happy on September 25, 2013, 04:25:38 PM
บัดดี้คู่ใหม่ของวงการออม สุชาร์ - น้องปอปอเล่นเข้ากันได้น่ารัก
ยกให้เป็น คู่หูต่างวัย ในภาพยนตร์ "นมัสเตจ๊ะเอ๋บ๊ายบาย


               เข้าฉายไปแล้วเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา  สำหรับภาพยนตร์ไทยแนวธรรมะ-คอมเมอดี้   ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีพร้อมคำชมถึงการแสดงที่แสนจะน่ารัก ของสองนักแสดงต่างวัย ในบท พลอย ( รับบทโดย  ออม สุชาร์  มานะยิ่ง ) และ แม่ชีน้อย ( รับบทโดย  น้องปอปอ-สาธิมา อุดมเวศย์ ) “นมัสเต จ๊ะเอ๋บ๊ายบาย” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นภายใต้โครงการ บวชพุทธสาวิกาสองแผ่นดินโดยเสถียรธรรมสถาน และสร้างขึ้นในโอกาสฉลองปีพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ธรรมโดยมีการถ่ายทำใน 3 ประเทศคือ ไทย อินเดีย และเนปาล  ผลงานกำกับโดย 2 ผู้กำกับมากฝีมือและศรัทธาในด้านพุทธศาสนาอย่าง นาย-สวัสวดี วงศ์สมเพ็ชร และ โน้ต-พรรณพันธ์ ทรงขำ พร้อมด้วยนักแสดงวัยเกรียนที่ร่วมเดินสายกลางอย่าง ออม สุชาร์ มานะยิ่ง รับบท พลอย, น้องปอปอ-สาธิมา อุดมเวศย์ รับบทแม่ชีน้อย,วชิระ ค่ายดำ รับบท ชีระ,วรินกร ปลื้มจิตต์ รับบท ก้อง  และณัฐนา คูวงษ์วัฒนาเสรี รับบท เกน โดยเนื้อเรื่องเป็นแนวดราม่า-คอมเมอดี้ที่สอดแทรกธรรมมะไปได้อย่างลงตัวและเข้าใจง่าย วัยรุ่นดูได้ผู้ใหญ่ดูดี ภาพยนตร์ธรรมะที่ฉีกจากรูปแบบเดิมๆอย่างสิ้นเชิง

               ออม สุชาร์  มานะยิ่ง นักแสดงสาวสวยน่าใสมากฝีมือ  หนึ่งในนักแสดงนำที่ตอนนี้กลายเป็นคู่บัดดี้คู่ใหม่ของวงการแล้วกับ น้องปอปอ ด.ญ.สาธิมา อุดมเวศย์ คู่หูตัวน้อยต่างวัย ด้วยอายุเพียง 9ปี นักแสดงหน้าใหม่ในเรื่อง “นมัสเต จ๊ะเอ๋บ๊ายบาย” โดยน้องปอปอ รับบท แม่ชีน้อย  ทั้งสองคนนี้ต้องเข้าฉากด้วยกันจนกลายเป็นความสนิททั้งในจอและนอกจอ  ทำให้ฉากต่างๆ ที่ผู้ชมได้เห็นในภาพยนตร์นั้น ทั้งคู่แสดงออกมาได้น่ารักมาก จนได้รับฉายาจากทางกองถ่ายว่า ทั้งคู่เป็นบัดดี้ต่างวัย เรามาฟังกันว่าทั้งคู่รู้สึกอย่างไรกับฉายาใหม่ที่ได้รับนี้


