FC on August 05, 2013, 10:57:37 PM
เรื่องย่อ : เลือดเจ้าพระยา


 
บทประพันธ์โดย : แพรชมพู

บทโทรทัศน์โดย : ภูเขา

กำกับโดย : ฉลอง ภักดีวิจิตร

ผลิตโดย : บางกอก ออดิโอ วิชั่น

ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2556

รายชื่อนักแสดงนำ

ธนา สุทธิกมล รับบทเป็น เลอสรร
จีรนันท์ มะโนแจ่ม รับบทเป็น ศรีนวล
รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง รับบทเป็น สมิง
อาภา ภาวิไล รับบทเป็น ดาว
ภัทรเดช สงวนความดี รับบทเป็น ระพี
จุฑามาศ มันตะลัมพะ รับบทเป็น เดือน
ชาติชาย งามสรรพ์ รับบทเป็น มเหศักดิ์
กัญจน์ ภักดีวิจิตร รับบทเป็น บุญเหลือ
ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส รับบทเป็น เกียรติกล้า
อุษณีย์ วัฒฐานะ รับบท สร้อยเพชร
เอกพัน บรรลือฤทธิ์ รับบทเป็น กำนันธง
กรุง ศรีวิไล รับบทเป็น ลุงมหา
ดิลก ทองวัฒนา รับบทเป็น ท่านผู้ว่าทรงยศ
ปนัดดา โกมารทัต รับบทเป็น คุณนายศรีสอางค์
พงศนาถ วินศิริ รับบทเป็น เถ้าแก่ชิ้น
ฐษชัย ชนะอรรถกาล รับบทเป็น บันลือ
ศุภกิตติ์ มยูรกุล รับบทเป็น ขจรศักดิ์
โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบทเป็น สารวัตรสมภพ
วันวิสา ศรีวิไล รับบทเป็น ศรีไพร
อมต อินทานนท์ รับบทเป็น จอด
บิล จักรทิพย์ รับบทเป็น เฉลียว
อาฉี เสียงหล่อ รับบทเป็น สมหมาย
จรินทร์ พรหมรังสี รับบทเป็น เสือเฮี้ยน
บิลลี่ ผีน่ารัก รับบทเป็น เตี้ย

