happy on August 22, 2013, 05:05:19 PM
แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เผยยอดขายพุ่งกว่า 65 %
ตั้งเป้า Top 5 ผู้พัฒนาอสังหาฯไฮเอนด์ใน 5 ปี


(จากซ้าย) คุณเกษศิริ  กู้เกียรตินันท์  ผู้อำนวยการบริหาร-กลุ่มงานสนับสนุนโครงการ บริษัท แมกโนเลีย ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, นายธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกโนเลีย ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น และ คุณอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีริชาร์ดเอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด





แมกโนเลียส์ ราชดำริ  บูเลอวาร์ด เป็นโครงการที่พักอาศัยหรูรวม 316 ยูนิต บนพื้นที่ 6 ไร่  ซึ่งมีทั้งห้องชุดตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอน (48 ตร.ม.) แบบ 2 ห้องนอน (เฉลี่ย 80 ตร.ม.) เพนท์เฮ้าส์และดูเพล็กซ์เพนท์เฮาส์ (250 - 360 ตร.ม.) ทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงแรม 5 ดาวระดับโลก “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ” จากเครือฮิลตัน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท  โครงการฯ ออกแบบ โดยได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากกลีบดอกแมกโนเลีย และนำแนวคิดสถาปัตยกรรมไทยมาออกแบบเป็นส่วนชายคา (Sunshade) ของตัวอาคารซึ่งถูกคำนวณอย่างแม่นยำและดีไซน์ให้กลายเป็นส่วนประดับ(Façade) โอบล้อมอาคารได้อย่างสวยงาม ทั้งยังสมบูรณ์แบบด้วยมาตรฐานเพื่อการพักอาศัย และตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง

“ที่ผ่านมาลูกค้าของเราโดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติจะให้ความสำคัญกับคุณภาพ การออกแบบ และให้ความสำคัญมากกับคุณภาพของโครงการ สิ่งที่ลูกค้าทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน คือ ทำเลที่ถือได้ว่าเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯ และเนื่องจากภายในโครงการของเราจะมีโรงแรม “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นแบรนด์ไฮเอนด์หรูระดับ 5 ดาว ที่เป็นที่รู้จักของนักธุรกิจและนักเดินทางทั่วโลก จึงยิ่งเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น” ธนวันต์กล่าว

“ราคาของเราเมื่อเปิดตัว ราคาขายเริ่มต้นที่ 170,000 ต่อตารางเมตร หรือยูนิตละ 8.5 ล้านบาท ปัจจุบันราคาเฉลี่ยของเราอยู่ที่ ตารางเมตรละ 200,000 บาท เฉลี่ยสูงขึ้นประมาณ 15% ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงศักยภาพทางการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน” ธนวันต์กล่าวต่อ

เร็ว ๆ นี้ โครงการได้รับรองการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) และเตรียมเดินหน้าโครงการก่อสร้างเพื่อให้ส่งมอบโครงการได้เสร็จตามกำหนด โดยเฉพาะต้อนรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งมีประชากรที่เป็นผู้บริโภคมากกว่า 600 ล้านคน ในปี 2558 ซึ่งมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจของไทยจะมีการเติบโตและขยายตัวมากยิ่งขึ้น โดยมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางทั้งในด้านการค้าและการท่องเที่ยว และถือเป็นเมืองที่นักลงทุนด้านอสังหาฯ โดยเฉพาะโครงการเรสซิเดนซ์ระดับไฮเอนด์ ให้ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะทำให้ราคาของอสังหาฯ โดยเฉพาะโครงการในทำเลย่านธุรกิจยิ่งมีราคาสูงขึ้น อันเนื่องมาจากอุปสงค์ทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงคาดว่าโครงการแมกโนเลียส์ฯ จะทำยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง



