TK park สร้างประวัติศาสตร์การอ่านของเด็กไทย เผยโครงการ Read Thailand : อ่านเถิด…เด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน ครอบคลุมนักเรียนกว่า 800,000 คนทั่วประเทศ!!!
สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.)หรือ TK park สรุปยอดจำนวนโรงเรียน ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ “Read Thailand : อ่านเถิด...เด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน” รวมจำนวนทั้งสิ้น 3,570 โรงเรียนทั่วประเทศ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสมัครมากสุด ตามด้วยภาคกลาง ใต้ ตะวันออก เหนือ และตะวันตก โดยโรงเรียนในสังกัดสพฐ.ทำสถิติสมัครเข้าร่วมโครงการสูงสุดกว่า 3,200 โรง และที่ชื่นชมคือโรงเรียนในสังกัดตชด.เข้าร่วมด้วยอีก 12 โรงเรียน
ดร. สิริกร มณีรินทร์ ประธานคณะอนุกรรมการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) และกรรมการบริหารสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) หรือ TK park ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดทำโครงการ “Read Thailand : อ่านเถิด...เด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษาในปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ ของนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนทุกสังกัดทั่วประเทศ โดยใช้กระบวนการประกวดเป็นการสร้างแรงจูงใจให้โรงเรียนต่างๆ เกิดความตื่นตัวในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ในกลุ่มเด็กนักเรียนช่วงอายุ 9-12 ปี ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“จากการเปิดรับสมัครโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556 ถึงปิดรับสมัคร มีโรงเรียนในทุกสังกัดสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว รวมจำนวนทั้งสิ้น 3,570 โรงเรียน ครอบคลุมเด็กนักเรียนกว่า 99,871 คน ที่เป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมโครงการโดยตรง และครอบคลุมนักเรียนกว่า 820,593 คน ที่จะได้รับการสร้างนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ร่วมไปกับการประกวดในครั้งนี้
โดยจำนวนโรงเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการจำแนกตามสังกัด คือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จำนวน 3,291 โรง ,สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)จำนวน 99 โรงเรียน, กรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 91 โรง, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล/ อบจ. / อบต.) จำนวน 45 โรง, สังกัดสำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จำนวน 29 โรง ,ตำรวจตะเวนชายแดน (ตชด.) จำนวน 12 โรงและ สำนักงานการอุดมศึกษา (สกอ.)จำนวน 3 โรง
ทั้งนี้การประกวดได้แบ่งโรงเรียนออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ ขนาดเล็ก มีนักเรียนไม่เกิน 150 คน ขนาดกลาง มีนักเรียน 150-300 คน และ ขนาดใหญ่ มีนักเรียน 300 คนขึ้นไป โดยแต่ละประเภทมีจำนวนการสมัครเข้าร่วมโครงการดังนี้ โรงเรียนขนาดเล็ก 1,980 โรง โรงเรียนขนาดกลาง882 โรงและโรงเรียนขนาดใหญ่ 708 โรง และหากจำแนกตามภูมิภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสมัครเข้าร่วมมากสุดถึง 1,279 โรง”
สำหรับการตัดสินแบ่งเป็น 4 ระดับโดยแยกตามขนาดกลุ่มของโรงเรียน เริ่มจากระดับเขต (สพป.), ระดับจังหวัด, ระดับเขตตรวจราชการ และสุดท้ายการตัดสินในระดับประเทศ ทางคณะกรรมการจะคัดเลือกมากลุ่มละ 13 โรงเรียน (ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก) รวม 39 โรงเรียน และนำผลงานการส่งเสริมการอ่านของ 39 โรงเรียนมาจัดแสดงนิทรรศการที่สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK park เพื่อให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณาคัดเลือกหา “สุดยอดโรงเรียนรักการอ่าน” กลุ่มละ 3 รางวัล โดยโรงเรียนที่ได้รับรางวัลที่ 1 เป็นสุดยอดโรงเรียนรักการอ่าน จะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ในต่างประเทศ สำหรับรางวัลที่ 2 รับถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และที่ 3 รับถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ยังมีเกียรติบัตร ป้ายประกาศและเงินรางวัลมอบให้กับโรงเรียน