ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ฉลองครบรอบ 25 ปี ประกาศเปิดแบบบ้านใหม่ 2 แบบ 2 สไตล์ ฉีกกฎตัวเองด้วยสไตล์ “อาร์ต เดคโค” แต่จยังคงไม่ทิ้งสไตล์ “คลาสสิค” ที่เป็นเจ้าตลาดเดิม
-ลั่นเป็นกลยุทธ์ในการขยายตลาดสู่กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวหนังสือ The House of Emperor Vol.II-
บจ. ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เจ้าตลาดรับสร้างบ้านหรูของไทย ฉลองครบรอบ 25 ปี ประกาศเปิดแบบบ้านใหม่เพิ่มอีก 2 แบบ 2 สไตล์ คือ แบบ Palermo ซึ่งเป็นบ้านสไตล์คลาสสิค และฉีกกฎของตัวเองด้วยการพัฒนาบ้านในสไตล์อาร์ต เดคโค (Art Deco) คือ บ้านแบบ Pearl of The Peninsula ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีที่เจ้าตลาดบ้านหรูสไตล์คลาสสิคอย่างดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ที่ลุกขึ้นมาพัฒนาแบบใหม่ในสไตล์อาร์ต เดคโค ทั้งนี้เพื่อต้องการขยายฐานลูกค้าให้กว้าง เพื่อหวังชิงส่วนแบ่งตลาดมากยิ่งขึ้น พบกับบ้านสไตล์ใหม่อย่างเป็นทางการในงาน Home Builder 2013 ระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2556 ทั้งยังเปิดตัวหนังสือ The House of Emperor Vol. II หนังสือรวมแบบบ้านหรูผลงานกว่า 25 ปี ของ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์
นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านธุรกิจรับสร้างบ้านพักอาศัยระดับหรู ที่ปัจจุบันครอบคลุมทั้งแบบคลาสสิค และสไตล์อาร์ตเดคโค กล่าวถึง การเปิดแบบบ้านใหม่ทั้ง 2 สไตล์ว่า “ปี 2555 ของดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ดำเนินงานมาครบรอบ 25 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัทได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในการออกแบบ และสร้างบ้านในสไตล์คลาสสิค ซึ่งบ้านในสไตล์นี้เป็นสไตล์ที่ต้องอาศัยความเฉียบคมด้านงานก่อสร้าง งานฝีมือ รวมไปถึงการสร้างให้ได้มิติ และได้สัดส่วนที่สวยงามอย่างแท้จริง ซึ่งในปีนี้ เราได้ออกแบบบ้านในสไตล์คลาสสิค มาให้ลูกค้าได้มีทางเลือกเพิ่มเติมอีก 1 แบบ นั่นคือ แบบ Palermo ซึ่งเป็นบ้านในสไตล์ Contemporary Classic และแบบบ้านที่เป็นไฮไลท์เด่นที่สุดของปีนี้เลย ผมต้องยกให้บ้านในสไตล์อาร์ต เดคโค กับแบบบ้านที่ชื่อว่า Pearl of The Peninsula ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่บนพื้นที่ใช้สอย 1,975 ตร.ม.”