FC on August 05, 2013, 10:58:32 PM
เรื่องย่อ

          เมื่อกล่าวถึงลานเทก็คงไม่พ้นลำตัด และแม่เพลงที่ดังกระฉ่อนในทุ่งลานเท เห็นจะไม่มีใครเกิน แม่ศรีนวล (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) ลูกสาวคนเดียวของ กำนันธง (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) ความงามของแม่ศรีนวลระบือไปไกลทั่วเจ็ดคุ้งน้ำ จึงเป็นที่หมายปองของหนุ่มทั้งหลาย และความรักของหนุ่มที่ทุ่มสุดหัวใจก็คือ สมิง (รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง) นักเลงประจำถิ่นลานเท
          ชุมโจรของ มเหศักดิ์ (ชาติชาย งามสรรพ์) เหิมเกริมบุกปล้นฆ่า ชาวบ้านแถวลานเทจนเป็นที่เข็ดขยาด ขณะที่กำนันธงและศรีนวลลูกสาว พยายามฝึกปรือชาวบ้านลุกขึ้นสู้ ไม่ปล่อยให้โจรปล้นง่าย ๆ ฝ่ายเดียว วันหนึ่งมเหศักดิ์ได้บุกเข้าปล้นบ้านของสมิง และฆ่าพ่อกับแม่ของสมิงตาย สมิงแค้นใจจึงออกตามล่าโจรมเหศักดิ์ จนพบความจริงว่าโจรมเหศักดิ์ มีหัวหน้าที่อยู่เบื้องหลังคือ เถ้าแก่ชิ้น (พงศนาถ วินศิริ) และนายอำเภอ สมิงบุกเข้าไปสังหารมเหศักดิ์ แต่กระสุนดันไปถูกนายอำเภอตาย ทำให้ทางการเข้าใจผิดคิดว่าสมิงเป็นโจร สมิงจึงหลบหนีการจับกุม เถ้าแก่ชิ้นพร้อมทั้ง บันลือ (ฐษชัย ชนะอรรถกาล) ลูกชายและมเหศักดิ์ โกรธแค้นที่สมิงฆ่านายอำเภอพวกของตน จึงพยายามหาทางตามล่ากำจัดสมิงทุกวิถีทาง
          ศรีนวลและกำนันธง สงสารในชะตากรรมของสมิง จึงหาทางช่วยเหลือให้หนีไป สมิงหนีเข้าป่าและพบกับ เสือเฮี้ยน (จรินทร์ พรหมรังสี) โจรเก่าคนหนึ่ง สมิงชนะใจเสือเฮี้ยนและลูกน้อง จึงถูกยกย่องให้เป็นผู้นำ เสือเฮี้ยนมีลูกสาวชื่อ ศรีไพร (วันวิสา ศรีวิไล) ซึ่งแอบชอบสมิงอยู่เงียบ ๆ สมิงและพวกแม้จะเป็นโจรร้ายของทางราชการ แต่เขาก็เลือกปล้นเฉพาะเศรษฐีที่โหดร้าย ชอบรีดนาทาเร้นคนจนเท่านั้น เมื่อได้เงินมาก็มักจะนำมาแบ่งปันให้ชาวบ้านอยู่เสมอ ทำให้ชาวบ้านลานเทรักและนับถือสมิง พร้อมคอยปกปิดเรื่องของสมิงกับทางราชการ
          ในปีที่ศรีนวลอายุครบ 21 ปี เลอสรร (ธนา สุทธิกมล) บุตรชายของ ท่านผู้ว่าทรงยศ (ดิลก ทองวัฒนา) ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินมากมายที่ลานเท ได้มาที่ลานเทเพื่อเก็บค่าเช่าจากบรรดาลูกบ้าน กำนันธงจึงได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ โดยให้ศรีนวลขึ้นเวทีแสดงลำตัด เลอสรรได้พบกับศรีนวลและรู้สึกถูกชะตา ทั้งสองต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน ขณะที่สมิงเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจจึงหลบออกจากงาน และพบว่ากำลังตกอยู่ในวงล้อมของตำรวจ สมิงจึงตัดสินใจหนีเข้ามาหลบในงาน และได้รับการช่วยเหลือจากเลอสรร สมิงและเลอสรรจึงกลายเป็นเพื่อนกัน
          เลอสรรมาขอให้สมิงช่วยพูดกับศรีนวลว่า ตัวเองมีใจให้ศรีนวล สมิงจึงบอกว่าตัวเองก็รักศรีนวลเหมือนกัน เลอสรรและสมิงจึงตกลงกันว่า ทั้งคู่จะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่เรื่องความรักใครดีใครได้ และจะไม่โกรธกันหากใครได้ศรีนวลไปครอง เลอสรรอาศัยความใกล้ชิดกับศรีนวลและลักลอบได้เสียกัน เมื่อกำนันธงรู้ก็โกรธมาก ท่านผู้ว่าทรงยศรีบมารับตัวเลอสรรกลับ และได้ให้สัญญาว่าจะยกที่ดินในลานเทให้ศรีนวลเป็นค่าสินสอด แต่ขอให้เลอสรรกลับไปเรียนหนังสือให้จบเสียก่อน เลอสรรสัญญากับศรีนวลว่าเมื่อเรียนจบจะกลับมาแต่งงานอยู่กับศรีนวลที่ลานเท
          เลอสรรกลับไปอยู่บางกอกและประสบอุบัติเหตุ ทำให้ความจำเสื่อมลืมอดีตทั้งหมด คุณนายศรีสอางค์ (ปนัดดา โกมารทัต) ผู้เป็นแม่ จึงขอร้องสามีให้ปกปิดเรื่องของศรีนวลเอาไว้ และจัดการให้เลอสรรหมั้นหมายกับ สร้อยเพชร (อุษณีย์ วัฒฐานะ) ลูกสาวของเพื่อนตัวเอง เมื่อเรียนจบเลอสรรรับราชการตำรวจ และแต่งงานกับสร้อยเพชร ขณะที่ศรีนวลคลอดลูกเป็นหญิงชื่อว่า ดาว (อาภา ภาวิไล) ความทรงจำเก่า ๆ ของเลอสรร บางครั้งก็คืนมาในรูปแบบของความฝัน แต่เมื่อตื่นขึ้นมาเลอสรรก็จำไม่ได้ว่า ผู้หญิงที่เห็นในฝันเป็นใคร สร้อยเพชรและคุณนายศรีสอางค์ พยายามเบี่ยงเบนให้เลอสรรลืมเรื่องทั้งหมดที่ลานเท ขณะที่ท่านผู้ว่าทรงยศก็ได้แต่ปิดปากเงียบตามที่เมียขอเอาไว้
          ดาวโตเป็นสาวแก่นแก้ว ยิงปืนเก่งเหมือนแม่ โดยมีสมิงมาแอบทำหน้าที่พ่อ สอนการต่อสู้และยิงปืนให้ จนดาวเป็นที่เกรงขามของคนลานเท และหากใครมารังแกดาว สมิงก็จะแอบมาจัดการ ทำให้ทุกคนไม่กล้ายุ่งกับดาวและศรีนวล ดาวมีเพื่อนคู่หูชื่อ บุญเหลือ (กัญจน์ ภักดีวิจิตร) ซึ่งมีความเก่งไม่แพ้กัน ทั้งคู่เป็นเพื่อนคู่หูที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน จนมีความรู้สึกเหมือนพี่น้อง เลอสรรกับสร้อยเพชรมีลูก 2 คนคือ เดือน (จุฑามาศ มันตะลัมพะ) และ เกียรติกล้า (ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) เดือนทำหน้าที่ดูแลเรื่องบัญชีทรัพย์สินของครอบครัว ขณะที่เกียรติกล้าเป็นเพลย์บอยไม่เอาถ่าน เดือนอยากจะมาตรวจที่นาแถวลานเท และมาเก็บค่าเช่าประจำปี เลอสรรจะไปด้วยแต่สร้อยเพชรห้ามไว้ เดือนกับเกียรติกล้าจึงไปแทน ศรีนวลให้การต้อนรับเดือนอย่างดี จนเธอรู้สึกชื่นชมและนับถือศรีนวลมาก ดาวแอบดูผู้มาเยือน แต่เกิดไปมีเรื่องทะเลาะกับเกียรติกล้า ทำให้เกียรติกล้าไม่ชอบหน้าดาว ขณะที่เดือนรู้สึกถูกชะตากับดาว และแอบชอบบุญเหลือเงียบ ๆ
