MSN on September 17, 2013, 02:30:30 PM
“The Coffee Bean & Tea Leaf” เปิดโลกชา สัมผัสประสบการณ์ปรุงชาแสนสนุกจากรสชาติและกลิ่นชาในจินตนาการ กับเวิร์คชอป “Blend your own tea with Master David”









          ว่ากันว่ารสชาติและกลิ่นชาบ่งบอกได้ถึงความเป็นตัวตนของแต่ละคน แต่กว่าจะได้เป็นชาแต่ละถ้วยนั้น สำหรับเดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ ไม่ใช่เป็นแค่เพียงแบรนด์ร้านกาแฟและชาระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่เมล็ดกาแฟแต่ละเมล็ด ยอดอ่อนใบชาแต่ละใบต้องผ่านกระบวนการความพิถีพิถันด้วยมือมากมาย เพื่อคัดสรรพร้อมเสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า สมดังสโลแกน “Simply the Best” ครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่เดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ ประเทศไทย ได้รับเกียรติจาก มร.เดวิด ดิ แคนเดีย Director of Tea จาก The Coffee Bean & Tea Leaf สหรัฐอเมริกา ผู้สั่งสมประสบการณ์ที่เกี่ยวกับชาจากทั่วโลกมานานนับ 16 ปี มาเปิดโลกชา พร้อมเผยเกร็ดความรู้และลิ้มลองชาเกรดพิเศษหลากหลายชนิดส่งตรงข้ามทวีปจากแหล่งไร่ชาชั้นเยี่ยมทั่วโลก พร้อมสนุกสนานไปกับการเรียนรู้เรื่องชา และสัมผัสประสบการณ์ปรุงชาอันแสนสนุกจากรสชาติชาเฉพาะคุณ ด้วยตัวเองชิ้นเดียวในโลก ในกิจกรรม Tea Tasting เวิร์คชอป “Blend your own tea with Master David” พร้อมเปิดตัวหนังสือนิทานสำหรับเด็กเล่มแรกของเขา “Master Davey and the Magic Tea House: Legend of the Blue Tiger” เมื่อวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2556 ณ เดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ สาขา One Fenix Square สุขุมวิท 22 โดยภายในงานยังได้รับเกียรติจากคุณหนึ่ง วาชินี ไกรฤกษ์ กรุ๊ปพีอาร์ ไดเร็กเตอร์ในเครือฟิโก้ มาร่วมงานด้วย

          ชาของเดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ
          กว่าจะได้ชาถ้วยโปรดสักถ้วยหนึ่ง รู้ได้อย่างไรว่าชาที่คุณได้รับนั้นเป็นชาเกรดพิเศษ และรู้หรือไม่ว่าชาที่ดีแต่ละถ้วยนั้นควรจะมีสี กลิ่น และรสชาติอย่างไร สำหรับชาของเดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ เราได้คัดสรรชาชนิดพิเศษ เกรดพรีเมียมที่คุณภาพและรสชาติดีที่สุดในโลกไว้บริการลูกค้า โดยแทบทุกขั้นตอนการผลิตชาต้องอาศัยความพิถีพิถันด้วยมือ ทั้งการเก็บ การคัดแยก และการบรรจุชาที่ไร่ เพื่อนำมาสู่ขั้นตอนการผลิตและกระบวนการบรรจุภัณฑ์ที่เดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ โรสติ้ง แอนด์ ดิสทรีบิวท์ชั่น (RAD) เมืองแคมาริลโล มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อความมั่นใจในชาคุณภาพชั้นเยี่ยมจากไร่ชาสู่ชาคุณภาพในถ้วยของคุณ เราให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นอันดับแรก และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ดังสโลแกน “Simply the Best” ทำให้ชาของเดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีมีความพรีเมียม พิเศษและแตกต่างจากชาที่วางขายกันทั่วไป

          แหล่งปลูกชา
          เนื่องจากชาเป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูงและดินที่ดี ดังนั้นจึงต้องเลือกชาจากไร่ในพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์ มีสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์ และได้รับปริมาณน้ำฝนเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี และผู้ปลูกต้องมีความรู้เรื่องและเทคนิคการปลูกและดูแลชาในแต่ละช่วงปีอย่างดี จึงจะได้ชาที่มีคุณภาพสู่มือผู้บริโภค

