจากรายการออสเตรเลียน โอเพ่น และแชมป์จากรายการบริสเบน, ควีนส์ คัพ และ ไมอามี มาสเตอร์ 1000 ปัจจุบัน “แอนดี เมอร์เรย์” กวาดรางวัลจาก เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ประเภทชายเดี่ยวมาแล้วทั้งหมด 28 รายการ
ทางด้าน “โทมัส เบอร์ดิช” ปัจจุบันรั้งตำแหน่งมือวางอันดับ 6 ของโลก เป็นนักหวดที่สามารถรักษาตำแหน่งอยู่ในอันดับท็อป 10 ได้ตลอดมาเป็นเวลาสี่ปีแล้ว เบอร์ดิชเข้าร่วมแข่งขันในรายการไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ.2551 แต่ถูกเอาชนะไปในรอบรองชนะเลิศโดย โนวัค ยอโควิช ซึ่งโทมัส เบอร์ดิช ได้ฝากข้อความถึงแฟนๆชาวไทยว่า “ผมยังจำการต้อนรับที่อบอุ่นของชาวไทยและความน่าตื่นตาตื่นใจของกรุงเทพฯได้ ดังนั้นผมจึงรอคอยที่จะกลับมาและเล่นให้ดีที่สุด” เขาชนะรายการ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ประเภทชายเดี่ยวมาทั้งหมด 8 รายการ โดยเมื่อปีที่แล้ว เบอร์ดิชได้นำทีมสาธารณรัฐเช็กเข้าคว้าชัยจากรายการเดวิสคัพ และในปีนี้เบอร์ดิชยังคงแสดงฝีมือด้วยการเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศรายการออสเตรเลียน โอเพ่น, รายการวิมเบิลดัน และ เข้าถึงรอบสุดท้ายที่ ดูไบ และ มาร์กเซย์
ส่วน “ริชาร์ด กาสเกต์” หลังคว้าแชมป์จากรายการไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อปีที่แล้วได้สำเร็จ จากนั้นเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาประสบความสำเร็จในอาชีพนักเทนนิสมากที่สุดก็เป็นได้ เพราะเขาได้แชมป์มาอีก 2 รายการที่ โดฮา และ มงเปลลิเยร์ รวมถึงการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศที่ บาเซิล, ฮาลเล และ ไมอามี่ มาสเตอร์1000 “การคว้าชัยชนะในรายการไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อปี2012 เป็นอะไรที่พิเศษสำหรับผมมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ และในปีนี้จะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดอีกครั้งหนึ่ง เพราะมีนักหวดมากฝีมือร่วมลงแข่ง ซึ่งผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อป้องกันตำแหน่งแชมป์เอาไว้ให้ได้” ริชาร์ด กาสเกต์ กล่าว
ด้าน “มิลอส ราโอนิค” นักเทนนิสที่อายุน้อยที่สุดในตำแหน่งท็อป 20 คนแรกของโลก และยังเป็นตัวเต็งที่จะก้าวสู่การเป็นซุเปอร์สตาร์ในวงการนักเทนนิสชายอีกด้วย ราโอนิคเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีลักษณะการตีโฟร์แฮนด์ที่หนักหน่วง และยังถูกบันทึกให้เป็นนักเทนนิสที่เสิร์ฟแรงเป็นอันดับ 3 ในประวัติการณ์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ราโอนิค คว้าแชมป์ที่ ซาน โฮเซ่ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน มิลอส ราโอนิค ได้กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่มีโอกาสกลับมาแข่งที่กรุงเทพฯ ในรายการเทนนิส ไทยแลนด์ โอเพ่น อีกครั้ง ในปีนี้ผมตั้งใจที่จะแสดงฝีมืออย่างเต็มที่ครับ”
นักเทนนิสที่น่าจับตาอีกคน “มิคาอิล ยูซนี” ปัจจุบันอยู่ในอันดับ 32 ของโลก เขาคว้าแชมป์เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ประเภทชายเดี่ยวมาแล้ว 8 รายการ ในปีนี้ เขาโชว์ฟอร์มเอาชนะผู้เล่นอับดับท็อปมาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น ริชาร์ด กาสเกต์, เคอิ นิชิโกริ และ ทอมมี่ ฮาส ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ มิคาอิล ยูซนี เดินทางมากรุงเทพฯอีกด้วย “ผมเคยได้ยินเพื่อนนักเทนนิสพูดถึงความ ยิ่งใหญ่ของรายการนี้ เป็นเรื่องดีที่จะได้ลงแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น 2013 ในปีนี้ด้วย แน่นอนว่าจากรายชื่อนักหวดที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขัน รับรองว่าจะเป็นการแข่งขันที่สนุกแน่นอน” มิคาอิล ยูซนี กล่าว
ทางด้าน ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันเทนนิส ไทยแลนด์ โอเพ่น 2013 คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้กล่าวว่า “การที่เราได้รับการตอบรับจากมือวางอันดับ 2 ของโลก แชมป์คนล่าสุดจากวิมเบิลดันอย่าง แอนดี เมอร์เรย์ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก นอกจากนี้นักเทนนิสท็อปเท็นอย่าง โทมัส เบอร์ดิช และริชาร์ด กาสเก้ต์ แชมป์เก่าปีที่แล้ว ได้ตอบตกลงเข้าร่วมการแข่งขันเพราะเขาประทับใจบ้านเรา ปีนี้เราคงได้เชียร์กันสนุก เพราะการแข่งขันต้องเข้มข้นและมีสีสันอย่างแน่นอน”
บัตรเข้าชมการแข่งขันเทนนิส ไทยแลนด์ โอเพ่น 2013 จำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม เป็นต้นไป ราคาบัตรเริ่มต้น 300 บาท พิเศษ 3 โปรโมชั่นเอาใจคอเทนนิส โปรโมชั่น 1 “เออร์ลี่ย์ เบิร์ด” ซื้อบัตรก่อนวันที่ 4 สิงหาคมนี้ลด 20%, โปรโมชั่น 2 “พิกกี้แบค” (PIGGYBACK) ทันที่ที่ซื้อบัตรรอบรองชนะเลิศ 28 กันยายน หรือรอบชิงชนะเลิศ 29 กันยายน สามารถรับส่วนลด 50% ในการซื้อบัตรทุกรอบของวันที่ 21-27 กันยายน, โปรโมชั่น 3 “เฟล็คซี่ทิคเก็ต” (FLEXITICKET) ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันในเมนดรอว์รอบแรก หรือเมนดรอว์ รอบที่สอง แล้วรอดูตารางแข่งขันของแต่ละวัน เพื่อเลือกรอบการแข่งขันที่คุณอยากเข้าชม บัตร Flexi สามารถใช้ได้ 1 ใบ ต่อ 1 รอบการแข่งขัน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 กันยายน ถึงวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02 – 262 - 3838 หรือเวปไซด์
www.thailandopen.org หรือ
www.thaiticketmajor.com