          เลอสรรซึ่งบัดนี้ได้เป็นผู้กำกับการตำรวจภูธร ดูแลเขตจังหวัดอยุธยา ทำหน้าที่ปราบปรามโจรผู้ร้าย และมีลูกน้องชื่อ ระพี (ภัทรเดช สงวนความดี) และผู้ร้ายคนสำคัญในเขตนี้ก็คือ จอมโจรสมิงซึ่งไม่เคยมีใครพบตัวได้ง่ายๆ เลอสรรจจึงมอบหมายให้ระพีพยายามสืบหาตัว ระพีและลูกน้องชื่อ สมหมาย (อาฉี เสียงหล่อ) ปลอมตัวเป็นพ่อค้าเรือเร่ ขายของในหมู่บ้านลานเท แต่ดาวและบุญเหลือเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขโมยจึงยิงเรือของระพีเสียหาย ศรีนวลและกำนันธงรับปากว่า จะหาเงินมาชดใช้แต่ตอนนี้ยังไม่มี ต้องรอให้เกี่ยวข้าวขายเสียก่อน ระพีและสมหมายจึงขออาศัยอยู่ที่บ้านกำนันเพื่อรอการใช้หนี้ ดาวหงุดหงิดไม่พอใจ ที่ระพีคอยทำตัวเป็นเจ้านาย คอยขู่บังคับเรื่องหนี้สินตลอดเวลา
          เดือนกำลังจะจมน้ำ แต่ดาวและบุญเหลือช่วยไว้ทัน เดือนอยากตอบแทนที่ดาวช่วยชีวิตไว้ แต่เกียรติกล้าหมั่นไส้บอกให้เอาเงินฟาดหัวไป ดาวไม่รับจึงทะเลาะกับเกียรติกล้า แต่เกียรติกล้าสู้ไม่ได้จึงหยิบปืนจะยิงดาว ศรีนวลเข้ามาขวางแล้วตบหน้าสั่งสอน ที่เกียรติกล้าเป็นผู้ลูกชาย พอสู้ไม่ได้กลับใช้ปืนอย่างเอาเปรียบ เกียรติกล้าแค้นใจจึงทวงบุญคุณว่าครอบครัวของศรีนวลเป็นเพียงผู้อาศัย อยู่ในที่นาของคุณปู่ ตนจะบอกให้ปู่ไล่ออกไป เดือนรีบพาน้องชายกลับกรุงเทพฯ เกียรติกล้าไปฟ้องเลอสรรและสร้อยเพชร ทั้งคู่โกรธมากที่คนของกำนันธงมาทำร้ายลูกของตน เลอสรรจึงสั่งให้หาตัวคนที่ทำร้ายเกียรติกล้ามาให้ได้ กำนันธงมาพร้อมดาว เมื่อเจอหน้ากัน สร้อยเพชรก็ตรงเข้าทำร้ายดาว เพื่อแก้แค้นแทนลูกชาย ดาวไม่ยอมจึงเกิดการทะเลาะกัน เลอสรรเห็นกิริยาที่ไม่ยอมคนของดาว จึงไม่พอใจและเข้าไปดุด่า ทำให้กำนันธงเสียใจแล้วรีบพาดาวกลับลานเท
          ท่านผู้ว่าทรงยศสงสัยในรูปร่างหน้าตาของดาว จึงพยายามถามคุณนายศรีสอางค์ว่า ดาวเป็นลูกของใคร เพราะเกรงว่าจะเป็นลูกของเลอสรรกับศรีนวล สร้อยเพชรได้ยินก็ไม่พอใจ และกลัวว่าดาวจะได้สมบัติ จึงหาทางวางแผนกำจัดดาว ท่านผู้ว่าทรงยศตัดสินใจ บอกให้เลอสรรรู้ความจริง เลอสรรตกใจมาก จึงรีบมาที่ลานเทเพื่อขอโทษศรีนวลและลูก แต่กำนันธงไม่ยอมให้เข้าบ้าน ขณะที่ศรีนวลพาดาวหนีไปพักอยู่กับสมิง เพื่อไม่ต้องการให้เลอสรรตามมาเจอตัว ขณะที่ระพีแอบติดตามไป และได้เบาะแสว่าศรีนวลอยู่กับสมิง โดยระพีเข้าใจผิดว่าศรีนวลเป็นเมียของสมิง และดาวเป็นลูกของสมิงกับศรีนวล จึงมารายงานให้เลอสรรรู้ เลอสรรจึงเข้าใจว่าศรีนวลคงไม่ต้องการคืนดีกับตนแล้ว จึงกลับกรุงเทพฯ
          หลังเรื่องเงียบไป สร้อยเพชรส่งคนมาแอบยิงดาวและศรีนวล สมิงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมือของเลอสรร สมิงโกรธมากจึงยกกองกำลังไปจัดการเลอสรรเพื่อแก้แค้น และจับตัวเลอสรรได้ แต่ดาวเกิดความรู้สึกสงสาร จึงพาเลอสรรหนีออกมา เลอสรรจึงพาดาวเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วยกัน ดาวได้รับการยกย่องจากเลอสรรว่า เป็นผู้มีบุญคุณที่ช่วยเหลือให้ตนรอดชีวิต ขณะที่ท่านผู้ว่าทรงยศ พยายามซักถามดาวว่าพ่อของดาวคือใคร แต่ดาวบอกว่าพ่อตายไปแล้ว เลอสรรและพ่อสงสัยว่าดาวอาจเป็นลูกของเลอสรร จึงยกย่องให้ดาวเป็นเหมือนลูกบุญธรรม ทำให้สร้อยเพชรยิ่งไม่พอใจ พยายามยุยงใส่ร้ายให้เดือนและเกียรติกล้าเกลียดชังดาว
          สร้อยเพชรทาบทามพ่อแม่ของระพี ให้มาหมั้นหมายกับเดือน ขณะที่ระพีเข้าใจผิดคิดว่าตนกำลังจะหมั้นหมายกับดาวก็ดีใจ แต่เมื่อถึงวันงานกลับพบว่าคู่หมั้นของตนคือเดือน ระพีจำใจต้องทำตามผู้ใหญ่ จึงเข้าพิธีหมั้นกับเดือน ทั้ง ๆ ที่เขามีใจกับดาว ขณะที่เดือนมีใจกับบุญเหลือ สร้อยเพชรแอบไปจ้าง ขจรศักดิ์ (ศุภกิตติ์ มยูรกุล) เพื่อนเกเรของเกียรติกล้า ให้เข้ามาปลุกปล้ำดาว แต่คุณนายศรีสอางค์มาพบจึงโวยวาย บุญเหลือได้ยินรีบเข้ามาช่วยต่อสู้กับขจรศักดิ์ แต่ขจรศักดิ์สู้ไม่ได้ จึงผลักคุณนายศรีสอางค์ตกบันไดแล้วหนีไป ดาวและบุญเหลือรีบเข้าไปปฐมพยาบาล สร้อยเพชรจึงแกล้งโวยวายกล่าวหาว่า ดาวและบุญเหลือลักลอบได้เสียกัน พอคุณนายศรีสอางค์มาเจอจึงถูกทำร้าย เลอสรรเข้าใจผิดจึงไล่ดาวออกจากบ้าน
          ดาวและบุญเหลือพากันกลับไปลานเท สมิงและศรีนวลรู้เรื่องจึงโกรธเลอสรรและครอบครัว สมิงรู้ว่าตัวการของเรื่องก็คือ สร้อยเพชรและขจรศักดิ์ สมิงจึงยกพวกบุกไปแก้แค้น และฆ่าขจรศักดิ์กับสร้อยเพชรตาย เลอสรรแค้นใจที่ชุมโจรของสมิงกำเริบเสิบสาน และยังปล้นฆ่าสร้อยเพชรตาย เท่ากับหยามเกียรติของตน เลอสรรจึงให้ระพีและตำรวจในสังกัดวางแผนถล่มสมิงให้ราบคาบ โจรมเหศักดิ์ เถ้าแก่ชิ้น และบันลือ อาศัยจังหวะนี้ เข้าโจมตีสมิงเช่นกัน แต่สมิงกับศรีไพรและพวกก็สามารถฆ่าเถ้าแก่ชิ้น บันลือ และมเหศักดิ์ได้
          เลอสรรนำกำลังตำรวจบุกชุมโจรของสมิง 2 ทาง ให้ระพีคุมกำลังบุกทางบก และเลอสรรนำกำลังบุกทางน้ำ การถล่มชุมโจรครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเสียกำลังไปมาก ในที่สุดเลอสรรกับสมิงเผชิญหน้ากัน จึงท้าดวลปืนกันอย่างลูกผู้ชาย ทั้งสองชักปืนยิงพร้อมกัน กระสุนปืนของเลอสรรวิ่งเข้าเจาะหัวใจสมิง แต่กระสุนของสมิงยิงเจาะเข้ากลางแสกหน้าของลูกน้อง ที่จะลอบยิงเลอสรรด้านหลัง และเป็นกระสุนนัดสุดท้ายของสมิง
          สมิงน้ำตาไหลยิ้มให้ศรีนวลและดาว พร้อมทั้งอวยพรให้ทั้งคู่มีครอบครัวที่สมบูรณ์เสียที ศรีนวลรู้ว่าสิ่งที่สมิงทำเป็นการเสียสละชีวิต และทำหน้าที่พ่อเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อส่งดาวและศรีนวลกลับไปอยู่กับเลอสรร โดยที่ไม่ต้องมีสมิงอยู่ในใจอีกต่อไป เดือนอธิบายเรื่องราวที่เลอสรรเข้าใจดาวผิดให้กับทุกคนรู้ และขอโทษแทนแม่ของเธอ ขณะที่เกียรติกล้าสำนึกผิดและยอมรับดาวเป็นพี่ เดือนตกลงกับระพีเรื่องถอนหมั้น เพื่อเปิดโอกาสให้ระพีทำความรู้จักกับดาวต่อไป ขณะที่เธอและบุญเหลือก็จะเรียนรู้กันให้มากขึ้น ศรีนวลให้อภัยเลอสรรที่ผิดพลาดไปในอดีต และกลับมาครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป

FC on August 16, 2013, 09:08:58 AM
“ยุ้ย” โชว์ฝีปาก-ฝีเท้า ฉบับ “ลำตัด ลำเตะ” เปิดฉากละครบู๊-ดราม่า “เลือดเจ้าพระยา”








 
          ถ้าจะบอกว่า “ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม” เป็นลูกรักของ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะ “นางเอกราชินีบู๊” คนนี้ มีโอกาสได้ร่วมงานกับค่ายบางกอก ออดิโอ วิชั่น ของผู้กำกับมือทองเรตติ้งดีมาแล้ว 4 เรื่อง สำหรับผลงานเรื่องล่าสุด “เลือดเจ้าพระยา” บิ๊กหลองได้ให้สาวยุ้ยได้โชว์ทั้งฝีปากและฝีเท้าในแบบฉบับ “ลำตัด ลำเตะ” แบบครบเครื่อง เพราะในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น “ศรีนวล” ลูกสาวจอมแก่นและเก่งของกำนันธง(ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) แห่งลานเท นอกจากความสวยที่ระบือไปทั่วคุ้งน้ำแล้ว เธอยังโด่งดังเรื่องฝีปากในการร้องลำตัดอีกด้วย เพราะเหตุนี้การเปิดตัวของสาวยุ้ยในละคร “เลือดเจ้าพระยา” จึงไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะบิ๊กหลองให้โชว์แบบครบเครื่องเรื่องความมันส์และความสนุก ซึ่งสาวยุ้ยยังไม่เคยโชว์ลีลาเช่นนี้ในละครเรื่องไหนมาก่อน

          สำหรับฉากที่ว่านี้เป็นฉากงานวันเกิดครบรอบปีที่ 19 ของศรีนวล กำนันธงจึงจัดงานให้ลูกสาวอย่างยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ จึงมีแขกที่ได้รับเชิญและไม่รับเชิญ มาร่วมงานเลี้ยงจนแน่นลานบ้านกำนันธง เพราะคืนนี้ทุกคนจะได้เห็นศรีนวลร้องลำตัดให้ฟังกันอย่างสนุกสนาน หนึ่งหนุ่มที่จะต้องมาร่วมงานทุกปีคือ “สมิง” (เอก-รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง) หนุ่มเรือโยงที่แอบรักศรีนวลอยู่ และ “บันลือ” (กี๋-ฐษชัย ชนะอรรถกาล) ลูกชายจอมเกเร ของ “เก้าแก่ชิ้น” (ตู่-พงศนารถ วินศิริ) เจ้าหนี้หน้าเลือดมาร่วมงานด้วย ในขณะที่ศรีนวลกำลังโชว์ฝีปากและลีลาลำตัดอยู่บนเวทีนั้น บันลือก็เริ่มเมาได้ที่อยู่หน้าเวที พอโดนลูกยุของลูกน้องจึงอดใจไม่ไหว โดดขึ้นไปร่ายรำกับศรีนวลบนเวที ศรีนวลจึงหยุดาการแสดงและพยายามเดินหนี เพราะไม่อยากจะตอแยด้วย แต่บันลือกลับฉุดมือและดึงตัวศรีนวลเข้าไปกอด พร้อมทั้งชักปืนขึ้นมายิงขู่ทุกคนห้ามเข้ามายุ่ง มีหรือที่สมิงจะยอมให้ศรีนวลตกอยู่ในอันตราย สมิงจึงขึ้นไปจัดการจนบันลือกระเด็นตกลงจากเวที เมื่อศรีนวลหลุดรอดจากเงื้อมือของบันลือมาได้ เธอจึงเข้าช่วยสมิงในการต่อสู้ด้วย เถ้าแก่ชิ้นเข้ามาในงาน พอเห็นถูกชายถูกเล่นงานจนหมดสภาพ จึงไม่พอใจและกล่าวอาฆาตสมิงเอาไว้ ศรีนวลจึงพูดปลอบใจสมิง

          การถ่ายทำฉากนี้ผู้กำกับมือแอ็คชั่น ได้ยกกองไปปักหลักถ่ายทำที่ “ปียวรรณ รีสอร์ท” บางไทร เพื่อสมมุติให้บ้านเรือนไทยภาคกลางเป็นบ้านของกันธง กว่าจะลงมือถ่ายทำฉากนี้หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ทีมงานต้องช่วยกันเซ็ทฉากคั้งแต่เช้า พอทุกอย่างพร้อมก็เริ่มลงมือถ่ายทำกันทันที โดยเริ่มถ่ายทำฉากที่กำนันธงเริ่มทักทายแขกที่มาร่วมงานไปก่อน กว่าจะถึงคิวที่สาวยุ้ยจะได้โชว์การเล่นลำตัด ร่วมกับลำตัดมืออาชีพ “คณะแม่ศรีนวล” (ภรรยาครูหวังเต๊ะ) เป็นครั้งแรกอย่างจริงๆก็ประมาณ 3 ทุ่ม หลังจากใช้เวลาไปเรียนกับแม่ศรีนวลมา 4-5 ครั้งแล้ว และยังท่องเนื้อจนขึ้นใจอีกเป็นเดือน

          ก่อนลงมือถ่ายทำสาวยุ้ยต้องมาให้แม่ศรีนวล ช่วยแต่งองค์ทรงเครื่อง ให้ก่อน พร้อมทั้งซักซ้อมลีลาการร่ายรำและการร้อง จากแม่ศรีนวลและทีมงานทั้งคณะ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวก่อน พอเห็นว่าใช้ได้จึงเริ่มถ่ายทำทันที ซึ่งสาวยุ้ยก็ทำได้ดีทางผู้กำกับจึงถ่ายแบบยาวไปทีเดียว พอสิ้นเสียงคัททั้งสาวยุ้ยและแม่ศรีนวล ก็รีบลงจากเวทีตรงไปทีจอมอนิเตอร์ เพื่อเช็กดูภาพของตัวเองพร้อมผู้กำกับว่าเป็นอย่างไร พอดูเสร็จบิ๊กหลองบอกขออีกเทกหนึ่ง เพราะบางช่วงมุมกล้องยังไม่ค่อยถูกใจซักเท่าไหร่ แต่คราวนี้ขอเน้นไปทีสาวยุ้ยให้มากขึ้น พอเพลงบทแรกผ่านไปแล้ว ก็เริ่มถ่ายบทเพลงที่สองต่อทันที คราวนี้ผ่านไปได้อย่างฉลุยแค่สองเทกเท่านั้น