          สำหรับประเทศไทยยังเป็นผู้ส่งออกชาอู่หลงคุณภาพดีที่สุดให้แก่เดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟทั่วโลกอีกด้วย ชาอู่หลงจาก “ไร่ชา 101” ไร่ชาใหญ่ที่สุดบนยอดดอยแม่สลอง โดยเริ่มปลูกชา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 จนถึงปัจจุบัน เดิมทีดอยแม่สลองเป็นดินแดนอันตรายที่เรียกว่า “สามเหลี่ยมทองคำ” ซึ่งเป็นแหล่งปลูกค้าฝิ่นของชนกลุ่มน้อยที่อพยพมา ต่อมาได้มีนโยบายยุติการค้าฝิ่นและส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม โดยริเริ่มให้มีโครงการปลูกชา และด้วยสภาพอากาศที่สะอาด บริสุทธิ์ และความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ผลผลิตชาของที่นี่มีคุณภาพดีเยี่ยม นอกจากนี้ ไร่ชา 101 ยังมีโอกาสได้รับเสด็จพระราชดำเนินและได้รับรางวัลยอดเยี่ยมถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีอีกด้วย

          การเก็บชา
          ชาของเดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีนั้นได้รับการดูแลเป็นพิเศษตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บใบชาอย่างพิถีพิถันด้วยมือ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ต้องอาศัยความพิถีพิถัน การเก็บชาด้วยมือจึงจะได้ยอดใบชาที่มีคุณภาพดีนำไปสู่ชาถ้วยที่สมบูรณ์แบบ การเก็บใบชาจะต้องเลือกเก็บเฉพาะยอดชาอายุระหว่าง 2-7 วัน ที่มียอดตูม 1 ยอด พร้อมยอดอ่อน 2 ใบ การเก็บเกี่ยวชาด้วยเครื่อง อาจเป็นวิธีที่ประหยัดเวลา สะดวก และรวดเร็วกว่า แต่อย่างไรก็ตามยอดชาที่เก็บจะไม่มีคุณภาพเหมือนกับการเก็บด้วยมือ

          การผึ่งใบชา (Withering)
          หลังเก็บเกี่ยวชาต้องทำการผึ่งใบชาทันที เพื่อให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติตามเวลาและอุณหภูมิ การผึ่งใบชาจะทำให้น้ำในใบชาระเหยไป ด้วยกระบวนการ และขั้นตอนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ และเกิดปฎิกิริยาทางเคมี ที่ทำให้ชามีสี กลิ่น และรสชาติที่แตกต่างกันไป นับเป็นความมหัศจรรย์ของการทำงานของเอนไซม์ตามธรรมชาติ

          การนวดชา (Rolling)
          ขั้นตอนนี้เป็นการการร่อนใบชาเพื่อให้ใบชากระทบกันเบาๆ จนทำให้เซลล์ใบแตกหักและเกิดรอยช้ำเล็กน้อย ขณะเดียวกันน้ำมันที่ได้จากใบชาจะปล่อยผ่าน เคลือบใบชา ทำให้ชามีกลิ่นหอมพิเศษเฉพาะ และการที่ใบชาได้สัมผัสอากาศทำให้มีทำงานของเอนไซม์อย่างต่อเนื่อง ชาที่ผ่านขั้นตอนนี้จะมีชารสชาติดีหอมกลมกล่อมเป็นพิเศษมากขึ้น สำหรับชาที่เก็บเกี่ยวด้วยมือต้องผ่านขั้นนตอนการนวด 1-2 รอบ

          การหมัก (Oxidizing)
          การหมักหรือการทำปฏิกิริยาออกซิเดชัน เป็นกระบวนการทางเคมีเพื่อปล่อยให้เอนไซม์ทำปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้ใบชาเกิดกลิ่นสี และรสขาติที่แตกต่างกันไป กระบวนการนี้ใช้เฉพาะสำหรับอูหลง และชาดำเท่านั้น โดยชาอูหลง เป็นชาที่ผ่านกระบวนการหมักเพียงบางส่วน (Semi- oxidized) ก่อนหยุดปฏิกิริยาของเอนไซม์ด้วยความร้อน, ชาดำเป็นชาที่ผ่านกระบวนการหมักอย่างสมบรูณ์ (fully- oxidized) ส่วนชาเขียว เป็นชาที่ไม่ผ่านกระบวนการหมักเลย