               “สำหรับออม ตอนแรกยังไม่ค่อยสนิทกับน้องปอปอเท่าไหร่  แต่พอรู้ว่าเราจะต้องแสดงด้วยกันก็เริ่มทำความคุ้นเคย พูดคุยหยอกล้อกับน้องจนสนิทขึ้นเรื่อยๆ  พอเราเข้าฉากด้วยกันน้องก็จะไม่เกร็งด้วย  เพราะในเรื่องน้องปอปอเป็นเด็กที่เข้าในโครงการบวชพุทธสาวิกาสองแผ่นดิน  น้องได้ผ่านเข้าพิธีบวชจริงการวางตัวจะต้องสำรวมมากๆ แต่ในความเรียบร้อยสำรวมนั้นจะต้องมีความทะเล้นน่ารักปนอยู่ด้วย ซึ่งออมก็จะบอกน้องปอปอเสมอว่า ให้แสดงความเป็นธรรมชาติของตัวเอง เพราะเด็กเขาจะมีความน่ารักสดใสอยู่ในตัวอยู่แล้ ว พอเห็นภาพที่ออกมาดูแล้วน่ารักก็รู้สึกดีใจค่ะ  เพราะทุกฉากเราสองคน หรือทีมงานทุกๆ คนทำงานนี้กันด้วยใจจริงๆ  ทุกคนมาทำในนามจิตอาสา  หลายฉากที่ค่อนข้างหิน  แต่คือเราทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่จะทำให้ทุกฉากมีความหมายและดูสนุกเพื่อให้ออกมาดีที่สุด  อยากให้ทุกคนทุกวัยได้ดูกัน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เคยคิดว่าธรรมะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ  แต่ในหนังเรื่องนี้สนุกมาก ขำมาก เรียกว่ามีครบทุกรสให้ได้ดูกัน มาตีตั๋วชมกันได้แล้วในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์นะค่ะ”


               ด้านน้องปอปอ  ให้สัมภาษณ์ว่า “หนูขอคุณยายจ๋า  แม่ชีศันสนีย์  เสถียรสุต  มาเข้าร่วมบวชในโครงการพุทธสาวิกาสองแผ่นดิน และก็ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง นมัสเต จ๊ะเอ๋บ๊ายบาย ควบคู่ไปพร้อมๆกันด้วย  การต้องทำงานถ่ายภาพยนตร์ไปในขณะที่บวชอยู่เป็นเรื่องยากมาก  เพราะต้องระวังทุกอย่างเพื่อไม่ให้ทำอะไรที่จะเป็นการผิดศีล กับพี่ออม  น่ารักมาก  ในตอนแรกที่เจอกันยังไม่ค่อยสนิทกัน  เขินๆ พี่เค้า  แต่พี่ออมชอบมาชวนคุยด้วย พี่ออมคอยสอน  คอยบอกหนูว่าต้องทำอย่างไรบ้างในเวลที่กำลังถ่ายทำ  พี่ออมน่ารักที่สุด ใจดีด้วย มีฉากหนึ่งที่สงสารและเกรงใจพี่ออมมากเลย  คือ หนูต้องขี่หลังพี่ออม  ให้พี่ออมเดินแบกขึ้นไปเขาคิชกูฏ  ซึ่งภูเขาและระยะทางมันไกลมาก สูงและชันมากด้วย  ต้องเดินกันไกลตั้ง 5 กิโลเมตร  หนูแอบสงสารพี่ออมค่ะเพราะพี่ออมตัวเล็ก  ตัวโต กว่าหนูนิดเดียว  ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าพี่ออมจะแบกหนูไหวไหมนะ แค่ต้องเดินขึ้นเขาเองก็เหนื่อย อากาศก็ร้อน ตั้ง 40องศาแต่พี่ออมก็เก่งมากค่ะ พาหนูแบกขึ้นหลังเดินไปจนถึงบนภูเขาคิชกูฏได้สำเร็จ  พอถ่ายทำหนังเสร็จแล้วก็คิดถึงพี่ออมนะค่ะ”


               เห็นความสนิทสนมของคู่ซี้ต่างวัยเล่าให้ฟังถึงความทุ่มเทของทุกคนในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว  ถ้าไม่อยากตกเทรน  รีบไปตีตั๋วชมความน่ารักของบัดดี้คู่ใหม่คู่นี้ได้ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ เริ่มเข้าโปรแกรมฉายแล้ววันนี้ นอกจากได้รับความสนุกและซาบซึ้งกับภาพยนตร์แล้ว  ยังได้ร่วมทำบุญอีกด้วย  ราคาตั๋ว 99 บาททุกที่นั่ง  โดยจะฉายวันละ 2 รอบ ได้แก่ รอบ 14.00 น.และเวลา 19.00 น.ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมโปรแกรมธรรมะอารมณ์ดี ได้แก่ เมเจอร์ปิ่นเกล้า,เมเจอร์รังสิต, เมเจอร์รัชโยธิน,  เมกาบางนา,เอสพลานาด แคราย,แฟชั่นไอซ์แลนด์,ซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์,ซีคอนบางแคซึ่งรายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์ทั้งหมดจะนำไปใช้เพื่อนำธรรมะกลับสู่หัวใจเด็กและเยาวชนในกิจกรรมโครงการต่างๆ