กล่าวได้ว่าการเพิ่มดีไซน์ในสไตล์อาร์ต เดคโคนี้ เป็นครั้งแรกที่ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ได้ฉีกกฎของตัวเองจากเดิมพัฒนาแบบบ้านสไตล์คลาสสิคมาโดยตลอด 25 ปี ซึ่งในประเด็นนี้นายสุรัตน์ชัยได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เหตุผลที่ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วในการที่จะเพิ่มงานดีไซน์แบบบ้านในสไตล์อาร์ต เดคโค เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรา ในช่วง 10 ปีแรกที่เปิดบริษัทฯ ลูกค้าที่มาเซ็นต์สัญญาก่อสร้างในช่วงแรกจะเป็นกลุ่มของคนที่เป็นเจ้าของกิจการ อายุประมาณ 55 ปีขึ้นไป 10 ปีต่อมาก็จะอยู่ในช่วง 45 ปีขึ้นไป และใน 5 ปีหลังนี้ กลุ่มลูกค้าที่มาเซ็นต์สัญญาสร้างกับเราก็มีอายุน้อยลงอีกเรื่อยๆ เราจึงได้วิเคราะห์ และขยายตลาดเพื่อต้องการจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุประมาณ 35 ปีขึ้นไป โดยเราดูจากไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้ พบว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรากลุ่มนี้ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาสูง หลายท่านจบมาจากต่างประเทศ มีรสนิยม ขับรถสปอร์ต ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ มองงานคลาสสิคเป็นงานที่เหมาะสำหรับคนมีอายุ จึงเป็นที่มาของการออกแบบบ้านในสไตล์ Art Deco ที่มีความหรูหรา สง่างาม เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความชอบของคนในกลุ่มนี้ ทั้งนี้ การขยายธุรกิจสู่กลุ่มตลาดใหม่ของเรา คาดว่าจะสามารถสร้างความน่าสนใจ และผลักดันยอดสั่งสร้างบ้านได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันเรามียอดขายกว่า 220 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเป้าหมายที่เราตั้งไว้สำหรับในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี คือ 340 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าอย่างแน่นอน สำหรับยอดขายที่ทยอยรับรู้ (Backlog) มีประมาณ 500 ล้านบาท”
สถาปัตยกรรมสไตล์ อาร์ต เดคโค (Art Deco) เป็นรูปแบบหนึ่งของสไตล์การออกแบบที่เกิดขึ้นก่อนศตวรรษที่ 20 หรือในราวปี คศ.1925 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเกิดตามหลังศิลปะสไตล์ Art Nouveau (อาร์ต นูโว) ซึ่งศิลปะสไตล์อาร์ต เดคโค ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในยุโรป และอเมริกา ในการพัฒนารูปทรงอาคารที่เป็นการออกแบบเรียบๆ แต่เน้นรูปทรงเรขาคณิตเป็นหลัก ซึ่งจะมาพร้อมกับโทนสีเรียบๆอย่างสีน้ำตาล ดำ และด้วยมนต์เสน่ห์ของศิลปะแขนงนี้ที่สะท้อนได้ถึงความงดงามและคงเป็นอมตะตลอดกาล ซึ่งศิลปะสไตล์อาร์ต เดคโค สำหรับประเทศไทย ได้แก่ วัดพระราม 9 ซึ่งตัวอุโบสถมีการออกแบบที่เป็นอาร์ต เดคโค อย่างชัดเจน หรือหากกล่าวถึงผลงานที่เป็นสไตล์อาร์ต เดคโคที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ได้แก่ ตึกไคร์เลอร์ (Chrysler Building) อาคารเอ็มไพร์สเตท (Empire State Building) และสะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge) ที่สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งอาคารเหล่านี้ยังได้รับการยอมรับและกล่าวถึงในแง่ของความงามมาจนถึงปัจจุบัน แต่ศิลปะ Art Deco ไม่ได้จำกัดอยู่ในงานสถาปัตยกรรม เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการออกแบบในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น เสือผ้า เครื่องหนัง เครื่องแก้ว และรวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ได้นำศิลปะ Art Deco มาออกแบบอีกด้วย