เดินหน้ากิจกรรมและโรดโชว์ต่างประเทศ

“จากความสำเร็จด้านยอดขายและการออกไปทำโรดโชว์ในต่างประเทศ ยืนยันถึงความมั่นใจได้ว่า ตลาดคอนโดไฮเอนด์ยังมีศักยภาพ มั่นใจว่าเราจะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 5 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดไฮเอนด์ได้ภายใน 5 ปีนี้ อยางแน่นอน  ล่าสุดเราเป็น’โครงการเรสซิเดนซ์ที่ได้รับการแนะนำมากที่สุดของกรุงเทพฯ’ ประจำปี 2556 จากสถิติโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทยที่ขายดีที่สุดทั้งในกรุงเทพฯและฮ่องกงในปีนี้ โดยเราสามารถขายห้องชุดจากโรดโชว์ที่ฮ่องกงครั้งเดียวได้ถึง 19 ยูนิต  ภายในปีนี้เราก็มีแผนจะว่ากลับไปฮ่องกงอีกครั้ง รวมทั้งอาจจะเป็นสิงคโปร์ จีน มาเลเซียและดูไบ ประมาณปีหน้า นอกจากนี้ เรายังคงจับมือกับพันธมิตรธุรกิจจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร่วมกับซิตี้แบงก์ เสนอโปรโมชั่นพิเศษแก่ผู้ถือบัตรเครดิตที่ซื้อห้องชุด เป็นต้น ในส่วนของลูกค้าที่ซื้อโครงการแล้ว เราเตรียมที่จะเปิดตัวเว็บไซต์สำหรับให้ลูกค้าที่อยู่ในไทยและต่างประเทศ ซึ่งอาจจะอยู่ในโซนเวลาที่แตกต่างกัน สามารถติดตาม ตรวจสอบข้อมูล ทั้งสัญญา  ความคืบหน้าต่าง ๆ  ได้ตลอดเวลา ถือได้ว่าผู้พัฒนาโครงการรายแรกที่ทำ CRM เว็บไซต์ให้กับลูกค้า ธนวันต์กล่าวถึงแผนธุรกิจ แมกโนเลียส์ ราชดำริ  บูเลอวาร์ด เพียบพร้อมด้วยส่วนบริการเพื่อการพักอาศัยระดับไฮเอนด์ ทั้งคลับส่วนตัว ล็อบบี้ส่วนตัวสำหรับผู้พักอาศัย  และจุดรับ-ส่งสำหรับบริการจอดรถ ห้องประชุมสังสรรค์ เอ็กเซ็กคิวทีฟเลาจน์ พื้นที่สวนสีเขียวดีไซน์แบบลดระดับ  ห้องสมุด ศูนย์บริการไปรษณีย์  ศูนย์ธุรกิจพร้อมระบบสื่อสารและการเชื่อมต่อออนไลน์แบบครบวงจร  ตลอดจนศูนย์ฟิตเนส ลู่วิ่งออกกำลังกลางแจ้ง  เซาว์น่า สระว่ายน้ำยาวถึง 70 เมตร พร้อมจากุชชี่และสระเด็ก รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมมอบพื้นที่จอดรถมากกว่า 100% สำหรับผู้อยู่อาศัยทุกยูนิต โดยบริษัทแมกโนเลียฯ เป็นผู้บริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการตลอดอายุสัญญา

นอกเหนือจากภาพลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่มีความหรูหราสง่างามระดับแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ  แล้ว โครงการแมกโนเลียส์ฯ ยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้อยู่อาศัย การประหยัดน้ำและพลังงาน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด  ซึ่งถือเป็นการช่วยสร้างสรรค์สังคมเพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง นี่คือบ้านแห่งอนาคตซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ในตัวเอง และยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างเหนือชั้น โครงการฯ เพิ่มมูลค่าให้ห้องพักด้วยการเลือกสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์คุณภาพที่นักออกแบบระดับโลกให้การยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Bulthaup, Franke, Donbracht, Siemens, Hansgrohe, Kasch ฯลฯ เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์เหนือระดับสำหรับผู้มีรสนิยมอันละเมียดละไมในการใช้ชีวิต โครงการ ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน Green Building และยังเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ไฮเอนด์แห่งแรกของไทยที่ออกแบบตามมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่ยอมรับสูงสุดในปัจจุบัน


###

เกี่ยวกับ แมกโนเลีย  ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น

บริษัท แมกโนเลีย  ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด คือผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบริษัทดีที ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยยึดมั่นในปรัชญาการทำงาน “คิดและสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืนของมนุษย์” ทำให้บริษัทแมกโนเลียฯ มุ่งมั่นพัฒนาโครงการทุกแห่งอย่างดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยทุกเพศทุกวัย และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว

บริษัทแมกโนเลียฯ  ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการต่างๆ  ด้วยมาตรฐานระดับโลกทุกขั้นตอน  เราสร้างสรรค์ความเจริญเติบโตขององค์กร  ผ่านการดำเนินธุรกิจแบบร่วมทุน  และการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจและนักลงทุนเพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นเยี่ยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

โครงการทุกแห่งของบริษัทแมกโนเลียฯ ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานระดับสูง ผสานการใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพดี และเทคโนโลยีระดับโลกด้านการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสภาพแวดล้อม เนื่องจากบริษัทแมกโนเลียฯ ไม่เพียงสร้างโครงการพักอาศัย แต่ยังคิดค้นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับผู้พักอาศัยของเรา