          หลังจากนั้นจึงเป็นการถ่ายทำฉากที่ กี๋ เอเอฟ เริ่มที่จะไปป่วนเวทีลำตัดและสาวยุ้ย ฉากนี้ถือว่าหินพอสมควรเพราะกว่าจะผ่านพ้นไปได้ก็หลายเทก เพราะบางทีตัวประกอบเล่นไม่ดีบ้าง มุมกล้องรับแอ็คไม่ทันบ้าง การเล่นยังไม่ได้จังหวะบ้าง และลูกกระสุนด้านบ้าง สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้เกือบเที่ยงคืน เสร็จแล้วจึงมาถ่ายทำฉากที่เอก รังสิโรจน์ เริ่มโขว์ลีลาบู๊บ้าง การถ่ายทำซีนนี้หนุ่มกี๋และนักแสดงประกอบ อาจจะมีเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันเล็กน้อย เพราะจะต้องมีการบู๊ไปกระแทกกับโต๊ะเก้าอี้ด้วย ส่วนสาวยุ้ยก็ร่วมด้วยช่วยกันบู๊กับเขาเช่นกัน กว่าฉากนี้จะถ่ายทำเสร็จก็ประมาณตี 3 แต่นักแสดงทุกคนก็เต็มที่กับงานจนคัทสุดท้ายของการถ่ายทำ

          อยากรู้ว่าลีลา “ลำตัด ลำเตะ” ของนางเอกมากความสามารถ “ยุ้ย-จีรนันท์” และ “เอก-รังสิโรจน์” จะมันส์ถึงใจพระเดชพระคุณคนดูมากแค่ไหน ติดตามชมกันได้ในวันศุกร์ที่ 16 สิงหานี้ ซึ่งจะออนแอร์เป็นตอนแรก หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 7 สี
« Last Edit: August 16, 2013, 09:11:03 AM by FC »

FC on September 10, 2013, 08:02:14 AM
“ออย” ขอเคลียร์ความหลังกับ “ยุ้ย” หวังคืนดี “ธันญ์” แอบไปเฝ้าถึงกอง “เลือดเจ้าพระยา”











          กำลังเข้มข้นและน่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ สำหรับละครแอ็คชั่น-ดราม่าเรื่อง “เลือดเจ้าพระยา” จากฝีมือการกำกับของผู้กำกับระดับปรมาจารย์ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” โดยเฉพาะฉากที่จะออนแอร์ในวันเสาร์ที่ 7 กันยายน นี้ มีครบทุกรสชาติทั้งบู๊เศร้าเคล้าน้ำตา เพราะเป็นฉากที่ เลอสรร(ออย-ธนา) แอบปลอมตัวไปที่ลานเทอีกครั้ง เพื่อมาถามความจริงจากปาก ศรีนวล(ยุ้ย-จีรนันท์) เรื่องความรักความหลังของตัวเอง ที่ทำให้ สมิง(เอก-รังสิโรจน์) ถึงกับโกรธแค้น แล้วยกพวกมายิงถล่มบ้านของเขา ในวันหมั้นของ เดือน(พลอย-จุฑามาศ) ลูกสาวกับ ระพี(ไมค์-ภัทรเดช) และสมิงยังได้ด่าเขาแบบสาดเสียเทเสียเกี่ยวกับเรื่องของศรีนวลด้วย

          ในขณะที่เรือของเลอสรรกับ จ่าสมหมาย(อาฉี เสียงหล่อ) ใกล้มาถึงท่าเรือที่ลานเท ก็เห็นว่ามีชาวบ้านมาช่วยกันเก็บผักตบชวาเต็มไปหมด จึงต้องขับเรือผ่านเลยไปเพื่อไปขึ้นฝั่งอีกท่าหนึ่ง และเดินอ้อมไปอีกทางหนึ่งเพราะไม่อยากให้ใครเห็น แต่ ดาว(แม็กกี้-อาภา) กับ บุญเหลือ(กอล์ฟ-กัญจน์) สงสัยตั้งแต่เห็นเรือวิ่งผ่านหน้าตัวเองไปแล้ว จึงแอบตามมาดูว่าเป็นใครกันแน่ พอดาวกับบุญเหลือวิ่งมาดักหน้าเอาไว้ เลอสรรกับจ่าสมหมายจึงต่างคนต่างวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดก่อน ในขณะที่เลอสรรวิ่งหนีได้วิ่งไปชนกับศรีนวล ทำให้ศรีนวลล้มกลิ้งไปอยู่ในอ้อมกอดของเลอสรร และเลอสรรก็ได้เปิดผ้าคลุมหน้าออก เพื่อให้ศรีนวลรู้ว่าเป็นตัวเอง พอศรีนวลตั้งสติได้จึงหันหลังจะวิ่งหนี แต่เลอสรรรีบคว้ามือเอาไว้ และดึงร่างศรีนวลเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง ขณะที่ดาวกับบุญเหลือมองอึ้งอย่างตกใจ

          จากนั้นเลอสรรจึงจับตัวศรีนวลไปพบ กำนันธง(ไทด์-เอกพัน) ที่บ้าน เพื่อขอเคลียร์เรื่องความผิดที่ตัวเองทำไว้กับศรีนวล เพราะตอนนี้ตัวเองก็สำนึกได้แล้ว แต่กำนันธงไม่ยอมเพราะยังมีความแค้นในตัวเลอสรรอยู่ จึงจะยิงเลอสรรถ้าหากยังมายุ่งเกี่ยวกับศรีนวลอีก ศรีนวลเห็นว่าพ่อเอาจริงแน่ จึงตัดสินใจเข้าไปยืนใกล้เลอสรรเพื่อขวางทางปืนไว้ พอกำนันธงถามว่าศรีนวลจะเอาอย่างไร ศรีนวลจึงบอกกับพ่อว่ายินดีที่จะคุยกับเลอสรรเพื่อให้ทุกอย่างจบลง ทำเอาเลอสรรถึงกับยิ้มได้ แต่ในช่วงที่ถ่ายทำฉากนี้ ณ บ้านสวยปียวรรณ อ.บางไทร จ.อยุธยา อาหลองผู้กำกับถึงกับยิ้มไมค่อยออก เพราะถ่ายทำไปได้ไม่เท่าไหร่ฝนก็เทลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว จึงต้องหยุดพักการถ่ายทำไปนานนับชั่วโมง พอฝนหยุดตกแล้วจึงเริ่มต้นถ่ายทำกันใหม่ เป็นฉากที่เลอสรรตะโกนเรียกกำนันธง เพื่อขอเคลียร์เรื่องของตัวเองอย่างไม่กลัวความตาย

