KTAMขายตราสารหนี้6เดือนชู3%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 66 (KTSUPB66 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2556 อายุ 6 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย เงินฝากประจำ Bank of China , Abu Dhabi Commercial Bank , Bank Danamon, MTN ออกโดย Garanti Bank , MTN ออกโดย Bladex และ MTN ออกโดย Banco BTG Pactual ในสัดส่วน74% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ / ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน/ บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี
สำหรับ Bank of China มีสถานะเป็นธนาคารภาครัฐถือหุ้นใหญ่โดยหน่วยงานเพื่อการลงทุนของรัฐบาลจีน 67.55% มีบทบาทในการสนองนโยบายของภาครัฐ มีขนาดทรัพย์สินใหญ่เป็นอันดับ 17 ของโลก , Abu dhabi Commercial Bank เป็นธนาคารใหญ่อันดับ 3 ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีองค์กรเพื่อการลงทุนของรัฐบาลอาบูดาบีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ , PT Bank Danamon Indonesia Tbk เป็นธนาคารพาณิชย์ใหญ่ลำดับที่ 6 ในประเทศอินโดนีเซีย ดำเนินธุรกิจการเงินครบวงจรในอินโดนีเซีย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 5 (KTSIV6M5) อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก / บัตรเงินฝาก ธนาคารธนชาต ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในสัดส่วน 40 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ / ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน / บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.65% ต่อปี
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ รุ่นอายุ 1 เดือน – 1 ปี อัตราผลตอบแทน อยู่ในช่วงระดับ 2.45 – 2.52% ส่วนพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 6 เดือน ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 2.50052% โดยมีแรงซื้อจากกองทุนในประเทศอย่างต่อเนื่อง
เงินบาทปรับตัวในช่วงแคบๆระหว่าง 31.23-31.26 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 ปีที่ 31.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อ สถานการณ์การเมืองในประเทศ และกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับการชะลอมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าในช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อทำกำไรของนักลงทุน และสถานการณ์การเมืองในประเทศที่เริ่มคลี่คลายลง
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุน เปิด KTAM SET ICT ETF Tracker (EICT) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (SET ICT Sector Index) เสนอขายถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2556 ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาทราคาต่อหน่วยลงทุนประมาณ 7 บาท และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง พร้อมจดทะะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 27 สิงหาคม 2556 โดยใช้ชื่อย่อ “EICT”
ดัชนีหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกอบด้วยหุ้นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันดัชนีหมวดดังกล่าว ประกอบด้วยหุ้นบริษัททั้งสิ้น 27 บริษัท โดยมีบริษัทหลักๆเช่น ADVANC INTOUCH DTAC TRUE JAS THCOM SAMART และ JMART โดยมีอัตราส่วนตามมูลค่าตลาด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 เป็นสัดส่วนประมาณ 13.5% ของมูลค่าตลาดโดยรวม