นายภูวสิษฐ์ ทวีฤทธิ์ธนวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มเพอเร่อร์ ดีวัน จำกัด บริษัทออกแบบตกแต่งภายใน ในเครือบริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด ผู้นำตลาดรับสร้างบ้านระดับพรีเมี่ยม กล่าวถึงการออกแบบบ้านสไตล์อาร์ตเดคโคว่า “การออกแบบบ้านสไตล์อาร์ต เดคโค เป็นอีกหนึ่งความท้าทายใหม่ของทีมงาน ซึ่งงานสไตล์นี้สำหรับประเทศไทยมีน้อยมาก จุดเด่นของสไตล์นี้ คือ การนำรูปทรงเรขาคณิตมาใช้ในงานออกแบบ สำหรับวัสดุในการตกแต่งภายในที่ศิลปะแขนงนี้นิยมใช้มักจะเป็นวัสดุพิเศษ โชว์พื้นผิวอย่างเด่นชัด ไม่นิยมใช้วัสดุพื้นเมืองทั่วไป วัสดุที่ใช้ต้องสะท้อนได้ถึงความหรูหรา เช่น ไม้อีโบนี่ (Ebony) ซึ่งเป็นไม้ที่มีลายในตัวเอง มีความสวยงามอยู่ในตัวไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด หรือการห่อหุ้มวัสดุด้วยหนังสัตว์ เช่น หนังปลากระเบน หนังปลาฉลาม มาเป็นของประดับตกแต่งบ้าน หุ้มกระเป๋าของผู้หญิง หรืองานพวกเครื่องแก้วที่ทำด้วยมือ ที่มีความอ่อนช้อย แต่ขณะเดียวกันก็ดูสง่างามในตัวเอง ซึ่งแนวการออกแบบสไตล์นี้ยาก แต่ว่าสามารถสร้างอัตลักษณ์ที่แตกต่างให้ผู้อยู่อาศัย และสร้างความภูมิใจได้อย่างแน่นอน”
สำหรับแบบบ้านใหม่จาก ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ มีทั้งสิ้น 2 แบบ คือ
สไตล์คลาสสิค คือ แบบ Palermo : บ้าน 2 ชั้น สไตล์ Classic บนพื้นที่ใช้สอย 1,250 ตร.ม. จำนวน 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ ส่วนรับแขก ห้องทานอาหาร ห้องครัวและเตรียมอาหาร ห้องพระ ห้องโฮมเธียเตอร์ พร้อมส่วนบริการ ขนาดตัวบ้าน 21.00 ม. X 37.00 ม. ขนาดของที่ดิน 35.00 x 50.00 ม. (400 ตารางวา)
สไตล์อาร์ต เดคโค คือ แบบ Pearl of The Peninsula : บ้าน 2 ชั้น บนพื้นที่ใช้สอย 1,975 ตร.ม.ประกอบไปด้วย 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, ห้องครัวและห้องเตรียมอาหาร, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องรับแขก, ห้องทำงาน, ห้องพระ, ห้องโฮมเธียร์เตอร์, โถงเอนกประสงค์ พร้อมอาคารจอดรถ และเรือนแม่บ้าน ขนาดตัวบ้าน 56.00 ม. X 39.00 ม. ขนาดของที่ดิน 68.00 X 48.00 ม. (800 ตารางวา)
“ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ตั้งใจออกแบบมานั้นปัจจุบันมีทั้งสิ้น 2 แบบ โดยเป็นสไตล์คลาสสิค 1 แบบ และล่าสุด คือ สไตล์อาร์ต เดคโค อีก 1 แบบ ผมชอบงานที่ต้องลงรายละเอียด ใช้ความสามารถในการสร้างงาน ดังจะเห็นได้ว่าบ้านที่สร้างจากดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ทุกหลังล้วนเป็นงานฝีมือแต่ละหลังใช้เวลา ความละเอียด การปรับแบบให้เข้ากับที่ดิน และความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ หากเปรียบว่าคลาสสิค คือ The Emperor ผลงานล่าสุดของบริษัท คือ อาร์ต เดคโค ก็เปรียบได้กับ The Prince of Art ซึ่งทอนรายละเอียดของงานลงมากว่าสไตล์คลาสสิคอีก 1 ขั้น และในโอกาสที่เราดำเนินงานมาครบ 25 ปี ผลงานที่ผ่านมือดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ นั้นมีมากมาย เราไม่อยากเก็บความสำเร็จไว้เพียงลำพัง จังได้จัดทำหนังสือ The House of Emperor Vol. II โดยเลือกบ้านที่เราสร้างทั้งสิ้น 9 หลัง มานำเสนอความสวยงามทั้งภายนอก ความละเอียดของงานตกแต่งภายใน และการจัดสวน ทั้งยังมีบทความเชิงวิชาการเพื่อให้คนในวงการก่อสร้าง นิสิต นักศึกษาได้อ่านเป็นความรู้ โดยหนังสือชุดนี้มีทั้งสิ้น 2 เล่ม โดยจะวางขายในเดือนกันยายน แต่เปิดให้จองได้ก่อนพร้อมรับของสมนาคุณสำหรับลูกค้าในงาน Home Builder 2013 ที่บูธของ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2556 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-970-3080 หรือ
www.emperorhouse.com หรือ email : customerservice@emperorhouse.com” นายสุรัตน์ชัยกล่าว