MSN on August 01, 2013, 09:52:54 PM
กฟน. ครบรอบ 55 ปี เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่สู่วิถีชีวิตอนาคตทำกำไรครึ่งปีแรก 6,200 ล้านบาท





       การไฟฟ้านครหลวง ครบรอบ 55 ปี ในวันที่ 1สิงหาคม 2556 พร้อมก้าวสู่ปีที่ 56  ด้วยภาพลักษณ์ใหม่และนวัตกรรมที่ทันสมัย ภายใต้แนวคิด “Leveraging for Tomorrow ต่อยอดสู่วิถีชีวิตอนาคต” ด้วยงบลงทุนมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคงพัฒนานวัตกรรมและงานบริการ ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารวมเป็น 10 แห่งภายในปีนี้ และนำร่องติดตั้งไฟฟ้าสาธารณะหลอด LED ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ให้แสงสว่างที่มากกว่า และรักษาสิ่งแวดล้อมในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ มั่นใจศักยภาพในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในระดับอาเซียนและในระดับโลก ให้แก่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย

        นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของการไฟฟ้า - นครหลวงในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 มีรายได้รวม 98,400 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 92,200 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,200 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 161,100 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปีก่อน 10,400 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีสามารถทำกำไรได้มากกว่า 8,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีสภาพคล่องสูง สามารถชำระหนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ   
           
        ปัจจุบัน การไฟฟ้านครหลวงให้บริการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยมีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้ารวมกว่า 3.2 ล้านราย ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก มีหน่วยจำหน่ายไฟฟ้า  24,400 ล้านหน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 1.5 โดยมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 อยู่ที่ 8,590 เมกกะวัตต์ สำหรับความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งวัดจากค่าดัชนีจำนวนไฟฟ้าดับเฉลี่ย (SAIFI) เป็น ครั้ง/ราย/ปี และค่าดัชนีระยะเวลาไฟฟ้าดับเฉลี่ย (SAIDI) เป็น นาที/ราย/ปี พบว่าครึ่งปีแรกดีกว่าเป้าหมาย การไฟฟ้านครหลวงมั่นใจว่า สามารถดำเนินการจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดได้อย่างเพียงพอ มีความมั่นคง ปลอดภัย

   การไฟฟ้านครหลวง ได้จัดสรรงบประมาณลงทุนรวม 37,300 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า เดินหน้าเปลี่ยนระบบสายป้อนอากาศเป็นสายป้อนใต้ดิน ซึ่งการไฟฟ้านครหลวงได้ดำเนินโครงการไปแล้วในหลายพื้นที่ เช่น ถนนพหลโยธิน พญาไท สุขุมวิท ปทุมวัน จิตรลดา พระราม 3 และนนทรี โดยในปี 2556 นี้ การไฟฟ้านครหลวงเตรียมดำเนินการเปลี่ยนระบบสายป้อนอากาศเป็นสายป้อนใต้ดินโครงการรัชดาภิเษก เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้ระบบจำหน่าย ลดปัญหาไฟฟ้าตก ไฟฟ้าดับ เนื่องจากอุบัติเหตุและภัยธรรมชาติ ตลอดจนปรับปรุงทัศนียภาพของเมืองหลวง

         ด้านงานบริการ การไฟฟ้านครหลวงแบ่งพื้นที่การให้บริการออกเป็นเขตต่าง ๆ ประกอบไปด้วย 18 เขต และ 12 สาขาย่อย ซึ่งแต่ละเขต มีศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่องานบริการที่สะดวกรวดเร็ว และเปิดช่องทางรับชำระค่าไฟฟ้าสำหรับให้บริการผู้สูงอายุเป็นพิเศษ ณ เคาน์เตอร์บริการ พร้อมนำระบบ e – Service มาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอใช้ไฟฟ้า มีการพัฒนาศูนย์ข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า MEA Call Center 1130 ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรองรับงานบริการ นำระบบ GIS มาใช้ในงานบริการลูกค้าเพื่อความสะดวก รวดเร็ว ในปีนี้ ได้นำนวัตกรรม MEA Smart Life ซึ่งเป็น Application บนสมาร์ทโฟน ที่ได้รวมเอาเทคโนโลยี GIS แสดงแผนที่ทั่วเขตจำหน่ายของการไฟฟ้านครหลวงได้อย่างละเอียดแม่นยำ พร้อมแจ้งประกาศดับไฟ การตรวจสอบค่าไฟฟ้า และให้บริการรับชำระค่าไฟฟ้าผ่านตัวแทนแบบ Online Payment เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า

         นอกจากภารกิจในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าแล้ว การไฟฟ้านครหลวงยังมีธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กร ได้แก่ การติดตั้งและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าของลูกค้าธุรกิจและอุตสาหกรรมแบบครบวงจร บริการสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System : GIS) บริการศูนย์รักษาความปลอดภัยข้อมูล   (Data Security Center) บริการจัดฝึกอบรม สัมมนาเชิงปฏิบัติการ และเป็นที่ปรึกษาด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้า ให้แก่หน่วยงานของรัฐ เอกชน ทั้งในและต่างประเทศ บริการโครงข่ายสายใยแก้วนำแสง รวมถึงบริการที่จะดำเนินการในอนาคตอันใกล้ ได้แก่ บริการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และ บริการสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

      การไฟฟ้านครหลวงตระหนักถึงการดำเนินภารกิจอย่างยั่งยืนและระยะยาว ทั้งด้านการจำหน่ายไฟฟ้าและการให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อม (Corporate Social Responsibility : CSR) การอนุรักษ์พลังงาน ความปลอดภัย รวมถึงชุมชนและสังคม ด้วยการดำเนินงานแบบ CSR In Process การหล่อหลอมและเสริมสร้างเยาวชนให้เป็นนักอนุรักษ์ ผ่านโครงการ Young MEA และโครงการ Energy Mind Award ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 เพื่อมุ่งส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการใช้พลังงานอย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพของบุคลากรในสถานศึกษา โดยมีการประเมินมาตรฐาน      จากผู้ทรงคุณวุฒิ และมอบรางวัลสถานศึกษาดีเด่นด้านพลังงาน ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นดังกล่าว ทำให้การไฟฟ้านครหลวงได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประเภทรางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น (CSR) ประจำปี 2555 และนับเป็นครั้งที่ 5 ที่การไฟฟ้านครหลวงได้รับรางวัลในสาขาดังกล่าวอีกด้วย

      นอกจากนี้ การไฟฟ้านครหลวงยังมีโครงการนำร่องติดตั้งโคมไฟฟ้าสาธารณะชนิด LED ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ให้แสงสีขาวเสมือนจริง เพิ่มความชัดเจนในการมองเห็น ทำให้สามารถขับขี่ยานพาหนะได้อย่างปลอดภัย และลดปัญหาอาชญากรรม ในพื้นที่ถนนพาหุรัด-ถนนตรีเพชร-ถนนจักรเพชร ซอยชิดลมและถนนเทศบาลสาย 1 (ใกล้โรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์) โดยในปีนี้การไฟฟ้านครหลวงจะติดตั้งโคมไฟฟ้าสาธารณะชนิด LED เพิ่มเติมที่ถนนเยาวราชตลอดทั้งสาย

         วันคล้ายวันสถาปนาการไฟฟ้านครหลวงในปีนี้ ถือเป็นวาระพิเศษครบรอบ 55 ปี และพร้อมก้าวสู่ปีที่ 56 ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ภายใต้แนวคิด “Leveraging for Tomorrow ต่อยอดสู่วิถีชีวิตอนาคต” โดยริเริ่มนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในกิจการภายใน พร้อมติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเชิงธุรกิจแห่งแรกของประเทศไทย ณ การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต ซึ่งภายในปี 2556 นี้ จะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการจำนวน 10 สถานี ที่การไฟฟ้านครหลวงเขตต่าง ๆ เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต    

            จากความมุ่งมั่นตั้งใจตลอด 55 ปี ของการไฟฟ้านครหลวง ในการพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคง พร้อมรองรับการเติบโตของมหานครและภาคธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า พร้อมก้าวสู่ปีที่ 56 ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ ที่มีความทันสมัยและนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่องานบริการที่เป็นเลิศ ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้า พร้อมห่วงใยสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการดำเนินงานแบบ CSR In Process เพื่อการต่อยอดสู่วิถีชีวิตแห่งอนาคตของคนเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
« Last Edit: August 01, 2013, 11:02:39 PM by MSN »