          การนึ่งชา (Steaming) หรือการคั่วชา (Pan Firing)
          ขั้นตอนนี้เป็นการทำให้ใบชาแห้งเสมอทั่วกันโดยใช้ความร้อน เพื่อหยุดกระบวนการหมัก หรือปฎิกิริยาออกซิเดชัน และเก็บไว้ได้นาน โดยให้คงเหลือความชื้นในใบชาเพียง 5% หรือน้อยกว่านั้น จึงจะถือว่าเป็นชาคุณภาพดี ซึ่งความร้อนที่มากเกินไปอาจทำให้ชาสูญเสียรสชาติ สี และกลิ่นหอมได้

          การแบ่งและคัดเกรดชา (Souring and Grading)
          หลังการอบแห้งจะเป็นการคัดใบชาที่แตกหัก เศษกิ่งก้านของใบชา และสิ่งเจือปนต่างๆ ออกจากใบชา ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพชาเต็มใบ ก่อนบรรจุใส่ถุงเพื่อรอจำหน่ายต่อไป ในกระบวนการคัดเกรดชานี้ จำเป็นมากสำหรับใบชาที่จะนำไปใช้

          การขนส่งและจัดเก็บ
          หลังจากเก็บเกี่ยวเพียง 6-8 สัปดาห์ ชาก็จะถูกจัดส่งถึงมือร้านค้า โดยยังคงสภาพบรรจุภัณฑ์ไว้เช่นเดิมจนกว่าจะพร้อมเสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มรูปแบบต่างๆ

          จากขั้นตอนทั้งหมดนี้ ทำให้ชาของเดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟมั่นใจได้ในคุณภาพ ด้วยการซื้อชาจากแหล่งไร่ชาคุณภาพที่ดีที่สุดโดยตรงและความสัมพันธ์อันยาวนานกับไร่ชา และการควบคุมคุณภาพทั้งจากแหล่งผลิตและที่ RAD ทำให้ผลิตภัณฑ์ชาและชาสมุนไพรสดใหม่และคงคุณภาพที่ดีที่สุดเช่นเดิมทุกวัน โดยทีมเดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟจะมีการ “Cupping” หรือประเมินทดสอบคุณภาพและชิมชาทุกวัน ในขั้นตอนการผลิตชาแต่ละประเภท รวมไปถึงชาสมุนไพรและชาผลไม้ จะผ่านขั้นตอนสำคัญในการผลิตอย่างพิถีพิถันด้วยมือ เพื่อสร้างรสชาติอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งลงตัวกับกลิ่นหอมของใบชาเต็มใบ โดยชาทั้งหมดได้รับการปรุงตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด แต่ละรสชาติหรือส่วนผสมที่เติมล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมคุณภาพสูง เครื่องมือวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงชาก็ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องมือเฉพาะด้านเท่านั้น

          ในส่วนของการบรรจุภัณฑ์ ชาทั้งหมดบรรจุที่ RAD เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่เดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟให้ความสำคัญ เพื่อมั่นใจได้ว่าชาของเราจะเก็บอย่างดีจนกว่าจะพร้อมสำหรับการบรรจุภัณฑ์ขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้ ชาทั้งหมดจะได้รับการควบคุมคุณภาพตลอดทั้งวันในระหว่างขั้นตอนการบรรจุ รวมถึงมีการควบคุมคุณภาพเมื่อถึงร้านค้า โดยมีการดูแลทั้งเรื่องความสดใหม่ การเก็บรักษาที่เหมาะสม จนไปถึงการแนะนำลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้ค้นพบรสชาติเครื่องดื่มที่ลูกค้าชื่นชอบอย่างแท้จริง

ในการชงชาเพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมกลมกล่อมนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ ควมสดใหม่ของใบชา (Freshness) การเก็บรักษาใบชา (Proper Storage) เวลาที่ใช้ในการแช่ใบชา รวมทั้งอุณหภูมิน้ำ (Steeping time) และปริมาณน้ำที่ได้สัดส่วนเหมาะกับใบชา (Proportion) เดอะคอฟฟี่บีนแปนด์ทีลีฟจึงเน้นเรื่องการดูแลลูกค้า และการแนะนำลูกค้าในเรื่องกางชาที่ถูกต้องเป็นสำคัญอีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความประทับใจในเครื่องดื่มแก้วโปรดนั้นๆ

          เชิญร่วมแชร์ประสบการณ์กับ The Coffee Bean & Tea Leaf กาแฟและชาระดับพรีเมียม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.coffeebeanthailand.com