          ก่อนถ่ายทำจริงก็จะมีการซักซ้อมคิวให้เป็นที่เข้าใจกันก่อน ว่าจะต้องแสดงกันประมาณไหน พอจะลงมือถ่ายทำอย่างจริง ก็เห็นร่างพระเอกนักบู๊ “ธันญ์ ธนากร” แอบเดินเข้ามาใกล้ที่ถ่ายทำ และนั่งดูสาวยุ้ยแฟนสาวของตัวเอง เล่นฉากเคลียร์ปัญหาหัวใจกับหนุ่มออย ด้วยอาการที่ลุ้นไปกับการแสดงด้วย และฉากนี้ผ่านไปได้ด้วยความพอใจของผู้กำกับแค่ 2 เทกเท่านั้น พอถ่ายทำเสร็จหนุ่มออยก็รีบเดินมาจับมือของหนุ่มธันญ์ ส่วนหนุ่มธันญ์ก็รีบลุกจากเก้าอี้ เพื่อให้สาวยุ้ยมานั่งพักเหนื่อย พร้อมทั้งดูดน้ำกินด้วยความกระหาย เพราะต้องใช้เสียงกับฉากนี้ไปเยอะพอสมควรนั่นเอง

          ติดตามชมเบื้องหน้าของฉากนี้ได้ในละครเรื่อง “เลือดเจ้าพระยา” คืนวันเสาร์ที่ 7 กันยายนนี้ หลังข่วภาคค่ำทางช่อง 7 สี
« Last Edit: September 10, 2013, 08:03:47 AM by FC »

FC on September 16, 2013, 08:58:57 AM
เบื้องหลังละคร “เลือดเจ้าพระยา”: “ออย” ฉุด “ยุ้ย” เล่นบทรักในหลุมดักสัตว์











          ยังคงเล่นบทพ่อแง่แม่งอนกันไม่เลิกรา สำหรับ “ออย-ธนา สุทธิกมล” และ “ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ในละครเรื่อง “เลือดเจ้าพระยา” โดยฝีมือการกำกับของ “ฉลอง ภักดี วิจิตร” เพราะต่างฝ่ายยังมีความไม่เข้าใจกัน โดยเฉพาะสาวยุ้ยพยายามหนีหนุ่มออยตลอด เพราะเห็นว่าหนุ่มออยมีลูกมีเมียที่กรุงเทพฯ เป็นตัวเป็นตนไปแล้ว สุดท้ายสาวยุ้ยก็หนีอ้อมกอดและรอยจูบของหนุ่มออยไม่พ้น

          สำหรับฉากที่ว่านี้เป็นฉากที่ ศรีนวล(ยุ้ย-จีรนันท์) กำลังพาชาวบ้านเดินทางไปผาช่องลม เพราะศรีนวลได้ข่าวว่า สมิง(เอก-รังสิโรจน์) ถูกระเบิดตาย เธอจึงจะไปดูแลที่นั่นแทนสมิง ระหว่างที่เดินทางไปนั้นเป็นเวลาเดียวที่ เลอสรร(ออย-ธนา) ได้พาลูกน้องไปที่ผาช่องลมเช่นกัน พอศรีนวลรู้ว่ามีคนแอบตามมา จึงให้ชาวบ้านเดินล่วงหน้าไปก่อน ส่วนเธอจะได้แอบดูว่าเป็นพวกไหน พอศรีนวลรู้ว่าคนที่แอบตามมาคือเลอสรร เธอจึงวิ่งหลอกล่อให้เลอสรรตกลงไปในหลุมดักสัตว์ แต่พอเห็นเลอสรรตกไปในหลุมและเสียงเงียบหายไป ด้วยความรักที่ยังมีต่อเลอสรร จึงทำให้ศรีนวลย้อนกลับดูด้วยความเป็นห่วง ว่าอดีตคนเคยรักจะได้รับอันตรายหรือไม่ พอศรีนวลชะโงกหน้าลงไปดูในหลุม จึงถูกเลอสรรฉุดให้ลงไปอยู่ก้นหลุมด้วยกัน และดึงร่างของศรีนวลก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง ยิ่งศรีนวลดิ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกเลอสรรกอดแน่นมากขึ้นเท่านั้น และยังถูกเลอสรรจูบด้วยความรักและคิดถึงอีกด้วย

          ก่อนถ่ายทำฉากนี้ “อาหลอง” ผู้กำกับระดับปรมาจารย์ ต้องให้ทีมงานขุดหลุมขนาดใหญ่ เพื่อให้นักแสดงทั้งสองคน และตากล้องสามารถลงไปอยู่ในหลุมได้ด้วย และต้องเคลียร์พื้นที่ในหลุมด้วยว่า ถ้าตกลงไปแล้วไม่ถูกเศษหินหรือเศษไม้เกี่ยวเป็นอันตรายแต่อย่างใด ก่อนที่จะถ่ายทำจริงก็ต้องมีการซักซ้อม ทั้งคิวกล้องและคิวแสดงให้เป็นที่เข้าใจกันก่อน พอได้ภาพมุมกว้างเป็นที่พอใจของผู้กำกับแล้ว จึงมาถ่ายภาพแคบซึ่งเป็นซีนที่ออยจะต้องประทับรอยจูบยุ้ย การถ่ายทำซีนนี้ค่อนข้างจะลำบากเล็กน้อย เพราะตากล้องจะต้องลงไปอยู่ในหลุมถึง 2 คน พอวางมุมกล้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาหลองจึงอธิบายให้ออยกับยุ้ยฟังว่า ต้องการได้ภาพแบบไหน ซึ่งนักแสดงทั้งสองคนก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี แต่กว่าจะผ่านซีนนี้ไปได้ก็ 2-3 เทก เพราะหนุ่มออยพยายามใช้มุมกล้องช่วย เพราะไม่อยากจะจูบสาวยุ้ยอย่างจริงๆ จึงทำให้ภาพที่ออกมาไม่สมจริงเท่าไหร่ สุดท้ายหนุ่มออยก็ต้องประทับรอยจูบไว้ที่แก้มของสาวยุ้ยจนได้ พอถ่ายภาพในหลุมเสร็จแล้ว ทั้งออยและยุ้ยต้องแสดงฉากที่ต้องปีนขึ้นมาจากหลุมอีก แต่เพราะหลุมค่อนข้างลึกจึงมีการไหลลื่น และปีนขึ้นไม่ค่อยสะดวกบ้าง แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นได้ด้วยดี ถึงแม้จะใช้เวลาในถ่ายทำหลายชั่วโมงก็ตาม

          ติดตามชมฉากกุ๊กกิ๊กของหนุ่มออยกับสาวยุ้ยฉากนี้ได้ ในละครเรื่อง “เลือดเจ้าพระยา” คืนวันเสาร์ที่ 14 กันยายนนี้ หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 7 สี
« Last Edit: September 16, 2013, 09:01:49 AM by FC »

FC on September 19, 2013, 11:24:16 PM
“เอก” วันชื่นคืนสุข “ยุ้ย” ไม่สมหวัง “ออย” บุกทำลายพิธีเพราะฤทธิ์หึง










 
          ความสนุกสนานเข้มข้นของละครแอ็คชั่น-ดราม่า “เลือดเจ้าพระยา” โดยฝีมือผู้กำกับเรตติ้งดี “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ดำเนินเรื่องมาถึงตอนอวสานกันแล้ว หลายคนคงดีใจไปกับ สมิง(เอก-รังสิโรจน์) เพราะ ศรีนวล(ยุ้ย-จีรนันท์) ยอมตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายแสนดีคนนี้เสียที หลังจากที่เขามีใจภักดีต่อเธอมานานถึง 20 ปี ทั้งสองคนจึงมีคนเห็นตรงกันว่า จะไปจัดงานที่ไม่ต้องใหญ่โตอะไรมากนักที่ผาช่องลม ซึ่งเป็นสถานที่หลบซ่อนตัวของสมิงและพ้องเพื่อน

          การถ่ายทำฉากนี้ “อาหลอง” ผู้กำกับมือแอ็คชั่นตัวจริง ได้ยกกองไปถ่ายทำที่จังหวัดสระบุรี พร้อมทั้งเซ็ทฉากและปะรำพิธี สำหรับการจัดงานแต่งงานขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ในขณะที่ฝ่ายศิลป์ช่วยกันตกแต่งเวทีด้วยดอกไม้ไปนั้น ยุ้ยกับเอกก็แต่งองค์ทรงเครื่องให้สวยและหล่อกว่าปกติ แต่ชุดแต่งงานก็เป็นชุดที่ไม่ได้หรูหราอะไรมากนัก เพราะเป็นการแต่งงานแบบกระทันหัน จึงไม่มีเวลาเตรียมตัวอะไรมากนัก ส่วน แอล-วันวิสา ซึ่งรับบทเป็น “ศรีไพร” พอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องซ้อมรำดาบเพื่อให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ส่วนอาหลองก็เดินดูความเรียบร้อยของงาน ในแต่ละจุดว่าเป็นไนอย่างทีต้องการหรือไม่

          พอทุกอย่างพร้อมอาหลองจึงเลือกนักแสดงทั้งหมด มาซ้อมคิวในการแสดงกันก่อน โดยเริ่มจาก เสือเฮี้ยน(ต๋อย-จรินทร์)บัญชาการให้คนจัดโต๊ะบวงสรวงเจ้าป่า ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องเซ่นไหว้ตามประสาชาวป่า สมิงในชุดเจ้าบ่าวยืนรออยู่ที่มุมหนึ่ง สักครู่เสียงกลองใหญ่ดังขึ้นเห็น โย่ง(บิลลี่ ผีน่ารัก) บุญเหลือ(กอล์ฟ-กัญจน์) และ ศรีไพร เดินนำศรีนวลในชุดเจ้าสาวมายืนเคียงข้างกับสมิง เสือเฮี้ยนเดินมายืนในตำแหน่งประธานพิธี บุญเหลือและโย่งช่วยกันจุดธูปและเทียนแล้วส่งให้เสือเฮี้ยน จากนั้นเสือเฮี้ยนก็ป่าวประกาศกับเจ้าป่าเจ้าเขา เทวดาอารักษ์ ที่ปกปักษ์รักษาผาช่องลม ให้รับรู้และเป็นสักขีพยานในการแต่งงานของสมิงกับศรีนวล

          หลังจากนั้นเสือเฮี้ยนหันมาส่งธูปให้สมิงกับศรีนวล นำไปปักตามถาดอาหารที่ใช้บวงสรวง แล้วกลับมานั่งคู่กันบนปะรำพิธี เพราะก่อนที่พิธีต่อไปจะเริ่มขึ้น ศรีไพรได้เดินออกมารำดาบเพื่อประกอบการบวงสรวง ใบหน้าของศรีไพรดูเหมือนจะมีความสุข แต่ดวงตกับเอ่อไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมา ศรีไพรตั้งใจร่ายรำดาบอย่างสวยงามที่สุด เพื่อเป็นของขวัญให้กับสมิงและศรีนวล พอศรีไพรร่ายรำมาใกล้เครื่องบวงสรวง จึงตวัดเอาดาบเชือดหน้าแขนตัวเอง ให้เลือดสาดกระจายไปยังเครื่องบวงสรวง ทำเอาสมิงและศรีนวลตกใจมาก แต่เสือเฮี้ยนบอกว่า การบวงสรวงต้องมีเลือดสดๆ สังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา ที่ศรีไพรยอมสละเลือดตัวเอง เพื่อให้พิธีแต่งงานของสมิงกับศรีนวลราบรื่นสมบูรณ์ที่สุด บุญเหลือจึงรีบพาตัวศรีไพรออกไปรักษาบาดแผลทันที

          เสร็จแล้วเสือเฮี้ยนเดินไปหยิบแหวนทอง 2 วงขึ้นมา แล้วหันมาทางสมิงและศรีนวล สมิงหยิบแหวนสวมแหวนให้ศรีนวล ที่นิ้วนางข้างซ้าย และบอกว่าจะรักและปกป้องศรีนวลตลอดไป จากนั้นศรีนวลก็หยิบแหวนขึ้นมาแต่ยังไม่ยอมสวมให้ เพราะเธอพยายามทำใจว่ากำลังจะแต่งงานกับสมิง ขณะที่สมิงยื่นมือให้ศรีนวลสวมแหวน เดือน(พลอย-จุฑามาศ) ได้วิ่งเข้ามาร้องห้ามและบอกว่า เธอขอยกเลิกคำสัญญาที่เคยขอร้องไม่ให้ศรีนวลกลับไปคืนดี เลอสรร(ออย-ธนา) เพราะเธอรุ้แล้วว่าพ่อของเธอกับแม่ศรีนวลเคยรักกันมาก่อน เสือเฮี้ยนจึงบอกว่าถ้าศรีนวลยังไม่สวมแหวนให้สมิง พิธีแต่งงานก็จะไม่สมบูรณ์ สมิงจึงพยายามเร่งให้ศรีนวลสวมแหวนให้แต่ศรีนวลลังเล สมิงจึงรู้ดีว่าศรีนวลคงจะปฏิเสธเขาอีกครั้งทั้งๆที่ทุกอย่างกำลังจะสำเร็จ

          ในขณะที่ศรีนวลกำลังตัดสินใจนั้น ศรีไพรก็ได้วิ่งเข้ามาบอกให้ทุกคนหนี เพราะตำรวจนำกำลังมาบุกเข้ามาแล้ว ในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันหนี เลอสรรก็นำกำลังตำรวจบุกเข้ามาถึงบริเวณพิธีแต่งงานสำเร็จ เมื่อเลอสรรเห็นว่าเป็นงานแต่งงานของศรีนวลกับสมิง เลอสรรจึงพูดต่อว่าศรีนวลและสมิงด้วยความหึงหวง เพราะตัวเองไม่อยากสูญเสียอดีตเมียรักให้กับชายอื่น แต่เพราะสมิงมีความเป็นลูกผู้ชายแบบเต็มตัว จึงท้าดวลปืนนัดเดียวกับเลอสรร สุดท้ายสมิงก็ยอมเสียสละชีวิตของตัวเอง เพื่อความสุขของศรีนวลและทุกคน ทำให้ศรีนวลและ ดาว(แม็กกี้-อาภา) เสียใจมากที่สมิงยอมตายเพื่อทุกคน แม้แต่ตัวของเลอสรรเองก็เช่นกัน การถ่ายทำฉากนี้อาหลองผู้กำกับคนดัง ได้ใช้เวลาในการถ่ายทำถึง 2 วันเต็มๆ เพื่อให้เป็นภาพแห่งความสุข และความประทับใจของคนดู ถึงแม้จะได้เนื้อหาบนหน้าจอทีวีเพียงไม่กี่ 10 นาทีเท่านั้น สำหรับฉากสุดท้ายของชีวิตสมิงนอกจากจะทำให้ทุกคนในกองถ่ายต้องร้องไห้ไปกับตัวละครแล้ว คิดว่าแฟนๆที่ชมทางหน้าจอทีวีก็คงจะน้ำตาไหลพรากเช่นกัน

          ติดตามชมตอนอวสานของละครเรื่อง “เลือดเจ้าพระยา” ด้วยฉากแสนเศร้านี้ได้ ในคืนวันศุกร์ที่ 20 กันยายนนี้ หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 7 สี
« Last Edit: September 19, 2013, 11:28:58 PM by FC »

FC on September 27, 2013, 01:44:46 PM
“กี๋” อินบทนักเลง!! ปล่อยอารมณ์ผ่านตัวละคร ขอยึดร้ายในจอตลอดกาล



          เรียกได้ว่ามาถูกทางจริง ๆ สำหรับนักแสดงหนุ่มหน้ากวน "กี๋ - ฐษชัย ชนะอรรถกาล" หรือ (กี๋ เอเอฟ 5) ที่ล่าสุดลงเล่นบทร้าย ในละคร "เลือดเจ้าพระยา" ทางช่อง 7 ของ คุณอาฉลอง ภัคดีวิจิตร ซึ่งรับบทเป็น "บันลือ" ในเรื่องต้องสวมบทบาทเป็นนักเลงเล่น ร้าย ๆ และในฉากต้องเล่นบู๊ แอคชั่น งานนี้ทำเอาเจ้าตัวเผยกระแสบทร้ายค่อนข้างดีแฟน ๆ ละครถามถึงเยอะมาก ๆ จนเจ้าตัวเปรยขออยากยึดบทร้ายไปตลอดกาล ที่สำคัญไม่รู้ว่าจะติดความร้ายมาใช้ในชีวิตจริงหรือเปล่า รายละเอียดไปฟังหนุ่ม "กี๋" แจงกันเลย

          “มาถูกทางแล้วครับ บทร้ายสนุกมากมีอะไรให้เล่นเยอะดี โดยเฉพาะเล่นเป็นตัว “บันลือ” ต้องแสดงออกด้วยสีหน้า ท่าทาง ความรู้สึกอารมณ์ แถมมีบู๊แอคชั่น ซึ่งก็สะใจดีครับ ต้องขอขอบคุณอาฉลอง ที่ให้ผมได้ลองเล่นบู๊ที่ตรงกับตัวเอง (ยิ้ม) ซึ่งผลงานของอาขึ้นชื่อเรื่องแนวบู๊ แอคชั่น ในบทผมต้องเจอกับพระเอกนางเอกทุกคน มีพัฒนาการมากขึ้นในเรื่องคิวบู๊ เอฟเฟคระเบิด ปืน เวลาเล่นบทร้ายสนุกแล้วเหมือนตัวเองได้พัฒนา ก็ชอบที่สามารถเล่นอะไรได้เยอะดี ส่วนในกองเวลาถ่ายทำอาดุมาก แต่พอเรารู้ทางว่าคุณอาต้องการอะไรเราก็เริ่มจับทางถูก ส่วนหนึ่งที่แฟน ๆ ถามถึงความร้ายอาจเป็นเพราะบทในเรื่องนี้ เจอกับทุกคนและตัวร้ายมีแค่สองคนผม กับพี่เอก รังสิโรจน์ ค่อนข้างมีอิทธิพลมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชวนให้คนดูอินและโมโหกับตัวร้าย โดยส่วนตัวจริง ๆ ติดใจอยากเล่นร้ายไปตลอดนะ เราได้เป็นอีกคนที่ในชีวิตจริงเราทำไม่ได้ เราต้องคำนึงความถูกต้องมาก่อน แต่พอเป็นคนร้ายในบทเวลาลงเล่นขอสุด ๆ กวนบาทามาเลย ซึ่งก็ดีที่แฟนละครชื่นชอบ ทั้งหมั่นไส้ อยากเข้ามาทำร้ายหรือมีเกลียดเราบ้าง(หัวเราะ) ซึ่งถือว่าเราสอบผ่านครับ ส่วนชีวิตจริงจะติดความร้ายมานั้น อาจจะยากนะ ถ้าจะไปทำร้ายใครขนาดนั้น มันดูเถื่อนไปนิด แต่ถ้ากับสาว ๆ ก็ขอร้ายแบบผู้ชาย ๆ ถึงตัวดีกว่า ไปร้ายแบบชกต่อย มันจะดูเป็นผู้ชายไม่ดี(ยิ้ม) ก็ขอร้ายในจอพอแล้ว ส่วนเรื่องต่อไปยังคงร้ายอีกเช่นเคยกับ “ดาวเคียงเดือน” ทางช่อง 3 ฝากติดตามกันด้วยครับ”
« Last Edit: September 27, 2013, 02:00:19 PM by FC »